แครนแบร์รี่ครีมสโกน
ไม่ได้อัพบล็อคนานมาก ลูกสนเองก็จำไม่ได้ว่าหายตัวไปนานแค่ไหนตั้งแต่ทำงานแล้วแทบจะไม่ได้เห็นแสงตะวันตอนเดินกลับบ้านเลยค่ะออกมาจากธนาคารก็ทุ่มกว่า สองทุ่ม จนล่าสุดสามทุ่มกว่า โอยยย สุดๆแล้วค่ะ นั่งๆทำงานไปก็นึกว่านี่ชั้นเป็นพนักงานธนาคารหรือว่าพนักงาน Hell's Factory กันแน่นะ แผนกอื่นกลับบ้านกันไปหมดแล้วเหลืออยู่แผนกเดียวต้องนั่งจมอยู่กับกองเอกสาร เศร้าจริงๆช่วงที่ไม่ได้อัพบล็อคนี่ลูกสนปิดบล็อคไปเพราะไม่ได้ดูแลบล็อคเลยได้เข้าบล็อคตัวเองเดือนละนับนิ้วได้เลยค่ะ เพราะเน็ตก็ไม่ค่อยได้ใช้วันธรรมดาจะให้น้องสาวใช้ซะมากกว่า วันหยุดถึงจะฉกมาใช้ได้บ้างเข้าบล็อคตัวเองแล้วก็ตกใจว่า chatbox มันหายไปไหนหว่า ??จะแก้ยังไงก็ยังไม่รู้เลย ยังอยากเก็บไว้ดูอยู่ค่ะ ทิ้งไปก็เสียดายใครทราบวิธีแก้ไขถ้าบอกกันได้ลูกสนจะขอบคุณมากๆเลยค่ะมาเข้าเรื่องทำขนมกันดีกว่านะคะ เมื่อวานไปเดินงาน ThaiFex มาของขายละลานตาไปหมด เหล่าแม่บ้านทั้งหลายไม่ควรพลาดเลยค่ะงานจัดดีนะคะ สถานที่ใหญ่โต เสียดายอย่างเดียวว่าที่จอดรถน้อยไปแฟนวนหาที่จอดอยู่เกือบชั่วโมง นั่งอยู่ในรถจนรากงอกเลยค่ะพอได้ที่จอดแล้วสุดแสนจะขอบพระคุณรถคันที่ขับออกไป ฮิฮิไม่งั้นคงได้ไปจอดในเมืองทองแล้วนั่งแท็กซี่มาแน่ๆยังไม่เข้าเรื่องซักทีเนอะ ตอนนี้จะเข้าจริงๆจังๆแล้วค่ะ แหะแหะคือเมื่อวานไปได้แครนแบร์รี่แห้งจากงานมา ครึ่งกิโล 220 บาทลูกสนว่าถูกนะคะ เพราะเห็นตามห้างขายกันโลละ 800 บาทแล้วรีบหยิบมาถุงนึง ว่าจะทำคุกกี้ข้าวโอตเครซิน แต่วันนี้อยากกินสโกนเลยจัดการซะเลย ทำแป๊ปเดียวเองค่ะ สโกนใส่แครนแบร์รี่แล้วเพิ่มกลิ่นหอมหวานและรสชาติได้ดีเลยนะคะ ใครชอบลองดูค่ะรับรองว่าสูตรนี้ทำง่ายและรสชาติดีจริงๆเอารูปไปดูซะหน่อยนะดูอีกซักรูป ให้สมกับที่โม้นอกเรื่องมานาน ฮ่าฮ่า หน้าตาไม่ค่อยอัพพีลแต่รสชาติสวนทางกับหน้าตานะคะ เนื้อขนมด้านนอกจะกรอบร่วนแต่ด้านในนุ่มชุ่ม ชิ้นเล็กๆแบบที่ลูกสนทำกัดแป๊ปเดียวก็หมดค่ะใครจะเอากี่ชิ้นก็หยิบเลยใครเห็นหน้าตาแล้วถูกใจ มาจดสูตรกันเลยนะคะส่วนผสม(สำหรับสโกนขนาด 1 1/2 นิ้ว 16 ชิ้น)1. แป้งสาลีเอนกประสงค์ 200 กรัม(1 3/4 ถ้วยตวง)2. แป้งเค้ก 50 กรัม(1/2 ถ้วยตวง)3. เนยจืด 85 กรัม(6 ช้อนโต๊ะ) หั่นเป็นลูกเต๋าและแช่ให้เย็นจัด4. วิปปิ้งครีม 140 มิลลิลิตร(1/2 ถ้วยตวง + 1 ช้อนโต๊ะ)5. น้ำตาลทราย 30 กรัม(2 1/2 ช้อนโต๊ะ)6. ไข่ไก่เบอร์สอง 1 ฟอง7. กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา8. ผิวส้มขูดละเอียด 1/2 ช้อนโต๊ะ9. ผงฟู 1 ช้อนโต๊ะ10. เบคกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชา11. เกลือป่น 1/2 ช้อนชา12. แครนแบร์รี่อบแห้ง 50 กรัม(1/2 ถ้วยตวง)13. วิปปิ้งครีมและน้ำตาลทราย สำหรับทาและโรยขนมก่อนอบ+ เนยจืดแช่ในช่องแข็งให้เย็นจัดๆเลยจะทำให้เวลาทำขนมง่ายขึ้น+ แครนแบร์รี่ของใครถ้าแห้งแข็งเกินไปสามารถแก้ได้โดยนำไปแช่ในน้ำอุ่นประมาณ 2-3 นาที แล้วค่อยบีบน้ำออกให้หมดค่ะ หรือถ้าให้ดีลองแช่ในน้ำส้มดูนะคะ รสของแครนแบร์รี่กับน้ำส้มเข้ากันได้ดีมากค่ะ+ ถ้าไม่มีวิปปิ้งครีม ลองแทนด้วยนมสดหรือบัทเทอร์มิลค์ก็ได้เช่นกันค่ะส่วนผสมเหมือนจะเยอะนะคะ แต่พอหยิบจับจริงๆแล้วไม่เยอะเลยค่ะในรูปนี้ลูกสนผสมแป้งทั้งสองอย่างรวมกันแล้วนะคะ ผิวส้มขูดได้มาจากพี่เจย์ด้า ขอบคุณมากเลยนะคะพี่ สะดวกดีแล้วก็หอมมากด้วยเตรียมถาดอบโดยรองด้วยกระดาษพาร์ชเมนท์หรือแผ่นซิลิโคนไม่ต้องทาไขมันใดๆทั้งสิ้นนะคะเตาอบให้อุ่นไว้ที่อุณหภูมิ 400F(200C) ทั้งไฟบนไฟล่างอุณหภูมิสูงๆแบบนี้ อุ่นไว้ตั้งแต่เริ่มเตรียมส่วนผสมได้เลยค่ะวิธีทำ1. นำแป้งทั้งสองชนิดผสมรวมกับผงฟู เบคกิ้งโซดาและเกลือป่นและในอีกชามนึง ให้ผสมวิปปิ้งครีม ไข่ไก่ และกลิ่นวานิลลาให้เข้ากันนี่คือส่วนผสมเหลวนะคะ ผสมเสร็จนำแช่ตู้เย็นไว้ก่อนก็ได้ค่ะการทำสโกนถ้าให้ดีส่วนผสมทุกอย่างควรจะเย็นจัด แป้งจะได้ขึ้นรูปง่าย2. นำส่วนผสมแป้งเทใส่ลงในเครื่องผสมอาหาร ใส่น้ำตาลทรายและผิวส้มลงไป จากนั้นปั่นให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน แล้วเติมเนยเย็นๆลงไปปั่นอีกครั้งให้เนยถูกแป้งเคลือบทั้งหมด ส่วนผสมจะเป็นครัมพ์ค่ะขั้นตอนนี้ถ้าใครไมมีเครื่องผสมอาหาร สามารถผสมส่วนแป้งกับน้ำตาลและผิวส้มลงในชามใหญ่ๆได้ แล้วค่อยใส่เนยลงไป ใช้มีด 2 ด้ามตัดไขว้กันจนกว่าส่วนผสมจะเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยค่ะ ก่อนจะตัดให้นำมีดไปแช่ตู้เย็นไว้จะทำให้เวลาตัดแล้วเนยไม่เหลวง่ายค่ะนี่คือรูปขั้นตอนการทำค่ะ จริงๆแล้วผิวส้มจะเอาไปใส่รวมกับส่วนของเหลวก็ไม่ผิดนะคะ แล้วแต่สะดวกค่ะ3. เทส่วนผสมเหลวที่แช่เย็นไว้ลงไป ปั่นให้แป้งจับตัวเป็นโดว์ที่เกาะกันโดว์ที่เราต้องการจะเกาะกันหลวมๆค่ะ แล้วก็ใส่แครนแบร์รี่แห้งลงไปปั่นให้แครนแบร์รี่กระจายทั่วๆกันแล้วก็พอค่ะ ตอนใส่แครนแบร์รี่ลงไปจะปั่นยากนิดนึง ต้องอาศัยไม้พายกวาดในโถเอาด้วยนะคะ จะได้ปั่นทั่วๆสำหรับคนที่ไม่มีเครื่อง ให้เทส่วนผสมเหลวและแครนแบร์รี่ใส่ชามแป้งแล้วใช้ช้อนไม้พายคนให้แป้งจับตัวกันเป็นก้อนหลวมๆค่ะ เดี๋ยวเราจะเอาโดว์ออกมานวดกันนะคะ4. นำโดว์ออกมาวางบนแผ่นซิลิโคนหรือเขียงไม้ใหญ่ๆค่ะ แล้วนวดเบาๆประมาณ 30 วินาทีให้เค้าจับตัวกันเป็นก้อนใหญ่ๆ จากนั้นคลึงแป้งให้มีความหนาประมาณ 3/4 นิ้ว เอาพลาสติคห่อแป้งแล้วแช่ตู้เย็นประมาณ 15 นาทีเพื่อให้แป้งอยู่ตัวค่ะ แต่ถ้าใครอยู่เมืองหนาวก็ไม่ต้องแช่ไปอ่านข้อ 5 ได้เลยนะคะ5. นำแป้งที่แช่เย็นแล้วออกมากดให้เป็นชิ้นๆ วันนี้ลูกสนใช้คัทเทอร์กลมขนาด 1 1/4 นิ้วค่ะ เอาคัทเทอร์จุ่มแป้งสาลีเอนกประสงค์ก่อน แล้วกดลงไปบนก้อนแป้งของเรา กดจดหมดเลยค่ะ เศษแป้งที่เหลือก็เอามารวมกันนวดเบาๆให้เป็นก้อน แล้วก็กดอีกจนกว่าจะหมด ลูกสนทำได้ 20 ชิ้นค่ะพอเรียบร้อยแล้วให้วางแป้งลงบนถาดอบที่เตรียมไว้ จากนั้นทาหน้าขนมด้วยวิปปิ้งครีมแล้วโรยด้วยน้ำตาลให้ทั่ว นำเข้าเตาอบเป็นเวลา 13-15 นาทีพอเสร็จแล้วก็รับประทานได้เลยค่ะ อบเสร็จใหม่ๆจะอร่อยที่สุดแล้วสำหรับใครที่กลัวว่าจะกินไม่หมด ให้นำก้อนแป้งที่ตัดเป็นชิ้นกลมๆแล้วใส่ถุงเข้าแช่ช่องแข็งได้นะคะ พอจะอบค่อยนำออกมาวางพักในช่องธรรมดาให้แป้งคลายตัว พอเค้าหายแข็งก็อบได้ แค่นี้ก็ได้กินสโกนร้อนๆแล้วค่ะวันนี้ลูกสนกินแบบไม่ทาอะไรเลยค่ะ อยากได้รสขนมแบบเพียวๆถ้าใครชอบครีมก็เอามารับประทานด้วยก็จะยิ่งอร่อยเข้าไปใหญ่เลยค่ะจริงๆแล้วลูกสนชอบทาครีมชีสมากกว่าวิปครีม แต่ที่บ้านไม่มีครีมชีสเลยกินเปล่าๆนี่ล่ะตัดขนมให้ดู ข้างนอกกรอบ ข้างในนุ่มค่ะ เวลากัดต้องเอามือรองไว้เดี๋ยวเศษขนมหล่นเลอะเทอะค่ะรูปสุดท้าย กินกันให้เต็มตาเลยค่ะ อิ่มแต่ตา ถ้าใครท้องร้องจ๊อกๆ ก็ต้องไปหาของกินมาเติมพุงกันเองนะคะ ฮิฮิหวังว่าขนมร้อนๆชิ้นนี้ คงทำให้คุณอบอุ่นในวันที่ฝนตกแบบนี้นะคะสวัสดีและขอบคุณผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมทุกท่านค่ะก่อนจะไปจริงๆ ขอฝากข้อความถึงหลายๆคนที่ส่งหลังไมค์มาหาช่วงที่ลูกสนปิดบล็อคนะคะ ตอนนี้ลูกสนเปิดบล็อคให้เข้าชมแล้วขอค่าตอบแทนเป็นคอมเม้นท์ได้มั้ยคะ ลูกสนอ่านหลังไมค์แล้วหลายคนมากที่บอกว่าแอบเข้ามาเอาสูตรไปทำแล้วถูกอกถูกใจขอเข้าไปดูบล็อคหน่อยได้มั้ย อ่านแล้วเสียใจจังเลยค่ะ ทำไมนะชอบบล็อคเราก็ไม่เคยบอกไม่เคยแสดงตัวให้รู้เลย แต่พอเราปิดบล็อคหลังไมค์มากันเต็มไปหมด บางคนก็บอกว่าผิดหวังที่เราปิดบล็อคไปทั้งๆที่คุณเข้ามาดูประจำแต่ยังไม่เคยให้กำลังใจลูกสนซักครั้งเลยพอผิดหวังค่อยมาบอกอย่างนั้นเหรอคะ อ่านแล้วซาบซึ้งใจเลยค่ะไม่รู้จะพูดยังไงดี ทุกๆหลังไมค์ลูกสนอ่านแล้วยังไม่ได้ลบทิ้งเลยบางคนก็บอกว่าอ่านประจำแต่ไม่กล้าคอมเม้นท์ ลูกสนบอกได้เลยค่ะ ว่าทุกคอมเม้นท์ทำให้ลูกสนแฮปปี้มาก แล้วลูกสนก็ไม่ใช่นางมารเฝ้าบล็อคไม่ต้องกลัวว่าคอมเม้นท์แล้วจะโดนลูกสนจิกกัดนะคะ ไม่กัดค่ะ รับประกันมีแต่จะปลื้มใจกับกำลังใจที่คุณๆให้มาค่ะพูดแบบนี้แล้วไม่รู้จะมีคนคิดว่าลูกสนสำคัญตัวผิดรึเปล่านะแต่อย่างน้อยการทำบล็อคก็ต้องใช้เวลาและทำด้วยใจจริงๆค่ะทั้งถ่ายรูป ย่อรูป พิมพ์สูตร ได้ออกมาเป็นบล็อคๆนึงใช้เวลาไม่ต่ำกว่า3 ชั่วโมง ขนมบางอย่างใช้เวลาทำ 4-5 ชั่วโมงก็มี ตอนทำก็เหนื่อยแต่มีความตั้งใจตั้งแต่แรกที่จะเอาสูตรมาลงให้เพื่อนๆดู ก็ขอเวลาเพื่อนๆแค่คนละไม่เกิน 1 นาที พออ่านบล็อคเสร็จแล้วช่วยทิ้งข้อความไว้ให้คนทำได้ดีใจด้วยนะคะขอบคุณจากใจจริงที่รับฟังค่ะ
เลดี้ฟิงเกอร์ส
มาลองทำเลดี้ฟิงเกอร์สกันบ้างนะคะ ทำง่ายมากค่ะวิธีทำคล้ายสปองจ์เค้ก เนื้อขนมที่ได้ก็คล้ายกันด้วยค่ะวันนี้ลูกสนอบให้แห้งๆ ได้เป็นคุกกี้กรุบกรอบ เนื้อเบาชิมแล้วอร่อยจริงๆค่ะ คนอื่นกินแล้วก็ชมเหมือนกันนะคะพูดถึงเลดี้ฟิงเกอร์สแล้วคงจะไม่นึกถึงทีรามิสุไม่ได้นะคะสองอย่างนี้เค้าเกิดมาคู่กัน คุณสมบัติของเลดี้ฟิงเกอร์สเหมาะกับการทำทีรามิสุมาก เนื่องจากมีรูพรุน ซึมกาแฟได้ดีและแบบที่อบจนแห้งนั้น เมื่อซึมกาแฟแล้วจะไม่นุ่มเกินไปทำให้เลดี้ฟิงเกอร์สเป็นตัวเลือกยอดนิยมของขนมสุดอร่อยค่ะมาดูส่วนผสมและวิธีทำกันเลยนะคะ ใครจะทำกรอบทำนุ่มได้ทั้งนั้นค่ะ ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิและเวลาที่ใช้ในการอบถ้าพร้อมแล้วมาเริ่มทำกันเลยนะคะส่วนผสม(สำหรับ 50-60 ชิ้น)สูตรจากหนังสือ Great Cookies, Carole Walter1. ไข่ไก่เบอร์หนึ่ง 4 ฟอง แยกขาว-แดง2. น้ำตาลทราย 100 กรัม(1/2 ถ้วยตวง)3. แป้งสาลีเอนกประสงค์ร่อนแล้วตวง 70 กรัม(2/3 ถ้วยตวง)4. เกลือป่น 1/8 ช้อนชา5. ครีมออฟทาร์ทาร์ 1/8 ช้อนชา6. กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา7. น้ำตาลไอซิ่ง สำหรับโรยขนมก่อนอบในรูปไม่มีไอซิ่งนะคะ ลืมเอามาวางอีกแล้วค่ะ แหะแหะเตรียมถาดอบโดยรองด้วยแผ่นซิลิโคนหรือกระดาษ non-stickอุณหภูมิที่ใช้ในการอบคือ 350F(175C) สำหรับแบบนุ่มหรือ 375F(190C) สำหรับแบบกรอบ อบไฟบนล่างอุ่นเตาไว้ก่อนอบด้วยนะคะวิธีทำ1. ใส่ไข่แดงลงในชามผสมใบใหญ่ ตีด้วยความเร็วปานกลางจนกระทั่งไข่แดงสีอ่อนลง จากนั้นใส่น้ำตาลลงในไข่แดงไม่ต้องใส่หมดนะคะ ให้เก็บไว้ 2 ช้อนโต๊ะเพื่อตีกับไข่ขาวด้วยจากนั้นตีให้ไข่แดงกับน้ำตาลเข้ากันค่ะ สีไข่จะจางลงอีกปริมาตรไข่จะมากขึ้น และส่วนผสมจะข้นขึ้นค่ะ พอได้แล้วให้หยุดเครื่องตี ใส่วานิลลาลงไป แล้วใช้พายยางคนให้เข้ากันค่ะรูปนี้คือไข่แดงที่ถูกตีจนสีอ่อนลงค่ะ แบ่งน้ำตาลใส่ลงไป อย่าลืมเหลือเก็บไว้ 2 ช้อนโต๊ะด้วยนะคะตีต่อค่ะ ไข่จะฟูขึ้นและสีจางลงไข่ที่ตีเสร็จแล้วจะข้นค่ะ ถ้ายกหัวตีแล้วไข่จะย้อยลงมาเป็นสายใส่วานิลลาตะล่อมให้เข้ากัน ได้เป็นส่วนผสมเนียนๆแบบนี้ค่ะ2. ใส่แป้งลงในส่วนผสมไข่แดง แล้วใช้พายยางตะล่อมให้พอเข้ากันค่ะรูปนี้ระหว่างตะล่อมค่ะ ส่วนผสมจะเหนียวหน่อยนะคะ ดูไม่งาม ฮ่าฮ่าตะล่อมเสร็จแล้วค่ะ ให้ไม่เหลือแป้งเป็นเม็ดๆก็พอค่ะ3. ตีไข่ขาวในชามอีกใบจนกระทั่งเป็นฟองหยาบ จากนั้นเติมเกลือและครีมออฟทาร์ทาร์ลงไป ตีต่อจนกระทั่งฟองละเอียดขึ้นเติมน้ำตาลทรายที่แบ่งไว้ลงไป และตีจนได้ไข่ขาวที่ตั้งยอดแข็งรูปไข่ขาวนี่ลูกสนถ่ายรูปไม่ละเอียดนะคะ รูปแรกคือฟองหยาบค่ะรูปที่สองเติมน้ำตาล อีกสองรูปถัดไปเป็นการตีหลังจากเติมน้ำตาลค่ะตีจนตั้งยอดแข็งแบบนี้ค่ะ 4. ตะล่อมไข่ขาวเข้ากับส่วนไข่แดง โดยแบ่งตะล่อมทีละ 1/4 ส่วนเมื่อตะล่อมจนพอเข้ากันแล้วให้เติมไข่ขาวที่เหลือลงไปเรื่อยๆจนกระทั่งไข่ขาวหมดแบ่งไข่ขาวลงไปตะล่อม ค่อยๆทำนะคะ เบามือค่ะส่วนผสมไข่แดงจะข้นมากอยู่เหมือนกัน ตะล่อมยากหน่อยแต่พอใส่ไข่ขาวลงไปเรื่อยๆก็จะง่ายขึ้นค่ะรูปนี้ตอนตะล่อมจะเสร็จแล้วค่ะ ส่วนผสมข้นๆย้อยลงมาเหมือนเวลาทำสปองจ์เลยค่ะ...แต่เอ๊ะที่ทำอยู่นี่ก็สปองจ์นี่เนอะรูปนี้เรียบร้อยค่ะ เดี๋ยวเตรียมอบได้เลย5. นำส่วนผสมที่ได้ใส่ถุงที่มีหัวบีบกลมขนาด 1/2 นิ้วจากนั้นบีบให้เป็นเส้นยาวขนาด 3 นิ้ว วางเรียงห่างกันชิ้นละ 2 นิ้วเมื่อบีบจนหมดแล้วให้โรยน้ำตาลไอซิ่งจนทั่วผิวหน้าขนมจากนั้นนำเข้าเตาอบเป็นเวลา 8-10 นาที(สำหรับแบบนุ่ม)หรือ 15 นาที(สำหรับแบบกรอบ)ลูกสนใช้ถุงแกงตัดปลายเอานะคะวันนี้ บีบทีละถาดค่ะในหนังสือบอกว่าถ้าบีบเอนๆจะได้ปริมาณต่อถาดมากกว่าบีบแบบตั้งฉาก ลูกสนก็เลยทำตามที่เค้าว่าไปค่ะ ฮิฮิตอนบีบนี่ส่วนผสมจะไหลลงมาเร็วนะคะ ต้องบีบไวๆไม่งั้นเลอะเทอะค่ะโรยไอซิ่งลงไปบางๆซัก 2 รอบค่ะพร้อมจะผจญเพลิงแล้ว เย้ๆรูปนี้ตอนนำเข้าอบค่ะ ลูกสนอบใช้อุณหภูมิ 350F(175C) ค่ะอบ 15 นาที ตอนอบคุกกี้เค้าจะพองขึ้น แต่อบเสร็จจะยุบค่ะอบเสร็จแล้วค่ะ แซะออกมาวางพักบนตะแกรงให้เย็นสนิทจากนั้นเก็บใส่กล่องไว้รับประทานได้ 1 สัปดาห์(สำหรับแบบกรอบ)ถ้าเป็นแบบนุ่มจะเก็บได้ 3 วันค่ะ ที่ลูกสนอบใช้อุณหภูมิไม่สูงนะคะแต่อาศัยอบนานกว่าที่สูตรบอกนิดนึง เลยได้เป็นคุกกี้กรอบๆสีกำลังสวยเลยค่ะ อีกถาดนึงลูกสนอบ 375F ขนมออกมาสีเข้มค่ะลูกสนชอบแบบถาดนี้มากกว่าพออบเสร็จแล้วใครจะโรยไอซิ่งเพิ่มก็ตามชอบนะคะลูกสนไม่โรยแล้วค่ะ ขอกินแบบนี้เลยดีกว่าคุกกี้เนื้อเบามากเลยนะคะ ชิ้นนึงหนักไม่ถึง 3 กรัมกินเพลินจริงๆค่ะ ไม่อยากเชื่อว่าขนมไข่กรอบๆนี่อร่อยจังฮู้บิให้ดูเนื้อในค่ะ เป็นโพรงแบบนี้ล่ะค่ะ เหมาะกับทีรามิสุดีเชียวเพื่อนๆคนไหนสนใจก็ลองทำกันดูนะคะ ต้นทุนไม่แพงเลยค่ะแถมอร่อยอีกด้วย กินไม่หมดก็เก็บไว้ทำทีรามิสุต่อได้เลยอร่อยสองต่อแบบนี้ ไม่ลองไม่รู้นะคะสวัสดีค่ะ
แป้งพายชั้น(สูตรญี่ปุ่น)
วันนี้ลูกสนขอแบ่งปันวิธีทำแป้งพายชั้นให้เพื่อนๆนำไปใช้กันนะคะเนื่องจากเป็นหนึ่งในส่วนประกอบของขนมที่ลูกสนตั้งใจจะให้เป็นขนมประจำปีของตัวเองค่ะ เพื่อนๆดูรูปทรงพายชั้นก็คงทราบแล้วว่าขนมชนิดนั้นคืออะไร ลูกสนยังไม่ได้ลงมือทำส่วนประกอบอื่นๆเลยขอทำแป้งพายไว้ก่อน จะได้อุ่นใจว่าทำของที่ยากที่สุดเสร็จแล้วแป้งพายชั้นสูตรนี้ ที่ต้องบอกว่าเป็นสูตรญี่ปุ่นเนื่องจากลูกสนอ่านสูตรพายชั้นจากหลายแหล่ง สูตรญี่ปุ่นนี่ดูท่าทางจะทำง่ายที่สุดเลยค่ะไม่ต้องนำเนยก้อนใหญ่ๆใส่ในโดว์ แต่ใช้การตัดเนยให้เป็นชิ้นเล็กๆใส่ลงในแป้งไปตั้งแต่ขั้นตอนแรกเลย ลูกสนทำแล้วเวิร์คมากค่ะผลลัพธ์ออกมาดีกว่าสูตรแบบฝรั่งเศสที่เคยทำ อันนั้นทำแล้วรั่ว อันนี้ทำแล้วไม่มีเนยทะลัก ตอนอบเนยก็ไม่ไหลออกมานอกแป้งพายที่ได้ชั้นบางกรอบทุกชั้น ได้แบบนี้คนทำก็ชื่นใจสุดๆแล้วค่ะมาดูสูตรและวิธีทำกันนะคะ รูปเยอะหน่อยค่ะวันนี้ บางรูปก็ใหญ่บางรูปก็4P ลูกสนเป็นคนนึงที่เคยทำแป้งพายชั้นแล้วมีปัญหาเลยอยากสาธิตวิธีทำให้ละเอียดที่สุดค่ะ เพื่อนๆใจเย็นๆ ค่อยๆดูไปนะคะส่วนผสม1. แป้งขนมปัง 125 กรัม2. แป้งเค้ก 125 กรัม3. เนยจืด 200 กรัม หั่นเป็นชิ้นเล็กๆและแช่ให้เย็นจัด4. น้ำเย็นจัด 125 มิลลิลิตร5. เกลือป่น 1/2 ช้อนชา6. น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนโต๊ะในรูปนี่ลูกสนใส่แป้งลงในชามเดียวกันนะคะวิธีทำ1. ร่อนแป้งทั้ง 2 ชนิดและเกลือป่นเข้าด้วยกัน จากนั้นใส่น้ำตาลทรายลงไปแล้วใช้ตะกร้อมือคนผสมให้เข้ากันอีกครั้งร่อนแป้งใส่น้ำตาลลงไปผสม2. ใส่เนยที่หั่นไว้ลงไปในชามแป้ง ใช้ไม้พายตะล่อมให้แป้งเคลือบเนยทุกชิ้น จากนั้นใช้มีดตัดเนยสองอัน ตัดไขว้กันไปมาให้เนยกลายเป็นชิ้นเล็กๆผสมกับแป้ง ลักษณะคล้ายเม็ดทรายค่ะอาจจะมีเนยชิ้นใหญ่ๆเหลืออยู่เล็กน้อย ก็เป็นเป็นไรค่ะใส่เนยลงไปคลุกเบาๆให้แป้งเคลือบเนยทั้งหมดใช้มีดตัดไขว้กัน ขั้นตอนนี้จริงๆใช้ Food Processor ได้นะคะแต่ลูกสนกลัวติดนิสัยรักสบาย วันนี้เลยขอใช้มีดตัดเนยบ้างแล้วกันนำมีดไปแช่เย็นก่อนจะช่วยให้การตัดสะดวกขึ้นค่ะได้ส่วนผสมที่เป็นเม็ดทรายแบบนี้ก็พอค่ะ3. เทน้ำเย็นจัดลงไปให้ทั่วแป้ง จากนั้นใช้ไม้พายคลุกเบาๆให้แป้งซึมน้ำแป้งจะเกาะตัวกันมากขึ้นค่ะ แล้วค่อยใช้มือเรานวดแป้งในชามเบาๆให้เค้าเกาะกันเป็นก้อนกลม เสร็จแล้วให้ห่อแป้งด้วยพลาสติคแรปแล้วนำเข้าแช่ตู้เย็น 1 ชั่วโมงค่ะเทน้ำคลุกให้แป้งพอเกาะกันใช้มือนวดเบาๆจนแป้งเกาะกันเป็นก้อนเก็บเข้าตู้เย็น พอแป้งแข็งขึ้นเราจะมาคลึงแป้งกันค่ะ4. พอ 1 ชั่วโมงผ่านไป ให้เตรียมพื้นผิวกว้างๆไว้ค่ะ โรยแป้งนวลบางๆแล้วนำแป้งที่ได้ออกมาคลึงให้ยาว 1 ฟุต ระหว่างคลึงสามารถโรยแป้งนวลได้บางๆ เน้นว่าบางๆนะคะ ลงบนแป้งที่เราคลึงอยู่ ลูกสนใช้วิธีทาแป้งเอาค่ะใช้แปรงจุ่มลงในชามแป้งนวล แล้วทาแบบผ่านๆไปบนตัวแป้งค่ะพอคลึงได้ยาว 1 ฟุตแล้วให้พับแป้งเป็น 3 ทบค่ะ จะเริ่มจากส่วนบนมาตรงกลางหรือจากข้างล่างขึ้นไปตรงกลางก็แล้วแต่นะคะ ลูกสนพับล่างขึ้นไปกลางก่อนแล้วค่อยพับบนลงมาอีกทีนึงค่ะ ดูตามรูปน่าจะพอเข้าใจนะคะ พอพับเสร็จก็จะได้แบบรูปที่4 ค่ะ ขั้นตอนนี้แป้งยังไม่สวยเท่าไหร่ คลึงไปเรื่อยๆเดี๋ยวเค้าจะดูดีเองค่ะมีคำแนะนำนิดนึงนะคะ ว่าการพับแต่ละทบนี่ ควรให้ปลายเค้าเสมอกันคือไม่ยื่นออกมา หรือสั้นเกินไปจนคลุมชั้นอื่นๆไม่อยู่ค่ะ ควรให้เท่าๆกันเหมือนหนังสือเลยค่ะจากรูปข้างบน รูปที่4 ให้จับแป้งหมุน 90 องศาค่ะ แล้วก็นำพลาสติคแรปมาคลุมตัวแป้ง พักในตู้เย็นประมาณ 30 นาทีแล้วค่อยนำมาคลึงต่อแต่ถ้าใครมั่นใจว่าแป้งของตัวเองไม่นิ่ม ไม่ละลาย ก็ไม่ต้องแช่เย็นค่ะ5. หลังจากแช่เย็นครบ 30 นาทีแล้ว ให้นำแป้งออกจากตู้เย็น วางลงบนพื้นผิวโดยวางให้เหมือนในรูปข้างบนค่ะ คือเหมือนหนังสือเลย ปกเปิดได้ทางขวาจากนั้นก็คลึงแป้งค่ะ ขั้นตอนเหมือนเดิมเลย สามารถโรยแป้งนวลบางๆได้ระหว่างคลึงสามารถพลิกแป้งกลับไปมาหน้าหลังได้นะคะ จะทำให้แป้งไม่ติดและยืดแป้งได้มากขึ้นด้วยค่ะขั้นตอนนี้จะสามารถคลึงแป้งได้ยาวกว่าขั้นตอนข้อ4 นะคะ แป้งของลูกสนหนาประมาณ 6-7 มิลลิเมตรค่ะ พอคลึงได้หนาเท่านี้แล้วก็พับอีกเหมือนเดิมทำเหมือนวิธีในข้อ4 เลยค่ะ ดูจากรูปข้างล่างเอาก็ได้ คลึงแป้งครั้งนี้ให้นับเป็นครั้งที่ 1 นะคะ เราต้องคลึง 4 รอบค่ะ ยังเหลืออีก 3 รอบที่ต้องสู้ต่อ ฮิฮิแป้งที่คลึงเสร็จแล้ว จับห่อพลาสติคแรปแล้วแช่เย็น 1 ชั่วโมงค่ะให้แป้งพักตัวก่อน แล้วค่อยนำมารีดครั้งต่อๆไป พักแป้ง 1 ชั่วโมงทุกครั้งหลังจากรีดแป้งเสร็จนะคะ6. ลูกสนขอข้ามขั้นตอนคลึงแป้งรอบที่ 2 กับ 3 นะคะ มาที่รอบสุดท้ายเลยสังเกตสีเนยในแป้งว่าจะจางลงนะคะ หมายความว่าเนยกระจายไปทั่วแป้งแล้วถูกแป้งกลบหมดค่ะ แล้วแป้งก็จะบางลงด้วย ดูในรูปที่3 ก็ได้ค่ะ รอบนี้แป้งหนาแค่ 4 มิลลิเมตรเอง แล้วก็ดูหน้าตาเรียบสวยขึ้นเยอะเลย พอคลึงรอบที่4 เสร็จ ห่อแป้งด้วยพลาสติคแรปแล้วแช่เย็นเป็นเวลาอย่างน้อย6 ชั่วโมงก่อนนำมาใช้ค่ะ ในรูปที่4 นี่แช่เย็นครบ 6 ชั่วโมงแล้วนะคะลูกสนนำมาแบ่งเป็น 2 ก้อน เวลาใช้ก็เอาออกมาคลึงที่ละก้อนค่ะถ้าแป้งเยอะไป คลึงไม่ทัน เดี๋ยวเนยละลายหมด7. มาเตรียมอบแป้งพายกันบ้างนะคะ อุ่นเตาอบไว้ที่ 200C ค่ะจากนั้นเตรียมEgg Wash รอไว้ค่ะ วันนี้ลูกสนใช้ไข่แดง 1 ฟองผสมน้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากันค่ะนำแป้งออกมา 1 ก้อน ใช้ไม้คลึงไปเรื่อยๆจนได้แป้งหนา 3 มิลลิเมตรระหว่างคลึงพลิกกลับด้านไปมา โรยแป้งบางๆ ได้ค่ะ(พูดซ้ำบ่อย อย่าเบื่อนะคะ)พอคลึงแป้งพายเสร็จแล้ว ให้นำไปวางบนถาดที่ปูกระดาษรองอบเอาไว้และนำแป้งเข้าแช่ตู้เย็น 15-20 นาทีก่อนอบค่ะ เพื่อให้แป้งได้พักตัวแช่เย็นเสร็จแล้วนำแป้งออกมาเจาะรูให้พรุนๆด้วยส้อม แล้วทาหน้าด้วยไข่แดงค่ะ เท่านี้ก็พร้อมที่จะโดนอบแย้ว เย้ๆ จะเสร็จแล้ว8. อบที่อุณหภูมิ 200C เป็นเวลา 20 นาทีค่ะ พอเข้าเตาอบปุ๊ป แป้งจะหดตัวก่อนค่ะ พอหดเสร็จแล้วตรงขอบๆก็จะเริ่มพอง หมายความว่าเนยตรงขอบโดนความร้อนแล้วค่ะ แล้วเนยตรงกลางก็จะโดนความร้อนตามมา แป้งก็จะพองๆเดือดๆทั้งชิ้นเลย แต่ไม่มีเนยทะลักออกมานะคะ พออบเสร็จแล้วก็นำออกมาวางพักบนตะแกรงให้เย็นสนิทค่ะ แล้วค่อยนำไปใช้ตามชอบรูปอบเสร็จของลูกสนสีไม่สวยเลย ครั้งหน้าต้องพอกไข่เยอะๆหน่อยอบเสร็จแล้วตัดดู พายของลูกสนตรงกลางเค้ายังดูดิบๆอยู่นิดนึง เลยขออบต่ออีก 10 นาทีค่ะ อบเสร็จแล้วแป้งสุกหมด สีสวยขึ้นด้วย วางพักให้เย็นสนิท เก็บใส่กล่องแล้วค่อยนำมาใช้ค่ะ ยังไม่แน่ใจว่าพรุ่งนี้เค้าจะยังกรอบอยู่เหมือนวันนี้รึเปล่า ถ้าไม่กรอบก็จะอบอีกนิดนึง จะได้กินขนมอร่อยๆ ฮิฮิ รอไม่ไหวแย้วบิให้ดู 1 ชิ้นค่ะ ได้แค่ชิ้นเดียวเพราะที่เหลือต้องเก็บไว้ทำขนมประจำปี ฮิฮิเป็นชั้นกรอบๆทั่วกัน กินเปล่าๆก็อร่อยค่ะ แต่ขออดเปรี้ยวไว้กินหวานพรุ่งนี้ค่อยทำของอร่อยกว่ากินแล้วกันหนุ่มๆสาวๆคนไหนอยากทำแป้งพายชั้นแบบโฮมเมดถ้าสนใจสูตรนี้ก็ลองทำดูนะคะ ลูกสนว่าทำไม่ยากและรสชาติดีค่ะเดี๋ยวคราวหน้าลูกสนจะทำแป้งพายชั้นคลาสสิคดูบ้าง ฮ่าฮ่าสู้รบกับเนยละลาย ให้รู้ไปว่าจะเป็นยังไงขอบคุณทุกคนที่แวะมาชมค่ะ ขอให้อ่านบล็อคอย่างมีความสุขนะคะ+ รายงานผลการทดลองเพิ่มเติมค่ะ +หลังจากลูกสนแบ่งแป้งพายชั้นที่คลึงเสร็จเรียบร้อยแล้วเป็น 2 ส่วนส่วนนึงลูกสนก็พักจนครบเวลาแล้วนำมาอบเลย อีกส่วนนึงลูกสนนำไปคลึงอีกรอบค่ะ รวมแล้วเป็น 5 รอบเลย เอามาชิมเทียบกันแล้ว ลูกสนว่าแป้งที่คลึง 5 รอบกรอบบางสุดๆ อร่อยกว่าแป้งที่คลึง 4 รอบค่ะถ้าเพื่อนๆจะทำแล้วไม่ติดขัดอะไร ลูกสนว่าคลึง 5 รอบจะได้แป้งที่ดีกว่า คุ้มค่ากับเวลามากกว่าค่ะสูตรที่เกี่ยวข้อง :Mille Feuille Vol Au Vent
Apple Turnovers
อากาศเย็น ลมพัดสบาย มากินพายที่อบสดๆ หอมกรุ่นจากเตากันนะคะใครชอบกินพายแอปเปิ้ล วันนี้ลองมากินพายแอปเปิ้ลในรูปแบบใหม่กันนะคะTurnover ลูกสนไม่รู้ว่าจะแปลเป็นไทยยังไงให้เก๋กู๊ดยูเรก้า ถ้าตั้งชื่อว่าพายม้วนตลบจะดีมั๊ยน้อ ฮ่าฮ่า ฟังดูตลกยังไงไม่รู้แฮะ เอาเป็นว่าลูกสนขอชวนเพื่อนๆให้ลองทำพายชนิดนี้ดูค่ะ กินตอนอบเสร็จใหม่ๆนี่อร่อยสุดยอดค่ะแป้งพายร่วนกรอบ กับไส้แอปเปิ้ลฉ่ำหอม โฮ๊ยยย กินแล้วหยุดไม่อยู่ยิ่งเป็นชิ้นเล็กๆแบบนี้ยิ่งอันตรายเลยTurnover ส่วนมาก สูตรเค้าจะให้ใช้แป้งพายชั้นนะคะ ซึ่งลูกสนไม่มีเลยขอใช้พายร่วนแทนค่ะ คิดๆอยู่เหมือนกันว่าจะอร่อยเหมือนพายชั้นมั๊ยแต่ทำออกมาแล้วไม่ผิดหวังค่ะ แป้งพายสูตรนี้คล้ายสูตรที่ลูกสนใช้ทำพายแอปเปิ้ลครัมเบิล อร่อยคล้ายกันเลยค่ะ ลูกสนยกให้เป็นแป้งพายเอนกประสงค์ประจำครัว เพราะปรับรสหวานได้ ทำได้ทั้งพายคาวหวานค่ะถ้าเพื่อนๆชอบก็ลองนำสูตรไปทำดูนะคะส่วนผสมแป้งพาย(สำหรับพิมพ์พายขนาด 9 นิ้ว)สูตรจากหนังสือ The Baker's Dozen Cookbook1. แป้งสาลีเอนกประสงค์ 125 กรัม(1 ถ้วยตวง)2. เนยจืด 113 กรัม(1/2 ถ้วยตวง) หั่นเป็นลูกเต๋าและแช่เย็นจัด3. น้ำตาลทราย 12 กรัม(1 ช้อนโต๊ะ)4. เกลือป่น 1/4 ช้อนชา5. น้ำเย็นจัด 2 ช้อนโต๊ะ+ ถ้าจะทำเป็นแป้งพายสำหรับไส้คาว ให้ลดน้ำตาลเหลือ 1 ช้อนชาค่ะวิธีทำ1. ใส่แป้ง น้ำตาลทราย และเกลือลงในเครื่องปั่นอาหาร แล้วปั่นให้ทุกอย่างเข้ากันดีสูตรนี้ไม่ต้องร่อนแป้งนะคะ ถ้าใครจะตวงก็ตักแป้งจากถุงแล้วปาดเอาได้เลยค่ะ2. เมื่อปั่นแป้งเสร็จแล้ว ให้ใส่เนยแช่เย็นจัดลงไปในโถแป้ง แล้วกดปั่นต่อให้ได้ส่วนผสมที่มีลักษณะเหมือนทรายร่วนๆ จะมีเนยก้อนเล็กๆกระจายทั่วค่ะปั่นเสร็จแล้วค่ะ3. เติมน้ำเย็นจัดลงไปแล้วกดปั่นให้แป้งเกาะกันเป็นก้อน จากนั้นห่อแป้งด้วยพลาสติคแรป แล้วนำเข้าแช่เย็นประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนนำมาใช้ค่ะแป้งรวมเป็นก้อนแล้ว แช่เย็น 1 ชั่วโมงค่ะ ถ้าใครยังไม่รีบใช้ จับแช่ฟรีซไปก่อนก็ได้นะคะพอจะใช้วันไหนค่อยเอาออกมาวางในช่องธรรมดา ให้เค้าหายแข็งค่ะระหว่างที่พักแป้งพาย เรามาเตรียมส่วนผสมไส้แอปเปิ้ลกันนะคะสูตรนี้ลูกสนติดใจมากๆ เคยใช้ทำแอปเปิ้ลสตรูเดลไปครั้งนึงแล้วอร่อยมากค่ะ ขนาดตอนยังไม่ได้อบก็สามารถตักกินได้เรื่อยๆเลยแต่ถ้าใครไม่กินแป้งดิบก็อย่าตักกินนะคะ ฮ่าฮ่า ลูกสนฮาร์ดคอร์ไปหน่อยกินตั้งแต่ยังไม่สุก หุหุหุสูตรนี้ทำไส้ออกมาได้เยอะมากนะคะ ถ้าใครจะทำ Apple Turnovers ก็ให้หารครึ่งจากสูตรนี้ได้เลยค่ะ แต่ถ้าใครอยากทำพายแอปเปิ้ลชิ้นใหญ่ๆทำเต็มสูตรได้ แต่เพิ่มสูตรแป้งพายเป็น 2 เท่า กรุก้นพาย 1 ส่วน แล้วใช้คลุมหน้าพายอีก 1 ส่วนค่ะส่วนผสมไส้แอปเปิ้ลสูตรจาก Southern Living ค่ะ1. แอปเปิ้ลเขียว 3 ลูก(หนักประมาณ 1 พาวด์)2. แครนแบร์รี่แห้ง 45 กรัม(1/3 ถ้วยตวง)3. แป้งสาลีเอนกประสงค์ 25 กรัม(3 ช้อนโต๊ะ)4. น้ำตาลทราย 65 กรัม(1/3 ถ้วยตวง)5. ซินนามัน 1/4 ช้อนชา6. น้ำมะนาวเล็กน้อยวิธีทำไส้แอปเปิ้ลล้างแอปเปิ้ลแล้วผ่าเอาไส้กลางออก ปอกเปลือกให้หมด แล้วหั่นเนื้อแอปเปิ้ลให้เป็นลูกเต๋าเล็กๆ ลูกสนหั่นไม่ค่อยเท่ากันอย่าถือสาค่ะ แหะแหะ ไม่ชอบขั้นตอนนี้ที่สุดเลย เมื่อยแขนจังเนื้อแอปเปิ้ลที่ได้ ใส่รวมกับแครนแบร์รี่ไว้ค่ะ ลูกสนจับแครนแบร์รี่แช่น้ำอุ่นก่อนซักพักนะคะ เพราะแช่เย็นไว้แล้วเค้าแห้งมากพอโดนน้ำอุ่นแป๊ปเดียวก็นุ่มขึ้นค่ะบีบมะนาว ใส่แป้ง น้ำตาลทราย และซินนามันลงไป ผสมให้เข้ากันค่ะแล้วพักส่วนไส้ไว้ก่อน เดี๋ยวจะมาคลึงแป้งกันแล้ว เย้ๆมาถึงตอนนี้ให้ไปอุ่นเตาอบรอไว้เลยค่ะ อุณหภูมิ 200C นะคะเตรียม Egg Wash ซักนิดค่ะ ไว้ทาหน้าขนม อบเสร็จแล้วจะได้มีสีสันตอกไข่ 1 ใบตีให้พอแตก แล้วเติมน้ำเปล่าซัก 1 ช้อนโต๊ะ ผสมให้เข้ากันเท่านี้ก็ได้แล้ว หรือใครอยากจะใช้แต่ไข่แดงก็ไม่ว่ากันค่ะเอาแป้งที่แช่เย็นไว้ออกมานะคะ วางบนพื้นผิวอะไรก็ได้ที่กว้างๆหน่อยลูกสนใช้ Silpat ที่ได้มาจากพี่อรค่ะ ฮิฮิ ขอเรียกว่าแผ่นมหัศจรรย์นวดแล้วไม่ติด ถูกใจมากค่ะ ขอบคุณพี่อรอีกครั้งนะคะคลึงแป้งออกให้เป็นแผ่นบางๆ แล้วเอาพิมพ์กดให้เป็นวงกลมขนาด 4 นิ้วค่ะถ้าใครไม่มีพิมพ์กด ก็ใช้ที่ตัดธรรมดาทำให้เป็นทรงสี่เหลี่ยมก็ได้เช่นกันเวลาพับก็จะเหมือนพายเห็ดที่ S&P ฮิฮิ ระหว่างคลึงแป้งก็โรยแป้งนวลได้นะคะลูกสนโรยลงไปเยอะเหมือนกันค่ะ ถ้ากดแล้วเหลือเศษแป้งก็ให้นำเศษๆมาคลึงใหม่แล้วก็กดใหม่ไปเรื่อยๆลูกสนทำได้ทั้งหมด 15 ชิ้น ทำจนเศษแป้งสุดท้ายจริงๆค่ะ งกดีจังเรา พอได้แป้งครบแล้วให้จับแป้งแช่เย็นก่อนซัก 10 นาที แล้วค่อยนำมาใช้ค่ะแต่ถ้าแป้งของใครยังสามารถหยิบจับได้สบายๆ ก็นำไปใช้ต่อได้เลยค่ะครบ 10 นาทีแล้ว นำแป้งออกมาวางบนถาดอบค่ะ ลูกสนอบได้ทีละ 8 ชิ้นวางไส้ลงไปซัก 2 ช้อนชา หรืออาจจะมากกว่า แต่ถ้ามากไปก็ระวังแป้งขาดตอนพับแป้งนะคะพับแป้งเข้าหากัน เหมือนทำกะหรี่พัฟเลยค่ะ แล้วก็เอาส้อมกดปลายแป้งให้เป็นรอยสวยๆ ตอนทำนี่สงสัยเหมือนกันว่าจะจีบเป็นกะหรี่พัฟได้เปล่าหว่าทาหน้าขนมด้วยไข่ไก่ให้ทั่วค่ะ แล้วโรยน้ำตาลทรายลงไปอีกซักนิดนึงจากนั้นนำเข้าอบเป็นเวลา 10-12 นาที พอเสร็จแล้วก็หยิบกินได้เลยค่ะอบเสร็จแย้วววว ไวจริงๆเลย พักบนตะแกรงก่อนนะคะ ถ้าใครใจร้อนอยากกินหยิบได้เลยค่ะ มาแย่งกันกินเร้วววววอยากให้เพื่อนๆลองทำเมนูนี้กันจังเลยค่ะ หน้าตาน่ารัก รสชาติอร่อยกินชิ้นนึงกำลังดีเลย แต่ถ้าไม่อิ่ม จะกี่ชิ้นก็ว่ากันไปค่ะถ้าใครทำแล้วกินไม่หมดในวันเดียว วันรุ่งขึ้นลองเอาอุ่นในเตาเล็กดูนะคะพายชนิดนี้กินตอนอบเสร็จใหม่ๆจะได้รสชาติดีที่สุดเลยค่ะ ถ้าเย็นลงก็จะอร่อยน้อยลงหน่อยนึง แต่รสชาติก็ยังใช้ได้อยู่ดีค่ะใครเห็นหน้าตาแล้วถูกใจก็ลองทำกันดูนะคะ อร่อยแบบบ้านๆ ฝีมือเราเอง น่าภูมิใจค่ะ ถ้าไม่ชอบไส้แอปเปิ้ล ลองเปลี่ยนเป็นแยมอื่นๆหรือจะทำเป็นไส้ไก่ไส้ทูน่า ก็น่าสนใจเหมือนกันนะคะ วันหลังลูกสนจะลองมั่วดูบ้างขอบคุณที่มาเยี่ยมชมกันนะคะ ขอให้ทุกคนมีความสุขในเทศกาลแห่งความสุขสันต์ค่ะ
คุกกี้ช็อคโกแลตชิพส์ II
เอามาเสริฟกันเป็นถาดค่ะวันนี้คุกกี้ช็อคโกแลตชิพส์มาอีกแล้วค่ะ ฮ่าฮ่า ตามที่ลูกสนเคยบอกในบล็อคคุกกี้ช็อคโกแลตชิพส์อันก่อนว่าครั้งหน้าจะลองทำสูตรที่ไม่ใช้คอร์นซีรัปลูกสนทำให้ตามสัญญาแล้วนะคะ สูตรนี้ง่ายและอร่อยมาก ก่อนหน้านี้เคยทำกับน้องสาวครั้งนึง ก็ประทับใจกันไป ครั้งนี้ลูกสนปรับสูตรนิดนึงได้คุกกี้เนื้อชูว์อี้ หอมมัน เข้มข้น ตามคำชมของพ่อค่ะสูตรนี้คล้ายกับสูตรเดิมตรงที่ใส่ข้าวโอ๊ตป่นลงไปผสมกับแป้งด้วยค่ะและยังมีการละลายเบคกิ้งโซดาเข้ากับน้ำร้อนก่อนผสมลงไปอีกลูกสนก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพื่ออะไร ฮ่าฮ่า แต่สูตรเค้าดีก็เลยทำตามเพื่อนๆคนไหนรู้ช่วยบอกกันบ้างนะคะ แลกเปลี่ยนความรู้กันคนอื่นจะได้ทราบด้วยค่ะต้นฉบับสูตรนี้หวานมากเลยนะคะ ตอนลูกสนอ่านสูตรครั้งแรกนี่คิดอยู่ในใจเลยว่าหวานแสบไปถึงกระเพาะแหงๆ ทำครั้งนี้ลูกสนลดน้ำตาลลงไปเยอะแล้ว ก็ยังหวานไปอยู่นิดนึงค่ะ ในสูตรที่พิมพ์ให้ลูกสนปรับลดน้ำตาลลงจากที่ลูกสนทำแล้วนะคะ ถ้าใครจะลดอีกให้ลดได้มากสุด 20 กรัมค่ะ เกรงว่ามากกว่านี้คุกกี้จะจืดไปหน่อยเว้นซะแต่ว่าไม่ชอบรสหวานจริงๆ จะลดยังไงก็ตามชอบเลยค่ะส่วนผสม(สำหรับคุกกี้ขนาด 3 นิ้ว 36 ชิ้น)ปรับสูตรจาก Allrecipes.com ค่ะ1. แป้งสาลีเอนกประสงค์ 250 กรัม(2 ถ้วยตวง)2. ข้าวโอ๊ต 125 กรัม(1 1/2 ถ้วยตวง)3. เนยจืด 227 กรัม(1 ถ้วยตวง)4. น้ำตาลทรายแดง 180 กรัม(3/4 ถ้วยตวง + 2 ช้อนโต๊ะ)5. น้ำตาลทรายขาว 60 กรัม(1/4 ถ้วยตวง + 1 ช้อนโต๊ะ)6. ไข่ไก่เบอร์สอง 2 ฟอง8. น้ำร้อน 2 ช้อนชา9. เบคกิ้งโซดา 1 ช้อนชา10. เกลือป่น 1/2 ช้อนชา11. ครีมออฟทาร์ทาร์ 1/2 ช้อนชา12. กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา13. ช็อคโกแลตชิพส์เซมิสวีท 340 กรัม(2 ถ้วยตวง)ให้ดูข้าวโอ๊ตที่ใช้ค่ะ พอดีกระปุกเก่าที่เป็นแบบ quick oats หมดเปิดมาแล้วต๊กกะใจ ทำไมหมดไวจังเลย ต้องออกไปซื้อมาใหม่ได้แบบ roll oats มาค่ะ เมล็ดใหญ่ดีจัง เตรียมถาดอบโดยรองกระดาษไขเอาไว้ ไม่ต้องทาเนยค่ะอุณหภูมิที่ใช้ในการอบคือ 350F(175C) อุ่นเตารอไว้ตั้งแต่เริ่มทำได้เลยค่ะวิธีทำ1. คั่วข้าวโอ๊ตในกะทะจนมีกลิ่นหอม ประมาณ 5 นาทีค่ะระหว่างคั่วใช้ไฟกลางค่อนไปทางอ่อน คอยกระดกกะทะด้วยนะคะ ลูกสนกระดกกะทะแล้วข้าวโอ๊ตไม่หกเลอะเทอะด้วยนะ ฮิฮิสนุกดีค่ะ พอคั่วเสร็จแล้ววางทิ้งไว้ให้เค้าหายร้อนก่อนค่ะ2. ปั่นข้าวโอ๊ตให้ละเอียดจนคล้ายแป้ง ไม่รู้ว่าใครปั่นจนเหมือนแป้งได้บ้างแต่ลูกสนทำไม่ได้ค่ะ คือจะยังมีเม็ดเล็กๆอยู่ประปราย ในรูปนี่ละเอียดสุดๆเท่าที่จะปั่นได้แล้วล่ะ ฮ่าฮ่า เคยอ่านในหนังสือของ Carole Walter เธอบอกให้แบ่งน้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะลงไปปั่นกับข้าวโอ๊ตด้วยวันนี้ลูกสนก็ลืมอีกแล้ว ฮ้วยยยย ปลาทองจังเราพอข้าวโอ๊ตละเอียดแล้ว เติมแป้ง เกลือ และครีมออฟทาร์ทาร์ลงไปค่ะปั่นต่อไปเลยให้ทั้งหมดเข้ากันดี สูตรนี้ไม่ต้องร่อนแป้งนะคะอาศัยปั่นโลด โฮ่ๆ ลูกสนชอบใจเลย ทำสะดวกดี พอปั่นเสร็จแล้วพักส่วนผสมตรงนี้ไว้ก่อนค่ะ3. ใส่เนยกับน้ำตาลทรายทั้งสองชนิดลงในชามผสมใบใหญ่ๆแล้วตีให้เนียนเข้ากันดี เริ่มจากความเร็วต่ำ แล้วค่อยเป็นความเร็วกลางค่ะไม่งั้นน้ำตาลกระจุยกระจายหมดนะคะปั่นเสร็จแล้วค่ะ ทำแล้วตุ้มๆต่อมๆ มิกเซอร์ร้องวี๊ดๆตลอด เฮ้อออวันก่อนตัวสแตนเพิ่งหัวหักไปเอง ถ้ามิกเซอร์มาเจ๊งอีกนี่ แว๊กๆเลยสงสัยได้เวลาของตัวใหม่แล้วจริงๆใส่ไข่ตามลงไปทีละฟองพร้อมกับวานิลลาคู่หูเค้าค่ะตีให้เข้ากันแล้วก็เติมอีกฟองลงไป ส่วนผสมจะนุ่มขึ้น ตีง่ายค่ะเสร็จละ4. ละลายเบคกิ้งโซดาในน้ำร้อนแล้วเทลงไปในชามค่ะ ตีให้พอเข้ากันแล้วค่อยเติมแป้งตามลงไปผสมด้วยความเร็วต่ำ ตามด้วยช็อคชิพส์แล้วก็เตรียมอบได้เลยค่ะในรูปนี่ละลายแล้วนะคะ แต่เบคกิ้งโซดาชอบตกตะกอนอยู่เรื่อยเลยใส่แป้งลงไป ลูกสนแบ่งใส่ทีละ 1/2 ค่ะ กลัวแป้งฟุ้ง เดี๋ยวหน้าขาวผมขาว ฮิฮิผสมแป้งเสร็จแล้วค่ะ เอาแค่พอเข้ากันนะคะ ไม่ต้องเนียนเหมือนเค้กเทช็อคชิพส์ลงไป ตรงนี้มีเคล็ดลับนิดนึง ไม่แน่ใจว่าเคยอ่านมาจากที่ไหนเค้าบอกว่าถ้าคุณเป็นคนประเภทที่ทำคุกกี้ทีไร ชิ้นสุดท้ายจะไม่ค่อยเหลือชิพส์ให้แบ่งชิพส์ไว้ก่อนซัก 1/3 หรือ 1/4 ส่วนค่ะ พออบไปได้ซักค่อนทางก็ค่อยเติมชิพส์ที่แบ่งไว้ลงไป คุณจะได้มีคุกกี้ที่เต็มไปด้วยชิพส์เท่ากันทุกๆชิ้นค่ะผสมเสร็จแล้ว ลูกสนใช้มิกเซอร์ผสมด้วยความเร็วต่ำนะคะแต่ถ้าใครถนัดใช้ช้อนไม้ตะล่อมก็ทำได้ตามสะดวกค่ะ5. หยอดคุกกี้ให้มีขนาดประมาณ 1 นิ้ว วางห่างกันชิ้นละ 2 นิ้วค่ะแล้วนำเข้าเตาอบเป็นเวลา 10 นาที ไม่ขาดไม่เกินค่ะ ฮิฮิคุกกี้สูตรนี้ใส่เนยค่อนข้างมากนะคะ เพราะฉะนั้นเค้าจะขยายตัวเยอะโดว์ที่ยังไม่ได้หยอดให้เอาแช่ตู้เย็นไว้ค่ะ เพราะทิ้งไว้ข้างนอกเดี๋ยวจะเหลวไปซะก่อนอบเสร็จคุกกี้จะนุ่มมากอยู่นะคะ ให้เอาตะหลิวหรืออะไรก็ตามที่ใหญ่ๆแซะออกมาวางพักบนตะแกรงจนเย็นสนิทค่ะ แล้วคุกกี้จะเนื้อเฟิร์มขึ้นเองกินแล้วหนุบหนับ หนึบๆ เคี้ยวมันส์ค่ะเอารูปมาให้ชิมกัน ฮิฮิ ถ่ายไม่ค่อยงามนัก แต่อยากแบ่งปันค่ะสูตรนี้เนื้อหนึบกว่าสูตรเดิมที่ลงให้ รสชาติไม่ต่างกันเท่าไหร่ แต่เนื้อคุกกี้ให้สูตรนี้ชนะค่ะลูกสนชอบหน้าตาคุกกี้ที่อบได้ในครั้งนี้มากเลยค่ะเห็นแล้วนึกถึงคุกกี้ที่ขายที่อเมริกาเลย ชอบซื้อกินค่ะชิ้นใหญ่ๆ ไม่หนาเท่าไหร่ แม่บ้านคนไหนอยู่อเมริกาซื้อคุกกี้ช็อคชิพส์ของสตาร์บัคส์มากินเผื่อลูกสนบ้างนะคะลูกสนกินแล้วถูกปากค่ะ แป้งคุกกี้ไม่หวานเลย แต่ช็อคโกแลตเยอะเสริมความหวานให้คุกกี้ได้ดี ชิ้นใหญ่เท่าฝ่ามือ แทะได้นานเลยค่ะ พูดถึงคุกกี้ที่นู่นก็นึกได้อีกเจ้านึง ของ Subway ค่ะคุกกี้เจ้านี้ก็อร่อยมากเหมือนกัน ติดใจไวท์ช็อคแมคคาเดเมียช็อคชิพส์ก็อร่อย โอ๊ยยย คิดถึงไปหมดค่ะ อยู่ที่โน่นลูกสนเป็นเจ้าแม่คุกกี้Chip Ahoy นี่เสร็จลูกสนหมดทุกรส ประมาณ 7 รสได้มั้ง ฮ่ะฮ่ะกินจนเป็นอึ่งอ่าง กลับมาพ่อตกใจ แต่ทำเป็นไม่ตกใจ สงสัยกลัวลูกสาวเสียเซล์ฟ เอิ๊กๆ เสียไปนานแล้วฮ่ะท่านพ่อยังมีอีกร้านค่ะ ของ Nestle Toll House ตอนนั้นไป LAแล้วเค้าตั้งร้านขายคุกกี้อบสดๆอยู่ตรง Kodak Theaterลูกสนเห็นแล้วก็วิ่งใส่เลยค่ะ ได้ยินชื่อเสียงมานานแล้วว่าอร่อยไปถึงถามราคา ชิ้นเล็กขาย 6 ชิ้น 3 เหรียญ แพงเหมือนกันนะนี่ลูกสนก็ถามคนขายไปว่าขอซื้อ 3 ชิ้น 1.5 เหรียญได้เปล่าเค้าก็ยิ้มๆบอกว่า ขายต่ำสุด 6 ชิ้น ลูกสนก็เลยโอเคๆ เอามานั่นล่ะพอออกมานอกร้านก็หม่ำทันที ปรากฎว่าไม่ถูกปากเลยค่ะรสชาติมันยังไงไม่รู้สิ ขาดๆเกินๆอะไรซักอย่างนี่ล่ะ บอกไม่ถูกกินไปได้ 2 ชิ้นก็บ้ายบายค่ะ เสียดายเหมือนกันนะ แต่ไม่ชอบเลยค่ะลิ้นของลูกสนไม่ถึงรึเปล่าคะนี่ เห็นฝรั่งเค้าชอบกันจังเลยเรื่องแบบนี้คงแล้วแต่ความชอบเนอะกลายเป็นบล็อคเล่าประสบการณ์คุกกี้ของลูกสนไปซะแล้วนะคะ ฮ่าฮ่าแต่ก็เข้ากันน้อ เพราะลูกสนก็ทำคุกกี้มาฝากเพื่อนๆนี่หน่ายังไงถ้าชอบคุกกี้ช็อคชิพส์ อย่าลืมลองทำสูตรนี้กันดูนะคะอร่อยจริงๆค่ะ ยกให้เป็นคุกกี้ช็อคชิพส์ที่อร่อยที่สุดเท่าที่เคยทำมาและอร่อยไม่แพ้แบบที่ได้กินที่อเมริกาเลยค่ะหวังว่าเพื่อนๆคงมีความสุขกับการอ่านบล็อคลูกสนนะคะ