Group Blog All Blog
|
ของดีเกรดพรีเมี่ยม"มะม่วงน้ำดอกไม้"ช้อปง่าย ๆ ผ่าน A Farm Mart
นายสมเกียรติ กิมาวหา รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ส่งผลต่อการจำหน่ายสินค้าในภาคเกษตรเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผลไม้ตามฤดูกาล เช่น มะม่วงที่ไม่สามารถส่งออกไปยังต่างประเทศ
เพื่อเป็นการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้ปลูกมะม่วง ธ.ก.ส. ขอเชิญชวนประชาชนทั่วไป ร่วมอุดหนุนมะม่วงน้ำดอกไม้ จากสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. ชัยภูมิ จำกัด โดยแบ่งขายเป็น กล่องละ 5 กิโลกรัม ในราคา 331 บาท พิเศษ 100 กล่องแรก ลดเหลือราคา 209 บาท และกล่องละ 10 กิโลกรัม ในราคา 661 บาท พิเศษ 50 กล่องแรก ลดเหลือราคา 400 บาท นอกจากนี้ ในเว็บไซต์ A Farm Mart ยังมีผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์และอาหารปลอดภัย ผลิตผลทางการเกษตร พันธุ์พืช ผลิตภัณฑ์ชุมชน ของดี 77 จังหวัด และชุมชนท่องเที่ยว มาจำหน่ายในระบบกว่า 1,700 รายการ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของเกษตรกร สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. (สกต.) ผู้ประกอบการ SMEs เกษตร และวิสาหกิจชุมชนทั่วประเทศ เพื่อผลิตอาหารคุณภาพดีสู่ผู้บริโภค และสร้างเศรษฐกิจของประเทศให้แข็งแกร่งอย่างยั่งยืน พิเศษ! โปรโมชั่น A Farm Mart สนับสนุนธุรกิจชุมชน ร่วมใจ สู้ภัยโควิด พบกับสินค้าลดราคาสูงสุดถึง 34% พร้อมจัดส่งฟรีถึงบ้านท่าน ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 6 พฤษภาคม 2563 ตลาดยิ่งเจริญใจป้ำงดค่าเช่า-สู้ภัยโควิด-19
นายอริย ธรรมวัฒนะ กรรมการบริหารบริษัทในเครือตลาดยิ่งเจริญ ในฐานะประธานคณะทำงานสถานการณ์ COVID-19 ตลาดยิ่งเจริญ กล่าวว่า จากสถานการ์ณการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ในขณะนี้ ตลาดยิ่งเจริญได้ตระหนักถึงความปลอดภัยของผู้ค้าและผู้ซื้อที่มาจับจ่ายใช้สอย มีความยินดี และพร้อมให้ความร่วมมือกับภาครัฐบาลเเละปฏิบัติตามกฎหมายทุกประการ
โดยได้ออกมาตรการรณรงค์ ยิ่งเจริญ "ป้องกัน ไม่รับ ไม่แพร่" พิชิตไวรัส Covid-19 กำหนดระเบียบและขอความร่วมมือให้ผู้ค้า ผู้ช่วยขาย สมาชิกรถเข็น และผู้ใช้บริการตลาดยิ่งเจริญ ต้องยึดถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เเละหากพบว่า ฝ่าฝืน ไม่ปฏิบัติ ทางตลาดขอสงวนสิทธิ์ตามกฎหมาย“ไม่อนุญาตให้เข้าตลาดเด็ดขาด” และ “ไม่อนุญาตให้เปิดแผง” เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้าที่มาจับจ่าย และซื้อสินค้าที่ตลาดยิ่งเจริญ นอกจากนี้ยังได้ขอความร่วมมือ “ผู้ค้าและบุคลากร” สวมหน้ากาก และถุงมืออนามัย ทุกคน ทุกวัน โดยมีมาตรการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อตามบริเวณต่างๆ รอบตลาดเป็นประจำต่อเนื่อง ทุกวัน, ตรวจวัดไข้บุคลากรทุกคนก่อนเข้าปฏิบัติงาน ทุกกะ ทุกวัน, บริการแอลกอฮอล์สำหรับเช็ดมือตามจุดต่างๆ ทั่วตลาดฯ จำนวนกว่า 50 จุด กำหนดป้อมให้-คืนบัตรจอดรถ ได้ทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อบัตรจอดรถก่อนนำมาหมุนเวียนใช้ในระบบ และทุกครึ่งชั่วโมงทีมแม่บ้านมีการทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อในห้องน้ำทุกห้อง โต๊ะรับประทานอาหาร เเละจุดสัมผัสอื่นๆ นายอริย กล่าวต่อว่า ตลาดยิ่งเจริญได้ตระหนักถึงผลกระทบทางตรงและทางอ้อมที่เกิดขึ้นกับผู้ค้าทุกท่าน และเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนและแบ่งเบาภาระให้กับผู้ค้า จึงได้กำหนดมาตรการการช่วยเหลือผู้ค้ารายย่อย โดยยึดมั่นนโยบายหลักในการขับเคลื่อนการดำเนินงาน ภายใต้แนวคิด Y Together วิสัยทัศน์ ที่ว่า “ตลาด คือ ศูนย์กลางชุมชนที่สร้างสรรค์และยั่งยืน” และมีนัยสำคัญการพัฒนา “ผู้ค้า” ในฐานะหัวใจสำคัญของการพัฒนานี้ตลาดยิ่งเจริญ ปัจจุบันรายได้หลักของตลาดเกิดจากค่าเช่าพื้นที่ ค่าบริการ ส่วนรายได้จากการขายสินค้านั้นคิดเป็นร้อยละ 44 ของรายได้ทั้งหมด วิกฤตการณ์นี้ ส่งผลทั้งทางตรงและทางอ้อมกับผู้ค้า กล่าวคือ ในทางตรงต้องปิดกิจการตามกฎหมาย และทางอ้อมผู้ค้าที่ยังเปิดขายได้แต่จะมียอดขายของธุรกิจที่ลดลง ตลาดตระหนักในความเดือดร้อน จึงกำหนด “มาตรการช่วยเหลือผู้ค้ารายย่อย” ด้วยการงดเว้นค่าเช่า 100% สำหรับผู้ค้าที่ได้รับผลทางตรง และการให้ส่วนลดค่าเช่า 50% กับผู้ค้าที่รับผลกระทบทางอ้อม มีผลตั้งแต่มีการประกาศใช้ พรก.ฉุกเฉิน จนถึงวันที่ 30 เมษายน ศกนี้ นายอริย กล่าวต่อว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดของการบริหารในช่วงยุค Covid-19 อีกประการ คือ การบริหารกระแสเงินสดและลงรายละเอียดเรื่องค่าใช้จ่าย โดยคำนึงความคุ้มค่ามากที่สุด เพื่อนำพาตลาดให้ผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปตลอดจนถึงกลางปี 2563 ทำให้มีการปรับแผนธุรกิจโดยดำเนินการ 2 ส่วน ประกอบด้วย 1) กำหนดเป้า “ขยายสัดส่วนรายได้การขายสินค้าให้มีสัดส่วนมากกว่า 70%” โดยพัฒนาสินค้าร่วมกับผู้ค้าตามโครงการ Y selection การสร้างผลิตภัณฑ์ของตนเองในชื่อ Y product มีช่องทางที่จัดจำหน่ายผ่าน “ร้านยิ่งสุข” และกระจายสินค้าได้ทั่วประเทศจึงเพิ่มการขายผ่าน “marketplace” อาทิ Lazada / shopee / Jd และ 2) ขับเคลื่อนโปรเจค “ส่งอาหารสำเร็จรูปตามสำนักงาน” โดยใช้คอนเซ็ป Cloud Kitchen ร่วมกับร้านอาหารในกลุ่มพันธมิตรในรูปแบบ Delivery แอปพลิเคชั่น ส่งสด.com https://www.songsod.com ส่งถึงหน้าบ้าน โดยเน้นสั่งง่าย จด สั่ง เลย สามารถจดรายละเอียดสินค้าที่ต้องการสั่งแล้วถ่ายรูปส่งทางไลน์มาได้เลยเพื่อให้ลูกค้าในหลายๆกลุ่มสามารถสั่งของได้เลยไม่ต้องมีขั้นตอนที่ซับซ้อน ผ่านช่องทางการสั่ง messenger inbox : https://bit.ly/2ubzuqm / Line@ : @songsod ซึ่งได้รับผลตอบรับดีมากในช่วงนี้ ซึ่งเร็วๆ นี้จะมีการเปิดตัวชุดสุกี้ ชาบู ร่วมกับแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้า Anitech อีกด้วย เผยต้นแบบปรับปรุงหอผู้ป่วยรองรับผู้ติดโควิด-19
นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า จากสถานการณ์การติดเชื้อโรคไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น โดยสถานบริการสาธารณสุข และโรงพยาบาลมีห้องผู้ป่วยติดเชื้อที่มีจำนวนจำกัด
ซึ่งการจัดทำหอผู้ป่วยติดเชื้อจะต้องมีการจัดทำแบบ การออกแบบห้องผู้ป่วยแยกเชื้อที่ได้มาตรฐาน และมีความปลอดภัยทั้งบุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ โดยกองแบบแผน จึงได้จัดทำต้นแบบสำหรับโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ในลักษณะห้องแยกเดี่ยว และห้องแยกโรคติดเชื้อความดันลบ เพื่อรองรับผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 สำหรับอาคารเดิมของโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข สามารถนำไปใช้ในโรงพยาบาลให้เหมาะสมกับพื้นที่ ด้านนายแพทย์ประภาส จิตตาศิรินุวัตร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ โดยกองแบบแผน ได้ดำเนินการจัดทำแบบ COHORT WARD ห้องแยกเดี่ยว และห้องแยกโรคติดเชื้อความดันลบ (AIIR) เพื่อรองรับผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 โดยมีเป้าหมายจัดทำ 7 แบบ ซึ่งได้จัดทำรูปแบบ และราคาค่าก่อสร้างพร้อมนำไปก่อสร้างโดยได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ทั้ง 7 แบบ คือ 1) แบบปรับปรุงหอพักผู้ป่วย เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อ COVID-19 ตึกคนไข้ 30 เตียง หรือแบบใกล้เคียง ระยะเวลาสร้าง 30 วัน 4) แบบปรับปรุงหอพักผู้ป่วย เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อ COVID-19 ตึกคนไข้ 30 เตียง หรือแบบใกล้เคียง ระยะเวลาสร้าง 45 วัน 5) แบบปรับปรุงหอพักผู้ป่วย เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อ COVID-19 สำหรับหอพักผู้ป่วยรวม ตึกคนไข้ 114 เตียง, 120 เตียง, 144 เตียง, 156 เตียงหรือแบบใกล้เคียง ระยะเวลาสร้าง 45 วัน 6) แบบปรับปรุงหอพักผู้ป่วย เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อ COVID-19 สำหรับแบบห้องผู้ป่วยพิเศษ (ชนิดมีห้องน้ำ) หรือแบบใกล้เคียง เป็น AIIR ระยะเวลาสร้าง 45 วัน 7) แบบปรับปรุงหอพักผู้ป่วย เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อ COVID-19 สำหรับแบบห้องผู้ป่วยพิเศษ (ชนิดมีห้องน้ำ) หรือแบบใกล้เคียง เป็น Modified AIIR ระยะเวลาสร้าง 30 วัน บอร์ดสปสช.ไฟเขียว 7 มาตรการด่วนสู้โควิด-19
ในการประชุมกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) โดยมี พญ.ประสบศรี อึ้งถาวร กรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้เห็นชอบ "มาตรการเพิ่มเติมเพื่อเป็นการควบคุมและลดการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19" ภายใต้งบประมาณค่าใช้จ่ายสาหรับกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 จำนวน 4,649 ล้านบาท ตามข้อเสนอเพิ่มเติม 7 ข้อ ดังนี้
1. การส่งยาและเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ให้กับผู้ป่วยรายเก่าที่บ้านทางไปรษณีย์ โดยจ่ายชดเชยให้หน่วยบริการเพิ่มเติมในอัตราไม่เกิน 50บาท/ครั้ง จากงบกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปี 2563 หมวด 11 ค่าจัดบริการด้านยาและเวชภัณฑ์สาหรับการจัดบริการสาธารณสุขของหน่วย บริการร่วมกับหน่วยร่วมให้บริการ ช่วงที่มีการระบาดของโรค COVID-19 ตามข้อเสนอกรมการแพทย์ และเครือข่ายโรงพยาบาล กลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (UHosNet) 2. เพิ่มการเข้าถึงบริการด้านยา ลดความแออัดในโรงพยาบาลช่วงสถานการณ์ระบาดของ COVID-19 ขยายจำนวนร้านยาในโครงการรับยาใกล้บ้าน ทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่หน่วยบริการ พร้อมเพิ่มเติมระบบโรงพยาบาลจัดสำรองยาที่ร้านยาและระบบเติมยาผู้ป่วยที่ร้านยา 3. ผู้ป่วยโรคเรื้อรังสามารถรับยาหรือบริการทางการแพทย์ตามความจำเป็นนอกหน่วยบริการประจำได้ ถือเป็นเจ็บป่วยกรณีฉุกเฉินในมิติของประชาชนภายใต้สถานการณ์โรคระบาด 4. สถานบริการอื่นที่ให้บริการกรณีโรค COVID-19 ให้หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการ กำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ กรณีโรคติดเชื้อโโควิดเป็นไปตามประกาศที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี 5. จ่ายชดเชยค่าบริการ COVID 19 ให้โรงพยาบาลสนามหรือหน่วยงานอื่นที่ได้รับการรับรองตามเกณฑ์ประเมินจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) และขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการที่รับส่งต่อเฉพาะด้าน 7. มอบเลขาธิการ สปสช. และประธานบอร์ด สปสช. พิจารณารายละเอียดเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข อัตราค่าใช้จ่าย และการจ่ายค่าใช้จ่ายให้แก่หน่วยบริการและสถานบริการภายใต้รายการและกรอบวงเงินที่คณะกรรมการกำหนดและเสนอให้ประธานบอร์ด สปสช. ลงนามประกาศใช้ ทั้งนี้เพื่อประโยชน์การบริหารกองทุนได้ทันต่อสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 "ตามมาตรการเพิ่มเติมเพื่อควบคุมและลดการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 ทั้ง 7 ข้อเสนอนี้ บอร์ด สปสช.ยังได้มอบให้ สปสช. ดำเนินการปรับปรุงข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งหลักเกณฑ์ แนวทาง วิธีการ และเงื่อนไขการจ่ายชดเชยเพื่อรองรับเพิ่มเติม พร้อมรับรองมติให้ดำเนินการได้ทันที เนื่องจากเป็นวาระด่วนที่ต้องเร่งดำเนินการโดยเร็วในการ" พญ.ประสบศรี กล่าว "หมอแล็บแพนด้า"ลุยตรวจ"โควิด"กลุ่มเสี่ยงถึงบ้าน
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กทม.ได้จัดทำเว็บไซต์ BKK covid-19 (https://bkkcovid19.bangkok.go.th) สำหรับตรวจคัดกรองเบื้องต้น เพื่อประเมินผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งต้องแยกรักษา เฝ้าระวัง สังเกตอาการ และผู้ที่ปลอดเชื้อ
โดยจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อที่ศูนย์เอราวัณจะได้ติดต่อผู้ที่มีความเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 เพื่อดำเนินการรักษาต่อไป โดยภายหลังเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 3 เม.ย. มีประชาชนเข้ามาใช้บริการมากถึงกว่า 18,000 คน นอกจากนี้ กทม.ได้ร่วมมือกับเพจ "หมอแล็บแพนด้า" ให้บริการตรวจวินิจฉัยกับผู้ที่มีผลการคัดกรองเบื้องต้นเป็นกลุ่มเสี่ยง โดยส่งหน่วยเคลื่อนที่ออกไป ทดสอบการติดเชื้อ (SWAB) ให้ถึงที่บ้าน หรือชุมชนที่ผู้รับการตรวจสะดวก หากผลการทดสอบการติดเชื้อออกมาเป็น Positive หรือติดเชื้อ กทม.จะส่งเข้าสู่ระบบเพื่อรับการรักษาทันที พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวด้วยว่า ขณะเดียวกัน กทม.จะขยายพื้นที่ในการทดสอบการติดเชื้อให้ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ มากที่สุด เพื่อตัดวงจรการแพร่เชื้อด้วยการดึงผู้ป่วยออกมาจากชุมชน และส่งเข้าสู่ระบบการรักษา |
สมาชิกหมายเลข 3402302
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
Friends Blog Link |