Group Blog
 
All Blogs
 
ตอนที่ ๑ หนุ่มชนบท

หลากชีวิตในพงศาวดารจีน

คนซื่อแห่งกังหนำ

ตอนที่ ๑ หนุ่มชนบท


เล่าเซี่ยงชุน

ในเมืองจีนสมัยราชวงศ์เหม็ง เริ่มตั้งแต่ พระเจ้าไทโจ๊เก๊าฮ่องเต้ เป็นปฐมวงศ์ แล้วสืบราชสมบัติต่อมาอีกเก้าองค์รวมเวลาถึงร้อยห้าสิบสามปี จึงถึง พระเจ้าเจงเต็กฮ่องเต้ ขึ้นเสวยราชย์เมื่ออายุได้สิบห้าปี มี เนียฉู เป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน ต่อมาอีกสามปี พระเจ้า เจงเต็ก ออกจากการไว้ทุกข์ให้ พระเจ้าฮงตีฮ่องเต้ พระราชบิดาแล้ว ก็ออกว่าราชการเอง แต่พระองค์ยังชอบการละเล่นต่าง ๆ เล่ากึน ขันทีได้จัดหาสตรีที่รูปงามสี่คน มาหัดขับร้องบำเรอถวายฮ่องเต้เป็นที่เพลิดเพลินพระทัย จึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นขุนนางรักษาพระองค์ และต่อมาก็ได้คบหาสนิทสนมกับพวนอ๋อง ซึ่งญาติวงศ์ของฮ่องเต้

วันหนึ่งเนียฉูซึ่งเป็นขุนนางตงฉินกราบทูลฮ่องเต้ว่า

".....ข้าพเจ้าพิเคราะห์ดูพวนอ๋อง ท่วงทีกลัวเกรงพระองค์แต่กิริยาภายนอก อันน้ำใจนั้นหาได้นับถือพระองค์โดยสุจริตไม่ นานไปเบื้องหน้าคงจะคิดการ เหมือนอย่างโจโฉครั้นแผ่นดินสามก๊ก ถ้ามิดังนั้นก็คงเหมือนอองมังครั้งแผ่นดินตั้งฮั่น.."

พระเจ้าเจงเต็กก็ปรึกษาว่าจะคิดการอย่างไร เนียฉูก็แนะให้ส่งตัวไปเป็นเจ้าเมืองฮูปัก พวนอ๋อง นั้นรักใคร่ชอบพอกับเล่ากึน เมื่อพวนอ๋องยกครอบครัวออกจากปักเกียเมืองหลวง เล่ากึนมีความอาลัยเป็นอันมากจึงตามไปส่ง พวนอ๋องก็สั่งความกับเล่ากึนว่า

".....ท่านกับเรารักใคร่กันสนิท ถ้าภายหลังจะคิดการสิ่งใดหรือเกิดเหตุขึ้นก็ดี จงเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน...."
เล่ากึนก็รับคำ

ต่อมาเล่ากึนทำอุบายจัดคนมาแกล้งจะทำร้ายฮ่องเต้ แล้วตนเองก็เข้าไปช่วยฆ่า คนร้ายตาย มีความชอบมาก โปรดตั้งให้เป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน เล่ากึนก็ทำนุบำรุงแต่ขุนนางกังฉิน ทำให้ราชการบ้านเมืองแปรปรวนไป ขุนนางตงฉินก็ลาออกไปหลายนาย แต่ฮ่องเต้ยังโปรดให้เนียฉูกับ หลีตังเอี๋ยง ขุนนางตงฉินเป็นขุนนางผู้ใหญ่อยู่ เล่ากึนจะทำการสิ่งใดก็ยังมีความเกรงกลัว ไม่อาจทำล่วงเกินไปได้

อยู่มาวันหนึ่งเล่ากึนก็กราบทูลขอเลื่อน เจียวฮอง ขุนนางผู้น้อยขึ้นเป็น ขุนนางผู้ใหญ่ฝ่ายทหาร เพื่อเอาไว้เป็นพรรคพวก เจียวฮองก็ประจบประแจงเล่ากึนแลช่วยเล่ากึนบำรุงบำเรอฮ่องเต้จนทรงโปรดอีกคนหนึ่ง

เล่ากึนนั้นเห็นฮ่องเต้โปรดปรานก็คิดการกำเริบเที่ยวหายามารักษาตัว จนเพศขันทีหายเป็นปกติ จึงสั่งคนใช้ให้จัดหาหญิงรูปงามเอามาไว้ที่เก๋งของตนหลายคน พระเจ้าเจงเต็กฮ่องเต้เสวยราชย์ต่อมาอีกหกปี บ้านเมืองก็ไม่มีความสุข ฟ้าฝนไม่ตกตามฤดูกาล ราษฎรทำนาไม่ได้ เกิดโจรผู้ร้ายชุกชุม

โจรก๊กหนึ่งมี เฮงตินพัว และน้องชายชื่อ เฮงขวน กับเพื่อนชื่อ จกยงปิว เกลี้ยกล่อมคนที่ขัดสนได้หลายพัน ตั้งอยู่ตำบลเขาแปะฮวยซึง คอยตีชิงชาวบ้านซึ่งไปมาค้าขายเนือง ๆ

ยังมีชายผู้หนึ่งชื่อ จิวหยง เกิดที่เมืองตันเพงจิว ซึ่งขึ้นอยู่กับเมืองกังหนำ ภายหลังบิดามารดาไปอยู่เมืองหงยุนกุ้ย จิวหยงเป็นมีพละกำลังแข็งแรง ได้เรียนวิชาเพลงอาวุธชำนิชำนาญ แต่เป็นพ่อค้าหาเลี้ยงชีวิตโดยยุติธรรม ครั้นอยู่มาบิดาถึงแก่กรรม จิวหยงก็เอาทรัพย์สินสิ่งของทำการฝังศพบิดาจนสิ้น ยังแต่มารดาขัดสนยากจนนัก ไม่มีญาติพี่น้องอุปถัมภ์ จิวหยงมีความกตัญญูอุตส่าห์ไปตัดฟืนขาย พอได้ซื้อหาอาหารเลี้ยงกัน

อยู่มาไม่นานมารดาก็ถึงแก่กรรมลงอีก เงินทองที่จะใช้สอยในการศพก็ไม่มี จึงเอาของเล็กน้อยในเรือนไปขาย ได้เงินสามตำลึงกึ่งห่อกระดาษเหน็บไว้ แล้วรีบเดินจะไปซื้อโลงใส่ศพ มาถึงเชิงเขาอายเฮียซัวไม่ทันรู้ว่าห่อเงินตกลง ก็เดินเลยไปอย่างรีบเร่ง

ในขณะนั้นชายผู้หนึ่งเป็นชาวเมืองหงยุนกุ้ย จูงกระบือเดินผ่านมา เห็นห่อเงินตกอยู่ ก็หยิบขึ้นมาดูเห็นเงินสามตำลึงกึ่ง คิดว่าชายเจ้าของเงินนี้ คงมีเหตุร้ายเป็นทุกข์ร้อนสักอย่างหนึ่ง จึงเดินรวดเร็วสีหน้าตาซีดโศกเศร้าผิดปกติ ครั้นจะกลับไปบ้าน เจ้าของเงินมาหาเงินไม่พบจะได้ความเดือดร้อน ถ้ากลับมาจะได้ถามดูให้รู้ร้ายดีจึงคอยอยู่ที่นั่น

ฝ่ายจิวหยงเมื่อมาถึงบ้านแล้ว ดูเงินที่ห่อผ้าไม่พบก็เสียใจร้องไห้ เดินกลับไปตามทางเที่ยวหาห่อเงิน จนถึงที่นั้นชายที่เก็บเงินก็เข้าไปใกล้ ถามว่าของอะไรของท่านหาย ดูกิริยาทุกข์ร้อนด้วยเหตุสิ่งใด จิวหยงก็เล่าเรื่องบิดาตาย แลมารดายากจนก็มาตายลงอีก มีของเล็กน้อยขายได้เงินสามตำลึงกึ่ง จะเอาไปทำการฝังศพมารดาเดินมาทางนี้ก็ไม่รู้ว่าตกเสียที่ไหน จะยืมเงินทองผู้ใดก็ไม่มี เล่าแล้วก็ร้องไห้ ชายผู้นั้นก็บอกว่า

".....เงินของท่านหายนั้นอย่าเป็นทุกข์ ข้าพเจ้าเก็บไว้ได้..."

ว่าแล้วก็หยิบห่อเงินส่งให้ จิวหยงรับแล้วแก้ดูเห็นเงินอยู่ครบ ก็ยินดีนัก คำนับแล้วว่า

"....ขอบใจท่านซึ่งมีความกรุณาคืนเงินให้ข้าพเจ้านี้ พระคุณเป็นที่ยิ่ง ท่านแซ่ใดชื่อไรบ้านอยู่ที่ไหน เมื่อสิ้นธุระแล้วจะได้กลับมาแทนคุณ...."

ชายผู้นั้นก็บอกว่าชื่อ กิมเหงา บ้านอยู่ริมเขานี้ ท่านแซ่ไรชื่อใด อยู่ที่ไหน การเล็กน้อยไม่ควรจะตอบแทน จิวหยงก็บอกชื่อแซ่แล้วก็ว่าท่านมีคุณมาก เพราะได้ช่วยสงเคราะห์เมื่อ คราวขัดสน กิมเหงาจึงว่า

".....ท่านมีกตัญญูต่อมารดาเราอยากจะเป็นไมตรี เวลาพรุ่งนี้จะจัดของไปช่วยเซ่นศพมารดาท่าน..."

พูดแล้วต่างก็คำนับลากันไป จิวหยงมาถึงตลาดก็ซื้อโลงศพและเสื้อกางเกงใส่ศพมารดา ครั้นรุ่งขึ้นกิมเหงาก็หาบสิ่งของมาถึงบ้านจิวหยง เซ่นศพมารดาแล้ว จิวหยงก็ฝังศพมารดาไว้ริมเขา ตั้งแต่นั้นมาทั้งสองก็เป็นไมตรีไปมาหากันเนือง ๆ

กิมเหงานั้นเป็นคนยากจน แต่มีพละกำลังแข็งแรง เที่ยวรับจ้างเลี้ยงกระบือ ภรรยาชื่อ เฮงสี มีรูปงาม ผัวเมียสองคนได้หัดวิชาเพลงอาวุธแคล่วคล่องว่องไว นางเฮงสีอุตส่าห์ปฏิบัติสามีมิให้อนาทร บางวันหาได้น้อยซื้ออาหารไม่พอ ก็ให้แต่สามีกิน ส่วนตัวสู้อดทนเอาใจสามีมิให้ขัดเคืองสิ่งใดได้

เมื่อกิมเหงากับจิวหยงคบหากันนานเข้า ก็สาบานเป็นพี่น้องเหมือนร่วมบิดามารดา หาเงินได้ก็แบ่งปันใช้สอยไม่คิดเสียดาย ต่างก็รักใคร่กันสนิท

วันหนึ่งกิมเหงาไล่ต้อนฝูงกระบือมากินหญ้าอยู่ริมเขาอายเฮียซัว ขณะที่จะกลับบ้าน ได้ยินเสียงม้าและคนอื้ออึง กระบือก็ตกใจตื่นเชือกขาดวิ่งผ่าเข้าไปในกองทหารสองตัว พวกทหารก็ตกใจหลบหนีกันอลหม่าน กิมเหงาก็วิ่งตามไปเอามือจับกระบือข้างละตัว กระบือทั้งสองตัวก็ดิ้นไม่หลุด กิมเหงาจึงพามาผูกไว้ที่เดิม

กองทัพนั้นเจียวฮองเป็นแม่ทัพ ยกมาจากเมืองหลวงติดตามจับตัวสองพี่น้อง ชายหญิงชื่อ โปยหิม กับ นางมิหงวน บุตรของ ตังเทงอุน ขุนนางผู้ใหญ่ที่ถูกลิ่วล้อของเล่ากึนทำร้ายสาหัส จนเจ็บแค้นเอาศรีษะฟาดเสาพระราชวังถึงแก่ความตาย และ นางเฮียบสี มารดาก็เสียใจจนสลบและขาดใจตายไปอีกคน

ทั้งสองพี่น้องมีความรู้ศึกษาตำราพิชัยสงครามและฝึกหัดเพลงอาวุธ ขี่ม้าได้แคล่วคล่องชำนาญ จึงพากันเข้าไปในวังจะฆ่าเล่ากึน แต่ไม่พบจึงตามไปอาละวาดถึงหน้าที่ประทับของฮ่องเต้ข้างใน และฆ่าขุนนางผู้ใหญ่พวกของเล่ากึน ซึ่งร่วมโต๊ะเสวยกับฮ่องเต้ ตายไปสองคน

และต่อสู้กับทหารรักษาพระองค์บาดเจ็บอีกหลายคน จนเนียฉูต้องรีบเข้ามาห้ามปราม และบอกให้หนีออกจากเมืองหลวง ฮ่องเต้จึงสั่งให้เจียวฮองคุมทหารสองพัน ติดตามจับตัวสองพี่น้องมาลงโทษให้ได้ เจียวฮองจึงนำทหารมาทางเมืองหงยุนกุ้ย และพักพลอยู่จนได้พบกับ กิมเหงา

เจียวฮองเห็นว่ากิมเหงามีกำลังเข้มแข็งก็ยินดี ใช้ให้ทหารไปเรียกมา กิมเหงามาถึงคุกเข่าลงคำนับ เจียวฮองจึงถามชื่อแซ่ กิมเหงาก็บอกให้และรับผิดว่า

".....ซึ่งกระบือตื่นเข้ามาในกองทัพให้ท่านตกใจนั้นมีความผิด ขอจงงดโทษข้าพเจ้าสักครั้งหนึ่ง...."

เจียวฮองจึงว่ากระบือเป็นสัตว์เดียรัจฉานจะเอาผิดอย่างไร แล้วถามว่าได้ร่ำเรียนเพลงอาวุธหรือเปล่า กิมเหงาก็ว่าได้ศึกษารู้อยู่บ้าง เจียวฮองจึงว่าเป็นผู้มีกำลังและฝีมือ เหตุใดจึงไม่ทำราชการให้ชื่อเสียงปรากฎไว้

กิมเหงาก็ว่าอยากจะทำแต่ขัดผู้ที่จะสงเคราะห์พาไป เจียวฮองคิดจะได้กิมเหงาไว้ใช้เป็นกำลังของตนและเล่ากึนต่อไป จึงว่าจะพาเข้าทำราชการจะสมัครไปด้วยหรือไม่ กิมเหงาก็ยินดีที่จะไปรับใช้ตามแต่จะกรุณา เจียวฮองก็สั่งทหารให้ยกกลับเมืองหลวง กิมเหงาก็คำนับบอกว่า

"....เชิญท่านยกไปก่อนเถิด ข้าพเจ้าจะเอากระบือไปส่งให้เจ้าของ แล้วจะตามไปภายหลัง..."

เมื่อกิมเหงากลับไปถึงบ้านก็เล่าความให้นางเฮงสีฟังทุกประการ แล้วสั่งให้นางรักษาตัวและเอาใจใส่ในบ้านเรือนให้ดี เมื่อทำราชการได้เป็นที่ขุนนางวันใด จะใช้คนออกมารับไปอยู่ด้วยให้มีความสุข นางเฮงสีจึงว่า

"...ถ้าท่านได้ดีแล้วกลัวจะลืมข้าพเจ้าเสีย การบ้านเรือนนั้นข้าพเจ้าจะรับเป็นธุระ ท่านอย่าวิตกเลย....."

กิมเหงาได้ฟังก็หัวเราะ แล้วเข้าไปในเรือน คุกเข้าลงคำนับที่ป้ายชื่อบิดามารดา แล้วกลับมาลานางเฮงสี นางก็ตามไปส่งถึงนอกประตู กิมเหงาก็รีบไปหาจิวหยงที่บ้าน แล้วแจ้งความให้ฟังโดยตลอด จิวหยงก็ยินดีพูดว่า

".....ครั้งนี้พี่อุตส่าห์เข้าไปทำราชการในเมืองหลวง น้องจะคอยฟังข่าว ถ้าพี่ได้ดีเจริญขึ้นข้าพเจ้าจะพลอยได้ความสุขด้วย..."

กิมเหงาก็ว่าถ้าความสมคิดก็จะได้ชักนำจิวหยง ให้เข้าทำราชการด้วยกัน แล้วก็รีบเดินทางเข้าเมืองหลวง

เพื่อนร่วมสาบานทั้งคู่จึงต้องแยกกัน แต่ชตาชีวิตของกิมเหงาได้เข้าไปเป็นพวกพ้องของฝ่ายกังฉิน แล้วจะเป็นอย่างไรต่อไปในภายหน้า.

##########

นิตยสารโล่เงิน
พฤศจิกายน ๒๕๔๒

















Create Date : 24 พฤษภาคม 2551
Last Update : 24 พฤษภาคม 2551 8:35:03 น. 3 comments
Counter : 1078 Pageviews.

 


โดย: คนสาธารณะ วันที่: 24 พฤษภาคม 2551 เวลา:9:06:30 น.  

 
สวัสดียามเช้าค่ะคุณเจียวต้าย


โดย: teansri วันที่: 24 พฤษภาคม 2551 เวลา:9:22:38 น.  

 
ขอบคุณ คุณคนสาธารณะ

และคุณเทียนสีครับ.


โดย: เจียวต้าย วันที่: 25 พฤษภาคม 2551 เวลา:20:12:26 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เจียวต้าย
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]




เชิญหารายละเอียดได้ ที่หน้าบ้านชานเรือนครับ
Friends' blogs
[Add เจียวต้าย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.