The power of an authentic movement lies in the fact that
it originates in naming and claiming one's identity and integrity
-- rather than accusing one's "enemies" of lacking the same.
- Parker J. Palmer, The Courage to Teach
Group Blog
 
All blogs
 
เปลี่ยนที่

มีคนฝรั่ง ใครไม่รู้จำไม่ได้แล้ว บอกว่าการท่องเที่ยวคือการแสวงหาความแปลกใหม่ของชนชั้นกลาง ซึ่งในชีวิตไม่มีอะไร เลยไปเที่ยวเพื่อหาความ exotic เช่น ความลำบากกว่าที่เคยเป็นอยู่ หรือความแปลกจากที่เคยเป็นอยู่

อนึ่ง จขบ.ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเมิงจะจองล้างจองผลาญชนชั้นกลางไปทำไม แต่จขบ.คิดว่าคนวิจารณ์น่าจะเป็นชนชั้นกลาง ด้วยว่าสังคมฝรั่งนั้นมีวัฒนธรรมการวิจารณ์ จึงมีคนที่ออกมาพูดว่า (ตามความคิดของคนนั้น) สังคมกำลังเดินไปทางที่ผิด จงไปทางใหม่

แต่นะ ถ้าไม่ให้เที่ยวให้ทำไรเหรอ ตูสงสัย คือจะให้ดีต้องอยู่เฉย ๆ อย่าขยับมากหรือไง แต่ในความเป็นจริงคือแม้ไม่ทำไรเลยก็ด่าได้อยู่ดี ถ้าอยาก จขบ.ไม่นิยมการกระทำเช่นนี้ เพราะไม่มีประโยชน์ จะมีประโยชน์บ้างก็ในฐานะ glitch ที่เข้ามาทำให้ชีวิตที่ดำเนินไปไม่ได้คิดมีจุดสะดุด และเมื่อประสบจุดสะดุดนั้นก็ทำให้หวนกลับมาคิดว่า เราทำอะไรเพราะอะไร

เร็ว ๆ นี้ จขบ.ไปเชียงราย จุดประสงค์ที่แท้จริงคือ ชีวิตตอนนี้มันเหี่ยวแห้งและกรูเหงา การมาอยู่คนเดียวห่างไกลบ้าน ในจังหวัดที่มีคนรู้จักนับได้ด้วยนิ้วมือ และในจำนวนนั้นไม่มีคนที่คุยได้ทุกเรื่องเลย (ซึ่งไม่ใช่ความผิดของเขา และว่ากันอีกทีก็ไม่ใช่ความผิดของจขบ. เป็นแต่เราต่างกัน) เป็นโลกที่บั่นทอนชีวิตจิตใจได้มากในบางชั่วขณะ โดยเฉพาะเมื่อมือท่านเจ็บเป็นออฟฟิศซินโดรม ท่านออนไลน์ไม่ได้ เพราะต้องลดการใช้ (ตอนนี้ยังเป็นอยู่) และเพื่อนท่านต้องทำการงาน ไม่ได้ว่างมานั่นฟังท่านพิมพ์ฟุ้งในเอ็ม

การไปพบสิ่งใหม่ ไปพบเพื่อนใหม่ ไปพบพลังใหม่ ก็เติมอะไรให้จขบ.ได้ประมาณหนึ่ง การไปเห็นสิ่งที่ไม่เคยเห็น ก็เป็น "ปัญญา" เพราะทำให้ทราบว่าขอบฟ้าที่เราเคยคิดว่าเป็นขอบฟ้านั้นเป็นสมมุติมายา ก่อนจขบ.จะมาอยู่เชียงใหม่ จขบ.ไม่เคยตระหนักด้วยซ้ำว่าจังหวัดอื่น ๆ ในประเทศไทยมีหมายเลขโทรศัพท์หกตัว ไม่ใช่เจ็ดตัวอย่าง กทม.

ดังนั้น จขบ.จึงเห็นว่าบางครั้งคนเราก็ต้องเปลี่ยนที่เพื่อรักษาบางอย่างในจิตใจของตัวเอง และเพื่อให้เป็นคนที่ไม่แคบเท่าเดิม และจขบ.เห็นว่ามนุษย์ก็คือมนุษย์เหมือนกัน ถอดแล้วสุดท้ายในแก่นบางอย่างก็เหมือนกัน


Create Date : 14 พฤศจิกายน 2554
Last Update : 14 พฤศจิกายน 2554 21:28:26 น. 8 comments
Counter : 811 Pageviews.

 
ยินดีด้วยคับที่ได้พบกับสิ่งใหม่ๆ ความรู้สึกใหม่ๆ เพิ่มพลังใหม่ๆแก่ตนเอง.....แต่หากมีเวลา..ลองหาที่เงียบๆ ทบทวนตัวเอง ก็ได้รู้สึกใหม่ๆ เหมือนกันนะคับ...เพราะสมัยนี้สิ่งแวดล้อมหมุนเวียนไปเร็วจนเราไม่รู้จะเลือกอะไรดี....


โดย: biocellulose วันที่: 14 พฤศจิกายน 2554 เวลา:22:21:19 น.  

 
อยู่คนเดียวในเชียงใหม่ก็เงียบมากพอแล้วละค่ะ และสิ่งแวดล้อมแถวนี้ก็หมุนไม่เร็วนักหรอกเนอะ


โดย: เคียว IP: 183.88.65.41 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:9:08:13 น.  

 
*ซุกแน่นข้างๆ ฟังเปาเล่าเรื่องให้ฟัง*


โดย: นุ้ยหน่า IP: 101.109.245.149 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:9:26:46 น.  

 
อยากเปลี่ยนที่มั่ง กำลังปรารถนาการท่องเที่ยวอย่างรุนแรง -_-"


โดย: ทินา IP: 61.90.11.203 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2554 เวลา:0:00:20 น.  

 
ไม่เคยเหงาแฮะ สงสัยเพราะเปลี่ยนที่บ่อยมาก


โดย: นักรบ IP: 209.117.16.163 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2554 เวลา:9:19:25 น.  

 
เวลาเราได้ไปพบเจออะไรใหม่ๆ บ้าง

มันก็ทำให้หัวใจเราเบิกบาน และอยากรู้อยากเห็นกับสิ่งใหม่ๆ ที่ได้พบเจอ

ขอให้หาอะไรสนุกๆ ทำได้นะ ปัน ปัน


โดย: มาย IP: 58.11.38.93 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2554 เวลา:13:06:05 น.  

 
พี่เป็นคนแบบเดียวกับปัน ที่สร้างเพื่อนใหม่ได้ยาก ขนาดว่าเป็นคนเชียงใหม่ ยังมีเพื่อนที่เชียงใหม่แบบนับนิ้ว แล้วก็ไม่มีคนที่คุยกันได้ทุกเรื่องเลย

อันที่จริงพี่ฟังได้ทุกเรื่องนะ(ยกเว้นการเมือง ขอเถอะ ^ ^") เวลาใครคุยกับพี่คือคุยได้หมด ไม่จำเป็นต้องคุยแต่เรื่องที่สนใจตรงกัน เพียงแต่ ก็เข้าใจว่า การคุยกัน ถ้าจะให้ได้ความรู้สึกเติมเต็มจากบทสนทนานั้น มันก็คงต้องเป็นการคุยกันแบบแลกเปลี่ยนกันทั้งสองฝ่าย แต่พี่ก็ดันเป็นประเภทพร้อมจะฟังคนอื่นทุกเรื่อง แต่ไม่พร้อมจะพูดเรื่องตัวเองทุกเรื่องซะด้วย

พี่ก็เลยไม่แน่ใจว่าการมาคุยกับคนที่เป็นอย่างพี่ มันจะทำให้รู้สึกเติมเต็มขึ้น หรือทำให้เหงากว่าเดิม
เพราะบางทีพี่เองก็รู้สึกเหมือนกัน (อาการหนักกว่าชาวบ้านด้วย) ว่าได้ไม่ได้จากใครทั้ง 100% ก็รู้สึกว่าไม่เอาดีกว่า
(และพีก็ยังหาใครที่ให้พี่ทั้ง 100% ไม่ได้ ก็เลยยังเหงาอยู่คนเดียว สมน้ำหน้า 555)


คือที่ร่ายมาทั้งหมดนี้ ก็แค่จะบอกว่า ถ้าปันเหงาๆเซ็งๆเราก็มานัดเจอกัน ไปกินข้าวไปเดินเล่นไปดูหนังกันมั่งก็ได้ แม้พี่จะเป็นของพี่อย่างงี้ คือก่อกำแพงไว้ท่วมหัว ไม่รู้ว่าไม่ปล่อยให้ใครเข้ามา หรือไม่ปล่อยให้ตัวเองออกไป แต่ไม่ได้หมายความว่าพี่ไม่สนใจใคร และพี่ก็อยากฟังเรื่องที่ปันเล่าทุกเรื่องจริงๆ (แต่ยกเว้นการเมือง (โปรดฟังอีกครั้ง)) แล้วถ้ามันจะทำให้ปันอยู่เชียงใหม่อย่างมีความสุขขึ้น พี่ก็ยิ่งยินดีค่า

ปล. อยากกินบุฟเฟต์อิตตาลีร้านนั้นนอีกอ่ะ


โดย: ouiya วันที่: 24 พฤศจิกายน 2554 เวลา:6:27:40 น.  

 
ขอบคุณทุกคนเน้อ

พี่อุ๋ย @ T^T เค้าซึ้งอะ ขอบคุณนะคับ แต่ว่าตอนนี้มารักษาตัวอยู่ที่ กทม. ค่ะ เป็นออฟฟิศซินโดรม ปวดข้อมือ ปวดคอมาก ๆ เอาไว้กลับไปแล้วเราเจอกันเนอะ


โดย: เคียว IP: 110.168.70.144 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2554 เวลา:19:01:52 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ลวิตร์
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




ลวิตร์ = พัณณิดา ภูมิวัฒน์ = เคียว

รูปในบล็อค
เป็นมัสกอตงาน Expo ของญี่ปุ่น
เมื่อปี 2005
น่ารักดีเนอะ

>>>My Twitter<<<



คุณเคียวชอบเรียกตัวเองว่า คุณเคียว
แต่ที่จริง
คุณเคียวมีชื่อเยอะแยะมากมาย

คุณเคียวมีชื่อเล่น มีชื่อจริง
มีนามปากกา
มีสมญาที่ได้มาตามวาระ
และโอกาส

แต่ถึงอย่างนั้น
ไส้ในก็ยังเป็นคนเดียวกัน
ไส้ในก็ยังชอบกินข้าวแฝ่ (กาแฟ ) เหมือนกัน
ไส้ในก็ยังชอบกินอาหารญี่ปุ่นเหมือนกัน
ไส้ในก็ยังชอบสัตว์ (ส่วนใหญ่)
ไส้ในก็ยังชอบอ่านหนังสือ ชอบวาดรูป
ชอบฝันเฟื่องบ้าพลัง
และชอบเรื่องแฟนตาซีกับไซไฟ
(โดยเฉพาะที่มียิงแสง )

ไส้ในก็ยังรู้สึกถึงสิ่งต่าง ๆ
และใช้ถ้อยคำเดียวกันมาอธิบายโลกภายนอก

ไส้ในก็ยังคิดเสมอว่า
ไม่ว่าเรียกฉัน
ด้วยชื่ออะไร

ก็ขอให้เป็นเพื่อนกันด้วย




Friends' blogs
[Add ลวิตร์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.