It's not easy to be me
Group Blog
 
All blogs
 
มธุรดา yuri บทที่ ๒/๑

บทที่ ๒

แท็กซี่ที่ทั้งสองคนโดยสารมาพาทั้งคู่เข้ามาส่งหน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง ที่มธุรดาบอกให้ไป

“จอดด้านหน้านี่ก็ได้ค่ะ เดี๋ยวเดินไปเอง” มธุรดาบอกอย่างนั้น

แท็กซี่จอดส่งบริเวณด้านหน้าทางเข้าโรงแรมหรู

“แน่ใจนะว่าคนในโรงแรมจะให้คุณเข้าไป” รัญชน์มองคนที่มากับเธอการแต่งกายแบบนี้เธอกลัวว่าเจ้าหน้าที่ของโรงแรมจะไม่ให้คนที่นั่งข้างๆเธอเยื้องกรายเข้าไปด้านใน

“แน่ใจค่ะ” มธุรดาส่งยิ้มนิดๆให้กับรัญชน์

“โอเคค่ะ โชคดีนะคะ”เมื่อคนถูกถามตอบคำถามเรียบร้อยและลงจากรถ รัญชน์จึงไม่มีคำถามอื่นใดอีกมีเพียงคำกล่าวลาที่แสนจะเรียบง่าย

“เช่นกันค่ะ”มธุรดาตอบกลับเปิดประตูลงจากรถ เมื่อปิดประตูกลับคืน เธอรอให้รถแล่นออกไปก่อนแล้วจึงเดินเข้าไปในโรงแรมหรูแห่งนั้น

ยังไม่ทันที่จะเดินพ้นประตูด้วยซ้ำ เสียงคุ้นๆ หูร้องทักเธอแถมด้วยหญิงสาวรูปร่างอ้วนกลม วิ่งกระปุ๊กลุกมายังที่เธอเดินอยู่

“ต๊าย...ตาย... ตาย เจ้านางเจ้าขา ทำไมเพิ่งเด็ดกลับมารู้ไหมนมเป็นห่วงแค่ไหน ฝนตกหนักอย่างนี้ ไหนบอกนมว่าจะกลับมาก่อนนมไงเจ้าคะทำไมถึงได้มาถึงช้าแบบนี้”

“หญิงไปเดินเล่นในห้างมาน่ะนม ไม่มีอะไรหรอกค่ะ”

“ไม่มีอะไรได้ยังไงเจ้าคะเจ้าหลวงท่านทรงห่วงเจ้านางมาก ทรงโทรมาถามว่าเจ้านางอยู่ที่ไหน นมต้องโกหกไปว่าเจ้านางสรงน้ำอยู่ ไม่อย่างนั้น หัวของนม ต้องหลุดจากบ่าแน่ๆ เชียว”

“เอาน่านม เดี๋ยวหญิงโทรคุยกับท่านพ่อเอง นมอย่าโวยวายนักเลยเออ...ว่าแต่ว่า เรื่องที่หญิงให้นมติดต่อกับผู้ออกแบบตกแต่งบ้านนมติดต่อไปถึงไหนแล้ว”

“กำลังติดต่ออยู่เจ้าค่ะทางนั้นเขาว่าพรุ่งนี้จะส่งคนออกแบบมาคุยกับเราเจ้าค่ะ”

มธุรดาพยักหน้ารับรู้เธอกำลังจะปรับปรุงบ้านของญาติผู้ใหญ่ในเมืองไทยให้ทันสมัยกว่าที่เคยเป็นรวมถึงรื้อเอาไม้ที่ผุกร่อนไปตามกาลเวลาออกจากตัวบ้าน ต้องให้ช่างหาไม้ใหม่มาทดแทนซึ่งนั่นเท่ากับว่าเธอต้องได้ช่างฝีมือดี และไว้ใจได้มาทำงานให้กับเธอ

“บริษัทนี้เขาไว้ใจได้เจ้าค่ะเจ้านางเจ้าหลวงทรงรับสั่งว่าเจ้าของเป็นเพื่อนท่าน เขาเคยเห็นบ้านเมื่อสมัยที่ยังสวยๆอยู่ คงพอจำได้ว่าต้องแก้ไขให้เป็นแบบไหน”

“อืมๆ” มธุรดาค่อยๆเดินคุยไปเรื่อยๆ จนถึงหน้าประตูลิฟต์ที่จะขึ้นไปยังห้องพักของเธอ

“พรุ่งนี้เจ้านางต้องไปให้สัมภาษณ์กับหนังสือเจ้าค่ะนมให้เขานัดเอาไว้ที่ห้องอาหารของโรงแรม”

“จ๊ะ”

“ตอนเย็นเจ้านางต้องไปงานเปิดตัวร้านเพชรเจ้าค่ะ”

“จ้า”

“ส่วนตอนดึก”

“พอๆ นมหญิงว่าหญิงขอตัวไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนดีกว่า ไปเถอะลิฟต์มาแล้ว” พูดจบ มธุรดาเดินนำพระนมของเธอเข้าไปในลิฟต์ก่อนที่พระนมจะสาธยายงานของเธออีกยืดยาว จนเธอหูชา

“พรุ่งนี้ทำตามตารางนัดหมายนะคะนม” มธุรดาบอกเมื่อเธอเข้ามายืนอยู่ในลิฟต์เป็นที่เรียบร้อย

“แล้วคนของบริษัทตกแต่งล่ะคะเจ้านาง”

“นมจัดการไปตามสะดวกเลยค่ะหญิงคงไม่มีเวลาพบพวกเขาหรอก”

“เจ้าค่ะเจ้านาง”

มธุรดากำลังคิดถึงผู้หญิงที่เธอพบโดยบังเอิญ หญิงคนนั้นคงจะโกรธเธอ

เหมือนกันที่ทำให้หล่อนเปียกปอนเมื่อคิดถึงเรื่องนั้น ทำให้เธอนึกเรื่องบางอย่างได้ จนต้องอุทานออกมา “ตายแล้ว ลืมสนิมเลย”

“อะไรเจ้าคะเจ้านาง”

“เปล่าๆ ไม่มีอะไร หญิงลืมขอเบอร์ติดต่อใครคนหนึ่ง”

“ใครเจ้าคะ บอกนมสิเจ้าคะจะได้ให้คนของเราติดต่อกลับไปให้”

“ไม่มีอะไรหรอกนม แค่ลืมแค่นั้น ไม่ได้สำคัญอะไร”

“เจ้าคะ”

ลิฟต์พามธุรดาและพระนมของเธอ มาถึงชั้นที่เป็นที่พักของทั้งสองคนมธุรดาจึงเดินนำเข้าไปยังห้องพักที่ลิฟต์ตัวนั้นคือประตูห้องของเธอ

“หญิงขอตัวนะคะนม เหนื่อยจังเลยวันนี้”

“เดี๋ยวนมเตรียมน้ำสรงให้นะเจ้าคะ”

“ไม่เป็นไรคะนม หญิงทำเองดีกว่า นมไปพักผ่อนเถอะเหนื่อยมาทั้งวันเหมือนกัน”

“เจ้าค่ะเจ้านาง”สาวิตรีรับคำสั่งอย่างว่าง่าย พรุ่งนี้เธอคงต้องทำตามที่เจ้านางน้อยสั่งเอาไว้และคิดว่ากว่าจะสะสางงานเสร็จอาจจะดึกดื่นค่อนคืนเหมือนเช่นวันนี้

รัญชน์มาถึงที่ทำงานแต่เช้า เธอเข้ามาเตรียมอะไรบางอย่างเพื่อที่จะไปพบลูกค้าในวันนี้

“รันเข้ามาพบผมหน่อย”เสียงเรียกจากเจ้านายสุดหล่อของรัญชน์ดังมาแว่วๆ

“ค่ะบอส”รัญชน์รับคำและรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่เธอยังไม่ทันได้นั่งเพื่อไปยังห้องทำงานของสหวัตร

“บอสมีอะไรหรือเปล่าคะ”

“ผมขอดูแบบที่คุณเตรียมเอาไว้หน่อยวันนี้ลูกค้าขอดูแบบคร่าวๆ”

“รันยังไม่ได้ออกแบบใหม่นะคะบอส รันยังไม่เห็นตัวบ้านไม่แน่ใจว่าทางนั้นต้องการแบบไหน รันเอาแบบที่เคยทำไว้ไปให้เขาดูก่อน”

“อืมๆ เอามาดูก่อน ลูกค้าคนนี้สำคัญมาก”

“ค่ะ”รัญชน์รีบเดินกลับไปที่โต๊ะทำงานของเธอหยิบเอกสารเกี่ยวกับการออกแบบทั้งหมดที่เธอรวบรวมเอาไว้ไปให้สหวัตรคัดเลือก

“เอาแบบนี้แล้วกัน”สหวัตรเลือกแบบออกมาห้าแบบเขาเคยเห็นบ้านไม้หลังนั้นมาแล้วในสมัยที่เขายังเป็นนักเรียนแต่นั่นล่วงเลยมาเกือบสามสิบปี

เขายอมรับว่าบ้านหลังนั้นดูขลังและน่ากลัว แต่ถ้าจัดการตกแต่งใหม่น่าจะทำให้ความน่ากลัวลดลง และกลายเป็นสิ่งที่น่าเก็บรักษาเอาไว้

บ้านหลังนั้นอยู่ห่างออกไปจากตัวกรุงเทพฯ ไม่มากนักถ้าเป็นสมัยก่อนเรียกว่าไกลปืนเที่ยง แต่เมื่อผ่านมาสามสิบกว่าปีถนนหนทางเส้นใหม่ๆ ถูกตัดขึ้นมามากมาย ทำให้การคมนาคมสะดวกขึ้น

ผิดกับสมัยก่อนที่ต้องเดินทางทางเรือเท่านั้นจึงทำให้บ้านหลังนั้นกลายเป็นที่พักอันสงบหากต้องการตัดตัวเองออกจากโลกภายนอก

“วันนี้ลูกค้าจะส่งตัวแทนมาดูงานของคุณแต่เราต้องไปพบเขาที่บ้าน ผมจะให้คุณเก็บรายละเอียดทั้งหมดของบ้านเราคงต้องปรับแก้ตัวบ้านให้แข็งแรงก่อน ถึงจะปรับปรุงด้านในผมคิดว่าตัวบ้านคงโทรมน่าดู”

“ค่ะ”

“เออใช่ บ้านหลังนี้เป็นของเจ้าหลวงโมระนะ ต้องทำดีๆ”

“ตายๆ บอส แล้วเขาจะส่งใครมาคุยกับเราล่ะ” รัญชน์ค่อนข้างตกใจเมื่อรู้ว่าเจ้าของบ้านหลังนั้นคือใครเธอแทบไม่เชื่อหูตัวเอง

“น่าจะเป็นเจ้านางน้อย”

“หว่ายๆต้องไปนั่งพับเพียบเรียบร้อยที่พื้นหรือเปล่าคะนั่น”

“ไม่ต้องหรอก”

“เฮ้อ...โล่งใจ” รัญชน์โล่งใจที่เธอไม่ต้องทำอะไรที่ไม่ค่อยจะได้ทำ

“ทำไมกลัวหรือไง”

“ไม่เชิงค่ะ แค่ไม่เคยเข้าพบเจ้านาย ทำตัวไม่ถูก”

“คุณไปเตรียมตัวได้แล้ว สักสิบโมงเราคงต้องออกไป”

“ว่าแต่บ้านนั้น อยู่แถวไหนคะ

“นนทบุรี ไม่ไกลมาก”

“ค่ะบอส”รัญชน์เดินออกมาจากห้องของสหวัตรด้วยความรู้สึกแปลกๆ

เธอเดินกลับไปที่โต๊ะทำงาน เห็นพัณณินมาถึงที่ทำงานแล้วจึงรีบปรี่เข้าไปหา

“เฮ้ย...ไอ้แต้ว มีเรื่องขอความช่วยเหลือ อย่างด่วน”

“มีอะไรแก ฉันยังไม่ทันได้นั่งเลย รถติดโคตรๆ” พัณณินเริ่มบ่น เธอเพิ่งจะเข้ามาในบริษัทยังไม่ทันได้นั่งเก้าอี้เพื่อนซี้รีบปรี่เข้ามาหาทำหน้าเหมือนหมูกำลังจะโดนเชือด

“คืองี้ ฉันยังไม่ได้เอารถออกจากอู่เลยฉันคงต้องให้แกช่วยหน่อย”

“ช่วยอะไร อย่าบอกนะว่าจะขอยืมรถฉัน เรื่องแค่นั้นจิ๊บๆทำไมต้องทำหน้าตาตื่นมาด้วยวะ”

“ไม่ใช่แค่ยืมรถ แต่แกต้องขับรถให้ฉันด้วย”

“เฮ้ย...ไม่ได้ วันนี้ฉันต้องไปพบลูกค้าแกจะมาลากฉันไปไหน มาไหนกับแกไม่ได้หรอก”

“เออน่า... เดี๋ยวฉันบอกบอสเอง ว่าจะเอาแกไปด้วยน่านะเพื่อน ขอร้อง ได้โปรด.......” รัญชน์เอ่ยอ้อนเสียงหวาน

“มาไม้นี้ต้องมีอะไรแน่ๆ เลย ไหนว่ามาสิ เรื่องอะไร”

“คืองี้....”และแล้วรัญชน์เล่าทุกอย่างให้กับพัณณินได้รับรู้

“เฮ้ย...จริงดิ ดีๆแกรู้ไหมว่าเจ้านางน้อยโมระสวยขั้นเทพ”

“จริงอะ

“ช่ายแล้ว แกจำไม่ได้หรือไง ที่ฉันเอารูปมาให้แกดูเมื่อวาน”

“รูปอะไร” รัญชน์เริ่มรู้สึกว่าเธอคงพลาดอะไรไปสักอย่าง

“อ้าว...เวร รูปขึ้นปกนิตยสารไง ความจำเสื่อมหรือไงแก” พัณณินจิ้มนิ้วของเธอไปบนหน้าผากของรัญชน์แรงๆ

“ไม่ใช่จำไม่ได้ ไม่ได้ดูต่างหาก” รัญชน์ตอบเสียงอ่อย

เมื่อวานเธอไม่ได้สนใจที่จะดูรูปที่พัณณินเอามาให้ดูจริงๆ นั่นแหละ

“เป็นงั้นไป วันนี้ฉันไม่ได้เอาหนังสือมาด้วยสิแต่เมื่อคืนนะแก ขอบอกเลย เจ้านางสวยโคตรๆ สวยจนฉันอยากแปลงร่างเป็นผู้ชายเข้าไปจีบ แต่อย่างว่าเนอะ เรามันแค่คนทำงานหาเช้ากินค่ำ คนอย่างเจ้านางน้อยแห่งเวียงโมระคงไม่ลดตัวลงมาเป็นแฟนกับผู้ชายกระจอกๆอย่างฉันแน่ๆ” พัณณินพูดเองเออเอง

“เป็นเอามากเพื่อนฉัน”

“แกไม่ได้เห็นแบบฉัน แกไม่เข้าใจหรอกน่า”

“แล้วพี่ต้อมไม่ว่าอะไรแกบ้างหรือไง”

“รายนั้นจะว่าอะไรได้ ยืนมองน้ำลายหยดสิไม่ว่า”

“เออ...เป็นทั้งคู่ว่างั้น” รัญชน์ยิ้มขำๆกับการแสดงออกจนโอเวอร์ของเพื่อนเธอ

“แหม...นิดนึง ว่าแต่แกต้องไปกี่โมง”

“สิบโมง บอสบอกว่างั้น”

“ตายๆ นี่มันเก้าโมงกว่าแล้ว ไม่ได้ๆฉันต้องแต่งหน้าเพิ่ม” พัณณินยกนาฬิกาข้อมือของตนขึ้นมาดู เธอรีบกุลีกุจอค้นหาอะไรบางอย่างในกระเป๋าของตนออกมา

“แต่งทำไม”

“เอ้า...ไอ้เซ่อ จะไปพบสาวสวยทั้งทีต้องแต่งหน้าให้สวยกว่าสิ”

“เจริญ”

พัณณินไม่ฟังเสียงของรัญชน์อีกต่อไปเธอนั่งประจำที่หยิบกระเป๋าเครื่องสำอางออกมาเพื่อที่จะแต่งหน้าให้สวยขึ้น

รัญชน์มองแล้วนึกขำในความคิดของเพื่อน เจ้านางน้อยแห่งเวียงโมระคงจะสวยบาดใจจริงๆไม่เช่นนั้นเพื่อนของเธอคงไม่ลงทุนแต่งหน้าเพื่อให้สวยเทียบเคียงคนที่เธอกำลังจะไปพบเป็นแน่





Create Date : 23 พฤษภาคม 2556
Last Update : 23 พฤษภาคม 2556 18:36:54 น. 0 comments
Counter : 726 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

รันหณ์
Location :
ปทุมธานี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





ฉันคือฉัน
ฉันรักเสียงเพลง
ฉันรักสายลม
ฉันรักท้องฟ้า
ฉันรักอิสระ
ฉันคนไร้ราก
ผิงดาวยามไร้เดือน

คืนนี้ถ้าเธอหนาว ร่วมผิงดาวบนท้องฟ้า
จากรักจากศรัทธา....ของเรา

เป็นอะไรก็ได้มิใช่หรือ
แค่เป็นคนดีก็คงเีพียงพอ
[Add รันหณ์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.