มนตร์อัปสรา อรพิม
เพราะหนี้ที่ไม่ได้ก่อหากวราลีต้องเป็นผู้ชดใช้ทดแทนพี่สาวผู้ถูกผีพนันเข้าสิงแต่เจ้าของร้านเบเกอรี่เล็กๆ แบบเธอจะต้องทำเช่นไรกับหนี้สินก้อนโตแต่ชีวิตของวราลีอาจจะไม่ได้แค่ผจญกับปัญหาที่สะสางไม่ได้นี้เพียงอย่างเดียวเมื่อสัมผัสที่หกซึ่งติดกายเธอมาบ่งบอกว่า ณเวลานี้วราลีบังเอิญอยู่ร่วมในความรู้สึกที่เจ็บปวดรวดร้าวจากความรักที่พลัดพรากสิ่งมันนำเธอไปสู่พรหมที่เธอไม่ได้ลิขิต
เพราะความสงสารผสมกับความรู้สึกสงสัยบางประการอเล็กซ์จึงกลายเป็นเจ้าหนี้ที่แปลกประหลาดที่สุดคนหนึ่งหากแต่เหตุผลที่เขาสามารถให้คำตอบได้ก็คือวราลีคือเหยื่อที่ส่งมารับเคราะห์ของพี่สาวก็คงไม่แปลกอะไรที่เขาจะผ่อนปรนให้เธอได้ขนาดนี้ โดยที่วราลีเองก็ไม่เคยรู้ว่าแท้จริงเขาเองก็มีบางอย่างต้องการให้เธอให้คำตอบแก่เขา
มันไม่ใช่อารมณ์ที่วราลีควรรู้สึกเมื่อเธอไม่มีสิ่งใดคู่ควรกับเจ้าหนี้ที่แสนใจดีแบบอเล็กซ์เลยซ้ำร้ายข้างกายเขาก็มีผู้หญิงที่เหมาะสมไปทุกประการอยู่แล้ว แต่จะให้เธอทำเช่นไรรู้สึกอยากหนีไปให้ไกลเช่นไรก็ทำไม่ได้และดูเหมือนว่าไม่ใช่แค่เพียงวราลีถูกผูกติดอยู่กับคำว่าตัวประกันชั้นดีหากความลับของวิญญาณโบราณสองดวงก็ทำให้วราลีอยากรู้ว่าอะไรคือต้นเหตุของพลัดพรากนี้
สำหรับคนที่เกิดในตระกูลที่ต้องคำสาปแบบอเล็กซ์ความรักคือสิ่งต้องห้าม หากหัวใจไม่ใช่สิ่งที่จะสั่งได้อย่างที่สมองต้องการเขาพยายามแล้วที่จะทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้รักวราลี เพราะเมื่อใดที่รู้จักรักเมื่อนั้นก็คือวันที่ชีวิตของผู้หญิงที่เขารักนับถอยหลังเข้าสู่วันตายหรือบางทีสิ่งที่จะคืนชีวิตที่เหลือของวราลีได้คือจงหันหลังให้เธอหรือไม่ก็เกลียดเธอให้สุดหัวใจ
แต่ถ้าให้วราลีเลือกเธอเลือกที่จะได้รับความรักแม้ว่ามันจะทำให้เธอตายดีกว่ามีชีวิตที่เหมือนตายทั้งเป็นเพราะรักที่หมดไปของอเล็กซ์ แต่เมื่อความหวังมันยังไม่สูญสิ้นชีวิตเธอยังคงอยู่เธอจะไม่ปล่อยให้อเล็กซ์ต้องสู้อย่างโดดเดี่ยวเพราะเธอจะพยายามต่อไปเพื่อแก้คำสาปซึ่งมันอาจจะเกี่ยวพันกับวิญญาณที่เธอบังเอิญได้พบเจอถ้าหากเพียงเธอรู้ความจริง วันนั้นก็อาจเป็นวันที่มนตราที่ถูกสาปแช่งไว้คลายลง
อเล็กซ์ไม่รู้หรอกว่าความรักนำคำสาปมาสู่ชีวิตหรือคำสาปคือสิ่งที่ชักจูงความรักมาให้เขาแต่เมื่อยังคงมีแสงแห่งความหวังเขาจะเสี่ยงอดีตที่เขาไม่ก่อมันเคยส่งผลต่อคนในครอบครัวเขามาตลอดหากตอนนี้มันควรที่จะสิ้นสุดลงได้แล้ว รักอาจเป็นสิ่งที่เลวร้ายจนพรากแม้แต่ลมหายไปได้หากมันก็ทรงอำนาจพอจะให้อเล็กซ์ยอมแลกแม้แต่ชีวิตให้แด่วราลีมันไม่ได้สำคัญว่าจะต้องใช้เวลาเนิ่นนานแค่ไหนที่จะอยู่บนโลกใบนี้แต่มันสำคัญที่คนที่เขาจะใช้มันร่วมกันมากกว่าเพราะถ้าคนนั้นจะเป็นวราลีเพียงแค่วินาทีเดียวก็สำคัญกว่าเวลาชั่วนิรันดร์
มนตร์อัปสราเป็นนิยายที่ไม่ใช่นิยายใหม่ที่ฟีน่าเพิ่งเคยอ่านนะคะ แต่ถ้าขึ้นชื่อว่าเป็นงานของอรพิมแล้ว ฟีน่าอ่านมนตร์อัปสราเป็นเรื่องแรกเลยค่ะ เนื่องจากเล่มนี้เคยตีพิมพ์มาครั้งหนึ่งแล้วกับตอนที่ออกกับสนพ.พิมพ์คำ เกือบจะสิบปีแล้ว (นับเวลาบ่งบอกว่าอ่านนิยายมานานแค่ไหนเลยนะเนี่ย) และเล่มนี้จริงๆแล้วก็มีเล่มต่อด้วย เป็นเล่มของพี่สาวที่ก่อเรื่องราวใหญ่โตให้กับนางเอกต้องเข้าไปแก้ไข แต่ที่ฟีน่าเอามาอ่านและรีวิวใหม่เพราะว่าซื้อกลับมาเก็บใหม่ เนื่องจากเล่มเก่าหายไปแล้ว ถือโอกาสรื้อฟื้นความทรงจำเสียเลยค่ะ
เรื่องของเรื่องมาจากพี่สาวที่ติดพนันจนเรียกว่าผีพนันเข้าสิง ดันไปเป็นหนี้ก้อนโตในกาสิโนของประเทศกัมพูชา เมื่อเธอมืดแปดด้าน ทางเดียวก็คือให้นางเอกมาช่วยเหลือ แล้วความคิดชั่ววูบก็ทำให้เธอทอดทิ้งน้องสาวให้ผจญกับชะตากรรมที่ไม่ได้ก่อเลยแม้แต่น้อย โชคยังดีที่เจ้าหนี้แบบพระเอกมีมนุษยธรรมประกอบความสงสัยในชื่อแปลกๆที่หลุดจากปากนางเอก และอาการที่อธิบายไม่ได้ของเธอ จึงเลือกจะให้นางเอกเป็นแค่ตัวประกันที่รอพี่สาวเธอมาใช้หนี้
จากที่แค่เธอต้องมารับรู้ถึงความรู้สึกเศร้าสร้อยของวิญญาณที่บังเอิญสื่อคลื่นให้เธอรับรู้ก็แย่แล้ว แต่นี้ต้องมาคอยควบคุมหัวใจไม่รักดี ไม่ให้หลงรักเจ้าหนี้ของพี่สาวก็ยิ่งลำบาก แต่ห้ามเท่าไรหัวใจก็ไม่เคยฟัง แม้จะรู้ว่ายังไงก็ต้องอกหักแบบไม่ต้องคิด เพราะการลงทุนครั้งนี้เสี่ยงจนผลตอบแทนแทบจะมีค่าเท่ากับศูนย์ แต่ถึงแม้ว่ามันจะน้อยแต่ใช่ว่าจะไม่ได้รับมันกลับมา หากความรักที่ได้มา มันก็ไม่ได้สวยงาม เพราะมันมาพร้อมกับคำสาปที่นับถอยหลังชีวิตเธอไปเรื่อยๆ จนพระเอกและนางเอกต้องค้นหาหนทางการแก้คำสาปที่ผูกพันมาตั้งแต่บรรบุรุษของพระเอกจนมาถึงยุคเขาที่มันสมควรจะปิดลงได้เสียที เพราะไม่เช่นนั้นโศกนาฏกรรมที่เริ่มต้นมาจะไม่มีวันจบลงได้
รักแรกพบมันเป็นสิ่งที่ฝังใจนะคะ ไม่ใช่แค่ความรักของชายหญิง หากเหมือนรวมถึงความรักในนิยายค่ะ มนตร์อัปสราเป็นงานชิ้นแรกของอรพิมที่อ่าน และฟีน่าพูดได้เลยว่าหลังจากอ่านต่อมาหลายเล่ม ก็ยังรู้สึกว่ามนตร์อัปสราเป็นนิยายที่ฟีน่าว่ามันสนุกที่สุดของอรพิมเลยค่ะ ซึ่งนิยายของอรพิมก็จะเป็นแนวลี้ลับ คำสาป อะไรทำนองนี้นะคะ แต่ไม่รู้ซิคะ ฟีน่าว่าเรื่องเป็นเรื่องที่สมบูรณ์ในความรู้สึก มันอาจจะมีอะไรที่ไม่ได้ซับซ้อนหรือใช้ปมประเด็นยอดเยี่ยม แต่มันตรึงใจคนอ่านแบบฟีน่าให้อ่านได้จนจบ และการันตีความรู้สึกได้ หลังจากการอ่านรอบสองนี้ คือการที่เรารู้เรื่องราวทั้งหมด รู้ตัวคนร้าย รู้การคลายปมแล้ว หากยังอ่านจนจบได้แบบสนุกเหมือนเดิม แม้ว่าจะทิ้งช่วงห่างราวๆ ห้าถึงหกปีก็ตามที มันก็บอกเป็นนัยๆว่าเล่มนี้โดนใจจริงๆค่ะ
ปมของนิยายมันชวนให้น่าติดตามแล้วว่าวิญญาณที่นางเอกสัมผัสได้ต้องการสิ่งใด มันต้องมีความลับอะไรบางอย่างที่เธออยากจะช่วยไข แต่จะมาสนุกมากขึ้นในตอนที่นางเอกโดนคำสาปเข้ากับตัวเองแล้ว มันคล้ายๆกับการบอกเป็นนัยว่า ถ้าพระเอกไม่รัก เธอก็ไม่โดนคำสาปนี้เข้า เป็นเราจะดีใจหรือเสียใจดีล่ะ ที่ได้รู้ว่าชายที่เราแอบหลงรักก็รักเราเช่นกัน แต่ความรักกำลังจะฆ่าคุณ
เนื้อเรื่องไม่ยุ่งเหยิง สับสนหรือว่าเต็มไปด้วยด้านมืดอะไรนะคะ แต่ออกจะน่ารักด้วยซ้ำไป ตั้งแต่ตัวพระเอกแล้ว เขาไม่ใช่เจ้าหนี้ใจคอโหดเหี้ยม ที่คอยขู่กรรโชกนางเอก เอะอะก็จะลากขึ้นเตียงเอาตัวใช้หนี้ แต่ลึกลงไปเขาสงสารนางเอกด้วยซ้ำที่ถูกพี่สาวหลอกมาให้ใช้หนี้แทนเขา เรียกว่าพระเอกเนี่ยน่ารักตั้งแต่วิธีการแล้ว แล้วมันก็เข้าทำนองรักแท้แพ้ใกล้ชิด นางเอกอาจไม่ได้สวยจนชวนตะลึง แต่เสน่ห์แบบน่ารักๆของเธอก็ชวนให้รักได้ง่ายๆ จนบางทีคนที่เชื่อในความรักยากๆแบบฟีน่าก็มีสงสัยในการอ่านรอบสองว่า อะไรทำให้พระเอกรักนางเอกได้ล่ะ เมื่อสองคนนี้มักจะเจอหน้ากันบนโต๊ะกินข้าวเสียมากกว่า พออายุมากก็เริ่มมีปัญหากับอารมณ์พาฝันมากขึ้นค่ะ
สิ่งที่น่าจะตอบคำถามนี้ได้ก็คงเป็นความสดใสของนางเอกหรือเปล่า หรือเสน่ห์แบบไม่ต้องปรุงแต่ง หรือจะเรียกว่าพรหมลิขิตก็เป็นไปได้ล่ะ คือพยายามไม่หาเหตุผลกับการที่พระเอกจะรักนางเอกที่ธรรมดาๆค่ะ นิยายเล่าเรื่องในโทนที่เรียกว่าออกไปทางอบอุ่นมากกว่าร้อนแรง มันก็เลยพอจะมีคำตอบอยู่บ้าง
แต่ประเด็นที่ทำให้มันสนุกก็คือว่า ความรักไม่ใช่สิ่งที่จะบังคับฝืนใจได้ เมื่อรักก็ยากจะเลิกรัก ยิ่งพยายามห้ามไม่ให้รัก ก็เหมือนสั่งว่าต้องยิ่งรักมากขึ้น เมื่อหักห้ามใจไม่ได้แทนที่จะวิ่งหนีมัน ต้องหันกลับมาใช้เวลาที่มีค่าเพื่อหาทางแก้ไข เราเองที่แม้ว่าจะรู้อยู่แล้วว่าตอนจบคงไม่ได้จบแบบโศกาน้ำตาร่วง คือพระเอกกับนางเอกต้องอยู่ด้วยกัน แต่อะไรล่ะคือคำตอบของทุกปม ซึ่งเรื่องก็เล่ามาได้ดีและน่าสนใจมากว่าสุดท้ายแล้วมันมีคำตอบของมันอยู่แล้ว รอแค่ว่าใครจะโชคดีที่ไขมันได้และคลายคำสาปที่กัดกินคนในครอบครัวพระเอกมาตลอด
ตัวนิยายเองก็สะท้อนให้เข้าใจในอีกมุมมองหนึ่งของความรัก เมื่อในตอนที่คำสาปมันกำลังจะคร่าชีวิตนางเอกไปและพระเอกก็มืดแปดด้านที่จะหาทาง สิ่งที่เขาหลงลืมไปก็คือ เขาเกือบที่จะปล่อยให้เวลาที่มีค่าสูญไป แทนที่เขาจะได้ใช้เวลาที่อาจจะเหลือแค่นั้นกับคนที่เขารัก หากเขาอาจจะละทิ้งเวลาที่มีค่าที่สุดไป ซึ่งความจริงสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการได้ใช้ทุกช่วงเวลากับผู้หญิงที่ต้องการอ้อมกอดจากเขามากกว่าความเดียวดาย ความหวังมีได้แต่อย่าทอดทิ้งปัจจุบันซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญกว่าอนาคตที่ยังมาไม่ถึง เราต้องอยู่กับตอนนี้มากกว่า หากทำเวลานี้ให้ดีที่สุด เราจะได้ไม่ต้องเสียดายว่า รู้แบบนี้ทำให้ดีที่สุดเสียก่อนจะดีกว่า แต่ของเช่นนี้โทษพระเอกไม่ได้หรอกนะคะ เพราะความหวาดกลัวต่อความตายก็ทำให้พระเอกต้องการทางแก้ไขเพื่อนางเอก
และเนื่องจากนิยายเล่มนี้นะคะ เขียนมานานเกือบสิบปีแล้ว ทำให้มุมมองของบางอย่างในเรื่องต่างไปจากการอ่านครั้งแรกไปบ้าง สิ่งที่เห็นชัดคือเรื่องทางสังคม ซึ่งตอนที่เขียนการเดินทางไปมากันระหว่างไทยกับกัมพูชายังมีข้อจำกัดทางด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศบางประการ แต่ตอนนี้เราเข้าสู่ประชาคมอาเซียนและให้หลังจากนิยายออกไม่กี่ปี มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งตอนแรกฟีน่าก็คิดว่าเวอร์ชั่นเล่มใหม่คงจะมีปรับปรุง แต่น่าจะไม่ได้มีการแก้ไขนะคะ เพราะเท่าที่จำได้ว่าตอนนี้เพื่อความสะดวกของประชาคมอาเซียน ประเทศในอาเซียนแทบจะไม่ต้องขอวีซ่าเพื่อเดินทางเข้าออกประเทศไทย ยกเว้นประเทศพม่าที่ยังต้องขอวีซ่าอยู่ ยิ่งถ้าไม่ได้พำนักนาน ก็ไม่จำเป็นต้องขอวีซ่า เช่นคนกัมพูชาที่ถือหนังสือเดินทางเข้าไทยเพื่อการอื่นไม่ใช่การมาทำงานเช่นท่องเที่ยว จะมีอายุในการอยู่ในราชอาณาจักรได้ไม่เกินสิบสี่วัน ซึ่งมันจะขัดกับเนื้อหานิยายเล็กน้อยตามความเข้าใจของเราที่มีตอนหนึ่งพระเอกบอกว่าเขาต้องไปเสียเวลาขอวีซ่าเข้าไทยก่อน มองในแง่ว่าถ้าอิงจากปีที่ตีพิมพ์คือปี 2549ก็ถูกต้องค่ะ แต่พอมาพิมพ์ใหม่ปีนี้ก็น่าจะแก้ไขให้ร่วมสมัยขึ้นก็น่าจะดีนะคะ ก็เลยเป็นประเด็นที่ขอเม้นท์สักหน่อยนะคะ ส่วนอื่นๆ ก็อาจจะรู้สึกว่ายังไม่ค่อยทำให้เรามองว่าเป็นสังคมแบบกัมพูชาสักเท่าไร อ่านแล้วคิดไปด้วยซ้ำบางทีว่าเหมือนเรื่องราวเกิดในประเทศไทยนี้ล่ะ
แต่ทั้งนี้เรื่องนี้น่าจะเป็นนิยายที่นักอ่านที่เป็นคออ่านนิยายกันมานานน่าจะเคยอ่านแล้วล่ะ เพราะออกมานานมากแล้ว ยกเว้นใครที่ยังไม่เคยลองอ่านหรือเพิ่งมาอ่านนิยายใหม่ เป็นอีกเรื่องที่สนุกนะคะ อาจจะลี้ลับตามประสานิยายที่มีปมรักสามเส้าในอดีตชาติไปบ้าง พ่วงมาด้วยคำสาปจากความโกรธแค้นของใครบางคน แต่มันก็โรแมนติคอบอุ่นใจดีที่เห็นพระเอกรักนางเอกแบบไม่ต้องมานั่งเสียน้ำตาให้กับผู้ชายนิสัยไม่ดี คอยแต่ชิงชังนางเอกเพราะว่าหนี้ที่เธอไม่ได้ทำเสียหน่อย พระเอกเป็นคนออกจะอบอุ่นชวนให้หลงรักง่ายๆค่ะ และเมื่อเขารักแล้วก็พยายามจะทำทุกอย่างไม่ให้คนที่ตัวเองรักอาจจะตายได้ ตัวพระเอกและนางเอกเป็นตัวละครที่ไม่ซับซ้อนมาก เข้าใจได้ง่ายๆ ส่วนตัวคนร้ายก็ไม่ต้องคิดมากอีกเช่นกัน เห็นกันจะๆตาแบบนั้น ไม่ต้องลุ้นมากค่ะ สิ่งที่ลุ้นสุดคือแก้คำสาปนี้ล่ะ ส่วนที่ไม่ชอบที่สุดในเรื่องนี้ พูดได้เหมือนเดิมเลยตั้งแต่ครั้งแรกที่อ่านคือตัวพี่สาวนางเอกค่ะ เธอเป็นพี่สาวที่เรียกว่าไม่ค่อยได้เรื่องเลย ช่างสรรหาเรื่องมาให้น้องสาวได้ตลอด ถ้านางเอกไม่รักพี่สาวจริงๆ หรือเป็นคนที่พื้นนิสัยดี เป็นเราคงจะไม่เข้าไปยุ่งด้วยนะคะ ฟีน่าเองเป็นคนไม่ชอบคนที่ติดการพนันด้วย จึงไม่ชอบพี่สาวนางเอกมาก จนไม่เคยคิดว่าเธอจะกลายเป็นนางเอกเล่มต่อได้ แม้จะบอกว่าถ้าเธอไม่ทำเรื่อง นางเอกอาจจะไม่ได้พบรักกับพระเอก แต่ฟีน่าว่าไม่ใช่ คนเราถ้าเป็นคู่กัน ยังไงก็ต้องได้เจอกัน แต่ทั้งนี้พูดได้ว่าทั้งหมดแล้ว มนตร์อัปสราเป็นนิยายที่สนุกค่ะ วัดจากการอ่านรอบสอง ยังตรึงให้เราอ่านแบบรวดเดียวจบได้เหมือนเดิมที่เคยอ่านครั้งแรก แบบนี้ก็เป็นนิยายที่น่าแนะนำให้ลองหามาอ่านกันนะคะ น่าจะถูกใจคนชอบนิยายอบอุ่นใจ ไม่ชอบดราม่าน้ำตาริน พระเอกทุ่มเทให้นางเอกเพื่อจะใช้ชีวิตที่มีกับเธอตลอดไปนะคะ