Group Blog
 
All Blogs
 
ตอนที่ ๑๕ โจรตงฉิน

หลากชีวิตในพงศาวดารจีน

คนซื่อแห่งกังหนำ

ตอนที่ ๑๕ โจรตงฉิน

" เล่าเซี่ยงชุน "

ฝ่าย พระเจ้าเจงเต็กฮ่องเต้ กับ จิวหยง ก็เดินทางต่อไปจนถึงที่แห่งหนึ่ง มีภูเขาสูงใหญ่ต้นไม้รกชัฏ ใบหนาชิดจนแสงแดดไม่ส่องได้ ดูเยือกเย็นน่ากลัว จึงตรัสถามจิวหยงว่า ตำบลนี้ชื่อไรมีโรงเตี๊ยมและบ้านคนอาศัยหรือไม่ ท่านเคยอยู่แขวงเมืองนี้คงจะทราบ

จิวหยงทูลว่าเขานี้ชื่อเขาธอฮวยซัว หน้าเขาข้างโน้นคือตำบลนำเล่าติ๋น มีบ้านเรือนมากทั้งตลาดขายของ ก็มีบริบูรณ์ แต่ในหว่างเขานั้นมีนายโจรผู้หนึ่งมีฝีมือรบพุ่งเข้มแข็ง ซ่องสุมไพร่พลไว้มาก สร้าง เหย้าเรือนครึกครื้น ที่ทำเลเที่ยวเล่นก็สนุกสนาน แล้วประพฤติการประหลาดกว่าโจรทั้งปวง ถ้าคนใกล้เคียงและเพื่อนบ้าน ก็ไม่ทำอันตราย หรือลูกค้าวาณิชที่เที่ยวค้าขายก็มิได้ข่มเหง ราษฎรเดินไปมาตามทางโดยสุจริต ก็ไม่เบียดเบียนให้ได้ความเดือดร้อนสิ่งใด

ใช้แต่คนไปเที่ยวสืบตาม หัวเมืองใหญ่น้อยทุกตำบล
ถ้าเห็นขุนนางและเจ้าเมืองคนไหน ที่ไม่ซื่อตรงสุจริต จะเข้าไปเมืองหลวงหรือไปตำบลใด ก็คุมพรรคพวกออกคอยสกัดอยู่ แย่งชิงเอาสิ่งของและทุบตีให้ได้ความเจ็บอายต่าง ๆ แม้นสู้รบดื้อดึงไปก็ฆ่าเสีย ถ้ารับผิดโดยดีก็สั่งสอนให้ตั้งอยู่ในยุติธรรมแล้วปล่อยตัวไป

ภายหลังใช้คนไปสืบดูรู้ว่าผู้นั้นละพยศอันร้าย จึงให้คนคุมสิ่งของไปคืนให้ แม้นไม่ทิ้งความชั่วก็ลอบไปฆ่าเสียจงได้

ถ้ามีโจรพวกอื่นมาแย่งชิงผู้เดินทางในตำบลนี้ แม้นผู้ใดขึ้นไปบอกก็ออกเงินใช้แทนให้ผู้ถูกปล้น ภายหลังก็คิดอ่านสืบจับโจรที่ปล้นชิงมาทำโทษจงได้ จึงไม่มีโจรพวกใดที่จะมาเบียดเบียนในแขวงนี้เป็นอันขาด เกรงอำนาจนายโจรบนเขาทั้งสิ้น

ถ้าชาวบ้านที่อยู่ตำบลนี้วิวาทข่มเหงกัน ผู้ใดขึ้นไปฟ้องนายโจรช่วยว่ากล่าวให้แล้วโดยยุติธรรม ถ้ามิฟังก็ทำโทษจนเข็ดหลาบแล้วปล่อยตัวไป เจ้าเมืองฝ่ายทิศนี้ที่สัตย์ซื่อ ให้คนมาเกลี้ยกล่อมหลายครั้ง จะเอาไปตั้งให้เป็นขุนนาง นายโจรไม่ยอม

แล้วว่าเมื่อใดต้นไผ่ออกดอก จึงจะเข้าทำราชการ เจ้าเมืองทั้งปวงก็จนใจ ถ้าถึงปีพวกราษฎรพากันเรี่ยรายเงินไปให้นายโจร พอใช้สอยทุกปี

ฮ่องเต้ได้ทรงฟังก็ถอนพระทัยแล้วตรัสว่า

".....เห็นขุนนางที่เป็นกังฉิน จะข่มเหงนายโจรนี้ ให้ได้ความเดือดร้อนเป็นมั่นคง จึงหนีมาตั้งซ่องสุมอยู่ที่นี่ไม่คิดทำราชการ ถ้าเป็นโจรแท้แล้วคงเบียดเบียนราษฎรต่าง ๆ....."

เมื่อรับสั่งกับจิวหยงนั้น ได้ยินเสียงคนในป่าพูดกันว่า รีบไปบอกนายโจรโดยเร็ว เห็นจะเป็นสองคนนี้แล้ว พอดีได้ยินเสียงประทัด แลเห็นพวกโจรขี่ม้าลงมาจากเขาเป็นอันมากฮ่องเต้ก็ตกพระทัย จิวหยงทูลว่าเชิญพระองค์รีบเสด็จไปก่อน เลี้ยวข้างหน้าเขามีทางใหญ่ตรงไปตำบลนำเล่าติ๋น เมื่อแรกถึงมีโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งเชิญเสด็จไปพักอยู่ที่นั่น ข้าพเจ้าจะรบสู้ดูท่วงที นายโจรก่อน ถ้าเห็นพอจะเกลี้ยกล่อมได้ ข้าพเจ้าจะอาศัยพักอยู่บนเขาสักคืนหนึ่ง จะรีบไปตามเสด็จ ฮ่องเต้รับคำแล้วก็รีบไป

จิวหยงก็ถืออาวุธสองมือเตรียมต่อสู้อยู่กลางทาง เห็นนายโจรหน้าขาวริมฝีปากแดง ใส่หมวกเงินปักขนนก สวมเกราะขาวมือถือทวนขี่ม้าตกกระ ดูกิริยาไม่ใช่โจร มีหญิงสาวสองคน รูปร่างงามตามมาข้างหลัง ท่วงทีเข้มแข็ง สมควรที่จะช่วยรักษาแผ่นดินได้ ครั้นสามคนเข้ามาใกล้ ก็ลงจากม้าเข้ามาคำนับตามธรรมเนียม แล้วถามว่า ท่านชื่อจิวหยงเป็นไต้เจียงกุ๋นหรือ

จิวหยงได้ฟังก็สงสัยยังไม่บอกชื่อ คำนับตอบแล้วถามว่า เหตุใดไต้อ๋องจึงรู้จักข้าพเจ้า นายโจรตอบว่า ที่นี่ไม่สมควรพูดจากัน เชิญท่านขึ้นไปบนเขาข้าพเจ้าจะแจ้งให้ทราบ จิวหยงเห็นนายโจรพูดจา โดยสุจริต จึงตามนายโจรขึ้นไปถึงหอใหญ่บนเขา

นายโจรเชิญจิวหยงให้นั่งในที่อันสมควร แล้วให้คนใช้ยกน้ำชามาให้กิน นายโจรจึงว่า ข้าพเจ้าไม่ทราบว่าไต้เจียงกุ๋นมาถึงนี่ หาได้รับรองตามธรรมเนียมไม่ขออภัยเสียเถิด จิวหยงว่า

".....ซึ่งท่านต้อนรับนี้ก็ดีอยู่แล้ว ข้าพเจ้าขอบใจนัก ท่านแซ่ใดชื่อไร เหตุไฉนมาอยู่ตำบลนี้ ไม่ควรจะอยู่ให้ลำบาก เชิญท่านบอกข้าพเจ้าตามจริง....."

นายโจรก็บอกว่าตนชื่อ กวดยี่หลง บ้านเดิมอยู่เมืองซัวไซแซ ปู่เป็นขุนนางฝ่ายทหารทำราชการอยู่ในเมืองหลวง เป็นคนซื่อตรงเกิดไม่ชอบใจกับขุนนางที่เป็นกังฉิน ทูลยุยง พระเจ้าแผ่นดินให้ลงโทษถึงสิ้นชีวิต ตนเองกับบิดาจึงหนีมาอยู่ที่นี่ บิดามีความแค้นพวกขุนนาง ไม่สุจริต คิดจะกำจัดเสียด้วยกตัญญูต่อแผ่นดิน แต่ก็ไม่สมคิดจึงทุกข์ตรอมจนป่วยลงถึงแก่กรรมได้ปีเศษแล้ว พวกเจ้าเมืองในแขวงนี้ก็ชักชวนให้ทำราชการ แต่บิดาสั่งไว้ว่าถ้าไผ่มีดอกเมื่อเมื่อใด จึงให้รับตำแหน่งขุนนาง เพราะเหตุนี้จึงสู้ทนอยู่ที่นี่ไม่ไปกับผู้ใด สามคนพี่น้องช่วยกันรักษาเขานี้ไว้มิให้เป็นอันตราย

น้องหญิงทั้งสองคนนั้นเกิดพร้อมกันเป็นลูกแฝด คนโตชื่อ นางกุยเซียน คนหลังชื่อ นางกุยหยง อายุได้สิบหกปียังไม่มีคู่ทั้งสองคน ส่วนตนเองอายุสิบแปดปีก็ยังไม่มีภรรยา อุตส่าห์หาเลี้ยงชีวิตโดยยุติธรรม มิได้เบียดเบียนผู้ที่ซื่อสัตย์ให้ได้ความเดือดร้อน ถ้าผู้ใดไม่สุจริตก็จะคิดร้ายทำลายล้างเสียให้จงได้ และว่า

".....ครั้งนี้อัศจรรย์นักด้วยของไม่เคยมี ก็บังเกิดขึ้น ไม้ไผ่ที่กอกำลัง ออกดอก เมื่อคืนข้าพเจ้าฝันว่า มีเทวดาองค์หนึ่งขึ้นมาบนเขา ร้องบอกว่าพรุ่งนี้ตะวันเที่ยงพระมหากษัตริย์แผ่นดินไต้เหม็ง จะเสด็จมาริมเขานี้ มีขุนนางชื่อจิวหยง เป็นที่ไต้เจียงกุ๋นป้องกันมา แล้วสั่งว่าให้ข้าพเจ้าทั้งสามคอยรับเสด็จ ครั้นตื่นขึ้นเช้าจึงได้ตั้งใจคอยจนพบท่าน ท่านที่เดินไปก่อนนั้น บั้นโซ้ยหรือ....."

จิวหยงได้ฟังเห็นว่าพูดจาโดยสุจริตจึงรับคำ แล้วแลไปดูที่ฝาผนัง เห็นหนังสือปิดอยู่แผ่นหนึ่ง จึงลุกเดินไปอ่านมีความว่า

เราผู้เป็นใหญ่ในเขาธอฮวยซัว ประกาศไว้แก่ท่านทั้งปวง ที่เป็นพรรคพวกเราให้ทราบ ข้อหนึ่งว่าถ้าผู้ใดลงไปจากเขา แย่งชิงเอาทรัพย์สิ่งของราษฎรผู้เดินทางแม้นสืบรู้จะตีสี่สิบที

ข้อสองว่า ถ้าใครลักม้าและกระบือ แพะสุกรของชาวบ้าน เขามาบอกต้องตีสี่สิบที

ข้อสามว่า ถ้าผู้ใดไปลักผลไม้และรื้อที่ฝังศพของท่านผู้อื่น จะตีสามสิบที

ข้อสี่ว่า ถ้าใครไปรบกวนและข่มเหงชาวบ้าน ให้ได้ความเดือดร้อนสิ่งใด เขามาฟ้องเป็นสัจจะฆ่าเสีย

ข้อห้าว่า ถ้าผู้ใดเขาจ้างคุมของไปส่งปรารถนาจะให้ช่วยระวังภัยเขาให้ค่าจ้างเท่าใดจงเอาแต่พอควรกับเหนื่อย แม้นข่มขี่เอามากเกินกำหนด จะตีสี่สิบที

ข้อหกว่า ถ้าโจรพวกอื่นเข้ามาในเขตเขานี้ พวกเราสมรู้เป็นใจให้พักอาศัย แม้นเกิดความขึ้นจะทำโทษจงหนัก

จิวหยงอ่านแจ้งในคำประกาศ จึงคิดว่ากวดยี่หลงนี้เป็นคนดีจริง หาผู้เสมอยาก ด้วยวิสัยมนุษย์ทุกวันนี้ ถ้ามีอำนาจแล้วมักข่มเหงเพื่อนบ้าน และคนผู้น้อยให้ได้ความเดือดร้อนต่าง ๆ บางทีตัวนายไม่สู้เป็นพาล แต่บ่าวไพร่พรรคพวกประพฤติการหยาบช้า ก็ไม่ว่ากล่าวห้ามปราม ความร้ายและการนินทาก็มีถึงตัว กวดยี่หลงนี้ไม่เข้ากับบ่าวไพร่เลย สมควรที่จะทำราชการเป็นขุนนางผู้ใหญ่ได้โดยแท้

จึงกลับมานั่งเล่าถึงความหลังของตนให้กวดยี่หลงฟังทุกประการ

กวดยี่หลงถามว่า

".....บัดนี้บั้นโซ้ยเสด็จไปอยู่แห่งใด ข้าพเจ้าสามคนพี่น้องจะยอมเข้าทำราชการด้วย ท่านจงช่วยสงเคราะห์พาเข้าถวาย ท่านกับข้าพเจ้าไมตรีก็จะมีต่อกันสืบไป....."

จิวหยงจึงว่า

"....บั้นโซ้ยเสด็จไปพักอยู่ที่โรงเตี๊ยม ซึ่งธุระของท่านนั้น ข้าพเจ้าจะช่วยกราบทูลให้รับเข้าไป ทำราชการในเมืองหลวงคราวนี้จงได้ ท่านอย่าวิตกเลย....."

แล้วจิวหยงก็จะลาไป กวดยี่หลงว่าเวลาพลบค่ำแล้วเชิญท่านหยุดพักสักคืนหนึ่ง ซึ่งฮ่องเต้เสด็จไปอยู่ที่โรงเตี๊ยม ท่านอย่าทุกข์ร้อนว่าจะมีภัยสิ่งใด ที่ในตำบลนี้มิได้มีคนพาล แม้นว่านอนเปิดประตูไว้ก็ไม่เป็นอันตราย ถ้ามีเหตุเกิดขึ้นข้าพเจ้าจะยอมตายแทนท่าน ว่าแล้วก็ให้คนใช้ยกโต๊ะมาตั้ง เชิญจิวหยงเสพสุราพูดจาเล่น เป็นที่สบาย พอได้เวลาก็ชวนจิวหยงนอนในห้องเดียวกัน

พอเวลาสว่างจึงบอกกวดยี่หลงว่า ซึ่งท่านรับรองเลี้ยงดูนี้ขอบคุณนักแต่จะอยู่ช้าไม่ได้ด้วยเป็นห่วงถึงบั้นโซ้ย ไม่ทราบว่าจะเสด็จไปประทับอยู่ที่ใด จึงจะขอลาไปก่อน ไหน ๆ ท่านก็สามิภักดิ์เข้าทำราชการแล้ว ภายหลังจึงค่อยกินเลี้ยงและสนทนากันให้สบาย

กวดยี่หลงได้ฟังจึงว่า ท่านพูดนี้ก็ถูกต้องข้าพเจ้ามิได้ขัดขืน แต่เวลานี้เชิญกินอาหารด้วยกันอีกมื้อหนึ่งเถิด แล้วเรียกคนใช้ยกโต๊ะทั้งสุรามาตั้ง จิวหยงขัดไม่ได้ก็ต้องกินกับกวดยี่หลง ครั้นเสร็จแล้วกวดยี่หลงก็จัดม้าให้จิวหยงขี่ จิวหยงก็ลาลงจากเขา กวดยี่หลงตามมาส่งต่างคำนับลากัน แล้วจิวหยงก็รีบขับม้าไปถึงตำบลนำเล่าติ๋นสืบหาพระเจ้าเจงเต็กฮ่องเต้ต่อไป

การจะเป็นฉันใด ก็คงจะต้องรอให้ถึงตอนหน้า.


#########

นิตยสารโล่เงิน
กุมภาพันธ์ ๒๕๔๔







Create Date : 07 มิถุนายน 2551
Last Update : 8 มิถุนายน 2551 17:33:59 น. 2 comments
Counter : 412 Pageviews.

 
คนดีมีฝีมือ แม้นอยู่แห่งหนใดก็มีคนไปตามตัวให้ทำราชการ
ประเทศรุ่งเรืองแน่นอนเลยครับ ถ้าได้คนดีไปทำงานให้ชาติ


โดย: พี่แต้ วันที่: 9 มิถุนายน 2551 เวลา:12:57:38 น.  

 
ประเทศของเราไม่ต้องไปหาคนดีตามบ้านนอกหรอกครับ
เห็นมาเสนอตัวในกรุงกันให้เกร่อไป

ดูได้จากในหน้าจอทีวี รายการประเภทสนทนาไงครับ.


โดย: เจียวต้าย วันที่: 3 กรกฎาคม 2551 เวลา:21:06:07 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เจียวต้าย
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]




เชิญหารายละเอียดได้ ที่หน้าบ้านชานเรือนครับ
Friends' blogs
[Add เจียวต้าย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.