Group Blog
 
All Blogs
 
ตอนที่ ๑๗ ดอกไม้วิเศษ

หลากชีวิตในพงศาวดารจีน

คนซื่อแห่งกังหนำ

ตอนที่ ๑๗ ดอกไม้วิเศษ

" เล่าเซี่ยงชุน "

ตำบลนำเล่าติ๋นที่ พระเจ้าเจงเต็กฮ่องเต้ ประทับพักแรมอยู่กับ นางลีฮอง และ ลีเหลง พี่ชายนั้นอยู่ในแขวงเมืองโซจิว เมืองนี้มีขุนนางเก่าครั้งฮ่องเต้องค์ก่อนผู้หนึ่งชื่อ ซงฮำฮือ เดิมทำราชการเป็นเจ้าเมืองอวดไซ แต่โบราณนั้นชาวเมืองนี้ยากจนนัก ถ้าเกิดบุตรเป็นหญิงก็ฆ่าเสีย เพราะเห็นว่าไม่ได้ทำการงานสิ่งใด นอกจากการเย็บปักถักร้อยและขับร้อง นอกนั้นเป็นการของชายทั้งสิ้น

ซงฮำฮือก็มีใจสังเวชเป็นอันมาก จึงชี้แจงกรมการและนายบ้านว่า คนเกิดมาทุกวันนี้หญิงก็ดีชายก็ดี มีทรัพย์และขัดสน มียศและหายศมิได้ ต่างก็เป็นมนุษย์เหมือนกันทั้งสิ้น ฆ่าบุตรหญิงเสียไม่คิดถึงตัวบ้าง ไม่มีหญิงแล้วจะหาภรรยาได้ที่ไหน ทำดังนี้เป็นการตัดพืชพันธุ์เสียไม่สมควร

แล้วซงฮำฮือก็ปลูกโรงสำหรับเลี้ยงเด็ก ถ้าผู้ใดมีบุตรหญิงให้เอามาไว้ที่โรงนี้ และจ้างหญิงที่ลูกอ่อนมีน้ำนมมาเลี้ยงทารกที่ถูกทิ้งนั้น ครั้นเติบใหญ่ชายผู้ใดมาขอไปเป็นภรรยา ก็คิดค่าจ้างให้แม่นมตามสมควร และห้ามมิให้เอาหญิงนั้นไปขายต่อ ถ้าไม่ฟังจะทำโทษอย่างหนัก

ราษฎรจึงรักใคร่นับถือเป็นอันมาก ผู้ที่มีปัญญาพากันสรรเสริญว่า ตั้งอยู่ในยุติธรรมจัดการถูกต้องตามประเพณี ควรที่จะเป็นเจ้าบ้านผ่านเมือง ซงฮำฮือประพฤติแต่การดีมีความเจริญ ทรัพย์สมบัติก็บริบูรณ์ ภายหลังได้เลื่อนที่ เป็นขุนนางผู้ใหญ่ฝ่ายทหาร รับราชการสืบมาจนชราลง จึงทูลลากลับมาอยู่ที่บ้านเดิมที่เมืองโซจิวนี้

ซงฮำฮือมีภรรยาชื่อ นางอังสี บุตรชายคนโตอายุยี่สิบแปดปีชื่อ ซงกิม เฉลียวฉลาดเรียนหนังสือได้มาก เข้าไปไล่ได้ที่จีนสือ บุตรชายคนที่สอง อายุยี่สิบเอ็ดปีชื่อ ซงโป มีฝีมือกำลังเข้มแข็ง ฝึกหัดเพลงอาวุธชำนิชำนาญ

บุตรหญิงชื่อ นางฉายเหีย อายุได้สิบหกปี มีรูปงามกิริยาเรียบร้อย พูดจาอ่อนหวาน มีปัญญามากรู้หนังสือลึกซึ้ง จะทำสิ่งใดก็ชอบใจบิดาทุกประการ ซงฮำฮือรักใคร่ยิ่งนัก

บัดนี้ซงฮำฮืออายุครบแปดสิบเอ็ดปี จึงทำการแซยิดใหญ่ บรรดาญาติพี่น้องและมิตรสหายที่ใกล้และไกลก็มาพร้อมกันคำนับ ซงฮำฮือก็จัดโต๊ะเลี้ยงและต้อนรับเป็นอันดี ขณะนั้นผู้รักษาสวนดอกไม้เข้ามาแจ้งว่า ในสระบัวมีดอกไม้ประหลาดเกิดขึ้นที่กลางสระ สูงประมาณสองศอกเศษ ยังตูมอยู่โตสักสามกำ กลีบนั้นมีสีต่าง ๆ ถึงห้าสีดู งดงามนัก

ซงฮำฮือได้ฟังก็คิดว่า แต่ก่อนมาบัวในสระมีแต่สีแดงกับขาว ยังไม่ปรากฎว่ามีสีประหลาดอย่างนี้ จึงชวนบุตรภรรยาลงไปดู คนทั้งปวงก็ตามไปด้วยเป็นอันมาก เห็นดอกไม้ประหลาด ดุจคำที่ผู้รักษาสวนกล่าว ซงฮำฮือจึงเข้าไปใกล้พิเคราะห์ดู ก็ไม่รู้ว่าเป็นดอกอะไร แต่กลิ่นหอมยิ่งกว่าดอกไม้ทั้งปวงที่บาน มาตรว่าผู้ใดมีทุกข์ร้อนพอได้กลิ่นก็จะชื่นใจคลายความทุกข์โดยแท้

ซงฮำฮือจึงถามผู้เฒ่าที่เข้าใจในดอกไม้ และรู้หนังสือลึกซึ้งว่าดอกไม้นี้ชื่อใด ผู้เฒ่าทั้งปวงก็ไม่มีผู้ใดรู้ จึงว่าดอกไม้ประหลาดอย่างนี้ก็คงจะเป็นของวิเศษ

แต่เมื่อพูดกันอยู่นั้น หลวงจีนองค์หนึ่งเดินมา กิริยาแปลกกว่าคนทั้งปวง หยุดยืนอยู่ตรงหน้าซงฮำฮือ ชี้มือตรงดอกไม้แล้วว่า

"....มังกรมาทั้งนี้เพราะปรารถนาหาคู่ทางไกล ถ้าพบหงส์เมื่อไรจึงจะได้มีความสุข สมควรที่เป็นกษัตริย์....."

ซงฮำฮือได้ยินหลวงจีนพูดประหลาด จึงเข้าไปคำนับแล้วถามว่า ท่านเป็นผู้มีปัญญายังรู้จักชื่อดอกไม้นี้บ้างหรือ โปรดบอกให้ข้าพเจ้าทราบด้วย หลวงจีนจึงว่า

".....ดอกไม้นี้เทวดาตั้งชื่อเรียกดอกเขง แม้นเกิดขึ้นบ้านใด มีหญิงรูปงามอยู่ที่นั่น ถ้าบานวันใดก็จะได้ผัวดี ดอกไม้นี้เกิดขึ้นโดยยาก ด้วยเป็นของวิเศษเหมือนหนึ่งเทวดานิมิตให้ เพราะท่านทำความดีไว้ดอกเขงจึงเกิดขึ้น บอกเหตุว่าท่านจะบริบูรณ์สืบแซ่ไปหลายชั่ว ข้าพเจ้าพิเคราะห์ดูดอกเขงนี้ ต่อพระมหากษัตริย์เสด็จมา ถึงนี่จึงจะบานโดยง่าย ท่านจงระวังรักษาไว้ ล่วงไปอีกเจ็ดวันก็จะเห็นความเท็จ และจริงของเรา....."

ซงฮำฮือได้ฟังก็มีความยินดี สั่งคนใช้ให้จัดอาหารเจมาเลี้ยงหลวงจีน แต่หลวงจีนก็หายไปเสียแล้ว ซงฮำฮือเห็นดังนั้นจึงคิดว่าหลวงจีนนี้ชะรอยจะเป็นเทวดา มาช่วยชี้แจงแนะนำให้ คิดแล้วจึงสั่งคนใช้จัดดอกไม้ธูปเทียนและเครื่องบูชา มาตั้งไว้ที่กลางแจ้งคำนับเทพยดา

เสร็จแล้วซงฮำฮือคิดถึงคำของหลวงจีนที่ว่า ดอกเขงนี้ต่อพระมหากษัตริย์เสด็จมาจึงจะบาน ทุกวันนี้ได้ยินข่าวพระเจ้าเจงเต็กฮ่องเต้ เสด็จเที่ยว ณ เมืองกังหนำ ทำโทษขุนนางที่ไม่สุจริต และคนพาลร้ายกาจเสียมาก เห็นจะเสด็จมาถึงนี่ดอกกระมัง ทำไฉนจะรู้

ซงฮำฮือจึงคิดอุบายอย่างหนึ่ง ให้ป่าวร้องแก่ชาวบ้านที่ใกล้และไกลว่า ดอกเขงนี้เป็นของวิเศษ ยากที่ผู้ใดจะได้เห็น ถ้าใครอยากจะดูจงรีบมาโดยเร็ว แล้วก็เขียนหนังสือปิดไว้ที่เก๋งเล็กริมสระฉบับหนึ่ง มีความว่าถ้าผู้ใดกระทำให้ดอกเขงบานได้ ไม่เลือกว่าไพร่และผู้ดี จะยอมยกบุตรสาวให้เป็นภรรยา

กิตติศัพท์ก็เลื่องลือไป ขุนนางและราษฎรในเมืองโซจิว และเมืองอื่นที่ไกล ๆ ก็พากันมาชมเล่นเป็นอันมาก ซงฮำฮือ ก็รับรองเลี้ยงตามสมควร อยู่มาหลายวันก็ไม่มีผู้ใดกระทำให้ดอกเขงบานออกได้ กลีบยิ่งชิดตูมมากขึ้นกว่าเก่า

ฝ่ายลีเหลงเฝ้ารักษาพระเจ้าเจงเต็กฮ่องเต้อยู่ที่บ้าน คอยท่าจิวหยงหลายวันยังไม่กลับมาก็ให้รำคาญใจ จึงออกไปเที่ยวเล่นที่ถนนหน้าเมือง ได้ยินคนเดินทางพูดกันว่า ที่บ้านซงฮำฮือในเมืองโซจิว เกิดดอกไม้ประหลาดขึ้นในสระ แต่ยังตูมอยู่ซงฮำฮืออยากจะให้บานจึงประกาศว่า ถ้าผู้ใดทำดอกไม้นั้นให้บานได้ จะยกบุตรสาวให้เป็นภรรยา ก็กลับมากราบทูลให้ฮ่องเต้ได้ทรงทราบ

ฮ่องเต้ก็ตรัสถามว่าบุตรสาวของซงฮำฮือนั้นงามอยู่หรือ ลีเหลงก็กราบทูลว่าได้ยินเขาเล่าลือกันว่างามนัก ฮ่องเต้ได้ฟังก็มีพระทัยยินดี อยากจะเสด็จไปทอดพระเนตร

นางลีฮองก็ทูลว่า

"......เมื่อขณะจิวหยงจะไปได้กราบทูล และสั่งข้าพเจ้าไว้ว่า อย่าให้พระองค์เสด็จไปที่อื่น กลัวจะเป็นอันตราย ขอพระองค์อย่าเสด็จไปเลย ซึ่งข้าพเจ้าทูลทัดทานดังนี้ด้วยใจรักภักดีโดยสุจริต ถ้าไม่ทรงเชื่อถือขืนเสด็จไป แม้นมีภัยสิ่งใดขึ้น จิวหยงจะติโทษข้าพเจ้า....."

ฮ่องเต้ก็ทรงพระสรวลแล้วตรัสว่า

".....เราเป็นกษัตริย์อันใหญ่ จะไปสู่ที่ใดย่อมมีเทวดารักษา ประการหนึ่งลีเหลงมีกำลังเข้มแข็งพอจะป้องกันอันตรายได้ เจ้าอย่าวิตกเลยเราไปไม่ช้าจะกลับมา....."

แล้วก็ตรัสสั่งลีเหลงให้นำทางไปเมืองโซจิว ลีเหลงจะทูลทัดทานก็กลัวจะมีความผิด จำเป็นต้องรับคำสั่ง ฮ่องเต้กับลีเหลงจัดแจงแต่งกายเสร็จ แล้วกำชับสั่งนางลีฮองให้รักษาโรงเตี๊ยม และตรัสว่าอย่าพูดจาให้ความแพร่งพรายไป แล้วจึงชวนลีเหลงเดินไปถึงเมืองโซจิว พอเวลาพลบก็อาศัยอยู่ที่โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง

ครั้นรุ่งเช้าเห็นคนเดินผ่านหน้าโรงเตี๊ยม พูดกันว่าจะไปดูดอกเขงบ้านซงฮำฮือ ฮ่องเต้กับลีเหลงก็ออกจากโรงเตี๊ยม เดินปนไปกับราษฎรทั้งปวงจนถึงบ้านซงฮำฮือ เห็นคนมาดูเป็นอันมากยืนล้อมอยู่รอบสระ ฮ่องเต้ก็เสด็จขึ้นไปบนเก๋งเล็กเห็นมีหนังสือปิดอยู่ฉบับหนึ่ง ทรงอ่านทราบความจริงตามที่เล่าลือทุกประการ

พอดีเห็นผู้เฒ่าคนหนึ่งหนวดยาวถึงอกนั่งเก้าอี้บนเก๋งมีคนใช้อยู่สองข้าง แน่ใจว่าเป็นซงฮำฮือจึงเสด็จเข้าไปคำนับ ซงฮำฮือก็ลุกขึ้นต้อนรับและจัดที่นั่งให้ตามสมควรแล้วถามว่าท่านมาแต่ไหน

ฮ่องเต้บอกว่าข้าพเจ้ามาแต่เมืองหลวง ซงฮำฮือพิเคราะห์ดูเห็นรูปร่างลักษณะงามประหลาดกว่าคนทั้งปวง จึงถามว่าอยากจะดูดอกเขงหรือ ข้าพเจ้าจะพาลงไปริมขอบสระ จะได้เห็นกลีบและสีชัดเจน ฮ่องเต้ก็รับคำ ซงฮำฮือจึงพาฮ่องเต้และลีเหลงไป

ฝ่ายคนทั้งหลายที่ยืนดูดอกเขงอยู่เป็นอันมาก เห็นเจ้าของบ้านมาก็หลีกทางให้ ซงฮำฮือจึงนำฮ่องเต้กับลีเหลงเข้าไปถึงริมสระแล้วชี้มือให้ดู ฮ่องเต้ทอดพระเนตรเห็นดอกเขงงามประหลาดกว่าดอกไม้ทั้งปวง จึงตรัสถามว่าดอกไม้นี้เกิดขึ้นได้สักกี่เวลา

ซงฮำฮือบอกว่าเกิดขึ้นมาได้เจ็ดวันแล้ว ฮ่องเต้จึงทรงอธิษฐานในพระทัยว่า ถ้านางฉายเหียกับข้าพเจ้าเคยเป็นคู่กันแล้ว ข้าพเจ้าจะเรียกดอกเขงนี้ ขอเทพยดาจงดลบันดาลให้ดอกเขงบาน ดังคำข้าพเจ้าประจักษ์แก่ตาคนทั้งหลาย

ทรงอธิษฐานแล้วก็โบกพระหัตถ์ ตรัสว่า ดอกเขงเทพยดาจงบานออกโดยเร็วเถิด พอสิ้นคำลงดอกเขงก็บานในทันใด เกสรในมีกลิ่นหอมตระหลบไปทั่วทั้งบริเวณบ้าน คนทั้งปวงเห็นดังนั้นก็อัศจรรย์ใจ ต่างคนคิดว่าชายหนุ่มคนนี้มีอำนาจมากจึง เรียกดอกไม้ตูมให้บานได้ มาแต่ไหนหนอน่าสงสัยนัก

แต่ซงฮำฮือนั้นตกใจ คุกเข่าลงคำนับทูลขอโทษว่า

".....ข้าพเจ้าไม่รู้ว่าบั้นโซ้ยเสด็จมา จึงมิได้รับรองให้สมควร ขอพระองค์ทรงพระเมตตาอย่าถือโทษข้าพเจ้าเลย....."

ฮ่องเต้ได้ทรงฟังซงฮำฮือทูลดังนั้น ก็แน่พระทัยว่าซงฮำฮือรู้ชัดว่าพระองค์เป็นกษัตริย์โดยแท้ จะปิดความไว้เห็นจะไม่ได้ จึงตรัสถามว่าเหตุไฉนท่านจึงรู้ว่าเราเป็นกษัตริย์ ซงฮำฮือก็ทูลเล่าความที่เทวดาเป็นหลวงจีนมาบอกนั้นทุกประการ

ฮ่องเต้จึงตรัสสั่งให้ซงฮำฮือลุกขึ้นนั่งอยู่ตามสมควร คนที่มาดูดอกเขงเป็นอันมากพอรู้ว่าชายหนุ่มนั้นคือฮ่องเต้ ก็คุกเข่าลงคำนับพร้อมกันแล้วต่างก็กลับไปบ้าน ซงฮำฮือก็เรียกบุตรภรรยาออกมาถวายบังคมพระเจ้าเจงเต็กฮ่องเต้

พระองค์จึงตั้งให้นางฉายเหียเป็นกุยฮุยหรือสนมเอก ซงฮำฮือก็จัดโต๊ะมาตั้งทูลเชิญฮ่องเต้เสวย แล้วก็พักอยู่ที่บ้านซงฮำฮือ

กิตติศัพท์ทราบถึงขุนนางผู้น้อยผู้ใหญ่ในเมืองโซจิวก็พากันมาเฝ้า ต่อมาเจ้าเมือง กรมการก็จัดทหาร มาตั้งกองป้องกันรักษาตามประเพณี ฮ่องเต้ก็ทรงสำราญพระทัยอยู่กับนางฉายเหียหลายเวลา

##########



Create Date : 10 มิถุนายน 2551
Last Update : 10 มิถุนายน 2551 8:43:03 น. 0 comments
Counter : 418 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เจียวต้าย
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]




เชิญหารายละเอียดได้ ที่หน้าบ้านชานเรือนครับ
Friends' blogs
[Add เจียวต้าย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.