เตชนาก็พอจะเข้าใจนะว่าบางครั้งสาวเอเชียในสายตาของหนุ่มตะวันตกก็ดูจะไม่ค่อยดีสักเท่าไร แต่พอมาเจอกับตัวเอง เตชนาก็รู้สึกว่าอยากจะอัดพ่อนักกอล์ฟหนุ่มชื่อดังนามว่าคามิลลิโอสักที โทษฐานที่บังอาจเข้าใจผิดว่าหน้าตาอ่อนกว่าวัย ใสขนาดนี้จะเป็นแค่เด็กสาวที่ยังเรียนไม่จบแถมมาลำไพ่พิเศษอะไรแบบนั้น โธ่เอ๊ย ไม่อยากจะบอกว่า คนอย่างเตชนาน่ะ แม้จะเข้าสามสิบแต่ไม่ได้หน้าแก่เหมือนเขาสักหน่อย
เพราะอดีตที่เลวร้ายจากรักแรก คามิลลิโอจึงไม่ค่อยชอบขี้หน้าสาวเอเชียเท่าไรนัก และยิ่งเตชนา ที่ไม่รู้ทำไมเขาจึงรู้ขวางหูขวางตาแปลกๆ จนความเข้าใจผิดเกือบบานปลายใหญ่โต ทว่าสิ่งที่ทำให้เขาแทบช็อก แม่สาวไทยไซส์มินิ(ในบางส่วน)คนนี้อายุมากกว่าเขาถึงสามปีเชียวหรือ และเมื่อเขาได้รู้จักตัวตนของเตชนามากขึ้น คามิลลิโอก็ต้องยอมรับว่าเตชนามีสมองที่น่าสนใจยิ่งกว่าอื่นใด ยกเว้นวาจาและคารมที่เฉือนเขาในทุกครั้งที่คุยกัน
แค่ต้องมาเป็นแคดดี้จำเป็น เตชนาก็แทบอยากจะให้เวลามันหมุนไปเร็วๆอยู่แล้ว แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัดหรือไง เธอเลยต้องกลายมาเป็นเลขาส่วนตัวแบบไม่ตั้งใจ และดูเหมือนว่าเกลียดสิ่งใดมักได้สิ่งนั้นก็ดูจะรุนแรงขึ้นทุกที เมื่อไรกันที่พ่อสิงห์หนุ่มอายุน้อยแต่หน้าแก่คนนี้เริ่มเข้ามารุกรานพื้นที่ส่วนตัวที่เรียกว่าหัวใจกันนะ แต่ในเมื่อเตชนาพ้นวัยสาวหน้าใสหัวใจว้าวุ่นมานานแล้ว เธอก็ซื่อสัตย์กับตัวเองพอที่จะยอมรับว่าเธอและคามิลลิโอมีบางอย่างที่พอจะเรียกได้แล้วว่าความรัก
ในเวลานี้อาจจะเรียกว่าชีวิตของเขาเต็มไปด้วยความสุข คามิลลิโอไม่เคยพบผู้หญิงคนไหนเหมือนเตชนามาก่อน เธอเก่งและเข้ากับเขาไปทุกอย่าง ทั้งๆที่เธอเกลียดกอล์ฟแต่กลับเป็นแคดดี้ที่ทำให้เขารู้สึกดัที่สุดที่ได้ออกรอบกับเธอ ไม่เคยเอาแต่ใจหรือว่างี่เง่าใส่เขาเลย แต่ความเป็นจริง กลับมีบางอย่างคุกคามเขาอยู่ อดีตของความรักที่เขาหันหลังให้กำลังจะหวนกลับมาทำร้ายเขาและเตชนา
สำหรับเตชนา คนรักในอดีตไม่ได้สั่นคลอนหัวใจเธอให้หวั่นไหวเท่ากับคำว่า แท้จริงแล้ว คามิลลิโอกันเธอออกจากโลกของเขา โลกที่มีแต่อดีตของเขาและคนรักเก่า โลกที่เธอก้าวเข้าไปไม่ถึง เธอไม่ได้ต้องการรับรู้ทั้งหมด แต่ขอเพียงได้เป็นส่วนหนึ่ง และยิ่งคำว่าเธอไม่เกี่ยว ก็ยิ่งทำให้เตชนารู้ดีว่า บางครั้งความรักก็ไม่ได้จบลงที่คำว่า ever after สักหน่อย เมื่อคามิลลิโอ ขีดเส้นให้เธออยู่นอกโลกที่เขาเป็นเจ้าของทั้งหมด เธอก็จะไม่เข้าไป รักครั้งนี้เธอพร้อมที่จะปิดบัญชีหัวใจ แม้ว่าใจจะรักสักเพียงใด
จะโทษใครกันเล่า คงมีแต่เขาที่โง่งมคนเดียว คิดไปคนเดียว จัดการทุกอย่างจนลงลืมว่า ความรักไม่ได้มีไว้แค่จัดการให้อีกฝ่ายทำอย่างที่เขาต้องการ คามิลลิโอรู้ดีว่าเตชนาไม่ได้อยากรู้ทุกอย่างในอดีตของเขา เพียงแต่เธออยากเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต รับรู้ทุกข์สุขที่เขาเป็น ฝ่าฝันอุปสรรคในชีวิตของกันและกัน แต่นี้เขาทำอะไรลงไป เขากลับปล่อยให้ความเชื่อมั่นของตัวเองในแบบโง่ๆ ทำร้ายผู้หญิงที่เข้าใจเขาที่สุดเช่นนั้นหรือ ครั้งนี้คามิลลิโอได้แต่หวังว่าเตชนาจะอภัยในความผิดของเขา
ทั้งที่เตชนาบอกว่าเป็นคนเจ็บแล้วจำ แต่เมื่อได้พบกับคามิลลิโออีกครั้ง พร้อมกับบางอย่างที่เปลี่ยนไป เขาไม่ใช่ผู้ชายคนเดิมที่กันเธอออกจากโลกที่เป็นส่วนตัวของเขาอีก คนที่รักความเป็นส่วนตัวที่สุดเช่นเขาทำได้ทุกอย่างเพื่อให้เธออภัย เช่นนี้แล้วเตชนาจะเป็นผู้หญิงใจร้ายปล่อยให้ผู้ชายที่รักเธอขนาดนี้ไปได้เช่นไร เมื่อเธอรู้จักที่จะให้อภัยเขา เธอก็พร้อมจะรับเขาเข้ามาในชีวิตอีกครั้ง
ครั้งหนึ่งคามิลลิโอเคยทำผิด และเขาก็ได้รับบทเรียนที่แสนแพงไปแล้ว หัวใจที่หล่นหายไปและคิดว่าจะไม่มีวันได้กลับคืน บัดนี้เตชนาได้กลับมาสู่ชีวิตเขาอีกครั้ง เขาอาจจะไม่ใช่ผู้ชายแสนดี แต่เขาก็มีดีที่รักเธอที่สุด คามิลลิโอสัญญาว่าเมื่อได้เตชนากลับมาอีกครั้ง เขาจะไม่ทำผิดเหมือนในอดีตที่ผ่าน ทุกอย่างในชีวิตเบื้องหน้า จะมีเขาและเธอเป็นส่วนหนึ่งของกันและกันเสมอ
ในเรื่องนี้จะเป็นชีวิตของสาวไทยที่เรียนจบและทำงานอยู่ที่ออสเตรเลีย และเมื่อเธอถูกพ่อบุญธรรมลากให้ไปเป็นแคดดี้ส่วนตัวก็ทำให้เธอพานพบกับนักกอล์ฟที่กำลังมาแรง แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ค่อยชอบขี้หน้าเธอสักเท่าไร ซึ่งนางเอกก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก ถ้าไม่เพราะเขาชอบหาเรื่องเธอตลอด แถมยังพูดจาเหมือนดูถูกสาวเอเชียว่ามาหาลำไพ่พิเศษกับหนุ่มต่างชาติ นางเอกก็เลยได้ทีตอกซะหน้าหงายไปว่าเธอน่ะรุ่นพี่เขา เรียนจบ มีการมีงานทำแล้ว ไม่ได้เป็นนักศึกษาอย่างที่เข้าใจ และนั่นก็ทำให้พระเอกที่แตกยับเยิน เริ่มมองนางเอกแปลกๆ และยิ่งได้มาทำงานด้วยกันแบบไม่เต็มใจทั้งสองฝ่าย ทั้งคู่ก็เริ่มมองเห็นอะไรบ้างอย่างที่ซ่อนอยู่ และนางเอกที่ไม่ได้เป็นสาวน้อยไร้เดียงสา เธอจึงไม่ปิดบังหรือไม่เข้าใจความรู้สึกของตัวเองว่าก็มีใจให้พระเอก
แต่ความรักไม่ได้มีบทสรุปแค่เรารักกัน แต่กลับมีอุปสรรคมาคอยเป็นเครื่องทดสอบว่าจะผ่านพ้นมันไปได้หรือไม่ ซึ่งอุปสรรคใหญ่นั่นก็คือตัวพระเอกเอง ที่เขาไม่ยอมให้นางเอกก้าวเข้าไปในโลกบางอย่างของเขา จนนำมาซึ่งความเจ็บปวด และก็ทำให้พระเอกได้รู้แล้วว่า สิ่งที่เขาต้องการที่สุดคือนางเอกไม่ใช่อดีตและสิ่งที่เขาปิดกั้นเธอเลย ยังดีที่นางเอกเป็นพวกไม่เจ้าทิฐิทุกอย่างก็เลยลงเอยด้วยดี
ก็อย่างที่รู้ๆกัน ฟีน่าจะไม่ค่อยนิยมพระเอกอายุน้อยกว่านางเอกสักเท่าไร เลยตั้งท่ากับเรื่องนี้สักพักค่ะ แต่เผอิญว่าดันไปติดเขย่ารักมาเฟียของนักเขียนคนนี้เข้า คือเรียกว่าติดมาก ชอบอ่านมุมมองของคนเขียนอะไรแบบนั้นและคิดได้ว่า ตอนอ่านลิขิตรักต่างแดน เราก็รู้สึกดีนี้ ดังนั้นไม่ต้องคิดมากอ่านเหอะ ฟีน่าก็เลยซื้อมาเป็นของตัวเองจะดีกว่า
เนื้อหาและเรื่องราวจะยังอยู่ในออสเตรเลียเป็นหลัก นางเอกที่เป็นสาวไทยที่แสนจะมีความคิดเป็นของตัวเอง เพราะเธอมีความคิด มีความรู้ที่จะทำงานหาเลี้ยงตัวเองได้ โดยไม่ต้องพึ่งพาอาศัยผู้ชายคนไหน เป็นผู้หญิงในแบบที่ฟีน่าชอบค่ะ การคิดของเธอจะออกเป็นผู้ใหญ่สมตัวและวัย ไม่ใช่สามสิบแต่คิดเป็นเด็กสาวแรกรุ่นอะไรแบบนั้น เต็มไปด้วยอารมณ์ขันและตรงไปตรงมา และนั่นก็คือเสน่ห์ของเธอ ฟีน่าชอบเธอไม่ใช่พวกเล่นตัวประเภท ชอบนะแต่ปากบอกว่าไม่ บอกกันไปตรงๆเลยดีกว่า ไม่ใช่ผู้หญิงหูเบา งี่เง่าน่ารำคาญด้วย
ตอนพระเอกโดนก่อกวนด้วยเรื่องคนรักเก่า เธอไม่เอาแต่คิดไปว่า พระเอกจะรักแฟนเก่าไหมอะไรแบบนั้น แต่ว่าฉันจะสู้สักตั้ง ไม่ใช่อะไร เพื่อให้พระเอกหลุดพ้นจากเรื่องแย่ๆที่ทำร้ายเขาต่างหา เพราะเธอรู้ว่าพระเอกเป็นคนยังไง แต่ที่ชอบอีกอย่างคือ นางเอกเด็ดขาดมาก เมื่อไม่ได้ทั้งหมดฉันก็จะไม่เอาของเหลือ ปิดบัญชีจบกัน ไม่มีฟูมฟายน้ำตาให้น่ารำคาญ ตัดคือตัด ไปคือไป ชอบค่า
ส่วนพระเอกนี้ แรกจะกวนประสาท จนอยากจะถวายแหวนเลย มีอย่างที่ไหน มาคิดว่านางเอกหาลำไพ่พิเศษ เพียงเพราะเธอเป็นสาวเอเชีย น่าซัดเลย แต่เราก็ต้องมองกันจริงๆว่า บางครั้งเรื่องราวของสาวไทยบางคนก็ทำให้ภาพพจน์ผู้หญิงไทยในสายตาฝรั่งไม่ดีจริงๆค่ะ แต่ก็ยังพอให้อภัยพระเอกได้เพราะเรื่องในอดีต และสะใจที่โดนนางเอก ย้อนเสียเจ็บแสบ ด้วยการเรียกว่าเป็นไอ้น้องชาย อิๆๆ สะใจชะมัดยาด แต่พอพระเอกเข้าใจอะไรดีขึ้น ก็ค่อยยังชั่วหน่อยค่ะ แม้จะมีอาการขี้เก๊กบ้างเป็นระยะๆ แต่รับได้ ไม่ได้น่าหมั่นไส้จนเกินไป แถมรักนะแสดงออกให้เห็นด้วย วุฒิภาวะของพระเอกก็ใช่ได้ค่ะ ทำให้ฟีน่าลืมไปด้วยซ้ำว่าพระเอกเป็นผู้ชายที่อายุน้อยกว่านางเอก เพราะความคิดเขาโตมาก ช่องว่างหรืออายุจึงไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ฟีน่าอ่านไม่ยอมอ่าน จะมาน่าตบอีกที่ก็ตอนสุดท้ายเนี่ยล่ะ มันน่าแช่งให้โดนทิ้ง
ถ้าให้เทียบระหว่างเรื่องนี้กับเรื่องก่อน ฟีน่าอาจจะรู้สึกว่าชอบลิขิตรักต่างแดนมากกว่านิดหนึ่ง เพราะความจริงจังในการเขียนจะมากกว่า เล่มนี้จะมีสแลงในเรื่องมากไปนิด อย่างการเรียกพระเอกว่า ตาแมงอะไรแบบนั้น แต่ก็ไม่ได้ทำให้เรื่องไม่สนุกหรอกนะคะ สนุกดีค่า เพียงแต่ฟีน่าเป็นคนค่อนข้างจะเรื่องมากไปนิด
ความชอบ แน่นอนว่าฟีน่าจะชอบความคิดของคนเขียนที่ใส่ไว้ในเรื่องค่ะ จากที่เคยอ่านมาแล้ว เพราะคนเขียนอยู่ต่างประเทศ ความคิดเรื่องเท่าเทียมกันในเรื่องเพศ คือผู้หญิงไม่ควรจะโดนผู้ชายข่มเหงน้ำใจด้วยคำว่ารัก เป็นสิ่งที่ยังอยู่ ผู้หญิงต้องเคารพในตัวเองก่อน ต้องพึ่งพาตัวเองมากกว่าจะรอพึ่งพาผู้ชาย อ่านแล้วจะได้ข้อสอนใจ โดยไม่จำเป็นว่าคุณต้องไปอยู่ต่างประเทศ ผู้หญิงมีทุกอย่างเท่าเทียมกับผู้ชาย ถ้าคุณจะรอที่จะพบเจ้าชายขี่ม้าขาวมาโอบอุ้มและให้คุณอยู่สบายประดุจราชินี สักวันหนึ่ง เจ้าชายของคุณจะไม่ตายหรือไง และราชินีที่แสนสบายอาจจะกลายเป็นแค่สาวใช้ ไม่เหลืออะไรเลย ดังนั้นจึงอย่าหวังพึ่งพาใครยกเว้นตัวเอง
ในเล่มนี้จะพบว่านิยายค่อนข้างจะมีอารมณ์ขันมากกว่า จากมุมมองของนางเอก การพูดการจาของนางเอกที่กระทำต่อพระเอก เรียกว่าเนื้อหาเรื่องเบาสบายมาหน่อยค่ะ จะมามีซีนอารมณ์ก็ตอนท้ายหน่อยหนึ่ง
ในเรื่องสังคมและสภาวะแวดล้อมของเรื่อง อันนี้ต้องบอกว่าคนเขียนเขาเขียนมาจากของจริง เพราะตัวเขาอยู่ในออสเตรเลีย จึงมั่นใจตรงจุดนี้ได้ หรือสังคมคนไทยในต่างประเทศ คิดว่าก็คงจะเป็นเช่นนี้เพราะเท่าที่ฟังมาจากเพื่อนตัวเองที่อยู่ต่างประเทศ ไม่ว่าจะประเทศไหนก็ไม่ค่อยต่างกันสักเท่าไร
นิยายเรื่องนี้จะเปิดมุมมองของตัวเนื้อหาที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับกอล์ฟให้คนที่ไม่ค่อยชอบกอล์ฟแบบฟีน่าเข้าใจไปด้วยค่ะ ซึ่งสามารถบอกเล่ามาได้ดีและมาในรูปแบบที่เป็นนิยายที่ทำให้เราเชื่อว่าพระเอกเป็นนักกอล์ฟจริง อยู่ในวงการนี้ ไม่ใช่แค่สร้างมาลอยๆ แล้วแค่บอกว่าเขาเป็นนักกอล์ฟ เหมือนที่นิยายนิยมให้พระเอกเป็นนักธุรกิจ แต่มองมุมไหนก็ไม่ใช่เลย เป็นแค่ผู้ชายลอยไปมา คอยตามนางเอก มาเซ็นเอกสารแล้วจากไป คือฟีน่าก็อ่านอยู่นะคะ แต่อ่านแค่ฆ่าเวลาไม่ได้อินสักเท่าไร จะชอบที่ทำให้เราเชื่อได้มากกว่าว่าเขาเป็นแบบนั้นจริงๆ
ในประการหนึ่งที่ฟีน่าเพิ่งสังเกตเห็นคือ การให้ความรู้สึกของการถูกปลูกฝังค่านิยมของตัวละคร อันนี้เห็นได้จากตอนอ่านเขย่ารักมาเฟีย แล้วมาอ่านเรื่องนี้ ตัวละครที่เป็นนางเอกของสองเรื่องนี้ มีการเลี้ยงดูตั้งแต่เริ่มมาต่างกัน นางเอกในเรื่องนี้เธอคือคนไทยที่โตในไทย ความคิดแบบรักนวลสงวนตัวจึงเป็นเรื่องปกติ ที่ฟีน่าไม่ได้คิดอะไร
แต่พอไปอ่านเขย่ารักมาเฟีย นางเอกที่แม้จะโตในไทยแต่เธอมีชีวิตช่วงวัยรุ่นอยู่ในต่างประเทศความคิดของเธอในเรื่องการมีคนรักจึงไม่เหมือนสาวไทยจ๋า นั่นเองทำให้ฟีน่าได้เห็นว่า คนเขียนสามารถมองในแง่มุมของความคิดของผู้หญิงที่เติบโตในแต่ละวัฒนธรรมได้ชัดเจน หากเป็นคนที่เติบโตในตะวันตก แต่มองว่าการคบหาเพศต่างเพศเป็นเรื่องประหลาดก็คงไม่ใช่แล้ว เพราะการมีอะไรกันก่อนแต่งงานไม่ใช่เรื่องผิดบาป แต่คุณต้องมีการป้องกันตัวที่เป็นและเป็นเรื่องของความเต็มใจของทั้งสองฝ่าย มากกว่าการขืนใจ ตรงนี้ล่ะฟีน่ามองว่าคนเขียน เขียนได้ดีและอ่านขาดว่า ตัวละครแต่ละตัวมีเบื้องหลังเช่นไร ต้องให้เขามีนิสัยแบบไหน
แต่อย่างที่บอกว่า ตัวฟีน่าเป็นคนเรื่องมาก ความชอบในเล่มนี้มีมากแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่สงสัยอะไร นั่นก็คือกรณีของแฟนเก่านางเอกที่ฟีน่าคิดว่าจะมีบทบาทอะไรสักอย่าง แต่จู่ๆก็หายเข้ากลีบเมฆไปเลย เป็นอะไรที่งงมาก ว่าอีตานี้เกริ่นนำมาเพื่อการอันใด สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรจากเขาเลย
และฟีน่าอาจจะเป็นคนหัวโบราณสักนิด ต้องยอมรับความจริง กับการใช้รูปแบบของภาษาพูดมาอยู่ในตัวของบทพรรณา ตัวฟีน่าจะมองว่าแปลกและค่อนข้างจะรู้สึกว่าผิดที่ผิดทางไปนิดค่ะ จะบอกว่าเป็นพวกอนุรักษ์นิยมก็ว่าได้ มันไม่ได้เสียหายอะไร เพียงแต่เราค่อนข้างชินการใช้ภาษาพูดอยู่ในเครื่องหมายคำพูดเสียมากกว่า
แต่ถ้ามองโดยรวมแล้ว เล่มนี้ผ่านค่ะ ฟีน่าไม่ได้สนใจเรื่องอายุอะไรเลยสักนิดเดียว เพราะตัวเรื่องสนุกดี นางเอก พระเอกไม่งี่เง่าน่ารำคาญใจ ไม่ปากแข็ง ใจแข็ง รักก็บอกกันตรงๆ อาจจะดูรวดเร็วจนกลับตัวไม่ถูกว่าดูเหมือนจะไม่ค่อยชอบขี้หน้าไม่ใช่หรือ ตกลงรักกันแล้วหรือไง และยังทิ้งเรื่องที่น่าจะเป็นความรักของเพื่อนซี้นางเอกกับพี่ชายนางเอกไว้ด้วยว่า น่าจะมีปิ๊งๆกันให้เราติดตามสนใจต่อไป
ดังนั้นตอนนี้ฟีน่าก็เลยจัดให้นิยายของคุณออสม่าให้เป็นอีกนักเขียนที่ฟีน่าจะตามงานต่อไปค่ะ เพราะในมุมมองของคนเขียนหลายอย่างฟีน่าชอบ และเชื่อเสมอว่า อะไรที่นักเขียนคิดมักจะถ่ายทอดลงในผลงาน เมื่อความคิดของเขาคือความคิดที่ฟีน่าชอบ นิยายของเขาก็ไม่ต่างกันค่ะ