All Blog
ชาวนาศรีสะเกษช้ำนาข้าวเสียหายยับกว่า 1.6 แสนไร่


"เกษตร"เร่งสำรวจความเสียหาย พื้นที่การเกษตรหลังน้ำท่วมหลายพื้นที่ของจังหวัดศรีสะเกษ จากเหตุคันดินกั้นลำน้ำเสียวขาด คาดเสียหาย 162,294 ไร่ ข้าวเสียหายแล้วกว่า 156,745 ไร่ 
 

​นายรพีทัศน์ อุ่นจิตตพันธ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยระหว่างลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อติดตามความเสียหายจากเหตุการณ์คันดินกั้นลำน้ำเสียว ซึ่งรับน้ำจากแม่น้ำมูลขาด ในพื้นที่รอยต่อของอำเภอศิลาลาดและอำเภอราษีไศล ว่า ล่าสุดสำนักเกษตรจังหวัดศรีสะเกษได้รายงานความเสียหายเบื้องต้น ด้านพืช พบพื้นที่ประสบภัยทั้งหมด 14 อำเภอ 82 ตำบล 575 หมู่บ้าน เกษตรกรได้รับความเสียหาย 27,341 ครัวเรือน พื้นที่คาดว่าจะเสียหาย 162,294 ไร่ แยกเป็นข้าว 156,745 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 96.58 พืชไร่และพืชผัก 5,373 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 3.31 และไม้ผล/ไม้ยืนต้นและอื่น ๆ 176 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 0.11 พื้นที่คาดว่าจะเสียหาย 162,294 ไร่ (ข้อมูล ณ วันที่ 28 กันยายน 2565)






 






 
​ทั้งนี้กรมส่งเสริมการเกษตรได้สั่งการให้สำนักงานเกษตรจังหวัดศรีสะเกษ และสำนักงานเกษตรอำเภอในพื้นที่ประสบภัยเร่งลงพื้นที่สำรวจความเสียหายภายหลังจากที่น้ำลด อีกครั้งพร้อมเสนอคณะกรรมการที่รับผิดชอบเพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติด้านพืช ได้แก่ 1) ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562 2) หลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2563 และ 3) หลักเกณฑ์วิธีการปฏิบัติปลีกย่อยเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตรผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2564 


โดยเกษตรกรผู้ประสบภัยจะต้องขึ้นทะเบียนเกษตรกร และปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตรก่อนเกิดภัย มีพื้นที่เสียหายจริง อยู่ในพื้นที่ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือฯ ช่วยเหลือไม่เกินครัวเรือนละ 30 ไร่ แบ่งเป็น ข้าว 1,340 บาทต่อไร่ พืชไร่ละพืชผัก 1,980 บาทต่อไร่ ไม้ผลไม้ยืนต้นและอื่น ๆ 4,048 บาทต่อไร่ 






 











 
สำหรับการสนับสนุนช่วยเหลือเบื้องต้นของการเกิดอุทกภัย กรมส่งเสริมการเกษตรได้ให้กองขยายพันธุ์พืชเตรียมเมล็ดพันธุ์พืชผัก และให้กองส่งเสริมการอารักขาพืชและจัดการดินปุ๋ย พร้อมด้วยศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านอารักขาพืชและกลุ่มอารักขาพืชทุกจังหวัดจัดเตรียมสารชีวภัณฑ์ไว้แจกจ่ายเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบต่อไป


​รองอธิบดีกรมส่งเสริมบอกด้วยว่า ส่วนขั้นตอนการขอรับความช่วยเหลือ เมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินแล้ว เกษตรกรยื่นแบบขอรับการช่วยเหลือ (กษ 01) ผู้ใหญ่บ้าน/กำนัน/อบต. หรือนายกเทศมนตรีตรวจสอบและรับรอง ตามสถานที่ที่กำหนด คณะกรรมการหมู่บ้านตรวจสอบ และรับรองความเสียหาย นำรายชื่อเกษตรกรที่ผ่านการตรวจสอบแล้วไปติดประกาศคัดค้านตามสถานที่ที่กำหนด ไม่น้อยกว่า 3 วัน


จากนั้นสำนักงานเกษตรอำเภอนำเสนอคณะกรรมการ ก.ช.ภ.อ. พิจารณาให้ความช่วยเหลือ (วงเงินไม่เกิน 500,000 บาท) หากไม่เพียงพอ ให้สำนักงานเกษตรจังหวัดเสนอคณะกรรมการ ก.ช.ภ.จ. พิจารณาให้ความช่วยเหลือ (วงเงินในอำนาจ 20 ล้านบาท) หากไม่เพียงพอ ให้คณะกรรมการ ก.ช.ภ.จ. พิจารณาให้ความเห็นชอบใช้เงินทดรองราชการ ในอำนาจปลัด กษ. (วงเงินในอำนาจ 50 ล้านบาท) 





 

 


 



Create Date : 28 กันยายน 2565
Last Update : 28 กันยายน 2565 16:45:46 น.
Counter : 351 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 3402302
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



contact >> parwnation@gmail.com
hello welcome
contact =>>parwnation@gmail.com
New Comments