Culinary Delights by Loogsoan
Group Blog
 
All Blogs
 

แครนแบร์รี่ครีมสโกน

ไม่ได้อัพบล็อคนานมาก ลูกสนเองก็จำไม่ได้ว่าหายตัวไปนานแค่ไหน
ตั้งแต่ทำงานแล้วแทบจะไม่ได้เห็นแสงตะวันตอนเดินกลับบ้านเลยค่ะ
ออกมาจากธนาคารก็ทุ่มกว่า สองทุ่ม จนล่าสุดสามทุ่มกว่า โอยยย
สุดๆแล้วค่ะ นั่งๆทำงานไปก็นึกว่านี่ชั้นเป็นพนักงานธนาคารหรือว่า
พนักงาน Hell's Factory กันแน่นะ แผนกอื่นกลับบ้านกันไปหมดแล้ว
เหลืออยู่แผนกเดียวต้องนั่งจมอยู่กับกองเอกสาร เศร้าจริงๆ

ช่วงที่ไม่ได้อัพบล็อคนี่ลูกสนปิดบล็อคไปเพราะไม่ได้ดูแลบล็อคเลย
ได้เข้าบล็อคตัวเองเดือนละนับนิ้วได้เลยค่ะ เพราะเน็ตก็ไม่ค่อยได้ใช้
วันธรรมดาจะให้น้องสาวใช้ซะมากกว่า วันหยุดถึงจะฉกมาใช้ได้บ้าง
เข้าบล็อคตัวเองแล้วก็ตกใจว่า chatbox มันหายไปไหนหว่า ??
จะแก้ยังไงก็ยังไม่รู้เลย ยังอยากเก็บไว้ดูอยู่ค่ะ ทิ้งไปก็เสียดาย
ใครทราบวิธีแก้ไขถ้าบอกกันได้ลูกสนจะขอบคุณมากๆเลยค่ะ

มาเข้าเรื่องทำขนมกันดีกว่านะคะ เมื่อวานไปเดินงาน ThaiFex มา
ของขายละลานตาไปหมด เหล่าแม่บ้านทั้งหลายไม่ควรพลาดเลยค่ะ
งานจัดดีนะคะ สถานที่ใหญ่โต เสียดายอย่างเดียวว่าที่จอดรถน้อยไป
แฟนวนหาที่จอดอยู่เกือบชั่วโมง นั่งอยู่ในรถจนรากงอกเลยค่ะ
พอได้ที่จอดแล้วสุดแสนจะขอบพระคุณรถคันที่ขับออกไป ฮิฮิ
ไม่งั้นคงได้ไปจอดในเมืองทองแล้วนั่งแท็กซี่มาแน่ๆ

ยังไม่เข้าเรื่องซักทีเนอะ ตอนนี้จะเข้าจริงๆจังๆแล้วค่ะ แหะแหะ
คือเมื่อวานไปได้แครนแบร์รี่แห้งจากงานมา ครึ่งกิโล 220 บาท
ลูกสนว่าถูกนะคะ เพราะเห็นตามห้างขายกันโลละ 800 บาทแล้ว
รีบหยิบมาถุงนึง ว่าจะทำคุกกี้ข้าวโอตเครซิน แต่วันนี้อยากกินสโกน
เลยจัดการซะเลย ทำแป๊ปเดียวเองค่ะ สโกนใส่แครนแบร์รี่แล้ว
เพิ่มกลิ่นหอมหวานและรสชาติได้ดีเลยนะคะ ใครชอบลองดูค่ะ
รับรองว่าสูตรนี้ทำง่ายและรสชาติดีจริงๆ

เอารูปไปดูซะหน่อยนะ

Photobucket


ดูอีกซักรูป ให้สมกับที่โม้นอกเรื่องมานาน ฮ่าฮ่า หน้าตาไม่ค่อยอัพพีล
แต่รสชาติสวนทางกับหน้าตานะคะ เนื้อขนมด้านนอกจะกรอบร่วน
แต่ด้านในนุ่มชุ่ม ชิ้นเล็กๆแบบที่ลูกสนทำกัดแป๊ปเดียวก็หมดค่ะ
ใครจะเอากี่ชิ้นก็หยิบเลย

Photobucket


ใครเห็นหน้าตาแล้วถูกใจ มาจดสูตรกันเลยนะคะ


ส่วนผสม(สำหรับสโกนขนาด 1 1/2 นิ้ว 16 ชิ้น)

1. แป้งสาลีเอนกประสงค์ 200 กรัม(1 3/4 ถ้วยตวง)
2. แป้งเค้ก 50 กรัม(1/2 ถ้วยตวง)
3. เนยจืด 85 กรัม(6 ช้อนโต๊ะ) หั่นเป็นลูกเต๋าและแช่ให้เย็นจัด
4. วิปปิ้งครีม 140 มิลลิลิตร(1/2 ถ้วยตวง + 1 ช้อนโต๊ะ)
5. น้ำตาลทราย 30 กรัม(2 1/2 ช้อนโต๊ะ)
6. ไข่ไก่เบอร์สอง 1 ฟอง
7. กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
8. ผิวส้มขูดละเอียด 1/2 ช้อนโต๊ะ
9. ผงฟู 1 ช้อนโต๊ะ
10. เบคกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชา
11. เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
12. แครนแบร์รี่อบแห้ง 50 กรัม(1/2 ถ้วยตวง)
13. วิปปิ้งครีมและน้ำตาลทราย สำหรับทาและโรยขนมก่อนอบ

+ เนยจืดแช่ในช่องแข็งให้เย็นจัดๆเลยจะทำให้เวลาทำขนมง่ายขึ้น
+ แครนแบร์รี่ของใครถ้าแห้งแข็งเกินไปสามารถแก้ได้โดยนำไปแช่
ในน้ำอุ่นประมาณ 2-3 นาที แล้วค่อยบีบน้ำออกให้หมดค่ะ หรือถ้าให้ดี
ลองแช่ในน้ำส้มดูนะคะ รสของแครนแบร์รี่กับน้ำส้มเข้ากันได้ดีมากค่ะ
+ ถ้าไม่มีวิปปิ้งครีม ลองแทนด้วยนมสดหรือบัทเทอร์มิลค์ก็ได้เช่นกันค่ะ

ส่วนผสมเหมือนจะเยอะนะคะ แต่พอหยิบจับจริงๆแล้วไม่เยอะเลยค่ะ
ในรูปนี้ลูกสนผสมแป้งทั้งสองอย่างรวมกันแล้วนะคะ ผิวส้มขูดได้มาจาก
พี่เจย์ด้า ขอบคุณมากเลยนะคะพี่ สะดวกดีแล้วก็หอมมากด้วย

Photobucket


เตรียมถาดอบโดยรองด้วยกระดาษพาร์ชเมนท์หรือแผ่นซิลิโคน
ไม่ต้องทาไขมันใดๆทั้งสิ้นนะคะ

เตาอบให้อุ่นไว้ที่อุณหภูมิ 400F(200C) ทั้งไฟบนไฟล่าง
อุณหภูมิสูงๆแบบนี้ อุ่นไว้ตั้งแต่เริ่มเตรียมส่วนผสมได้เลยค่ะ


วิธีทำ

1. นำแป้งทั้งสองชนิดผสมรวมกับผงฟู เบคกิ้งโซดาและเกลือป่น
และในอีกชามนึง ให้ผสมวิปปิ้งครีม ไข่ไก่ และกลิ่นวานิลลาให้เข้ากัน


นี่คือส่วนผสมเหลวนะคะ ผสมเสร็จนำแช่ตู้เย็นไว้ก่อนก็ได้ค่ะ
การทำสโกนถ้าให้ดีส่วนผสมทุกอย่างควรจะเย็นจัด แป้งจะได้ขึ้นรูปง่าย

Photobucket


2. นำส่วนผสมแป้งเทใส่ลงในเครื่องผสมอาหาร ใส่น้ำตาลทรายและ
ผิวส้มลงไป จากนั้นปั่นให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน แล้วเติมเนยเย็นๆลงไป
ปั่นอีกครั้งให้เนยถูกแป้งเคลือบทั้งหมด ส่วนผสมจะเป็นครัมพ์ค่ะ

ขั้นตอนนี้ถ้าใครไมมีเครื่องผสมอาหาร สามารถผสมส่วนแป้งกับน้ำตาล
และผิวส้มลงในชามใหญ่ๆได้ แล้วค่อยใส่เนยลงไป ใช้มีด 2 ด้ามตัดไขว้กัน
จนกว่าส่วนผสมจะเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยค่ะ ก่อนจะตัดให้นำมีดไปแช่ตู้เย็นไว้
จะทำให้เวลาตัดแล้วเนยไม่เหลวง่ายค่ะ


นี่คือรูปขั้นตอนการทำค่ะ จริงๆแล้วผิวส้มจะเอาไปใส่รวมกับส่วนของเหลว
ก็ไม่ผิดนะคะ แล้วแต่สะดวกค่ะ

Photobucket


3. เทส่วนผสมเหลวที่แช่เย็นไว้ลงไป ปั่นให้แป้งจับตัวเป็นโดว์ที่เกาะกัน
โดว์ที่เราต้องการจะเกาะกันหลวมๆค่ะ แล้วก็ใส่แครนแบร์รี่แห้งลงไป
ปั่นให้แครนแบร์รี่กระจายทั่วๆกันแล้วก็พอค่ะ ตอนใส่แครนแบร์รี่ลงไป
จะปั่นยากนิดนึง ต้องอาศัยไม้พายกวาดในโถเอาด้วยนะคะ จะได้ปั่นทั่วๆ

สำหรับคนที่ไม่มีเครื่อง ให้เทส่วนผสมเหลวและแครนแบร์รี่ใส่ชามแป้ง
แล้วใช้ช้อนไม้พายคนให้แป้งจับตัวกันเป็นก้อนหลวมๆค่ะ เดี๋ยวเรา
จะเอาโดว์ออกมานวดกันนะคะ

Photobucket


4. นำโดว์ออกมาวางบนแผ่นซิลิโคนหรือเขียงไม้ใหญ่ๆค่ะ แล้วนวดเบาๆ
ประมาณ 30 วินาทีให้เค้าจับตัวกันเป็นก้อนใหญ่ๆ จากนั้นคลึงแป้ง
ให้มีความหนาประมาณ 3/4 นิ้ว เอาพลาสติคห่อแป้งแล้วแช่ตู้เย็น
ประมาณ 15 นาทีเพื่อให้แป้งอยู่ตัวค่ะ แต่ถ้าใครอยู่เมืองหนาวก็ไม่ต้องแช่
ไปอ่านข้อ 5 ได้เลยนะคะ

Photobucket


5. นำแป้งที่แช่เย็นแล้วออกมากดให้เป็นชิ้นๆ วันนี้ลูกสนใช้คัทเทอร์กลม
ขนาด 1 1/4 นิ้วค่ะ เอาคัทเทอร์จุ่มแป้งสาลีเอนกประสงค์ก่อน แล้วกดลง
ไปบนก้อนแป้งของเรา กดจดหมดเลยค่ะ เศษแป้งที่เหลือก็เอามารวมกัน
นวดเบาๆให้เป็นก้อน แล้วก็กดอีกจนกว่าจะหมด ลูกสนทำได้ 20 ชิ้นค่ะ

พอเรียบร้อยแล้วให้วางแป้งลงบนถาดอบที่เตรียมไว้ จากนั้นทาหน้าขนม
ด้วยวิปปิ้งครีมแล้วโรยด้วยน้ำตาลให้ทั่ว นำเข้าเตาอบเป็นเวลา 13-15 นาที
พอเสร็จแล้วก็รับประทานได้เลยค่ะ อบเสร็จใหม่ๆจะอร่อยที่สุดแล้ว

Photobucket


สำหรับใครที่กลัวว่าจะกินไม่หมด ให้นำก้อนแป้งที่ตัดเป็นชิ้นกลมๆแล้ว
ใส่ถุงเข้าแช่ช่องแข็งได้นะคะ พอจะอบค่อยนำออกมาวางพักในช่องธรรมดา
ให้แป้งคลายตัว พอเค้าหายแข็งก็อบได้ แค่นี้ก็ได้กินสโกนร้อนๆแล้วค่ะ


วันนี้ลูกสนกินแบบไม่ทาอะไรเลยค่ะ อยากได้รสขนมแบบเพียวๆ
ถ้าใครชอบครีมก็เอามารับประทานด้วยก็จะยิ่งอร่อยเข้าไปใหญ่เลยค่ะ
จริงๆแล้วลูกสนชอบทาครีมชีสมากกว่าวิปครีม แต่ที่บ้านไม่มีครีมชีส
เลยกินเปล่าๆนี่ล่ะ

Photobucket


ตัดขนมให้ดู ข้างนอกกรอบ ข้างในนุ่มค่ะ เวลากัดต้องเอามือรองไว้
เดี๋ยวเศษขนมหล่นเลอะเทอะค่ะ

Photobucket


รูปสุดท้าย กินกันให้เต็มตาเลยค่ะ อิ่มแต่ตา ถ้าใครท้องร้องจ๊อกๆ
ก็ต้องไปหาของกินมาเติมพุงกันเองนะคะ ฮิฮิ

Photobucket


หวังว่าขนมร้อนๆชิ้นนี้ คงทำให้คุณอบอุ่นในวันที่ฝนตกแบบนี้นะคะ
สวัสดีและขอบคุณผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมทุกท่านค่ะ


ก่อนจะไปจริงๆ ขอฝากข้อความถึงหลายๆคนที่ส่งหลังไมค์มาหา
ช่วงที่ลูกสนปิดบล็อคนะคะ ตอนนี้ลูกสนเปิดบล็อคให้เข้าชมแล้ว
ขอค่าตอบแทนเป็นคอมเม้นท์ได้มั้ยคะ ลูกสนอ่านหลังไมค์แล้ว
หลายคนมากที่บอกว่าแอบเข้ามาเอาสูตรไปทำแล้วถูกอกถูกใจ
ขอเข้าไปดูบล็อคหน่อยได้มั้ย อ่านแล้วเสียใจจังเลยค่ะ ทำไมนะ
ชอบบล็อคเราก็ไม่เคยบอกไม่เคยแสดงตัวให้รู้เลย แต่พอเราปิดบล็อค
หลังไมค์มากันเต็มไปหมด บางคนก็บอกว่าผิดหวังที่เราปิดบล็อคไป
ทั้งๆที่คุณเข้ามาดูประจำแต่ยังไม่เคยให้กำลังใจลูกสนซักครั้งเลย
พอผิดหวังค่อยมาบอกอย่างนั้นเหรอคะ อ่านแล้วซาบซึ้งใจเลยค่ะ
ไม่รู้จะพูดยังไงดี ทุกๆหลังไมค์ลูกสนอ่านแล้วยังไม่ได้ลบทิ้งเลย
บางคนก็บอกว่าอ่านประจำแต่ไม่กล้าคอมเม้นท์ ลูกสนบอกได้เลยค่ะ
ว่าทุกคอมเม้นท์ทำให้ลูกสนแฮปปี้มาก แล้วลูกสนก็ไม่ใช่นางมารเฝ้าบล็อค
ไม่ต้องกลัวว่าคอมเม้นท์แล้วจะโดนลูกสนจิกกัดนะคะ ไม่กัดค่ะ รับประกัน
มีแต่จะปลื้มใจกับกำลังใจที่คุณๆให้มาค่ะ


พูดแบบนี้แล้วไม่รู้จะมีคนคิดว่าลูกสนสำคัญตัวผิดรึเปล่านะ
แต่อย่างน้อยการทำบล็อคก็ต้องใช้เวลาและทำด้วยใจจริงๆค่ะ
ทั้งถ่ายรูป ย่อรูป พิมพ์สูตร ได้ออกมาเป็นบล็อคๆนึงใช้เวลาไม่ต่ำกว่า
3 ชั่วโมง ขนมบางอย่างใช้เวลาทำ 4-5 ชั่วโมงก็มี ตอนทำก็เหนื่อย
แต่มีความตั้งใจตั้งแต่แรกที่จะเอาสูตรมาลงให้เพื่อนๆดู ก็ขอเวลาเพื่อนๆ
แค่คนละไม่เกิน 1 นาที พออ่านบล็อคเสร็จแล้วช่วยทิ้งข้อความไว้ให้
คนทำได้ดีใจด้วยนะคะ


ขอบคุณจากใจจริงที่รับฟังค่ะ




 

Create Date : 17 พฤษภาคม 2552    
Last Update : 17 พฤษภาคม 2552 23:43:23 น.
Counter : 73089 Pageviews.  

เลดี้ฟิงเกอร์ส

มาลองทำเลดี้ฟิงเกอร์สกันบ้างนะคะ ทำง่ายมากค่ะ
วิธีทำคล้ายสปองจ์เค้ก เนื้อขนมที่ได้ก็คล้ายกันด้วยค่ะ
วันนี้ลูกสนอบให้แห้งๆ ได้เป็นคุกกี้กรุบกรอบ เนื้อเบา
ชิมแล้วอร่อยจริงๆค่ะ คนอื่นกินแล้วก็ชมเหมือนกันนะคะ

Photobucket


พูดถึงเลดี้ฟิงเกอร์สแล้วคงจะไม่นึกถึงทีรามิสุไม่ได้นะคะ
สองอย่างนี้เค้าเกิดมาคู่กัน คุณสมบัติของเลดี้ฟิงเกอร์ส
เหมาะกับการทำทีรามิสุมาก เนื่องจากมีรูพรุน ซึมกาแฟได้ดี
และแบบที่อบจนแห้งนั้น เมื่อซึมกาแฟแล้วจะไม่นุ่มเกินไป
ทำให้เลดี้ฟิงเกอร์สเป็นตัวเลือกยอดนิยมของขนมสุดอร่อยค่ะ

Photobucket


มาดูส่วนผสมและวิธีทำกันเลยนะคะ ใครจะทำกรอบทำนุ่ม
ได้ทั้งนั้นค่ะ ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิและเวลาที่ใช้ในการอบ
ถ้าพร้อมแล้วมาเริ่มทำกันเลยนะคะ


ส่วนผสม(สำหรับ 50-60 ชิ้น)
สูตรจากหนังสือ Great Cookies, Carole Walter

1. ไข่ไก่เบอร์หนึ่ง 4 ฟอง แยกขาว-แดง
2. น้ำตาลทราย 100 กรัม(1/2 ถ้วยตวง)
3. แป้งสาลีเอนกประสงค์ร่อนแล้วตวง 70 กรัม(2/3 ถ้วยตวง)
4. เกลือป่น 1/8 ช้อนชา
5. ครีมออฟทาร์ทาร์ 1/8 ช้อนชา
6. กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
7. น้ำตาลไอซิ่ง สำหรับโรยขนมก่อนอบ

ในรูปไม่มีไอซิ่งนะคะ ลืมเอามาวางอีกแล้วค่ะ แหะแหะ

Photobucket


เตรียมถาดอบโดยรองด้วยแผ่นซิลิโคนหรือกระดาษ non-stick

อุณหภูมิที่ใช้ในการอบคือ 350F(175C) สำหรับแบบนุ่ม
หรือ 375F(190C) สำหรับแบบกรอบ อบไฟบนล่าง
อุ่นเตาไว้ก่อนอบด้วยนะคะ


วิธีทำ

1. ใส่ไข่แดงลงในชามผสมใบใหญ่ ตีด้วยความเร็วปานกลาง
จนกระทั่งไข่แดงสีอ่อนลง จากนั้นใส่น้ำตาลลงในไข่แดง
ไม่ต้องใส่หมดนะคะ ให้เก็บไว้ 2 ช้อนโต๊ะเพื่อตีกับไข่ขาวด้วย
จากนั้นตีให้ไข่แดงกับน้ำตาลเข้ากันค่ะ สีไข่จะจางลงอีก
ปริมาตรไข่จะมากขึ้น และส่วนผสมจะข้นขึ้นค่ะ พอได้แล้ว
ให้หยุดเครื่องตี ใส่วานิลลาลงไป แล้วใช้พายยางคนให้เข้ากันค่ะ


รูปนี้คือไข่แดงที่ถูกตีจนสีอ่อนลงค่ะ

Photobucket


แบ่งน้ำตาลใส่ลงไป อย่าลืมเหลือเก็บไว้ 2 ช้อนโต๊ะด้วยนะคะ

Photobucket


ตีต่อค่ะ ไข่จะฟูขึ้นและสีจางลง

Photobucket


ไข่ที่ตีเสร็จแล้วจะข้นค่ะ ถ้ายกหัวตีแล้วไข่จะย้อยลงมาเป็นสาย

Photobucket


ใส่วานิลลา

Photobucket


ตะล่อมให้เข้ากัน ได้เป็นส่วนผสมเนียนๆแบบนี้ค่ะ

Photobucket


2. ใส่แป้งลงในส่วนผสมไข่แดง แล้วใช้พายยางตะล่อมให้พอเข้ากันค่ะ


รูปนี้ระหว่างตะล่อมค่ะ ส่วนผสมจะเหนียวหน่อยนะคะ ดูไม่งาม ฮ่าฮ่า

Photobucket


ตะล่อมเสร็จแล้วค่ะ ให้ไม่เหลือแป้งเป็นเม็ดๆก็พอค่ะ

Photobucket


3. ตีไข่ขาวในชามอีกใบจนกระทั่งเป็นฟองหยาบ จากนั้นเติมเกลือ
และครีมออฟทาร์ทาร์ลงไป ตีต่อจนกระทั่งฟองละเอียดขึ้น
เติมน้ำตาลทรายที่แบ่งไว้ลงไป และตีจนได้ไข่ขาวที่ตั้งยอดแข็ง


รูปไข่ขาวนี่ลูกสนถ่ายรูปไม่ละเอียดนะคะ รูปแรกคือฟองหยาบค่ะ
รูปที่สองเติมน้ำตาล อีกสองรูปถัดไปเป็นการตีหลังจากเติมน้ำตาลค่ะ

Photobucket


ตีจนตั้งยอดแข็งแบบนี้ค่ะ

Photobucket


4. ตะล่อมไข่ขาวเข้ากับส่วนไข่แดง โดยแบ่งตะล่อมทีละ 1/4 ส่วน
เมื่อตะล่อมจนพอเข้ากันแล้วให้เติมไข่ขาวที่เหลือลงไปเรื่อยๆ
จนกระทั่งไข่ขาวหมด


แบ่งไข่ขาวลงไปตะล่อม ค่อยๆทำนะคะ เบามือค่ะ
ส่วนผสมไข่แดงจะข้นมากอยู่เหมือนกัน ตะล่อมยากหน่อย
แต่พอใส่ไข่ขาวลงไปเรื่อยๆก็จะง่ายขึ้นค่ะ

Photobucket


รูปนี้ตอนตะล่อมจะเสร็จแล้วค่ะ ส่วนผสมข้นๆ
ย้อยลงมาเหมือนเวลาทำสปองจ์เลยค่ะ...แต่เอ๊ะ
ที่ทำอยู่นี่ก็สปองจ์นี่เนอะ

Photobucket


รูปนี้เรียบร้อยค่ะ เดี๋ยวเตรียมอบได้เลย

Photobucket


5. นำส่วนผสมที่ได้ใส่ถุงที่มีหัวบีบกลมขนาด 1/2 นิ้ว
จากนั้นบีบให้เป็นเส้นยาวขนาด 3 นิ้ว วางเรียงห่างกันชิ้นละ 2 นิ้ว
เมื่อบีบจนหมดแล้วให้โรยน้ำตาลไอซิ่งจนทั่วผิวหน้าขนม
จากนั้นนำเข้าเตาอบเป็นเวลา 8-10 นาที(สำหรับแบบนุ่ม)
หรือ 15 นาที(สำหรับแบบกรอบ)


ลูกสนใช้ถุงแกงตัดปลายเอานะคะวันนี้ บีบทีละถาดค่ะ
ในหนังสือบอกว่าถ้าบีบเอนๆจะได้ปริมาณต่อถาดมากกว่า
บีบแบบตั้งฉาก ลูกสนก็เลยทำตามที่เค้าว่าไปค่ะ ฮิฮิ
ตอนบีบนี่ส่วนผสมจะไหลลงมาเร็วนะคะ ต้องบีบไวๆ
ไม่งั้นเลอะเทอะค่ะ

Photobucket


โรยไอซิ่งลงไปบางๆซัก 2 รอบค่ะ

Photobucket


พร้อมจะผจญเพลิงแล้ว เย้ๆ

Photobucket


รูปนี้ตอนนำเข้าอบค่ะ ลูกสนอบใช้อุณหภูมิ 350F(175C) ค่ะ
อบ 15 นาที ตอนอบคุกกี้เค้าจะพองขึ้น แต่อบเสร็จจะยุบค่ะ

Photobucket


อบเสร็จแล้วค่ะ แซะออกมาวางพักบนตะแกรงให้เย็นสนิท
จากนั้นเก็บใส่กล่องไว้รับประทานได้ 1 สัปดาห์(สำหรับแบบกรอบ)
ถ้าเป็นแบบนุ่มจะเก็บได้ 3 วันค่ะ ที่ลูกสนอบใช้อุณหภูมิไม่สูงนะคะ
แต่อาศัยอบนานกว่าที่สูตรบอกนิดนึง เลยได้เป็นคุกกี้กรอบๆ
สีกำลังสวยเลยค่ะ อีกถาดนึงลูกสนอบ 375F ขนมออกมาสีเข้มค่ะ
ลูกสนชอบแบบถาดนี้มากกว่า

Photobucket



พออบเสร็จแล้วใครจะโรยไอซิ่งเพิ่มก็ตามชอบนะคะ
ลูกสนไม่โรยแล้วค่ะ ขอกินแบบนี้เลยดีกว่า

Photobucket


คุกกี้เนื้อเบามากเลยนะคะ ชิ้นนึงหนักไม่ถึง 3 กรัม
กินเพลินจริงๆค่ะ ไม่อยากเชื่อว่าขนมไข่กรอบๆนี่อร่อยจังฮู้

Photobucket


บิให้ดูเนื้อในค่ะ เป็นโพรงแบบนี้ล่ะค่ะ เหมาะกับทีรามิสุดีเชียว

Photobucket


เพื่อนๆคนไหนสนใจก็ลองทำกันดูนะคะ ต้นทุนไม่แพงเลยค่ะ
แถมอร่อยอีกด้วย กินไม่หมดก็เก็บไว้ทำทีรามิสุต่อได้เลย
อร่อยสองต่อแบบนี้ ไม่ลองไม่รู้นะคะ

สวัสดีค่ะ





 

Create Date : 28 มกราคม 2552    
Last Update : 28 มกราคม 2552 20:01:56 น.
Counter : 32555 Pageviews.  

แป้งพายชั้น(สูตรญี่ปุ่น)

Photobucket


วันนี้ลูกสนขอแบ่งปันวิธีทำแป้งพายชั้นให้เพื่อนๆนำไปใช้กันนะคะ
เนื่องจากเป็นหนึ่งในส่วนประกอบของขนมที่ลูกสนตั้งใจจะให้เป็น
ขนมประจำปีของตัวเองค่ะ เพื่อนๆดูรูปทรงพายชั้นก็คงทราบแล้ว
ว่าขนมชนิดนั้นคืออะไร ลูกสนยังไม่ได้ลงมือทำส่วนประกอบอื่นๆเลย
ขอทำแป้งพายไว้ก่อน จะได้อุ่นใจว่าทำของที่ยากที่สุดเสร็จแล้ว

แป้งพายชั้นสูตรนี้ ที่ต้องบอกว่าเป็นสูตรญี่ปุ่นเนื่องจากลูกสนอ่านสูตร
พายชั้นจากหลายแหล่ง สูตรญี่ปุ่นนี่ดูท่าทางจะทำง่ายที่สุดเลยค่ะ
ไม่ต้องนำเนยก้อนใหญ่ๆใส่ในโดว์ แต่ใช้การตัดเนยให้เป็นชิ้นเล็กๆ
ใส่ลงในแป้งไปตั้งแต่ขั้นตอนแรกเลย ลูกสนทำแล้วเวิร์คมากค่ะ
ผลลัพธ์ออกมาดีกว่าสูตรแบบฝรั่งเศสที่เคยทำ อันนั้นทำแล้วรั่ว
อันนี้ทำแล้วไม่มีเนยทะลัก ตอนอบเนยก็ไม่ไหลออกมานอกแป้ง
พายที่ได้ชั้นบางกรอบทุกชั้น ได้แบบนี้คนทำก็ชื่นใจสุดๆแล้วค่ะ

มาดูสูตรและวิธีทำกันนะคะ รูปเยอะหน่อยค่ะวันนี้ บางรูปก็ใหญ่
บางรูปก็4P ลูกสนเป็นคนนึงที่เคยทำแป้งพายชั้นแล้วมีปัญหา
เลยอยากสาธิตวิธีทำให้ละเอียดที่สุดค่ะ เพื่อนๆใจเย็นๆ ค่อยๆดูไปนะคะ

ส่วนผสม

1. แป้งขนมปัง 125 กรัม
2. แป้งเค้ก 125 กรัม
3. เนยจืด 200 กรัม หั่นเป็นชิ้นเล็กๆและแช่ให้เย็นจัด
4. น้ำเย็นจัด 125 มิลลิลิตร
5. เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
6. น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนโต๊ะ

ในรูปนี่ลูกสนใส่แป้งลงในชามเดียวกันนะคะ

Photobucket


วิธีทำ

1. ร่อนแป้งทั้ง 2 ชนิดและเกลือป่นเข้าด้วยกัน จากนั้นใส่น้ำตาลทรายลงไป
แล้วใช้ตะกร้อมือคนผสมให้เข้ากันอีกครั้ง

ร่อนแป้ง

Photobucket


ใส่น้ำตาลลงไปผสม

Photobucket


2. ใส่เนยที่หั่นไว้ลงไปในชามแป้ง ใช้ไม้พายตะล่อมให้แป้ง
เคลือบเนยทุกชิ้น จากนั้นใช้มีดตัดเนยสองอัน ตัดไขว้กันไปมา
ให้เนยกลายเป็นชิ้นเล็กๆผสมกับแป้ง ลักษณะคล้ายเม็ดทรายค่ะ
อาจจะมีเนยชิ้นใหญ่ๆเหลืออยู่เล็กน้อย ก็เป็นเป็นไรค่ะ

ใส่เนยลงไป

Photobucket


คลุกเบาๆให้แป้งเคลือบเนยทั้งหมด

Photobucket


ใช้มีดตัดไขว้กัน ขั้นตอนนี้จริงๆใช้ Food Processor ได้นะคะ
แต่ลูกสนกลัวติดนิสัยรักสบาย วันนี้เลยขอใช้มีดตัดเนยบ้างแล้วกัน
นำมีดไปแช่เย็นก่อนจะช่วยให้การตัดสะดวกขึ้นค่ะ

Photobucket


ได้ส่วนผสมที่เป็นเม็ดทรายแบบนี้ก็พอค่ะ

Photobucket


3. เทน้ำเย็นจัดลงไปให้ทั่วแป้ง จากนั้นใช้ไม้พายคลุกเบาๆให้แป้งซึมน้ำ
แป้งจะเกาะตัวกันมากขึ้นค่ะ แล้วค่อยใช้มือเรานวดแป้งในชามเบาๆ
ให้เค้าเกาะกันเป็นก้อนกลม เสร็จแล้วให้ห่อแป้งด้วยพลาสติคแรป
แล้วนำเข้าแช่ตู้เย็น 1 ชั่วโมงค่ะ

เทน้ำ

Photobucket


คลุกให้แป้งพอเกาะกัน

Photobucket


ใช้มือนวดเบาๆจนแป้งเกาะกันเป็นก้อน

Photobucket


เก็บเข้าตู้เย็น พอแป้งแข็งขึ้นเราจะมาคลึงแป้งกันค่ะ

Photobucket


4. พอ 1 ชั่วโมงผ่านไป ให้เตรียมพื้นผิวกว้างๆไว้ค่ะ โรยแป้งนวลบางๆ
แล้วนำแป้งที่ได้ออกมาคลึงให้ยาว 1 ฟุต ระหว่างคลึงสามารถโรยแป้งนวล
ได้บางๆ เน้นว่าบางๆนะคะ ลงบนแป้งที่เราคลึงอยู่ ลูกสนใช้วิธีทาแป้งเอาค่ะ
ใช้แปรงจุ่มลงในชามแป้งนวล แล้วทาแบบผ่านๆไปบนตัวแป้งค่ะ

พอคลึงได้ยาว 1 ฟุตแล้วให้พับแป้งเป็น 3 ทบค่ะ จะเริ่มจากส่วนบนมาตรงกลาง
หรือจากข้างล่างขึ้นไปตรงกลางก็แล้วแต่นะคะ ลูกสนพับล่างขึ้นไปกลางก่อน
แล้วค่อยพับบนลงมาอีกทีนึงค่ะ ดูตามรูปน่าจะพอเข้าใจนะคะ พอพับเสร็จ
ก็จะได้แบบรูปที่4 ค่ะ ขั้นตอนนี้แป้งยังไม่สวยเท่าไหร่ คลึงไปเรื่อยๆ
เดี๋ยวเค้าจะดูดีเองค่ะ

มีคำแนะนำนิดนึงนะคะ ว่าการพับแต่ละทบนี่ ควรให้ปลายเค้าเสมอกัน
คือไม่ยื่นออกมา หรือสั้นเกินไปจนคลุมชั้นอื่นๆไม่อยู่ค่ะ ควรให้เท่าๆกัน
เหมือนหนังสือเลยค่ะ

Photobucket


จากรูปข้างบน รูปที่4 ให้จับแป้งหมุน 90 องศาค่ะ แล้วก็นำพลาสติคแรป
มาคลุมตัวแป้ง พักในตู้เย็นประมาณ 30 นาทีแล้วค่อยนำมาคลึงต่อ
แต่ถ้าใครมั่นใจว่าแป้งของตัวเองไม่นิ่ม ไม่ละลาย ก็ไม่ต้องแช่เย็นค่ะ

Photobucket


5. หลังจากแช่เย็นครบ 30 นาทีแล้ว ให้นำแป้งออกจากตู้เย็น วางลงบนพื้นผิว
โดยวางให้เหมือนในรูปข้างบนค่ะ คือเหมือนหนังสือเลย ปกเปิดได้ทางขวา
จากนั้นก็คลึงแป้งค่ะ ขั้นตอนเหมือนเดิมเลย สามารถโรยแป้งนวลบางๆได้
ระหว่างคลึงสามารถพลิกแป้งกลับไปมาหน้าหลังได้นะคะ จะทำให้แป้งไม่ติด
และยืดแป้งได้มากขึ้นด้วยค่ะ

ขั้นตอนนี้จะสามารถคลึงแป้งได้ยาวกว่าขั้นตอนข้อ4 นะคะ แป้งของลูกสน
หนาประมาณ 6-7 มิลลิเมตรค่ะ พอคลึงได้หนาเท่านี้แล้วก็พับอีกเหมือนเดิม
ทำเหมือนวิธีในข้อ4 เลยค่ะ ดูจากรูปข้างล่างเอาก็ได้ คลึงแป้งครั้งนี้ให้นับ
เป็นครั้งที่ 1 นะคะ เราต้องคลึง 4 รอบค่ะ ยังเหลืออีก 3 รอบที่ต้องสู้ต่อ ฮิฮิ

Photobucket


แป้งที่คลึงเสร็จแล้ว จับห่อพลาสติคแรปแล้วแช่เย็น 1 ชั่วโมงค่ะ
ให้แป้งพักตัวก่อน แล้วค่อยนำมารีดครั้งต่อๆไป พักแป้ง 1 ชั่วโมงทุกครั้ง
หลังจากรีดแป้งเสร็จนะคะ

Photobucket


6. ลูกสนขอข้ามขั้นตอนคลึงแป้งรอบที่ 2 กับ 3 นะคะ มาที่รอบสุดท้ายเลย
สังเกตสีเนยในแป้งว่าจะจางลงนะคะ หมายความว่าเนยกระจายไปทั่วแป้งแล้ว
ถูกแป้งกลบหมดค่ะ แล้วแป้งก็จะบางลงด้วย ดูในรูปที่3 ก็ได้ค่ะ รอบนี้แป้งหนา
แค่ 4 มิลลิเมตรเอง แล้วก็ดูหน้าตาเรียบสวยขึ้นเยอะเลย

พอคลึงรอบที่4 เสร็จ ห่อแป้งด้วยพลาสติคแรปแล้วแช่เย็นเป็นเวลาอย่างน้อย
6 ชั่วโมงก่อนนำมาใช้ค่ะ ในรูปที่4 นี่แช่เย็นครบ 6 ชั่วโมงแล้วนะคะ
ลูกสนนำมาแบ่งเป็น 2 ก้อน เวลาใช้ก็เอาออกมาคลึงที่ละก้อนค่ะ
ถ้าแป้งเยอะไป คลึงไม่ทัน เดี๋ยวเนยละลายหมด

Photobucket


7. มาเตรียมอบแป้งพายกันบ้างนะคะ อุ่นเตาอบไว้ที่ 200C ค่ะ
จากนั้นเตรียมEgg Wash รอไว้ค่ะ วันนี้ลูกสนใช้ไข่แดง 1 ฟอง
ผสมน้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากันค่ะ

Photobucket


นำแป้งออกมา 1 ก้อน ใช้ไม้คลึงไปเรื่อยๆจนได้แป้งหนา 3 มิลลิเมตร
ระหว่างคลึงพลิกกลับด้านไปมา โรยแป้งบางๆ ได้ค่ะ(พูดซ้ำบ่อย อย่าเบื่อนะคะ)

พอคลึงแป้งพายเสร็จแล้ว ให้นำไปวางบนถาดที่ปูกระดาษรองอบเอาไว้
และนำแป้งเข้าแช่ตู้เย็น 15-20 นาทีก่อนอบค่ะ เพื่อให้แป้งได้พักตัว
แช่เย็นเสร็จแล้วนำแป้งออกมาเจาะรูให้พรุนๆด้วยส้อม แล้วทาหน้าด้วยไข่แดงค่ะ
เท่านี้ก็พร้อมที่จะโดนอบแย้ว เย้ๆ จะเสร็จแล้ว

Photobucket


8. อบที่อุณหภูมิ 200C เป็นเวลา 20 นาทีค่ะ พอเข้าเตาอบปุ๊ป แป้งจะหดตัวก่อนค่ะ
พอหดเสร็จแล้วตรงขอบๆก็จะเริ่มพอง หมายความว่าเนยตรงขอบโดนความร้อนแล้วค่ะ
แล้วเนยตรงกลางก็จะโดนความร้อนตามมา แป้งก็จะพองๆเดือดๆทั้งชิ้นเลย
แต่ไม่มีเนยทะลักออกมานะคะ พออบเสร็จแล้วก็นำออกมาวางพักบนตะแกรงให้
เย็นสนิทค่ะ แล้วค่อยนำไปใช้ตามชอบ

รูปอบเสร็จของลูกสนสีไม่สวยเลย ครั้งหน้าต้องพอกไข่เยอะๆหน่อย

Photobucket


อบเสร็จแล้วตัดดู พายของลูกสนตรงกลางเค้ายังดูดิบๆอยู่นิดนึง เลยขออบต่อ
อีก 10 นาทีค่ะ อบเสร็จแล้วแป้งสุกหมด สีสวยขึ้นด้วย วางพักให้เย็นสนิท
เก็บใส่กล่องแล้วค่อยนำมาใช้ค่ะ ยังไม่แน่ใจว่าพรุ่งนี้เค้าจะยังกรอบอยู่
เหมือนวันนี้รึเปล่า ถ้าไม่กรอบก็จะอบอีกนิดนึง จะได้กินขนมอร่อยๆ ฮิฮิ
รอไม่ไหวแย้ว

Photobucket


บิให้ดู 1 ชิ้นค่ะ ได้แค่ชิ้นเดียวเพราะที่เหลือต้องเก็บไว้ทำขนมประจำปี ฮิฮิ
เป็นชั้นกรอบๆทั่วกัน กินเปล่าๆก็อร่อยค่ะ แต่ขออดเปรี้ยวไว้กินหวาน
พรุ่งนี้ค่อยทำของอร่อยกว่ากินแล้วกัน

Photobucket


หนุ่มๆสาวๆคนไหนอยากทำแป้งพายชั้นแบบโฮมเมด
ถ้าสนใจสูตรนี้ก็ลองทำดูนะคะ ลูกสนว่าทำไม่ยากและรสชาติดีค่ะ
เดี๋ยวคราวหน้าลูกสนจะทำแป้งพายชั้นคลาสสิคดูบ้าง ฮ่าฮ่า
สู้รบกับเนยละลาย ให้รู้ไปว่าจะเป็นยังไง

ขอบคุณทุกคนที่แวะมาชมค่ะ ขอให้อ่านบล็อคอย่างมีความสุขนะคะ


+ รายงานผลการทดลองเพิ่มเติมค่ะ +

หลังจากลูกสนแบ่งแป้งพายชั้นที่คลึงเสร็จเรียบร้อยแล้วเป็น 2 ส่วน
ส่วนนึงลูกสนก็พักจนครบเวลาแล้วนำมาอบเลย อีกส่วนนึงลูกสนนำไป
คลึงอีกรอบค่ะ รวมแล้วเป็น 5 รอบเลย เอามาชิมเทียบกันแล้ว ลูกสนว่า
แป้งที่คลึง 5 รอบกรอบบางสุดๆ อร่อยกว่าแป้งที่คลึง 4 รอบค่ะ
ถ้าเพื่อนๆจะทำแล้วไม่ติดขัดอะไร ลูกสนว่าคลึง 5 รอบจะได้แป้ง
ที่ดีกว่า คุ้มค่ากับเวลามากกว่าค่ะ


สูตรที่เกี่ยวข้อง :

Mille Feuille

Vol Au Vent




 

Create Date : 22 ธันวาคม 2551    
Last Update : 5 มกราคม 2552 16:52:27 น.
Counter : 55718 Pageviews.  

Apple Turnovers

อากาศเย็น ลมพัดสบาย มากินพายที่อบสดๆ หอมกรุ่นจากเตากันนะคะ

Photobucket


ใครชอบกินพายแอปเปิ้ล วันนี้ลองมากินพายแอปเปิ้ลในรูปแบบใหม่กันนะคะ
Turnover ลูกสนไม่รู้ว่าจะแปลเป็นไทยยังไงให้เก๋กู๊ดยูเรก้า ถ้าตั้งชื่อว่า
พายม้วนตลบจะดีมั๊ยน้อ ฮ่าฮ่า ฟังดูตลกยังไงไม่รู้แฮะ เอาเป็นว่าลูกสนขอชวน
เพื่อนๆให้ลองทำพายชนิดนี้ดูค่ะ กินตอนอบเสร็จใหม่ๆนี่อร่อยสุดยอดค่ะ
แป้งพายร่วนกรอบ กับไส้แอปเปิ้ลฉ่ำหอม โฮ๊ยยย กินแล้วหยุดไม่อยู่
ยิ่งเป็นชิ้นเล็กๆแบบนี้ยิ่งอันตรายเลย

Turnover ส่วนมาก สูตรเค้าจะให้ใช้แป้งพายชั้นนะคะ ซึ่งลูกสนไม่มี
เลยขอใช้พายร่วนแทนค่ะ คิดๆอยู่เหมือนกันว่าจะอร่อยเหมือนพายชั้นมั๊ย
แต่ทำออกมาแล้วไม่ผิดหวังค่ะ แป้งพายสูตรนี้คล้ายสูตรที่ลูกสนใช้ทำ
พายแอปเปิ้ลครัมเบิล อร่อยคล้ายกันเลยค่ะ ลูกสนยกให้เป็นแป้งพาย
เอนกประสงค์ประจำครัว เพราะปรับรสหวานได้ ทำได้ทั้งพายคาวหวานค่ะ
ถ้าเพื่อนๆชอบก็ลองนำสูตรไปทำดูนะคะ

ส่วนผสมแป้งพาย(สำหรับพิมพ์พายขนาด 9 นิ้ว)
สูตรจากหนังสือ The Baker's Dozen Cookbook

1. แป้งสาลีเอนกประสงค์ 125 กรัม(1 ถ้วยตวง)
2. เนยจืด 113 กรัม(1/2 ถ้วยตวง) หั่นเป็นลูกเต๋าและแช่เย็นจัด
3. น้ำตาลทราย 12 กรัม(1 ช้อนโต๊ะ)
4. เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
5. น้ำเย็นจัด 2 ช้อนโต๊ะ

+ ถ้าจะทำเป็นแป้งพายสำหรับไส้คาว ให้ลดน้ำตาลเหลือ 1 ช้อนชาค่ะ

Photobucket


วิธีทำ

1. ใส่แป้ง น้ำตาลทราย และเกลือลงในเครื่องปั่นอาหาร แล้วปั่นให้ทุกอย่างเข้ากันดี
สูตรนี้ไม่ต้องร่อนแป้งนะคะ ถ้าใครจะตวงก็ตักแป้งจากถุงแล้วปาดเอาได้เลยค่ะ

Photobucket


2. เมื่อปั่นแป้งเสร็จแล้ว ให้ใส่เนยแช่เย็นจัดลงไปในโถแป้ง แล้วกดปั่นต่อให้ได้ส่วนผสม
ที่มีลักษณะเหมือนทรายร่วนๆ จะมีเนยก้อนเล็กๆกระจายทั่วค่ะ

Photobucket


ปั่นเสร็จแล้วค่ะ

Photobucket


3. เติมน้ำเย็นจัดลงไปแล้วกดปั่นให้แป้งเกาะกันเป็นก้อน จากนั้นห่อแป้งด้วย
พลาสติคแรป แล้วนำเข้าแช่เย็นประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนนำมาใช้ค่ะ

Photobucket


แป้งรวมเป็นก้อนแล้ว

Photobucket


แช่เย็น 1 ชั่วโมงค่ะ ถ้าใครยังไม่รีบใช้ จับแช่ฟรีซไปก่อนก็ได้นะคะ
พอจะใช้วันไหนค่อยเอาออกมาวางในช่องธรรมดา ให้เค้าหายแข็งค่ะ

Photobucket


ระหว่างที่พักแป้งพาย เรามาเตรียมส่วนผสมไส้แอปเปิ้ลกันนะคะ
สูตรนี้ลูกสนติดใจมากๆ เคยใช้ทำแอปเปิ้ลสตรูเดลไปครั้งนึงแล้ว
อร่อยมากค่ะ ขนาดตอนยังไม่ได้อบก็สามารถตักกินได้เรื่อยๆเลย
แต่ถ้าใครไม่กินแป้งดิบก็อย่าตักกินนะคะ ฮ่าฮ่า ลูกสนฮาร์ดคอร์ไปหน่อย
กินตั้งแต่ยังไม่สุก หุหุหุ

สูตรนี้ทำไส้ออกมาได้เยอะมากนะคะ ถ้าใครจะทำ Apple Turnovers
ก็ให้หารครึ่งจากสูตรนี้ได้เลยค่ะ แต่ถ้าใครอยากทำพายแอปเปิ้ลชิ้นใหญ่ๆ
ทำเต็มสูตรได้ แต่เพิ่มสูตรแป้งพายเป็น 2 เท่า กรุก้นพาย 1 ส่วน
แล้วใช้คลุมหน้าพายอีก 1 ส่วนค่ะ

ส่วนผสมไส้แอปเปิ้ล
สูตรจาก Southern Living ค่ะ

1. แอปเปิ้ลเขียว 3 ลูก(หนักประมาณ 1 พาวด์)
2. แครนแบร์รี่แห้ง 45 กรัม(1/3 ถ้วยตวง)
3. แป้งสาลีเอนกประสงค์ 25 กรัม(3 ช้อนโต๊ะ)
4. น้ำตาลทราย 65 กรัม(1/3 ถ้วยตวง)
5. ซินนามัน 1/4 ช้อนชา
6. น้ำมะนาวเล็กน้อย

Photobucket


วิธีทำไส้แอปเปิ้ล

ล้างแอปเปิ้ลแล้วผ่าเอาไส้กลางออก ปอกเปลือกให้หมด
แล้วหั่นเนื้อแอปเปิ้ลให้เป็นลูกเต๋าเล็กๆ ลูกสนหั่นไม่ค่อยเท่ากัน
อย่าถือสาค่ะ แหะแหะ ไม่ชอบขั้นตอนนี้ที่สุดเลย เมื่อยแขนจัง

Photobucket


เนื้อแอปเปิ้ลที่ได้ ใส่รวมกับแครนแบร์รี่ไว้ค่ะ ลูกสนจับแครนแบร์รี่
แช่น้ำอุ่นก่อนซักพักนะคะ เพราะแช่เย็นไว้แล้วเค้าแห้งมาก
พอโดนน้ำอุ่นแป๊ปเดียวก็นุ่มขึ้นค่ะ

Photobucket


บีบมะนาว ใส่แป้ง น้ำตาลทราย และซินนามันลงไป ผสมให้เข้ากันค่ะ
แล้วพักส่วนไส้ไว้ก่อน เดี๋ยวจะมาคลึงแป้งกันแล้ว เย้ๆ
มาถึงตอนนี้ให้ไปอุ่นเตาอบรอไว้เลยค่ะ อุณหภูมิ 200C นะคะ

Photobucket


เตรียม Egg Wash ซักนิดค่ะ ไว้ทาหน้าขนม อบเสร็จแล้วจะได้มีสีสัน
ตอกไข่ 1 ใบตีให้พอแตก แล้วเติมน้ำเปล่าซัก 1 ช้อนโต๊ะ ผสมให้เข้ากัน
เท่านี้ก็ได้แล้ว หรือใครอยากจะใช้แต่ไข่แดงก็ไม่ว่ากันค่ะ

Photobucket


เอาแป้งที่แช่เย็นไว้ออกมานะคะ วางบนพื้นผิวอะไรก็ได้ที่กว้างๆหน่อย
ลูกสนใช้ Silpat ที่ได้มาจากพี่อรค่ะ ฮิฮิ ขอเรียกว่าแผ่นมหัศจรรย์
นวดแล้วไม่ติด ถูกใจมากค่ะ ขอบคุณพี่อรอีกครั้งนะคะ

Photobucket


คลึงแป้งออกให้เป็นแผ่นบางๆ แล้วเอาพิมพ์กดให้เป็นวงกลมขนาด 4 นิ้วค่ะ
ถ้าใครไม่มีพิมพ์กด ก็ใช้ที่ตัดธรรมดาทำให้เป็นทรงสี่เหลี่ยมก็ได้เช่นกัน
เวลาพับก็จะเหมือนพายเห็ดที่ S&P ฮิฮิ ระหว่างคลึงแป้งก็โรยแป้งนวลได้นะคะ
ลูกสนโรยลงไปเยอะเหมือนกันค่ะ

ถ้ากดแล้วเหลือเศษแป้งก็ให้นำเศษๆมาคลึงใหม่แล้วก็กดใหม่ไปเรื่อยๆ
ลูกสนทำได้ทั้งหมด 15 ชิ้น ทำจนเศษแป้งสุดท้ายจริงๆค่ะ งกดีจังเรา
พอได้แป้งครบแล้วให้จับแป้งแช่เย็นก่อนซัก 10 นาที แล้วค่อยนำมาใช้ค่ะ
แต่ถ้าแป้งของใครยังสามารถหยิบจับได้สบายๆ ก็นำไปใช้ต่อได้เลยค่ะ

Photobucket


ครบ 10 นาทีแล้ว นำแป้งออกมาวางบนถาดอบค่ะ ลูกสนอบได้ทีละ 8 ชิ้น
วางไส้ลงไปซัก 2 ช้อนชา หรืออาจจะมากกว่า แต่ถ้ามากไปก็ระวัง
แป้งขาดตอนพับแป้งนะคะ

Photobucket


พับแป้งเข้าหากัน เหมือนทำกะหรี่พัฟเลยค่ะ แล้วก็เอาส้อมกดปลายแป้ง
ให้เป็นรอยสวยๆ ตอนทำนี่สงสัยเหมือนกันว่าจะจีบเป็นกะหรี่พัฟได้เปล่าหว่า

Photobucket


ทาหน้าขนมด้วยไข่ไก่ให้ทั่วค่ะ แล้วโรยน้ำตาลทรายลงไปอีกซักนิดนึง
จากนั้นนำเข้าอบเป็นเวลา 10-12 นาที พอเสร็จแล้วก็หยิบกินได้เลยค่ะ

Photobucket


อบเสร็จแย้วววว ไวจริงๆเลย พักบนตะแกรงก่อนนะคะ ถ้าใครใจร้อนอยากกิน
หยิบได้เลยค่ะ มาแย่งกันกินเร้ววววว

Photobucket


อยากให้เพื่อนๆลองทำเมนูนี้กันจังเลยค่ะ หน้าตาน่ารัก รสชาติอร่อย
กินชิ้นนึงกำลังดีเลย แต่ถ้าไม่อิ่ม จะกี่ชิ้นก็ว่ากันไปค่ะ

Photobucket


ถ้าใครทำแล้วกินไม่หมดในวันเดียว วันรุ่งขึ้นลองเอาอุ่นในเตาเล็กดูนะคะ
พายชนิดนี้กินตอนอบเสร็จใหม่ๆจะได้รสชาติดีที่สุดเลยค่ะ ถ้าเย็นลง
ก็จะอร่อยน้อยลงหน่อยนึง แต่รสชาติก็ยังใช้ได้อยู่ดีค่ะ

Photobucket


ใครเห็นหน้าตาแล้วถูกใจก็ลองทำกันดูนะคะ อร่อยแบบบ้านๆ
ฝีมือเราเอง น่าภูมิใจค่ะ ถ้าไม่ชอบไส้แอปเปิ้ล ลองเปลี่ยนเป็นแยมอื่นๆ
หรือจะทำเป็นไส้ไก่ไส้ทูน่า ก็น่าสนใจเหมือนกันนะคะ
วันหลังลูกสนจะลองมั่วดูบ้าง

ขอบคุณที่มาเยี่ยมชมกันนะคะ ขอให้ทุกคนมีความสุขในเทศกาล
แห่งความสุขสันต์ค่ะ





 

Create Date : 19 ธันวาคม 2551    
Last Update : 19 ธันวาคม 2551 18:57:25 น.
Counter : 6573 Pageviews.  

คุกกี้ช็อคโกแลตชิพส์ II

เอามาเสริฟกันเป็นถาดค่ะวันนี้

Photobucket

Photobucket


คุกกี้ช็อคโกแลตชิพส์มาอีกแล้วค่ะ ฮ่าฮ่า ตามที่ลูกสนเคยบอกในบล็อค
คุกกี้ช็อคโกแลตชิพส์อันก่อนว่าครั้งหน้าจะลองทำสูตรที่ไม่ใช้คอร์นซีรัป
ลูกสนทำให้ตามสัญญาแล้วนะคะ สูตรนี้ง่ายและอร่อยมาก ก่อนหน้านี้
เคยทำกับน้องสาวครั้งนึง ก็ประทับใจกันไป ครั้งนี้ลูกสนปรับสูตรนิดนึง
ได้คุกกี้เนื้อชูว์อี้ หอมมัน เข้มข้น ตามคำชมของพ่อค่ะ

สูตรนี้คล้ายกับสูตรเดิมตรงที่ใส่ข้าวโอ๊ตป่นลงไปผสมกับแป้งด้วยค่ะ
และยังมีการละลายเบคกิ้งโซดาเข้ากับน้ำร้อนก่อนผสมลงไปอีก
ลูกสนก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพื่ออะไร ฮ่าฮ่า แต่สูตรเค้าดีก็เลยทำตาม
เพื่อนๆคนไหนรู้ช่วยบอกกันบ้างนะคะ แลกเปลี่ยนความรู้กัน
คนอื่นจะได้ทราบด้วยค่ะ

ต้นฉบับสูตรนี้หวานมากเลยนะคะ ตอนลูกสนอ่านสูตรครั้งแรกนี่
คิดอยู่ในใจเลยว่าหวานแสบไปถึงกระเพาะแหงๆ ทำครั้งนี้ลูกสน
ลดน้ำตาลลงไปเยอะแล้ว ก็ยังหวานไปอยู่นิดนึงค่ะ ในสูตรที่พิมพ์ให้
ลูกสนปรับลดน้ำตาลลงจากที่ลูกสนทำแล้วนะคะ ถ้าใครจะลดอีก
ให้ลดได้มากสุด 20 กรัมค่ะ เกรงว่ามากกว่านี้คุกกี้จะจืดไปหน่อย
เว้นซะแต่ว่าไม่ชอบรสหวานจริงๆ จะลดยังไงก็ตามชอบเลยค่ะ

ส่วนผสม(สำหรับคุกกี้ขนาด 3 นิ้ว 36 ชิ้น)
ปรับสูตรจาก Allrecipes.com ค่ะ

1. แป้งสาลีเอนกประสงค์ 250 กรัม(2 ถ้วยตวง)
2. ข้าวโอ๊ต 125 กรัม(1 1/2 ถ้วยตวง)
3. เนยจืด 227 กรัม(1 ถ้วยตวง)
4. น้ำตาลทรายแดง 180 กรัม(3/4 ถ้วยตวง + 2 ช้อนโต๊ะ)
5. น้ำตาลทรายขาว 60 กรัม(1/4 ถ้วยตวง + 1 ช้อนโต๊ะ)
6. ไข่ไก่เบอร์สอง 2 ฟอง
8. น้ำร้อน 2 ช้อนชา
9. เบคกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
10. เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
11. ครีมออฟทาร์ทาร์ 1/2 ช้อนชา
12. กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
13. ช็อคโกแลตชิพส์เซมิสวีท 340 กรัม(2 ถ้วยตวง)




ให้ดูข้าวโอ๊ตที่ใช้ค่ะ พอดีกระปุกเก่าที่เป็นแบบ quick oats หมด
เปิดมาแล้วต๊กกะใจ ทำไมหมดไวจังเลย ต้องออกไปซื้อมาใหม่
ได้แบบ roll oats มาค่ะ เมล็ดใหญ่ดีจัง

Photobucket


เตรียมถาดอบโดยรองกระดาษไขเอาไว้ ไม่ต้องทาเนยค่ะ

อุณหภูมิที่ใช้ในการอบคือ 350F(175C) อุ่นเตารอไว้ตั้งแต่เริ่มทำได้เลยค่ะ

วิธีทำ

1. คั่วข้าวโอ๊ตในกะทะจนมีกลิ่นหอม ประมาณ 5 นาทีค่ะ
ระหว่างคั่วใช้ไฟกลางค่อนไปทางอ่อน คอยกระดกกะทะด้วยนะคะ
ลูกสนกระดกกะทะแล้วข้าวโอ๊ตไม่หกเลอะเทอะด้วยนะ ฮิฮิ
สนุกดีค่ะ พอคั่วเสร็จแล้ววางทิ้งไว้ให้เค้าหายร้อนก่อนค่ะ

Photobucket


2. ปั่นข้าวโอ๊ตให้ละเอียดจนคล้ายแป้ง ไม่รู้ว่าใครปั่นจนเหมือนแป้งได้บ้าง
แต่ลูกสนทำไม่ได้ค่ะ คือจะยังมีเม็ดเล็กๆอยู่ประปราย ในรูปนี่ละเอียดสุดๆ
เท่าที่จะปั่นได้แล้วล่ะ ฮ่าฮ่า เคยอ่านในหนังสือของ Carole Walter
เธอบอกให้แบ่งน้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะลงไปปั่นกับข้าวโอ๊ตด้วย
วันนี้ลูกสนก็ลืมอีกแล้ว ฮ้วยยยย ปลาทองจังเรา

Photobucket


พอข้าวโอ๊ตละเอียดแล้ว เติมแป้ง เกลือ และครีมออฟทาร์ทาร์ลงไปค่ะ
ปั่นต่อไปเลยให้ทั้งหมดเข้ากันดี สูตรนี้ไม่ต้องร่อนแป้งนะคะ
อาศัยปั่นโลด โฮ่ๆ ลูกสนชอบใจเลย ทำสะดวกดี พอปั่นเสร็จแล้ว
พักส่วนผสมตรงนี้ไว้ก่อนค่ะ

Photobucket


3. ใส่เนยกับน้ำตาลทรายทั้งสองชนิดลงในชามผสมใบใหญ่ๆ
แล้วตีให้เนียนเข้ากันดี เริ่มจากความเร็วต่ำ แล้วค่อยเป็นความเร็วกลางค่ะ
ไม่งั้นน้ำตาลกระจุยกระจายหมดนะคะ

Photobucket


ปั่นเสร็จแล้วค่ะ ทำแล้วตุ้มๆต่อมๆ มิกเซอร์ร้องวี๊ดๆตลอด เฮ้อออ
วันก่อนตัวสแตนเพิ่งหัวหักไปเอง ถ้ามิกเซอร์มาเจ๊งอีกนี่ แว๊กๆเลย
สงสัยได้เวลาของตัวใหม่แล้วจริงๆ

Photobucket


ใส่ไข่ตามลงไปทีละฟองพร้อมกับวานิลลาคู่หูเค้าค่ะ
ตีให้เข้ากันแล้วก็เติมอีกฟองลงไป ส่วนผสมจะนุ่มขึ้น ตีง่ายค่ะ

Photobucket


เสร็จละ

Photobucket


4. ละลายเบคกิ้งโซดาในน้ำร้อนแล้วเทลงไปในชามค่ะ ตีให้พอเข้ากัน
แล้วค่อยเติมแป้งตามลงไปผสมด้วยความเร็วต่ำ ตามด้วยช็อคชิพส์
แล้วก็เตรียมอบได้เลยค่ะ

ในรูปนี่ละลายแล้วนะคะ แต่เบคกิ้งโซดาชอบตกตะกอนอยู่เรื่อยเลย

Photobucket


ใส่แป้งลงไป ลูกสนแบ่งใส่ทีละ 1/2 ค่ะ กลัวแป้งฟุ้ง เดี๋ยวหน้าขาวผมขาว ฮิฮิ

Photobucket


ผสมแป้งเสร็จแล้วค่ะ เอาแค่พอเข้ากันนะคะ ไม่ต้องเนียนเหมือนเค้ก

Photobucket


เทช็อคชิพส์ลงไป ตรงนี้มีเคล็ดลับนิดนึง ไม่แน่ใจว่าเคยอ่านมาจากที่ไหน
เค้าบอกว่าถ้าคุณเป็นคนประเภทที่ทำคุกกี้ทีไร ชิ้นสุดท้ายจะไม่ค่อยเหลือชิพส์
ให้แบ่งชิพส์ไว้ก่อนซัก 1/3 หรือ 1/4 ส่วนค่ะ พออบไปได้ซักค่อนทาง
ก็ค่อยเติมชิพส์ที่แบ่งไว้ลงไป คุณจะได้มีคุกกี้ที่เต็มไปด้วยชิพส์เท่ากัน
ทุกๆชิ้นค่ะ

Photobucket


ผสมเสร็จแล้ว ลูกสนใช้มิกเซอร์ผสมด้วยความเร็วต่ำนะคะ
แต่ถ้าใครถนัดใช้ช้อนไม้ตะล่อมก็ทำได้ตามสะดวกค่ะ

Photobucket


5. หยอดคุกกี้ให้มีขนาดประมาณ 1 นิ้ว วางห่างกันชิ้นละ 2 นิ้วค่ะ
แล้วนำเข้าเตาอบเป็นเวลา 10 นาที ไม่ขาดไม่เกินค่ะ ฮิฮิ

Photobucket


คุกกี้สูตรนี้ใส่เนยค่อนข้างมากนะคะ เพราะฉะนั้นเค้าจะขยายตัวเยอะ
โดว์ที่ยังไม่ได้หยอดให้เอาแช่ตู้เย็นไว้ค่ะ เพราะทิ้งไว้ข้างนอกเดี๋ยวจะ
เหลวไปซะก่อน

Photobucket


อบเสร็จคุกกี้จะนุ่มมากอยู่นะคะ ให้เอาตะหลิวหรืออะไรก็ตามที่ใหญ่ๆ
แซะออกมาวางพักบนตะแกรงจนเย็นสนิทค่ะ แล้วคุกกี้จะเนื้อเฟิร์มขึ้นเอง
กินแล้วหนุบหนับ หนึบๆ เคี้ยวมันส์ค่ะ

เอารูปมาให้ชิมกัน ฮิฮิ ถ่ายไม่ค่อยงามนัก แต่อยากแบ่งปันค่ะ
สูตรนี้เนื้อหนึบกว่าสูตรเดิมที่ลงให้ รสชาติไม่ต่างกันเท่าไหร่
แต่เนื้อคุกกี้ให้สูตรนี้ชนะค่ะ

Photobucket


ลูกสนชอบหน้าตาคุกกี้ที่อบได้ในครั้งนี้มากเลยค่ะ
เห็นแล้วนึกถึงคุกกี้ที่ขายที่อเมริกาเลย ชอบซื้อกินค่ะ
ชิ้นใหญ่ๆ ไม่หนาเท่าไหร่ แม่บ้านคนไหนอยู่อเมริกา
ซื้อคุกกี้ช็อคชิพส์ของสตาร์บัคส์มากินเผื่อลูกสนบ้างนะคะ
ลูกสนกินแล้วถูกปากค่ะ แป้งคุกกี้ไม่หวานเลย แต่ช็อคโกแลตเยอะ
เสริมความหวานให้คุกกี้ได้ดี ชิ้นใหญ่เท่าฝ่ามือ แทะได้นานเลยค่ะ

Photobucket


พูดถึงคุกกี้ที่นู่นก็นึกได้อีกเจ้านึง ของ Subway ค่ะ
คุกกี้เจ้านี้ก็อร่อยมากเหมือนกัน ติดใจไวท์ช็อคแมคคาเดเมีย
ช็อคชิพส์ก็อร่อย โอ๊ยยย คิดถึงไปหมดค่ะ อยู่ที่โน่นลูกสนเป็นเจ้าแม่คุกกี้
Chip Ahoy นี่เสร็จลูกสนหมดทุกรส ประมาณ 7 รสได้มั้ง ฮ่ะฮ่ะ
กินจนเป็นอึ่งอ่าง กลับมาพ่อตกใจ แต่ทำเป็นไม่ตกใจ
สงสัยกลัวลูกสาวเสียเซล์ฟ เอิ๊กๆ เสียไปนานแล้วฮ่ะท่านพ่อ

Photobucket


ยังมีอีกร้านค่ะ ของ Nestle Toll House ตอนนั้นไป LA
แล้วเค้าตั้งร้านขายคุกกี้อบสดๆอยู่ตรง Kodak Theater
ลูกสนเห็นแล้วก็วิ่งใส่เลยค่ะ ได้ยินชื่อเสียงมานานแล้วว่าอร่อย
ไปถึงถามราคา ชิ้นเล็กขาย 6 ชิ้น 3 เหรียญ แพงเหมือนกันนะนี่
ลูกสนก็ถามคนขายไปว่าขอซื้อ 3 ชิ้น 1.5 เหรียญได้เปล่า
เค้าก็ยิ้มๆบอกว่า ขายต่ำสุด 6 ชิ้น ลูกสนก็เลยโอเคๆ เอามานั่นล่ะ

พอออกมานอกร้านก็หม่ำทันที ปรากฎว่าไม่ถูกปากเลยค่ะ
รสชาติมันยังไงไม่รู้สิ ขาดๆเกินๆอะไรซักอย่างนี่ล่ะ บอกไม่ถูก
กินไปได้ 2 ชิ้นก็บ้ายบายค่ะ เสียดายเหมือนกันนะ แต่ไม่ชอบเลยค่ะ
ลิ้นของลูกสนไม่ถึงรึเปล่าคะนี่ เห็นฝรั่งเค้าชอบกันจังเลย
เรื่องแบบนี้คงแล้วแต่ความชอบเนอะ

กลายเป็นบล็อคเล่าประสบการณ์คุกกี้ของลูกสนไปซะแล้วนะคะ ฮ่าฮ่า
แต่ก็เข้ากันน้อ เพราะลูกสนก็ทำคุกกี้มาฝากเพื่อนๆนี่หน่า
ยังไงถ้าชอบคุกกี้ช็อคชิพส์ อย่าลืมลองทำสูตรนี้กันดูนะคะ
อร่อยจริงๆค่ะ ยกให้เป็นคุกกี้ช็อคชิพส์ที่อร่อยที่สุดเท่าที่เคยทำมา
และอร่อยไม่แพ้แบบที่ได้กินที่อเมริกาเลยค่ะ

หวังว่าเพื่อนๆคงมีความสุขกับการอ่านบล็อคลูกสนนะคะ




 

Create Date : 16 ธันวาคม 2551    
Last Update : 17 ธันวาคม 2551 12:16:32 น.
Counter : 23427 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  

ลูกสน
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 119 คน [?]




บล็อคนี้เป็นเหมือนไดอารี่ทำขนมของลูกสน
หวังว่าเพื่อนๆที่เข้ามาคงได้ใช้ประโยชน์จาก
ไดอารี่เล่มนี้ สร้างสรรค์ผลงานอร่อยๆที่ให้
ความสุขใจทั้งกับคนทำและคนกินนะคะ
ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการอ่านบล็อคค่ะ


ตอนนี้ไม่ได้อัพบล็อคเลยค่ะ
เล่น IG ซะมากกว่า ถ้าใครชอบรับประทาน
สามารถตามไปดูได้ที่
Instagram : Tato_Kullanan นะคะ


อนุญาตให้นำสูตรและรูปภายในบล็อค
ไปเผยแพร่ในด้านที่ไม่เกี่ยวกับการค้า
และรบกวนให้เครดิตทางบล็อคด้วยค่ะ
ขอบคุณค่ะ



5 บล็อคอัพเดทล่าสุด

แครนแบร์รี่ครีมสโกน

Meringue Kisses

บ้ทเทอร์สปันจ์เค้ก

Chocolate Soufflé

บร็อคโคลิผัดเบคอน









แนะนำสูตรอร่อย

ครั้งนี้ขอแนะนำขนมจำพวกพุดดิ้งบ้างนะคะ
ในบล็อคมีหลายสูตรเลย ลูกสนคัดมาเฉพาะ
ผลงานของปีที่ผ่านมาค่ะ ขนมจำพวกนี้ต้อง
แช่เย็นไว้ เวลากินจะชื่นใจมาก ละลายในปาก
คิดว่าน่าจะถูกใจใครหลายๆคนนะคะ


ทีรามิสุ

Photobucket


ชูครีม

Photobucket


Chocolate Pots de Creme

Photobucket


ช็อคโกแลตครีมพาย

Photobucket








Friends' blogs
[Add ลูกสน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.