Group Blog All Blog
|
กรมส่งเสริมการเกษตร โชว์ 20 เมนูเด็ดเกษตรสร้างสรรค์
นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมการเกษตรมีนโยบายในการส่งเสริมและจัดการสินค้าเกษตร โดยยึดหลัก "ตลาดนำการผลิต" ตลอดจนสนับสนุนให้ประชาชนบริโภคสินค้าเกษตรไทย ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ซึ่งเป็นการส่งเสริมสนับสนุนเศรษฐกิจภายในประเทศ และลดความเสี่ยงในการบริโภคสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ
น้ำสับปะรดไซเดอร์ วาฟเฟิลจากแป้งกล้วย กาแฟผสมข้าวโพด น้ำนมถั่วลิสง พริกสดดองจากการเผาจากถ่าน แผ่นฟักทองอบกรอบปรุงรส เห็ดฟางในน้ำเกลือ น้ำพริกกระเจี๊ยบเขียว ซอสเนื้อมะพร้าวอ่อนราดขนมและสมูทตี้ น้ำกระชายขาวผสมน้ำผึ้ง น้ำมันขิงปรุงอาหาร และน้ำว่านหางจระเข้ผสมน้ำผึ้ง ผู้ที่ชื่นชอบการทำอาหาร หรือผู้ที่สนใจทุกท่าน สามารถติดตามชมวิธีการรังสรรค์ตำรับอาหาร "DOAE เมนูเด็ดเกษตรสร้างสรรค์" ได้ทางช่อง ททบ.5 รายการเกษตรสนามเป้า ทุกวันอาทิตย์ เวลา 15.00-15.30 น. และทางช่อง 8 ช่วงสปอตรายการคุยข่าวเช้า ทุกวันจันทร์ เวลา 06.00-09.00 น. หรือสามารถรับชมย้อนหลังได้ทาง Facebook : ประชาสัมพันธ์ กรมส่งเสริมการเกษตร ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป BEDO เตรียมจัดงานเผยแพร่ผลงานสพภ. ผ่านออนไลน์ครั้งใหญ่
สํานักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) พร้อมขับเคลื่อนงานเผยแพร่ผลงานสพภ. ในรูปแบบถ่ายทอดสดออนไลน์ ภายใต้แนวคิด “The Power of Collaboration” พลังแห่งการร่วมมือร่วมใจในการทํางานของ BEDO และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังส่งเสริมให้วิสาหกิจชุมชน รู้จักอนุรักษ์และเพิ่มมูลค่าทรัพยากรให้เกิดความยังยืนในยุคโควิด-19 อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเศรษฐกิจของชาติโดยจะมีการจัดงานตลอดระยะเวลา 3 วันเต็ม ระหว่างวันที่ 16 - 18 กันยายน 2564 ผ่านเพจ Facebook : BEDO Thailand ดร.วิจารย์ สิมาฉายา ประธานกรรมการบริหาร สํานักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ “ผลการดําเนินงานของ BEDO ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนการปฏิรูปประเทศ ยึดการทํางานโดยมีประชาชนเป็นหลัก เพื่อสร้างงาน สร้างรอยยิ้ม และสร้างเศรษฐกิจ ที่มาจากฐานทรัพยากรธรรมชาติในส่วนของการจัดงานเผยแพร่ผลงานสํานักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพในครั้งนี้ จะทําให้เข้าใจบทบาทและภารกิจของ BEDO และเกิดความตระหนัก เห็นถึงความสําคัญ คุณค่าของความหลากหลายทางชีวภาพ อาทิ การใช้พืชสมุนไพร หรือการใช้ประโยชน์พฤกษศาสตร์พื้นบ้านต้านโควิด-19 BEDO มีการส่งเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนกว่า 107 ชุมชน ในการนําความหลากหลายทางชีวภาพ มาพัฒนาเพิjมมูลค่าเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ มีการสร้างการมีส่วนร่วมในการเพิ่มพื้นที่สีเขียวนอกเขตอนุรักษ์ ในลักษณะของการส่งเสริมให้ชุมชนปลูกไม้มีค่า ป่าครอบครัว ปัจจุบันมีเครือข่ายกว่า 400 ราย ครอบคลุมพื้นที่กว่า 4,700ไร่ การดําเนินโครงการธนาคารความหลากหลายทางชีวภาพระดับชุมชน (Community Biobank) มีการทําบัญชีรายการความหลากหลายทางชีวภาพด้านพืชไว้ได้จํานวน 100,000 รายการ มีการจดคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา ความลับทางการค้าและสินค้า GI ต่างๆ รวม 146 รายการ สําหรับไฮไลท์ของกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นตลอดทั้ง 3 วัน คือการนําผลิตภัณฑ์ชีวภาพของชุมชนมาจัดแสดงจํานวนกว่า193 รายการ จาก 30 ชุมชนทั่วประเทศ อาทิ นํ้ำผึ้งลําไย จ.ลําพูน, ผ้าหม้อฮ่อม จ.แพร่, ผ้าย้อมครามสกลนคร, ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม, ผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร เป็นต้น โดยตัวแทนชุมชนที่เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์จะทําการ Live สด แนะนํา ให้ข้อมูลต่างๆ เกีBยวกับผลิตภัณฑ์ถึงคุณค่า สรรพคุณที่น่าสนใจ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอืBน อาทิ การเสวนาให้ความรู้ในเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ BCG Model โดยในวันแรกวันที่ 16 กันยายน จะเป็นการบรรยายภาพรวมของ BCG โมเดลเศรษฐกิจกระแสใหม่ โดย ดร. วิจารย์ สิมาฉายา ประธานกรรมการบริหาร สพภ. การเสวนาหัวข้อ BCG Model สร้างรายได้ เพืBอเศรษฐกิจไทยที่ยั่งยืน โดยคุณอมรพล หุวะนันทน์ ผู้ร่วมก่อตั้ง Moreloop การเสวนาหัวข้อ สมุนไพรต้านภัยโควิด โดย อ. อุษา กลิ่นหอม นายกสมาคมเครือข่ายการแพทย์พื้นบ้านและสุขภาพวิถีไทย การเสวนาหัวข้อกระตุ้นการท่องเที่ยวด้วย BCG Model โดยคุณสมศักดิ์ บุญนําจาก Local Alive ในวันที่ 17 กันยายน และในวันที่ 18 กันยายน ได้รับเกียรติจาก ดร. ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อํานวยการสํานักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ(สวทช.) มาบรรยาย BCG Model กับเทคโนโลยี กิจกรรมเผยแพร่ผลงานสพภ. ปี 2564 จะจัดขึ้นระหว่างวันพฤหัสบดีที่ 16 – วันเสาร์ที่ 18 กันยายน 2564 (ระยะเวลารวม 3 วัน) ในรูปแบบถ่ายทอดสดออนไลน์โดยผู้สนใจร่วมงานสามารถติดตามได้บนเพจ Facebook : BEDO Thailand
"สภาเอสเอ็มอี"เดินหน้าโครงการ"SMEsไม่ทิ้งกัน สู้โควิด-19"
นายศุภชัย แก้วศิริ ประธานสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทย ได้มอบหมายให้ นางสาวภัคข์ประภัส สุขใส กรรมการสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทย เป็นผู้แทนในการส่งมอบให้กับนางวรรณา สุกใส ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลแหลมฟ้าผ่า
ระดมแจกผลิตภัณฑ์สมุนไพรเคอร่าบุคลากรทางการแพทย์
บริษัทเอกชน เดินหน้านำผลิตภัณฑ์สมุนไพรเคอร่า (Kerra) ระดมแจกช่วยบุคลากรทางการแพทย์ และผู้ป่วย ศูนย์พักคอย รพ .สนาม และจำหน่ายให้ประชาชนทั่วไป ชู เคล็ดลับยับยั้ง เชื้อโควิค19สูงกว่าฟ้าทะลายโจร 2200เท่า พร้อมเผยที่มาสูตรยาตักศิลาสมุนไพรดั้งเดิมในคัมภีร์แพทย์ศาสตร์ฉบับหลวง โบราณ
นายภัทร หนังสือ ประธานกรรมการ บริษัท อีสเทิร์นเฮิร์บ และเวชกรโอสถ ผลิตภัณฑ์สมุนไพรเคอร่า (Kerra) พร้อมแพทย์หญิงเกษกมล เปลี่ยนสมัย นางพัชรวลัย รัตนศิริวัฒนา และทีมงานลงพื้นที่ นำยาสมุนไพรเคอร่า จำนวน 400 กระปุก มามอบให้กับศูนย์พักคอยโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลแหลมฟ้าผ่า จ.สมุทรปราการ โดยมีนายณรงค์ สุกใส ผู้ช่วยสาธารณสุขอำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ พร้อมทีมงานบุคลากรทางการแพทย์เป็นผู้รับมอบเพื่อใช้กับบุคลากรทางการแพทย์ในศูนย์พักคอยและผู้ป่วย Home Isolation เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการยับยั้งอาการของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ต่อไป จากผลการวิจัยในห้องทดลองของห้องปฏิบัติการชีวเคมี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ยืนยันถึงผลการวิจัยทดลองชัดเจนว่า ยาสมุนไพรเคอร่า มีประสิทธิภาพในการยับยั้งเอนไซม์กลไกหลักในการขยายตัวของไวรัส ที่ชื่อ main protease(เมนโปรติเอส) ที่ไวรัสโควิด 19 ใช้ในการขยายตัวเพิ่มจํานวนในร่างกายซึ่ง มากกว่าหรือสูงกว่าฟ้าทะลายโจร 2,200 เท่า ซึ่งมีประสิทธิภาพการยับยั้งเอนไซม์ main protease ที่สูงกว่าฟ้าทะลายโจร และสูงกว่ายาแผนปัจจุบันหลายชนิดที่เป็นยาต้านไวรัส ยาเคอร์ร่า จึงเป็นทางเลือกหนึ่งในการรักษาผู้ป่วย และป้องกันการเสียชีวิตที่เกิดขึ้นและยืนยันว่ายาชนิดดังกล่าวสามารถกินต่อเนื่องโดยไม่มีผลข้างเคียง โดยเฉพาะโรคไต ที่มีความกังวลใจเรื่องของการทานยาสมุนไพร ซึ่งขณะนี้สามารถผลิตได้กว่าวันละ 1 แสนกระปุก โดยบางส่วนได้ร่วมบริจาคให้กับศูนย์พักคอยและรพ.สนามและบางส่วนจำหน่ายให้ประชาชนทั่วไป การแจกจ่ายยาให้กับศูนย์พักคอยในครั้งนี้ ตนเห็นว่าองค์กรของตนเป็นองค์กรเอกชนเล็กๆ ที่พยายามช่วยเหลือสังคมตามกำลังที่พอจะทำได้และพยายามที่จะช่วยหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อที่จะสร้างความปลอดภัยกับผู้ป่วยและพี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุด เพราะคิดว่า ในครอบครัวที่อยู่กันหลายคน แล้วเกิดการสูญเสียในอนาคตจะก่อให้เกิดปัญหาสังคมต่างๆตามมา เด็กจะกำพร้า จึงพยายามคิดค้นตัวยาที่จะหยุดการสูญเสีย จึงได้นำยาบางส่วนไปแจกให้ รพ.สนาม และศูนย์พักคอยตามกำลังที่พอจะทำได้ ไม่เคยโฆษณาชวนเชื่อ และเกินจริงว่าสามารถรักษาอาการป่วยโควิดได้ แต่มีผู้ป่วย COVID-19 ที่ได้ทานยาเคอร่า ที่เรานำเอาไปให้ ทานแล้วหายเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในรพ.สนามในหลายพื้นที่จากนั้นก็มีการบอกต่อๆกันไป จากนั้น นั้นนายภัทร พร้อมทีมงานได้เดินทางไปยัง สำนักงานเขตคันนายาว เพื่อไปมอบยาสมุนไพรเคอร่า จำนวน 400 กระปุก โดย มีนายชูชาติ พุ่มน้อย ผอ.เขตคันนายาว พ.ต.อ.ชัยรพ จุณณวัตต์ จิตอาสา 904 สังกัดตำรวจนครบาล พร้อมทีมงานเป็นผู้รับมอบ เพื่อมอบให้กับประชาชนผู้ติดเชื้อที่รอการช่วยเหลือต่อไป ขณะเดียวกันยังได้มอบยาสมุนไพรเคอร่าให้พ.ต.อ.ธีรยุทธ ใหม่แปง ผกก.สน.บึงกุ่ม และ พ.ต.อ.กิตติ แสงศิริวุฒิ ผกก.สน.บางชัน เพื่อนำไปมอบต่อให้กับเจ้าหน้าที่ส่วนหน้าของ สน.บึงกุ่ม จำนวน 100 กระปุก และ สน.บางชันจำนวน 100 กระปุกเพื่อแจกจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฎิบัติหน้าที่ในพื้นที่เสี่ยงต่อไปด้วย สำนักงานพระพุทธเตือนที่พักสงฆ์ยื่นความจำนงค์จัดตั้งวัดถูกต้องตามกฎหมาย
สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดขอนแก่น แจ้งเตือนที่พักสงฆ์ในพื้นที่ เร่งยื่นความจำนงค์จัดตั้งวัดถูกต้องตามกฎหมายและขอผ่อนผันการใช้พื้นรัฐภายใน 7 กันยายน 64 นี้ตามระยะเวลาที่ผ่อนผัน หวั่นถูกข้อหารุกป่า
นายสำราญ รัตนพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า จากตรวจสอบในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นมีหลายแห่งยังไม่ได้มีจัดตั้งวัดโดยถูกต้องตามกฎหมาย และมีหลายแห่งที่เป็นเพียง ที่พักสงฆ์ทั้งที่ มีการตั้งมานานโดยในส่วนของชาวบ้าน จะมีการนิมนต์พระสงฆ์มาจำวัด เพื่อปฏิบัติธรรมตามประเพณีพื้นบ้านเท่านั้น แต่ยังไม่มีการขอจัดตั้งเป็นวัดที่ถูกต้องตามกฎหมาย และบางแห่ง ยังมีการสร้างในพื้นที่ป่า ซึ่งเป็นของรัฐ ที่อาจนำไปสู่การกระทำผิดกฎหมายฐานบุกรุกพื้นที่ป่า ทั้งนี้หากที่พักสงฆ์ใดที่ยังไม่ยื่นคำขอ ขอให้แจ้งความประสงค์ต่อสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดทราบ ให้เสร็จสิ้นก่อนวันที่ 7 กันยายน 2564 นี้ เพื่อจะนำเสนอต่อการพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้ เมื่อครบกำหนด 120 วัน นับแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ขยายเวลาในการยื่นคำขออนุญาต ฯ ครั้งนี้แล้ว ห้ามมิให้ส่วนราชการ หรือหน่วยงานของรัฐใด เข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ก่อนได้รับอนุญาตอย่างเด็ดขาด หากปรากฏว่ามีส่วนราชการ หรือหน่วยงานของรัฐใดฝ่าฝืน ให้พิจารณาดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ดังนั้นขอให้สำนักสงฆ์ที่ยังไม่ยื่นขอจัดตั้งวัดให้เร่งดำเนินการให้ถูกต้องก่อนวันที่ 7 กันยายน นี้ |
สมาชิกหมายเลข 3402302
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
Friends Blog Link |