Group Blog
 
All Blogs
 
ตอนที่ ๒๐ โจรกังฉิน

หลากชีวิตในพงศาวดารจีน

ยอดคนแผ่นดินเหม็ง

ตอนที่ ๒๐ โจรกังฉิน

" เล่าเซี่ยงชุน "

ฝ่าย จิวหยง นำ เฮงซือหยิน กับ เนียฉู เดินทางหลายวัน มาถึงแดนเมืองโซจิว เห็นราษฎรอุ้มลูกจูงหลานเดินร้องไห้มาตามทาง จิวหยงมีความสงสัยก็เข้าไปซักถาม ราษฎรก็บอกความว่า ฮ่องเต้เสด็จมาเที่ยวดูดอกเขงที่เมืองโซจิว รู้ถึงพวก เล่ากึน ซึ่งตั้งเป็นโจรอยู่ที่เขาอิมเขงเนีย จึงยกกองทัพมีพลหลายหมื่นมาตีบ้านเมืองได้หลายตำบล และบัดนี้เข้าล้อมเมืองโซจิวไว้แน่นหนา ได้ยินข่าวว่าทหารในเมืองออกสู้รบก็พ่ายแพ้แก่พวกโจร ข้าพเจ้าทั้งหลายนี้อยู่นอกเมือง จึงพากันหนีจะไปอาศัยอยู่ตำบลอื่น

เนียฉูก็ตกใจว่าการจวนถึงเพียงนี้ ท่านจะคิดประการใด จิวหยงจึงว่าท่านทั้งสองจงรีบไปเกณฑ์ทหาร ตามหัวเมืองที่ใกล้ในแขวงกังหนำนี้ ข้าพเจ้าจะไปหา กวดยี่หลง ที่เขาธอฮวยซัว ชวนกันคุมทหารมาสมทบกับท่าน ยกไปปราบปรามเล่ากึนกับพรรคพวกเสียให้ราบคาบในครั้งนี้ เนียฉูกับเฮงซือหยินเห็นชอบด้วย ต่างก็แยกทางกันรีบไปโดยเร็ว

จิวหยงไปถึงเขาธอฮวยซัว กวดยี่เหลงคำนับแล้วก็ถามว่า บัดนี้บั้นโซ้ยเสด็จพักอยู่ที่ไหน เหตุใดท่านจึงมาแต่ผู้เดียว จิวหยงก็เล่าความตามที่ราษฎรบอกให้ฟังทุกประการ แล้วว่าท่านจงจัดทหารยกไปช่วยโดยเร็ว จะได้มีความชอบในแผ่นดิน ชื่อก็จะปรากฏไปภายหน้า กวดยี่หลงจึงจัดทหารพร้อมแล้ว ให้จิวหยงเป็นทัพหน้า ให้ นางกุยเซียน กับ นางกุยหยง น้องฝาแฝดเป็นกองลำเลียงทัพหลัง ตนเองเป็นแม่ทัพ ยกลงจากเขาตรงไปเมืองโซจิวโดยเร็ว

เนียฉูกับเฮงซือหยินยกทหารมาถึงเมืองโซจิวก่อน เห็นพวกโจรตั้งค่ายล้อมเมืองไว้ทั้งสี่ด้าน ก็ขับทหารเข้าตีเป็นตลุมบอน กิมเหงาก็คุมไพร่พลเข้าสู้รบเป็นสามารถ ทหารของเนียฉูน้อยกว่าพวกโจรหลายส่วน สู้พวกโจรไม่ได้ต้องถอย กิมเหงาเห็นได้ทีก็รุกไล่ติดตามไปจนถึงตำบลนำเล่าติ๋น พอดีจิวหยงคุมพลมาถึงก็เข้าช่วยเนียฉู พวกโจรต้านทานไม่ไหวก็แตกหนีกลับไป จิวหยงคุมทหารไล่ไปจนถึงค่ายที่ล้อมเมืองอยู่ จึงให้ตั้งค่ายประชิดไว้ เมื่อกวดยี่หลงกับน้องสาว และเนียฉูกับเฮงซือหยิน ตามมาถึงก็ตั้งค่ายเรียงอยู่โดยลำดับ

ทั้งสองฝ่ายสู้รบกันอยู่หลายเวลา ลงท้ายจิวหยงออกอุบายให้เฮงซือหยิน กับ กวดยี่หลง เข้าตีค่ายกิมเหงาในตอนดึก แล้วทำเป็นแพ้ล่อให้กิมเหงาไล่ติดตาม ไปไกล จิวหยงก็ลอบเข้าไปเผาค่ายพวกโจร จนแสงเพลิงสว่างดังกลางวัน ฮ่องเต้ทรงทราบว่ามีกองทัพมาช่วย จึงให้ ซงโป กับ ลีเหลง คุมทหารออกช่วยตีกระหนาบจนค่ายโจรแตก เล่ากึน ซึ่งเฝ้าค่ายต้องพาไพร่พล หนีไปสมทบกับกิมเหงา ที่เมืองกังเหลงฮู้ แล้วส่งหนังสือไปถึง พวนอ๋อง ที่เมืองฮูปักให้ยกพลมาช่วยโดยเร็ว

จิวหยงพร้อมด้วยกวดยีหลง เนียฉู และเฮงซือหยิน ก็เข้าเมืองโซจิว มาเฝ้า พระเจ้า เจงเต็กฮ่องเต้ กราบทูลข้อความที่ได้รบพุ่ง มีชัยชนะแก่พวกโจร ให้ทรงทราบทุกประการ

ฮ่องเต้ก็มีพระทัยยินดี ตรัสถามเนียฉูว่า ท่านมานี้ด้วยธุระสิ่งใด เหตุใดจึงพบเฮงซือหยิน เนียฉูก็กราบทูลความตั้งแต่ขันทีนำพระอักษรมาให้ดูจึงได้รีบมาตามเสด็จ และได้พบกับเฮงซือหยิน ซึ่งคิดว่าตายไปแล้ว ก็ชวนกันสืบเสาะหาฮ่องเต้ จนได้พบกับจิวหยงซึ่งกลับมาจากเมืองฮุยจิว เมื่อทราบว่าพวกโจรล้อมเมืองโซจิวอยู่ จึงไปเกณฑ์ทหารหัวเมืองในแขวงกังหนำยกมา จิวหยงก็ไปหากวดยี่หลงชวนกันยกกองทัพมาอีกทางหนึ่ง จึงได้ช่วยกันตีพวกโจรแตกไป

แล้วเนียฉูก็กราบทูลถึงเรื่องเล่ากึน คิดร้ายต่อเฮงซือหยิน เมื่อหลายปีก่อน จนเฮงซือหยินต้องคิดอุบายว่าโจนน้ำตายไปพวกกังฉินจะได้สิ้นวิตก ฮ่องเต้ก็ตรัสว่าเพราะเราหลงเชื่อถ้อยคำเล่ากึน ขุนนางและราษฎรจึงได้ความเดือดร้อน มันไม่คิดถึงคุณกลับทรยศจะทำลายชีวิตเราเสีย และครั้งนี้เพราะเราผู้เดียว มาเที่ยวให้ผิดราชประเพณี จนท่านทั้งหลายพลอยได้ความลำบาก

จิวหยงก็ทูลว่าครั้งนี้ได้กวดยี่หลงเป็นกำลัง จึงกำจัดพวกโจรได้โดยง่าย ฮ่องเต้ก็รับสั่งว่าถ้ากลับไปเมืองหลวงจะปูนบำเหน็จรางวัลโดยควรแก่ความชอบ แล้วตั้งให้เฮงซือหยินเป็นแม่ทัพ จิวหยงกวดยี่หลงเป็นนายทหารใหญ่ซ้ายขวา เตรียมเครื่องสัตราวุธและฝึกทหารให้พร้อมไว้

ฝ่ายพวนอ๋องเจ้าเมืองฮูปัก เตรียมจัดกองทัพจะไปช่วยเล่ากึน โดยหาซื้อช้างมาได้หลายร้อยเชือก ให้หมอควาญฝึกหัดจนดุร้ายชำนาญในการกระบวนศึก ครั้นแจ้งในหนังสือฉบับที่สองของเล่ากึน ก็รีบยกกองทัพช้างไปถึงเมืองกังเหลงฮู้ เล่ากึนก็ต้อนรับเป็นอันดี พวนอ๋องพักอยู่หลายเวลาจนทหารหายเหนื่อยแล้ว ก็ยกกองทัพไปเมืองโซจิว ให้กิมเหงาเป็นทัพหน้า พวนอ๋องเป็นทัพหนุน เล่ากึนเป็นทัพหลัง เมื่อถึงก็ตั้งค่ายลงไว้มั่นคง แล้วก็ยกกองทัพช้างไปซุ่มไว้แต่เวลากลางคืน

ครั้นรุ่งเช้าเล่ากึนก็ให้กิมเหงาคุมไพร่พลไปร้องท้ารบที่หน้าเมืองโซจิว ฮ่องเต้ก็รับสั่งให้จิวหยง กวดยี่เหลงเป็นทัพหน้า เฮงซือหยินเป็นทัพหนุน ยกออกไปรบกับกิมเหงาได้ไม่กี่เพลง กิมเหงาก็ทำเสียทีถอยหนี จิวหยงกับกวดยี่เหลงก็ขับม้าไล่ตามไป เฮงซือหยินก็คุมทหารหนุนไปทางประมาณสามลี้

พวนอ๋องซึ่งซุ่มทัพอยู่ ก็ให้ทหารขับช้างออกเหยียบย่ำ ไล่แทงทหารเมือง โซจิวล้มตายลงเป็นอันมาก เฮงซือหยินจิวหยงและกวดยี่เหลงเห็นเช่นนั้น ก็ตกใจถอยทหารกลับ พวนอ๋องก็ขับทัพช้างไล่ตามบดขยี้มาจนถึงหน้าเมืองโซจิว แม่ทัพทั้งสามก็พาทหารที่เหลือหนีเข้าเมือง ปิดประตูลงเขื่อนไว้แน่นหนา

พวนอ๋องขับทัพช้างจะเข้าทำลายประตูเมือง ทหารบนเชิงเทินก็ยิงเกาทัณฑ์และคั่วกรวดทรายเทลงมาดังห่าฝน ถูกช้างและคนเจ็บป่วยเป็นอันมาก ต้องถอยกลับไป

แม่ทัพทั้งสามก็รีบไปเฝ้าฮ่องเต้ กราบทูลความตามที่เสียทีมา ให้ทรงทราบ แล้วทูลว่าศึกครั้งนี้เข้มแข็งนัก ด้วยพวกโจรมีทัพช้างเป็นกำลัง จะสู้รบซึ่งหน้าเห็นไม่ได้ ต้องคิดหาอุบายให้ชอบก่อนจึงจะมีชัยชนะ ฮ่องเต้ก็ตรัสว่าการครั้งนี้เรามอบให้ท่านทั้งสามปรึกษาหารือกัน เห็นควรประการใดก็แล้วแต่ท่าน ทั้งสามนายก็ถวายบังคมลากลับมาคิดอุบายที่จะกำจัดพวกโจรต่อไป

ฝ่าย โปยหิม กับ บ้วนยินเต็ก ได้ยินข่าวว่ากองทัพเมืองโซจิวเสียทีแก่พวกโจรซึ่งมีกองทัพช้าง โปยหิมจึงว่าฮ่องเต้หลงใหลเล่ากึนซึ่งเป็นขุนนางกังฉิน จึงได้ความเดือดร้อนแก่พระองค์ ไม่น่าปราณีเลย แต่เรารู้เหตุแล้วครั้นจะนิ่งเสีย ก็ผิดทางกตัญญูต่อแผ่นดินไป ส่วนเล่ากึนนั้นก็คิดทำร้ายบิดาถึงสิ้นชีวิตจึงมีความแค้นอยู่เป็นอันมาก

บ้วนยินเต็กจึงว่า ธรรมดาผู้ที่สัตย์ซื่อแต่โบราณ ย่อมถือการกตัญญูเป็นที่ตั้ง มิได้คิดอาฆาตพยาบาทต่อท่านผู้มีคุณ คือบิดามารดาและพระมหากษัตริย์เป็นต้น จึงจะมีความเจริญยืดยาวอยู่นาน ถ้าผู้ใดเป็นพาลคิดทำร้ายผู้มีพระคุณ ถึงตัวประกอบด้วยยศศักดิ์ และอำนาจวาสนาอันใหญ่ยิ่ง บริบูรณ์ทั้งทรัพย์สินสักเท่าใด ก็ไม่อาจสามารถจะถาวรอยู่ได้คงเสื่อมสูญไปเป็นแท้ ด้วยเหตุอกตัญญูเหมือนเล่ากึนนี้

พระเจ้าเจงเต็กฮ่องเต้ทรงชุบเลี้ยงเป็นขุนนางผู้ใหญ่ ไว้พระทัยเชื่อถือต่างพระเนตรพระกรรณ ให้ว่าราชการแผ่นดิน ก็ไม่สุจริตคิดแต่จะหาผลประโยชน์เงินทอง โดยไม่เห็นแก่พระมหากษัตริย์ที่พระราชทานยศศักดิ์ให้ ผิดประเพณีขุนนางที่ซื่อตรงแต่ก่อน ครั้นทรงทราบจึงจับตัวไปทำโทษ หนีได้กลับมีใจทรยศคิดร้ายต่อท่านผู้มีคุณ ก็พ่ายแพ้ไปครั้งหนึ่งแล้ว ยังมิหนำซ้ำชวนพวกพ้องยกมาทำร้ายอีก และว่า

".....ท่านกับข้าพเจ้ารู้แล้ว ต้องยกไปช่วยจึงจะว่ามีกตัญญูต่อแผ่นดินประการหนึ่งถ้ากำจัดเล่ากึนได้สมความคิด ก็เหมือนช่วยแก้แค้นแทนบิดา ชื่อเสียงก็จะปรากฏสืบไป....."

โปยหิมได้ฟังก็เห็นชอบด้วย บ้วนยินเต็กจึงให้คนใช้ไปจัดซื้อทองขาวมาได้มากแล้ว ให้ช่างหล่อเป็นรูปคน ข้างในนั้นโปร่งมีรอยต่อที่คอทุกรูป ได้ประมาณร้อยเศษ แล้วจึงตีกลองสัญญาเรียกไพร่พลมาพร้อม จัดกระบวนทัพให้โปยหิมเป็นกองหน้า นางมิหงวนกับนางซิวซุน ผู้น้องเป็นทัพหนุน ตัวบ้วนยินเต็กเป็นทัพหลวง ยกพลคุมรูปหล่อตั้งไปบนรถ เดินกองทัพลงจากเขาจูเลงซัวตรงไปเมืองโซจิว ตั้งค่ายอยู่นอกเมืองแล้วให้คนเข้าไปแจ้งแก่เฮงซือหยินแม่ทัพใหญ่

เฮงซือหยินก็มีความยินดีเปิดประตูเมืองรับไว้ โปยหิมกับบ้วนยินเต็กก็เข้าไปคำนับ และเล่าเรื่องหลังให้ทราบ แล้วก็พากันไปเฝ้าฮ่องเต้กราบทูลให้ทรงทราบทุกประการ

ฮ่องเต้ก็ตรัสแก่บ้วนยินเต็กและโปยหิมว่าแต่ก่อนไม่ทันตรองเพราะเชื่อฟังคนไม่สุจริต บิดาท่านทั้งสองจึงถึงแก่ความตาย โทษอยู่กับเราเป็นอันมาก และครั้งนี้เรามีความทุกข์ ท่านก็มิได้พยาบาทอาฆาตต่อเรา ชวนกันยกทัพมาช่วยด้วยใจกตัญญู สมควรที่เป็นชายชาติทหารเหล่ากอขุนนางสัตย์ซื่อมาแต่ก่อน มีความชอบต่อเราเป็นอันมาก ถ้ากำจัดพวกโจรเสร็จแล้ว กลับเข้าเมืองหลวงเราจะชุบเลี้ยงแต่งตั้งให้เป็นขุนนางสืบแซ่และตระกูลต่อไป
ทั้งสองนายก็ยินดีคุกเข่าลงถวายบังคมแล้วทูลลากลับไปค่าย

ครั้นวันรุ่งขึ้นเช้าเฮงซือหยินให้หานายทัพนายกองมาพร้อมแล้ว ปรึกษาว่าข้าศึกมีช้างเป็นกำลัง ท่านทั้งปวงจะคิดประการใดจึงจะสู้ทัพช้างได้ นายทัพนายกองทั้งปวงยังไม่เห็นอุบายอย่างไร ก็พากันนิ่งเฉยอยู่ แต่บ้วนยินเต็กกับโปยหิม เข้าไปใกล้เฮงซือหยินแล้วกระซิบแจ้งความตามอุบายให้ทราบ เฮงซือหยินก็ยินดีเป็นอันมาก สรรเสริญว่าท่านคิดทำมานี้ดีนัก สมควรที่จะเป็นนายทหาร ทำนุบำรุงแผ่นดินสืบไป

พอเวลาค่ำเฮงซือหยินจึงสั่งให้จิวหยงกับลีเหลง คุมทหารคนละหมื่นไปซุ่มอยู่หลังค่ายพวกโจร แล้วกำชับว่าถ้าพวกโจรแตกหนีจงตีซ้ำเติมฆ่าเสียให้สิ้น ให้กวดยี่หลงคุมทหารห้าพันไปท้ารบหน้าค่ายพวกโจรแล้วทำเสียทีถอยหนี ถ้าพวกโจรขับทัพช้างไล่ จงแบ่งให้ทหารหนีเข้าไปซ่อนตัวอยู่ตามชายป่า แม้ได้ยินปะทัดสัญญาจงเข้าระดมรบให้พร้อมกัน

ตัวเฮงซือหยินกับ บ้วนยินเต็กและโปยหิมนั้น คุมทหารสามหมื่นชักรถรูปหล่อเป็นทัพหนุน ให้ ซงโป คุมทหารอยู่รักษาเมือง พรุ่งนี้เช้าก็จะได้รู้กันว่าใครจะชนะ.

##########



Create Date : 13 มิถุนายน 2551
Last Update : 13 มิถุนายน 2551 11:51:26 น. 2 comments
Counter : 516 Pageviews.

 
emoต้องขอประทานโทษเพื่อนๆทุกท่านนะคะ

ช่วงนี้แม่โสมไม่มีเวลามากนัก เลยมิได้ มาเยี่ยมเยียน เซ เฮลโลแก่ญาติโยมเลย

วันนี้มาสวัสดีค่ะemo


โดย: โสมรัศมี วันที่: 13 มิถุนายน 2551 เวลา:16:53:03 น.  

 
ผมก็ต้องขออภัยต่อเพื่อนทุกท่านที่เช้ามาเยี่ยมบล็อกนี้

เพราะพันทิปงดแสดงความเห็นชิ้นสุดท้าย
จึงไม่ทราบว่าเรื่องใดมีผู้มาแสดงความคิดเห็นใหม่บ้าง

ก็เลยไม่ได้ตอบอย่างมันท่วงทีเหมือนก่อนครับ.


โดย: เจียวต้าย วันที่: 3 กรกฎาคม 2551 เวลา:21:01:19 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เจียวต้าย
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]




เชิญหารายละเอียดได้ ที่หน้าบ้านชานเรือนครับ
Friends' blogs
[Add เจียวต้าย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.