ยังไม่ทันจะได้เขียนถึงทริป Shikoku เพราะชีวิตช่วงนี้วุ่นวายมาก นึกเขียนอะไรไม่ค่อยออก 
แต่อยากแนะนำถึงที่พักที่หนึ่งก่อน เผื่อเป็นทางเลือกอีกหนึ่งที่ เพราะมันดีงาม
(เช่นเคยค่ะ ไม่แนะนำว่าจะต้องไปให้ได้ แต่ถ้าใครผ่านไปแถวนั้นจะลองแวะพักดูก็จะพบว่ามันใช่ และสำหรับเรา คือ ฟินน...
)
บ่นมานานแล้วว่าอยากไปขับรถเล่นเลียบทะเลญี่ปุ่นหน้าร้อน แต่ได้ตั๋วโปรฯมาเดือนกันยาฯ เลยต้องเปลี่ยนแผนนิดหน่อย
บวกกับเพื่อนสาวชาวญี่ปุ่นแนะนำว่าลองชิโกกุสิแล้วจะติดใจ
ก่อนหน้านี้เราก็เห็นมันดูไกลจริงจัง แถมไม่เคยได้ยินอะไรเลยนอกจาก นารุโตะ ก็แอบเมินเธอเล็กน้อย 
แต่ตอนนี้ล่ะ คงเป็นโอกาสแล้ว เลยลองเปิดเน็ตดู
โอ๊ะโอว... มหาสมุทรแปซิฟิค กับ แหลม Ashizuri (ภาษาญี่ปุ่นคือ Ashizuri Misaki นะคะ)

ตื่นเต้นหาข้อมูลการเดินทางและที่พักทันที และก็ได้พบกับโรงแรม Ashizuri Thermae
และอีกครั้งที่พอบอกเพื่อนว่าจะไปปลีกวิเวกที่แหลมนี่นะ เพิ่อนมองหน้า แล้วด่าว่าประสาท 
เริ่มเดินทางจาก Kochi นะคะ มีทั้งรถไฟ และ รถบัส ใช้เวลาพอ ๆ กัน
แต่ถ้านั่งรถไฟต้องไปต่อบัสอีกนะคะ และพอถึงสถานีรสบัส บอกทางโรงแรมเลยค่ะ มีบริการรับ-ส่งจากทางโรงแรมค่ะ
หรือจะให้สบายกว่านั้น เช่ารถขับไปเลยจ้า 
ใกล้วันไป เพื่อน ๆ ที่นั่นก็เตือนว่าช่วงนั้นจะมีใต้ฝุ่นเข้าชิโกกุนะให้ระวังตัวด้วย ซื้อขนมนมเนยเตรียมไว้เลยนะ
เพราะ... แถวนั้นมัน isolated มากนะแก พอใต้ฝุ่นมาแกจะออกไปไหนไม่ได้ แกจะไม่มีอาหาร แล้วแกก็จะผอมโซๆๆๆ
เอาจริง ๆ เราควรดีใจใช่มั้ย?? 

พอไปถึงบ่ายแก่ ๆ เนื่องจากเป็นวันหยุดสามวันที่ญี่ปุ่นมั้งอาทิตย์นั้น แขกเลยเต็มค่ะ
แต่เป็นคนญี่ปุ่นทั้งนั้น ไม่เห็นมีคนต่างชาติ
และไม่ต้องห่วงนะคะ พนักงานที่นี่ใช้ภาษาอังกฤษได้ดีเลยค่ะ
เราพยายามจะถ่ายรูปโรงแรมเต็ม ๆ แต่ไม่สามารถเก็บได้หมด ไม่แน่ใจว่าเรางง ๆ กับดีไซน์ หรือยังไม่หายเมารถก็ไม่รู้ 


เช็คอินเสร็จพนักงานพาไปที่ห้อง เริ่มรู้ละว่าเราไม่ได้เมารถหรอก แต่เรางง ๆ กับดีไซน์จริง ๆ ฮ่าๆๆ
คือ วันแรกออกมาจากห้อง จะกลับเข้าห้องทีไร เดินไปผิดชั้นทุกที มันต้องขึ้นบันได นี่ก็ลงบันไดตลอด แหะๆๆ
ที่นี่มีทั้งห้องพักที่เป็นสไตล์ตะวันตกและเป็นห้องญี่ปุ่นนะคะ เราเลือกห้องญี่ปุ่นค่ะ


ห้องน้ำค่ะ ก็แยกห้องอาบน้ำกับห้องทำธุระส่วนตัวตามแบบญี่ปุ่น

และพอกลางคืน ก็จะมีพนักงานเข้ามาจัดการปูฟุตงให้ตามสไตล์ของห้องญี่ปุ่นค่ะ
เดินดูที่พักรอบ ๆ กว้างขวางดี และแบ่งเป็นสัดส่วน
แต่เนื่องจากโรงแรมจะอยู่ห่างออกมาจากชุมชนหน่อย แขกที่พักก็เลยใช้เวลาพักผ่อนกันในโรงแรม
พวกเก้าอี้นวดไฟฟ้าหรือมุมพักผ่อนดี ๆ ก็เลยจะมีคนจับจองอยู่บ้าง

มีชั้นหนังสือเพื่อจำหน่าย หนังสือที่เห็นส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับ ท่านเรียวมะ ซึ่งเป็นผู้มีชื่อเสียงของที่นี่ค่ะ

เดินผ่านมุมนี้คิดว่าคงมีหลายคู่มาแต่งงานกันที่นี่...ว้าว!! โรแมนติค

มีมุมขายของฝาก เราไปเดินดูแล้วราคาก็เท่ากับข้างนอกนะคะ มีของที่น่าสนใจหลายอย่างเหมือนกันค่ะ
ตรงนี้เป็นทางเดินลงไปห้องพักอีกส่วนหนึ่ง
อ้อ... แล้วมุมนี้ จริงๆ เป็นไฮไลท์ตอนกลางคืนมากนะคะ
ถ้าเป็นคืนฟ้าเปิด (ก็น่าจะเป็นซัมเมอร์แหละเนอะ) จะเห็นดาวบนฟ้าเลยค่ะ พนักงานบอก

แต่ว่าเราไปวันนั้นโชคไม่ค่อยดีเพราะฝนตกเลยมีเมฆค่ะ
ภาพนี้ถ่ายตอนกลางคืนนะคะ

พอเดินทั่วแล้วก็ตัดสินใจกลับห้องดีกว่า
นอนเกลือกกลิ้งพักเหนื่อยดูวิวมหาสมุทรแปซิฟิคไป รออาหารเย็นไปอย่างตื่นเต้น เพราะได้ข่าวมาว่าที่นี่มีดีที่อาหารเย็นนี่แหละ

อาหารเย็นมีเป็นแพคเกจกับราคาห้องค่ะ เค้าไม่ได้บังคับว่าให้เลือกนะคะ จะเอาก็จ่ายเงินไป ไม่เลือกก็ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม
แต่เราเลือก เพราะชีวิตคนเราอยู่ได้ด้วยอาหารนะ ฮ่าๆๆ 
นอนดูวิวรอ กำลังจะเคลิ้มหลับก็ได้เวลาไปทานอาหารเย็นนนน
เดินมาที่ห้องอาหาร โต๊ะเต็มฮะถึงได้รู้ว่าคนมาพักเยอะ เหอะๆๆ
ชั้นที่เป็นไฟเปิดสว่างน่ะค่ะ เป็นห้องอาหาร

อาหารที่นี่เป็นคอร์สนะคะ (ไม่รวมเครื่องดื่มค่ะ) มีรายการเมนูมาให้ แต่... อ่านไม่ออกฮะ 
หน้าตาเมนูค่ะ

และนี่... อ่ะ... เชิญชมค่ะ อาหารทั้งหมด






ทานเสร็จเมนูนึงพนักงานก็จะเสิร์ฟเมนูต่อไป ไม่ต้องรอนาน พร้อมกับแนะนำเมนูอาหารอีกด้วย
ทานอันนี้กับซอสนี้นะ ทานอันนี้ก่อนอันนี้จะได้รสชาติดีขึ้น อะไรประมาณนี้ (ฟังออกไม่ทั้งหมดหรอกค่ะ เดา ๆ เอา ฮ่าๆๆ)
พระเอกของเราน่าจะเป็น Katsuo no tataki ซึ่งเป็นอาหารขึ้นชื่อของที่นี่ ที่เป็นปลาชิ้นสีดำ ๆ น่ะค่ะ
เห็นเค้าบอกว่าเป็นปลาพวกทูน่า เอามากริลด้านนอก แต่ด้านในยังสด ๆ ค่ะ
และ...ปิดท้ายด้วยของหวานค่ะ

สารภาพว่าตอนแรกเห็นว่าอาหารเป็นคอร์ส เราก็กลัวไม่อิ่ม ซื้อหนมตุนไว้
ทานหมด อิ่มค่ะ เลยไม่ได้แตะขนมที่ซื้อไปเลย
สุดยอดมาก อาหารที่นี่ วัตถุดิบสดๆ รสชาติอร่อย ฟินนน... 
แต่... ความฟินหาได้จบแค่นั้นไม่ 
ตอนเช้า...ฟินต่อกันด้วยอาหารเช้าที่มีให้เลือกหลากหลายอย่างมาก
ห้องอาหารที่เดียวกับตอนเย็นเมื่อวาน เพียงแต่ตอนเช้าเป็นบุฟเฟ่ต์
เราลงมาที่ห้องอาหารค่อนข้างสาย เลยไม่ค่อยมีคนค่ะ

เลือกที่นั่งแล้วก็ตักอาหารเลยสิคะรออะไร
ที่ตักมานี่ยังไม่ถึงครื่งที่โรงแรมจัดไว้นะคะ

คือเราอยากทานหลาย ๆ อย่างเลยนะ แต่เกรงใจ เห็นโต๊ะอื่นเค้าทานกันจิบ ๆ พองาม เราเลยไม่กล้า
ฮืออ.. ไม่เป็นไรไว้ไปอีกก็ได้ 
ทานไป ชมวิวสวย ๆ ไป ช่างเป็นเช้าที่สงบ สดใส และดีงามมาก 

อือ...ไม่ทราบว่าทุกคนเป็นเหมือนเราไหม
เวลาไปไหนเราก็อยากดื่มด่ำกับสถานที่และบรรยากาศเนอะ เลยไม่ชอบไปไหนแบบเร่ง ๆ
อย่างสมมติว่ามีเวลา 4 วัน จะให้เราวิ่งจากฮอคไกโดยันโอกินาว่านี่ เราทำไม่ได้ง่ะ 
แล้วก็จะโดนเพื่อนด่าทุกทีว่าจะซึมซาบอะไรนักหนา เหอะๆๆ
ใครที่อยากพักผ่อนกับอาหารเริ่ด ๆ... ไม่ใช่ละ -*-
ใครที่อยากพักผ่อน ปล่อยเวลาให้ผ่านไปช้า ๆ ก็แนะนำเลยค่ะ
อ้อ... ก่อนจบ
ที่นี่มีออนเซน(รวม) ให้แช่ไป ชมวิวอันสงบของแปซิฟิคไปด้วยนะคะ
มีโอกาสแวะแถวนั้นก็ลองไปรีแลกซ์กันดูเนอะสงบ ไม่วุนวายดีค่ะ