All Blog
อบจ.ประจวบทอดผ้าป่าสร้างรูปเหมือน“ขุนรองปลัดชู”
อบจ.ประจวบคีรีขันธ์ จัดพิธีทอดผ้าป่าสมัคคีสร้างรูปเหมือน“ขุนรองปลัดชู”วีรบุรุษเมืองวิเศษไชยชาญ อดีตผู้ต้านทัพพม่าและจบชีวิตที่ อ่าวหว้าขาว(ปัจจุบันคือพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์)

องค์การบริหารส่วนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จัดพิธีทอดผ้าป่าสมัคคีเพื่อสร้างรูปเหมือนขุนรองปลัดชู โดยมีพระครูพิศิษฏ์ธรรมนิเทศ วัดราชบพิธ สถิตมหาสีมาราม ประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วย พลตรี ดร.วรวุฒิ แสงทอง รองผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 1 กอ.รมน.นายสราวุธ ลิ้มอรุณรักษ์ นายกอบจ.ประจวบคีรีขันธ์ ดร.มังกรแก้ว ดรุณศิลป์ ผอ.เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ และดร.ดนัย จันทร์เจ้าฉาย ประธานมูลนิธิธรรมดี ร่วมเป็นประธานและนำข้าราชการท้องถิ่น ชาวทุ่งมะเม่าและชาวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์







 







 
รวมถึงชาววิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง ประกอบพิธีบวงสรวงบูชาและทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับขุนรองปลัดชู และนักรบ 400 นาย ที่ได้สละชีวิตต้านทัพพม่าปกป้องอธิปไตยของไทยจนต้องจบชีวิตลง ณ บริเวณชายทะเลหาดหว้าขาวแห่งนี้

พร้อมกันนี้ยังได้ทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อร่วมสมทบทุนสร้างรูปเหมือนขุนรองปลัดชูขนาด 2 เท่าคนจริง เพื่อประดิษฐานไว้ ณ บริเวณอนุสรณ์สถานชายทะเลหาดหว้าขาวแห่งนี้ ซึ่งเป็นสถานที่ขุนรองปลัดชูและนักรบทั้ง 400 นาย จากเมืองวิเศษชัยชาญต้านทัพพม่าจนเสียชีวิต เพื่อให้ประชาชนชาวไทยและนักท่องเที่ยวได้สักการะและรำลึกถึงบุญคุณและวีรกรรมความกล้าหาญ เมื่อวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา

ขุนรองปลัดชู เป็นผู้นำในคณะกรมการเมืองวิเศษไชยชาญ (ปัจจุบันคืออำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง) มีชีวิตในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย รัชกาลสมเด็จพระที่นั่งสุริยาศน์อัมรินทร์ (พระเจ้าเอกทัศ) ซึ่งได้รวบรวมไพร่พลเข้าเป็นกองอาสาสมัคร 400 คน สังกัดกองอาทมาต เพื่อเข้าร่วมทัพกรุงศรีอยุธยาต่อต้านการบุกครองของกองทัพพม่าในสงครามพระเจ้าอลองพญา

เมื่อสามารถระดมไพร่พลเข้าเป็นอาสาสมัครกองอาทมาตได้ 400 คนแล้ว ขุนรองปลัดชูได้นำกำลังของตนเข้าสมทบกับกองทัพของพระยารัตนาธิเบศร์* ซึ่งได้รับมอบหมายให้ไปตั้งทัพสกัดกองทัพพม่าที่นำโดยเจ้ามังระราชบุตรและมังฆ้องนรธา อันยกมาทางเมืองมะริดและตะนาวศรี หลังจากตีทัพของพระยายมราชแห่งอยุธยาที่แก่งตุ่มแขวงเมืองตะนาวศรีแตกแล้ว







 







 
ทัพดังกล่าวจึงเดินทางข้ามด่านสิงขรมุ่งสู่เมืองกุยบุรี เพื่อใช้เส้นทางเลียบชายฝั่งทะเลเข้าสู่กรุงศรีอยุธยา พระยารัตนาธิเบศร์ซึ่งรั้งทัพอยู่ที่กุยบุรีจึงส่ง กองอาทมาตของขุนรองปลัดชูให้มาสกัดทัพอยู่ที่อ่าวหว้าขาว (ปัจจุบันอยู่ในเขตตำบลอ่าวน้อย อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์)

กองอาทมาตของขุนรองปลัดชูได้ปะทะกับกองทัพพม่าซึ่งมีกำลังราว 8,000 คน ตั้งแต่เช้าจรดเที่ยงก็ยังไม่แพ้ชนะ แต่ด้วยจำนวนที่น้อยกว่าและไม่ได้รับกำลังเสริมจากทัพของพระยารัตนาธิเบศร์* (พระราชพงศาวดารกรุงสยามฉบับบริติชมิวเซียมและพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) กล่าวว่า ได้รับไพร่พลจากทัพหลักเป็นกองหนุนสมทบอีก 500 คน) กองอาทมาตจึงตกอยู่ในสภาพเสียเปรียบเพราะความอ่อนล้า และถูกฝ่ายตรงข้ามไล่ต้อนลงทะเลฆ่าฟันจนเสียชีวิตทั้งหมดในวันนั้น

ด้านทัพของพระยารัตนาธิเบศร์เมื่อทราบว่ากองอาทมาตของขุนรองปลัดชูแตกพ่าย จึงได้เร่งเลิกทัพหนีกลับมายังกรุงศรีอยุธยาพร้อมกับทัพของพระยายมราช และกราบทูลรายงานการศึกว่า "ศึกพม่าเหลือกำลังจึงพ่าย" ส่วนกองทัพพม่าเมื่อผ่านเมืองกุยบุรีได้แล้วก็ยกทัพมายังกรุงศรีอยุธยาโดยสะดวก เนื่องจากแนวรับต่าง ๆ ในลำดับถัดมาของฝ่ายอยุธยาถูกตีแตกในเวลาอันสั้น


......................................................................



หมายเหตุ  *พระราชพงศาวดารกรุงสยามฉบับบริติชมิวเซียมและพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) ออกชื่อเป็น พระยาธรรมา






 






 

 



Create Date : 04 กรกฎาคม 2565
Last Update : 4 กรกฎาคม 2565 18:02:43 น.
Counter : 261 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 3402302
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



contact >> parwnation@gmail.com
hello welcome
contact =>>parwnation@gmail.com
New Comments