"เกษตรฯ"จัดโครงการ “เกษตรช่วยประชาชนลดค่าครองชีพ” เปิด พื้น อตก. จตุจักร จำหน่ายเนื้อหมู ถูกกิโลละ 140 ให้ประชาชนแล้ว แล้วเริ่มวันแรก 12 กพ 65 นี้ ยันหมูในประเทศเพียงพอยังไม่มีความจำเป็นต้องนำเข้า

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ “เกษตรช่วยประชาชนลดค่าครองชีพ” โดยมี นายทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ นายปณิธาน มีไชยโย รักษาการผู้อำนวยการองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) นายฉันทานนท์ วรรณเขจร โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วม ณ ห้องประชุมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผ่านระบบการประชุมทางไกลออนไลน์ (ZOOM Meeting)

 

ทั้งนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า จากสถานการณ์ราคาหมูแพง ซึ่งส่งผลกระทบต่อหลายภาคส่วน โดยเฉพาะกับประชาชนผู้บริโภค รวมไปถึงผู้ประกอบการร้านอาหาร ที่ต่างได้รับความเดือดร้อน จากปัญหาราคาเนื้อหมูที่ปรับตัวสูงขึ้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมปศุสัตว์ และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) จึงได้จัดโครงการ “เกษตรช่วยประชาชนลดค่าครองชีพ” ที่กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12 - 19 กุมภาพันธ์ 2565 หรือจนกว่าสินค้าจะหมด ณ ลานกิจกรรมตลาดริมน้ำ อ.ต.ก. เลียบคลองบางซื่อ ถ.พหลโยธิน เขตจตุจักร กทม. เพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชน ลดภาระค่าใช้จ่าย และบรรเทาความเดือดร้อนจากสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ด้วยการจัดจำหน่ายหมูเพื่อประชาชน ซึ่งเป็นหมูเนื้อแดง คุณภาพดี การันตีด้วยมาตรฐานปศุสัตว์ OK ในราคาถูกกว่าท้องตลาด เพียงกิโลกรัมละ 140 บาท ซึ่งจะนำมาจำหน่ายที่ตลาด อ.ต.ก. จำนวน 150,000 กิโลกรัม โดยกำหนดซื้อได้คนละไม่เกิน 5 กิโลกรัม เพื่อให้ทั่วถึงกันทุกคน

“กระทรวงและสหกรณ์พร้อมบูรณาการร่วมกับทุกหน่วยงานและทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงพาณิชย์ และเครือข่ายภาคเอกชน เพื่อให้สถานการณ์ราคาหมูกลับมาสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด ซึ่งที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยังได้เดินหน้าในหลายกิจกรรม เพื่อช่วยเหลือประชาชนในสภาวะเศรษฐกิจฝืดเคือง อย่างเช่น โครงการร้านข้าวแกง 20 บาท ที่ได้เปิดตัวเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา และเชื่อมั่นว่าโครงการ “เกษตรช่วยประชาชนลดค่าครองชีพ” จำหน่ายหมูราคาถูกเพื่อประชาชนในครั้งนี้ จะเป็นอีกหนึ่งโครงการ ที่ช่วยแบ่งเบาภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน ได้สามารถบริโภคหมูที่มีคุณภาพ ปลอดภัย ในราคาที่เหมาะสมและเป็นธรรม” นายเฉลิมชัย กล่าว

 

นายเฉลิมชัย บอกอีกว่าในส่วนที่มีการเสนอการนำเข้าเนื้อสุกรณ์จากประเทศเพื่อลดปัญหาเนื้อสุกรแพงนั้นขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นและจะพิจารณาตามความเหมาะสมตามสภาวะ ในแต่ละช่วง โดยปริมาณสุกรในประเทศมีเพียงพอต่อการบริโภคของคนในประเทศแน่นอนและขอความร่วมมืออย่ากักตุนสินค้าจนเกิดปัญหาหากยังเอาเปรียบประชาชนอยู่ก็อาจจะมีการพิจารณาอีกครั้งยืนยันว่า ถ้าหากทุกคนร่วมมือกันจะไม่มีการนำเข้าแน่นอนเพราะตนก็ไม่อยากให้ เงินทองไหลออกนอกประเทศด้วยการนำเข้าเนื้อสุกรจากต่างประเทศเหมือนกันจึงต้องขอความร่วมมือทุกฝ่ายให้ช่วยกัน 

นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่าเบื้อต่นได้ขอความร่วมมือเอกชนให้นำเนื้อสุกรไปจำหน่ายร่วมกับทาง อตก  โดยเนื้อสุกรณ์ที่นำไปจำหน่ายทั้งหมดเป็นเนื้อสุกรที่ได้มาตรฐานการควบคุมคุณภาพของกรมปศุสัตว์ และหากเนื้อสุกรยังราคาสูงและได้รับการตอบรับจากประชาชน ก็อาจจะมีการขยายโครงการต่อไปตามความเหมาะสม  ต่อไป และยืนยันว่ากรมปศุสัตว์จะดำเนินการทุกมาตรการเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับประขาชนผู้บริโภค