It's not easy to be me
Group Blog
 
All blogs
 
มธุรดา yuri บทที่ ๙/๒

บทที่ ๙/๒

รัญชน์ออกมาเดินตลาดกับนิลยาสองคนบุษบงกตให้เหตุผลว่าอยากพักผ่อนเอาแรง พรุ่งนี้เธอจะต้องเดินทางไปรอที่ตีนเขาเพื่อขึ้นเวียงฟ้าแต่เช้ามืด

รัญชน์คิดว่าเธอจะต้องซื้อเสบียงเตรียมเอาไว้บ้างระหว่างเดินทางขึ้นเขาเกือบๆ ยี่สิบกิโลอาจเกิดอาการหิว

“ช็อกโกแลตเลยพี่รัน เวลาหิวมากๆ ช่วยได้น้า” นิลยาออกความเห็น

“รู้แล้วน่าไม่ต้องพูดมาก”

“นี่ๆ พี่รัน ลูกอมหวานหอมชื่นใจ” นิลยาเสนออีก

“เออน่า” ถึงจะรู้สึกรำคาญแต่สิ่งที่นิลยาเสนอมานั้นเข้าท่า

“นี่ๆ พี่ ชะเอม อมแล้วไม่หิวน้ำ” นิลยาชี้ไปที่ลิ้นชักหนึ่งในร้านขายของซึ่งมียาสมุนไพรจัดวางอยู่ในลิ้นชักเรียงเป็นชั้นๆ ราวกับตู้ ปณ. ในไปรษณีย์

“ชะเอมนี่นะ”

“ช่ายแล้ว ชะเอม อมแล้วชื่นใจ น้ำลายไม่เหนียวแต่อย่าอมเยอะนะ นิดๆ หน่อยๆ พอ ไม่งั้นจู๊ดๆ ด้วย แล้วจะหาว่าคนสวยไม่เตือน”

คนพูดทำท่าสูดเอาอากาศเข้าปอดลึกๆราวกับได้กลิ่นของชะเอมในลิ้นชักนั้น แต่เมื่อบอกว่ากินมาแล้วจะท้องเสียทำท่าปวดท้องเสียจนรัญชน์คิดว่านิลยาปวดท้องเข้าห้องน้ำจริงๆ

“อมแล้วท้องเสียด้วยเหรอ”

“น้อยๆ ไม่มีปัญหา ทำให้เรารู้สึกดี เวลาเหนื่อยๆช่วยได้ แต่ถ้ามากไป มันเป็นยาระบาย... คนธาตุอ่อนๆ ขี้แตกขี้แตนมานักต่อนัก”

นิลยายกนิ้วของเธอขึ้นลง และจีบปากจีบคอพูด ราวกับเธอกำลังสอนรัญชน์เกี่ยวกับเรื่องสมุนไพร

“ยี้...แล้วจะหาเรื่องอมไปทำไม ซื้อพวกยาแก้ไอเม็ดๆมาอมแทนไม่ดีกว่าหรือไง” รัญชน์ไม่อยากจะนึกหากเธอกำลังเดินขึ้นเวียงฟ้า แล้วอยู่ๆ ปวดท้องขึ้นมาแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวจะหาห้องน้ำได้ที่ไหน

ครั้นจะไปทุ่ง บนเขาสูงๆ อย่างนั้นจะหาทุ่งตรงไหน คิดแล้วสยองขน

“ก็ด้าย... เอาแบบนั้นก็ด้าย.... เอานี่อีกดีกว่าครีมทากันแดด นี่ด้วยผ้าอนามัย” คนพูด คงพูดไปเรื่อยเปื่อยทั้งๆ ที่ชั้นวางของตรงหน้าไม่มีสินค้าที่พูดถึงสักอย่าง

“ไอ้ครีมกันแดดพอทน แต่ไอ้ผ้าอนามัยเอาไปทำไมปีนเขานะไม่ได้ไปทำอะไร”

“อ้าวๆ ว่าได้เหรอ สูงๆอย่างนั้นอาจทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน มีประจำเดือนไปว่าไง”

“บ้า ใครจะเชื่อ”

“ตามใจไม่เชื่อก็ตามใจ ไปดีกว่า”อยู่ๆ นิลยาหายไปจากสายตาของรัญชน์ และมาโผล่อยู่ตรงหน้าโดยที่รัญชน์ไม่ทันตั้งตัว

“นี่แม่นินจา ผลุบโผล่ไปมา ตกใจหมดรู้ไหมจะเอาอะไรว่ามา” รัญชน์ไม่ได้แค่พูดเท่านั้นเธอรู้สึกตกใจจริงๆ ที่อยู่ๆ นิลยาปรากฏร่างให้เห็น

“บอกว่าชื่อนิลยา นินจง นินจาที่ไหนยังไม่ชินอีกหรือไง อยู่ด้วยกันมาเกือบจะอาทิตย์แล้วนะ”

“ต่อให้อยู่กันเป็นปีๆ ถ้าเธอยังผลุบๆ โผล่ๆมาแบบไม่ให้รู้ตัวก่อน ฉันก็ตกใจเหมือนเดิมนั่นแหละ”

“โถๆ โธ่ถัง กาละมังระเบิด ขวัญอ่อนจริงนะคนเก่ง จะบอกว่าเจอผู้หญิงคนนั้นในร้านนี้เดี๋ยวก็ม่ายบอกร็อกว่าอยู่ตรงหนาย...”

“ผู้หญิงคนไหน”

“คนที่พี่รันวิ่งตามไปเมื่อวันก่อนไงเล่า”

“เฮ้ย...จริงดิ ไหนๆ”

รัญชน์มองไปรอบๆ ที่เธอยืนอยู่ แต่ก็ไม่เห็นคนที่นิลยาพูดถึง

“ตรงชั้นวางหนังสือทางโน้น”

นิลยาบุ้ยปากไปด้านหลังร้านที่มีชั้นวางหนังสือสูงตั้งอยู่

รัญชน์ไม่รอช้า รีบเดินไปหลังร้านทันทีเธอได้พบกับหวานที่กำลังยืนเลือกหนังสือ

“หวาน”รัญชน์เรียกชื่อนั้นด้วยความยินดี อย่างน้อยๆ เธอได้พบคนรู้จักในเมืองที่เธอไม่คุ้นเคย

“อ้าว...คุณวิ่ง ไปไงมาไงถึงมาอยู่ที่นี่ได้”

เสียงหัวเราะดังขึ้นในสมองของรัญชน์ มีเสียงพูดออกมาว่า

“คุณวิ่ง อิอิ ชื่อตลกชะมัดเลยคนเรา” นิลยายังคงไม่หยุดหัวเราะ

ทำให้รัญชน์รู้สึกอาย “เดี๋ยวเถอะ หยุดไปเลยผู้ใหญ่จะคุยธุระกัน”

“ฉันมาธุระน่ะ” รัญชน์ตอบไปอย่างนั้น

“คุณพักที่ไหนคะ”

“พักโรงแรมใกล้ๆ นี่แหละ แล้วหวานล่ะพักแถวไหน”

“แถวๆ นี่แหละค่ะ มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะได้ไปเที่ยวที่ไหนบ้างหรือยัง”

“มาได้สองวันแล้วค่ะ ยังไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนเลยพรุ่งนี้จะเดินทางต่อ คงไปไหนได้ไม่ไกลหรอกค่ะ”

“เหรอคะ บังเอิญดีจังที่ได้พบคุณ”

“ทฤษฎีโลกกลมยังใช้ได้ดี” รัญชน์บอกอย่างนั้นทั้งๆ ที่เธอตั้งใจจะหาหวานให้พบก่อนที่จะเดินทางขึ้นเวียงฟ้าหากแต่ต้องรักษามารยาทเอาไว้บ้าง

“จะอยู่โมระอีกนานไหมคะ”

“แล้วแต่แม่ค่ะ ถ้าท่านอยู่นานคงอยู่เป็นเพื่อนท่านแล้วคุณล่ะ”

“คงอีกนานค่ะแต่ถ้าเสร็จธุระเร็วคงกลับไปดูงานที่คุ้มต่อ เออ...จริงด้วยคุณมาที่นี่แล้วใครดูแลงานที่คุ้มล่ะคะ”

“พัณณินเพื่อนฉันค่ะ เราเป็นคู่หูกันทำงานด้วยกันบ่อยๆ รับรองว่าพัณณินทำงานไม่แตกต่างจากฉัน”

“โล่งอกไปที”

“ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่อคุ้มหรอกค่ะ ฉันรับประกัน คุณมาทำอะไรที่นี่คะ”

“มาซื้อของค่ะ หาหนังสือไปอ่านเล่นๆ แก้เซ็ง”

“คุณหวานชอบอ่านหนังสือหรือคะ”

“ค่ะ หวานชอบอ่านทุกแนวแต่ที่ชอบที่สุดเรื่องจิตวิทยาคะ”

“จริงสิคะ คุณหวานไม่ต้องเรียนหนังสือหรือคะ”

“ปิดเทอมค่ะ ยังไม่เปิด ถ้าเปิดเทอมหวานต้องกลับไปเรียน”

“อยู่โรงเรียนประจำ”

“ทำนองนั้นค่ะแต่ระดับปริญญาต้องเรียกว่าอยู่หอพักของมหาวิทยาลัยจะดีกว่า”

“อ๋อ...ลืมไป”

“คุณมาทำอะไรล่ะคะ”

“ซื้อของเหมือนกันค่ะ พรุ่งนี้จะเดินทางหาเสบียงซื้อเก็บเอาไว้บ้าง”

“ไปไหนคะ”

“ขึ้นเขาค่ะ”

“งั้นคงต้องซื้อเสื้อกันหนาวกับเสื้อกันฝนไปด้วยแล้วค่ะ พรุ่งนี้มีพยากรณ์อากาศว่าฝนจะตกแต่บนเขาอาจมีหิมะก็ได้”

“อ้าว...เหรอคะ แล้วเสื้อพวกนั้นซื้อที่ไหนคะ”

“ถัดจากร้านนี้ไปอีกสองซอยค่ะไม่เป็นไรเดี๋ยวหวานไปส่งคุณซื้อก็ได้”

“ดีเลย ไม่มีเพื่อนคุยมาหลายวันแล้ว”

“โกหก ตกนรกนะเออ” เสียงเล็กๆในสมองของรัญชน์บอกอย่างนั้น

“ไม่ได้โกหกสักหน่อย ไม่มีเพื่อนคุยจริงๆที่คุยอยู่เนี่ย ไม่ใช่คน”

รัญชน์ใช้การพูดคุยแบบที่ไม่ต้องเปิดปากพูด อย่างที่นิลยาเคยสอน

“จำไว้เลย คนหนอคน เจอสาวๆ สวยๆ ทิ้งเด็กชิ...”

รัญชน์ไม่ต่อปากต่อคำกับนิลยาอีกเธอเดินไปจ่ายเงินและรีบตามหวานไปหาซื้อเสื้อผ้ายังร้านถัดไป




Create Date : 23 พฤษภาคม 2556
Last Update : 23 พฤษภาคม 2556 19:10:01 น. 0 comments
Counter : 365 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

รันหณ์
Location :
ปทุมธานี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





ฉันคือฉัน
ฉันรักเสียงเพลง
ฉันรักสายลม
ฉันรักท้องฟ้า
ฉันรักอิสระ
ฉันคนไร้ราก
ผิงดาวยามไร้เดือน

คืนนี้ถ้าเธอหนาว ร่วมผิงดาวบนท้องฟ้า
จากรักจากศรัทธา....ของเรา

เป็นอะไรก็ได้มิใช่หรือ
แค่เป็นคนดีก็คงเีพียงพอ
[Add รันหณ์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.