เพชรยอดบัลลังก์ เฉียนลู่
เมื่อสิ้นไร้ทั้งแผ่นดินและครอบครัวสตรีคงมีค่าเป็นแค่เครื่องบรรณาการ แต่สำหรับเธอผู้เต็มไปด้วยความเคียดแค้นแม้วังหลวงที่อยู่เบื้องหน้าจะเป็นสถานที่ที่ทุกคนปรารถนาและหวาดหวั่นชิงเฟิงกลับเลือกที่จะเอาคืนกับผู้ที่ทำให้เธอต้องตกอยู่ในสภาพนี้อย่างเท่าเทียมกันเมื่อไม่มีใครให้ห่วงหาอีกต่อไปแผนเอาชีวิตโอรสสวรรค์เช่นฮ่องเต้ชั่วเยี่ยนหงเทียนก็ไม่ใช่สิ่งที่เธอไม่อาจลงมือได้
ทั้งชีวิตของเยี่ยนหงเทียนเขาไม่เคยปรารถนาสิ่งใดแล้วไม่ได้ทว่าตอนนี้สตรีที่มีค่าเพียงแค่บรรณาการจากดินแดนที่พ่ายแพ้ซ้ำยังมีรูปโฉมอัปลักษณ์กลับท้าทายในอำนาจของเขาเมื่อชิงเฟิงไม่ปรารถนาจะมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ เขาก็จะไม่ให้เธอสมหวังการทรมานให้เธออยู่ก็ไม่ได้ ตายก็ไม่ได้ต่างหากถึงจะสาสมกับความบังอาจของผู้หญิงซึ่งไม่ประมาณตนผู้นี้
จากที่คิดว่าเหลือเพียงแค่ตนเท่านั้นแต่ความจริงแล้วพี่สาวและน้องสาวอันเป็นที่รักยังคงมีชีวิตอยู่นับจากนี้แผนการของชิงเฟิงจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป จากความตกต่ำถึงขีดสุดเธอจะใช้ทุกอย่างเพื่อกุมอำนาจแห่งสตรีเอาไว้มันไม่ได้เปลี่ยนไปเพราะความรักแต่เพราะแรงแค้นที่มีต่อเยี่ยนหงเทียนไฟแห่งแรงอาฆาตได้แผดเผาเธอจนมอดไหม้ หากเถ้าถ่านของมันจะไม่สูญเปล่า
แม้รู้ว่าพระสนมคนงามต้องการฐานอำนาจด้วยการส่งเสริมจากคนที่เธอเกลียดชังที่สุดอย่างเขาเยี่ยนหงเทียนก็จะทำให้ชิงเฟิงรู้ว่าไม่ง่ายดายกับการไปสู่จุดสูงสุดของสตรีในวังหลังหากการปราบพยศคนงามเช่นนางสิงห์ชิงเฟิงคือสิ่งที่เยี่ยนหงเทียนไม่คิดว่าจากความสำราญใจจะร้อยรัดให้มันเป็นความรู้สึกที่ลึกซึ้งไปกว่านั้นทั้งรักและระคนแค้นจนแยกไม่ออกว่าสิ่งใดมากน้อยไปกว่ากัน
อำนาจนั้นช่างหอมหวานและน่ากลัววังหลวงที่ยิ่งใหญ่กลับหนาวเหน็บในเวลาเดียวกัน สูงส่งก็ยิ่งอ้างว้างหาคนผู้ใดจริงใจมีได้น้อยนิดเหลือเกินไม่ต่างจากความรู้สึกภายในใจชิงเฟิงก็ไม่อาจเข้าใจได้ว่าแม้จะเคียดแค้นเยี่ยนหงเทียนสักเพียงใดแต่ส่วนลึกในหัวใจเธอกลับมีเยื่อใยกับฮ่องเต้ชั่วช้าผู้นี้หากความรู้สึกที่ซับซ้อนยังไม่ทันได้กระจ่างชัดชีวิตที่ไม่ต่างจากเฟิงหวงของเธอก็ถึงคราวต้องเหมือนตายดับอีกครั้งและครั้งนี้แรงแค้นของมันไม่ลุกโชนในใจของเธอเพียงคนเดียวเพราะดวงใจที่ตายจากก็คือส่วนหนึ่งของเยี่ยนหงเทียน
เมื่อไม่รู้จักรักต่อให้จากก็ไม่อาจรู้สึกเจ็บปวด แต่เมื่อรักใคร่ทนุถนอมดวงใจถึงเพียงนั้นแล้วกลับถูกทำลายจนไม่เหลือเศษซากเยี่ยนหงเทียนก็แทบไม่อาจทานทนได้น้ำตาของชิงเฟิง เสียงกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งจิตใจที่บอบช้ำของหญิงเดียวที่โอรสมังกรเช่นรู้จักรักต้องได้รับการแก้แค้นอย่างสาสมนี้คือเวลาที่เหมาะสมแล้วกับการถอนรากถอนโคนเสี้ยนหนามที่ทิ่มตำราชบัลลังก์
รักคืออะไร แค้นคืออะไรสำหรับผู้หญิงที่เหมือนต้องคำสาปอย่างชิงเฟิงไม่อาจอธิบายได้ว่าสิ่งใดสำคัญกว่ากันในตอนนี้มีเพียงสิ่งเดียวที่เธออาจจะพอเข้าใจขอเพียงแค่ได้จับมือบุรุษที่ชื่อว่าเยี่ยนหงเทียนไปด้วยกันจนกระทั่งลมหายใจสุดท้ายของชีวิตก็คงเป็นยอดปรารถนาในใจเธอแล้วไม่ต่างอะไรไปจากเขาผู้อยู่เหนือยอดแห่งคนทั้งหล้าสิ่งที่อยากมอบให้กับสตรีผู้เป็นยอดรักก็คือความสงบสุขในอ้อมกอดของเขาแต่เพียงผู้เดียว
ในที่สุดเล่มสุดท้ายของชุดโฉมงามบรรณาการก็มาแล้วค่ะ แต่กว่าจะได้อ่าน กว่าจะอ่านจบ อุปสรรคเยอะเสียจนจริง ชาวบ้านชาวช่องเขาอ่านกันไปแล้ว ดังนั้นก็เหมือนเดิมนะคะ รีวิวเพื่อเอามาคุยเล่นกันตามประสา หรือว่าใครยังพลาดเล่มนี้ไปจะได้ช่วยในการตัดสินใจ (ที่น่าจะน้อยมาก เพราะชุดนี้คนกล่าวขวัญถึงเยอะมาก) สามสาวแห่งสกุลชิงที่แสนแปลกประหลาดมาถึงบทสรุปของรักเลือดสาดในวังหลวงเสียที ชิงเฟิงที่เป็นพี่น้องคนเดียวในสกุลชิงที่ไม่มีวิญญาณของสาวยุคใหม่ไปอาศัยร่างกายของเธออยู่ ดังนั้นความเจ็บแค้นและปณิธานต่างๆ ในแบบฉบับสาวยุคเก่าจึงมีอยู่อย่างเข้มข้นมากกว่าชิงหลิงและชิงโม่ที่เป็นคนใหม่ไปแล้ว
จากที่อ่านมาสองชุดแรกอย่างเพชรยอดคทาและเพชรยอดขุนพล ก็พอจะรู้เรื่องราวของชิงเฟิงแบบคร่าวๆ ไปแล้วว่าเธอต้องเจอกับอะไรบ้างเมื่อก้าวเข้าไปสู่วังหลวง แต่เล่มนี้เมื่อเป็นเรื่องของชิงเฟิงเองทุกอย่างที่เป็นแค่ประโยคบอกเล่ากลายๆ จึงเปิดเผยมาให้เห็นกันจะจะตาว่าชิงเฟิงสมเป็นเฟิงหวง ผู้แผดเผาตัวเองแล้วกลับคืนชีวิตขึ้นมาใหม่ ซึ่งต้องดีกว่า รุ่งเรืองกว่าเดิม ทรงอำนาจกว่าเดิม
สมเป็นชุดรักแรง เกลียดแรงเสียจริง ทั้งชิงเฟิงและเยี่ยนหงเทียนในช่วงแรกฟาดฟันกันเลือดสาดชนิดที่ว่าประหนึ่งเป็นผัวเมีย S&M กันมาก แต่ชิงเฟิงเองความที่นางพกความแค้นเกินร้อย บ้าบิ่นแบบยอมหักไม่ยอมงอเพียงเพราะคิดว่าไม่เหลือใครให้เป็นห่วงแล้ว แผนการแรกๆ ของนางจึงเรียกว่าใช้อารมณ์เป็นที่ตั้งล้วนๆ แต่ท้ายที่สุดเธอก็รู้จักเลือกจะใช้สมองมากกว่าอารมณ์เสียที เผินๆ ในตอนที่อ่านแรกๆ คิดไปว่ามันจะรักกันยังไง เลือดสาดขนาดนี้ แต่พออ่านไปแล้ว ชักเห็นออร่าอะไรบางอย่างเปล่งประกายแล้ว คนที่เจอแต่ผู้หญิงโอนอ่อนให้ตลอดเวลาเลยติดใจแม่สิงห์สาวไปได้ คู่นี้อาจจะไม่มีอารมณ์โรแมนติคชนิดที่ว่าหวานเป็นน้ำตาล แต่ก็ให้ความรู้สึกที่รู้ว่ารักชัดเจนแต่ไม่ต้องแสดงออกมากมายแบบคู่ของโหลวซี่เหยียนกับชิงหลิง เพราะต้องระมัดระวังอะไรหลายๆ อย่าง แต่มันสื่อออกมาได้หลายการกระทำที่ตอบคำถามว่า ถ้าไม่รักคงไม่ยอมให้ถึงขนาดนี้ ซึ่งก็ถูกต้องสำหรับลักษณะคนอย่างเยี่ยนหงเทียนและชิงเฟิงมากแล้ว ไม่รู้สึกเลยว่าสองคนนี้รักกันยังไงตรงไหน เพราะเรื่องราวที่ทั้งคู่ผ่านมาด้วยกันเป็นเครื่องพิสูจน์เป็นอย่างดี
ยังดีที่พอรู้เรื่องชีวิตของชิงเฟิงจากเล่มก่อนๆ มาแล้ว ไม่เช่นนั้นอาจจะรู้สึกตกใจกับเรื่องราวของชิงเฟิง แต่มาอ่านจริงๆ ก็ยังรู้สึกสงสารชิงเฟิง เพราะถ้านางไม่เข้มแข็งชนิดที่ว่าอำมหิตคงเอาตัวรอดไม่ได้ เป็นนางเอกที่ต้องมาทางสายโหด สายดรามาของแท้ นิยายอะไรที่เกี่ยวกับวังหลวงก็ต้องแบบนี้ทุกที แค่มาลุ้นว่ามันจะจบสวยงามหรือจบเศร้าก็เท่านั้นเอง ยังดีที่ชุดนี้รู้กันอยู่ว่าต้องจบดี ไม่งั้นมองอนาคตของชิงเฟิงไม่ออกเลยว่าจะรอดไปได้ยังไง ซึ่งในความแข็งของชิงเฟิง เราก็พยายามจะให้ตัวเองคิดแบบชิงเฟิงว่าถ้าไม่เพราะเยี่ยนหงเทียน เธอคงไม่ต้องมาเป็นแบบนี้ มีชีวิตเป็นแค่เครื่องบรรณาการ บ้านแตกสาแหรกขาด ต้องมาอยู่ให้คนรังแกและปองร้าย แต่ถึงชิงเฟิงจะมีใจที่ดำมืดไปไม่น้อย หากนางก็ยังมีความดีหลงเหลืออยู่ที่จะเห็นได้จากการแอบช่วยเหลือใครหลายคน แม้ว่าจะมาจากเหตุผลที่มีประโยชน์กับเธอก็ตามที เราจะได้เรียนรู้ไปว่าเมื่อชิงเฟิงเลิกใช้อารมณ์และใช้สติและสมองมากขึ้น นางก็เป็นหญิงแบบไหน สมเป็นนางสิงห์ของเยี่ยนหงเทียน รู้จักใช้คน มองคนออก วังหลวงช่างเปลี่ยนคนไปได้แท้ๆ
เหมือนกับรักในรอยแค้นแบบนี้ เลือดตกยางออกกันให้วุ่นวายทั้งเล่ม แต่ก็น่ารักในแบบคนเกลียดกันแต่มีใจรักกันนั่นเอง ตอนที่เยี่ยนหงเทียนหยอกชิงเฟิงในหลายๆ ตอนจะน่ารักจนเราต้องอมยิ้มเลย ก็ท่านางเอกอย่างชิงเฟิงร้าย เยี่ยนหงเทียนก็ต้องแรงไม่ต่างกัน เพราะถึงชิงเฟิงจะเป็นเช่นไร คนอย่างเขาก็ต้องเดินหมากได้เหนือกว่า เป็นความรักที่เหมาะกับคนสายดราแบบจัดเต็มกันเลยทีเดียว ฟีน่าก็ชอบดรามานิดๆ เรื่องนี้ดูผิวเผินจะหนักแต่พออ่านแล้วกลับไม่รู้สึกว่าเยอะหรือมากจนขอลาแบบน้ำตาท่วมจอ คือหน่วงๆ ในใจช่วงแรกมากหน่อยคงเพราะสองคนนี้เกลียดกันเข้าไส้มาก่อนจะให้มาหวานใส่ง่ายๆ คงแปลก อ่านไปบางทีก็อยากจะเกลียดพระเอก แต่ก็เกลียดได้แป๊บเดียว บางช่วงก็มีความรู้สึกสงสารเยี่ยนหงเทียนอีกต่างหาก แม้จะอยู่สูงส่งแค่ไหนกลับอ้างว้างไม่มีใครจริงใจ แม้แต่ผู้เป็นแม่ของตัวเอง ก็ยังไม่ทำให้เขาเข้าใจได้ว่ารักเป็นเช่นไร เวลาผ่านไปความดรามาก็ยังไม่ลดแต่ที่เพิ่มขึ้นคือความรักและผูกพันของพระเอกกับนางเอก สายสัมพันธ์ที่เหมือนแค่ความลุ่มหลงของบุรุษที่มีกับสตรีมากมารยาท แต่ที่ปิดบังไว้แทบไม่มิดคือความพิเศษของสองคนนี้ ความตรงไปตรงมาของนางเอกตั้งแต่แรกที่ชิงชังมากแค่ไหน ตอนนี้ก็ไม่ลดลงแต่ที่เพิ่มเติมมาจนเกือบเท่ากันคือความห่วงหาอาลัย จนเหมือนว่าชิงเฟิงจะเริ่มละวางความแค้นในใจลงบางส่วน ถ้าชิงเฟิงยังถือทิฐิที่จะแก้แค้นจนวันตายนี้คงเครียดหนัก
จะค่อนข้างชอบช่วงที่ชิงเฟิงทำตัวเหมือนว่าเยี่ยนหงเทียนคือสามีที่เป็นคนธรรมดาสำหรับเธอ เรียกชื่อเขา หรือแม้แต่ถามไถ่ว่ากินข้าวมาหรือยัง เป็นเช่นไรบ้าง และมากสุดคือให้เขาช่วยเลี้ยงดูลูกชาย มันเป็นความเรียบง่ายที่ยิ่งใหญ่สำหรับเยี่ยนหงเทียน เป็นช่วงที่บรรยากาศจะอบอุ่นมากที่สุดแล้ว แต่ความสงบเงียบก็มักจะมาพร้อมคลื่นลมอันปั่นป่วนที่เรารู้ช่วงจังหวะของชีวิตและรอคอยมรสุม แม้จะไม่เศร้าขนาดให้ร้องไห้ออกมาเพราะรู้มาตั้งแต่เล่มเพชรยอดคทา แต่ก็อดไม่ได้ที่จะสงสารพระเอกนางเอก เล่มนี้เราเห็นถึงจิตใจที่ปวดร้าวของชิงเฟิงมากกว่าทุกเล่ม แต่เมื่อชิงเฟิงเหมือนเฟิงหวง นางก็ต้องก้าวต่อไป ชนิดที่บอกได้ว่าถ้าเป็นเราคงผ่านไปไม่ไหวอย่างแน่นอนเลย
และที่ตลกตัวเองนะคะ เขาให้ลุ้นชิงเฟิงกับเยี่ยนหงเทียน ฟีน่าดันไปลุ้นหมิงเจ๋อกับฟู่หลิงด้วย แต่จนจบเรื่องก็ยังไม่กระจ่างชัดว่าจะเอาไง พอๆ กับหมิงเจี้ยนกับเซี่ยวอวี่ จะลงเอยกันไหมเนี่ย ไม่บอกสงสัยต้องไปจิ้นเอง แต่ชอบทั้งสองคู่นี้มาก อาจจะไม่มีอะไรเยอะแยะ แต่คนช่างมโนแบบเราก็ชอบจิ้นกันไปเรื่อยเปื่อย หวังว่าจะมารู้เรื่องราวกันในเล่มชุดภาคลูกๆ ก็ยังดี
แต่ที่อาจจะรู้สึกอะไรนิดหน่อยคือว่าเรื่องตอนท้ายเล่มเกี่ยวกับการก่อกบฏและปราบพวกแข็งข้อมันค่อนข้างจะรวบรัดไปสักนิดหนึ่ง ไม่ค่อยมีรายละเอียดอะไรมากนัก ค่อนข้างต่างไปจากเล่มอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างเพชรยอดขุนพลจะให้รายละเอียดแบบชัดเจน แต่เล่มนี้กลับไม่ค่อยเล่าเรื่องในการจัดการเรื่องต่างๆ ของเยี่ยนหงเทียนเลย ปรากฏอีกที กวาดล้างเสียเรียบร้อยหมดแล้ว ตอนท้ายของเรื่องนี้ก็เลยออกจะดำเนินเรื่องได้สั้นและห้วนไป เมื่อเทียบกับทั้งเรื่อง หรือเพราะว่าเล่าเรื่องอีก มันจะกลายเป็นสี่เล่มก็ไม่รู้ ก็เลยต้องตัดจบแบบรวบๆ เช่นนี้
สรุปในตอนท้าย สามเรื่องนี้ชอบเล่มไหนมากกว่ากัน เล่มไหนสนุกสุด อันนี้เป็นรสนิยมส่วนตัวของคนอ่านนะคะ อย่างฟีน่าชอบผู้ชายแบบโหลวซี่เหยียนเนื้อเรื่องไม่หวือหวาแต่รู้สึกว่าชีวิตถ้าเป็นชิงหลิงนางจะปลอดภัยสุด แต่เนื้อเรื่องของเพชรยอดขุนพลนี้โดนใจสุด ครบรสชาติมาก แต่สำหรับตัวนางเอก จะชอบชิงเฟิง นางเป็นคนร้าย แรง ลึก โหดเหี้ยมได้ในบางที ใจคอเด็ดเดี่ยวมาก เป็นบุคลิกที่เรียกว่าค่อนข้างโดนสำหรับตัวเอง ทั้งสามเรื่องมีมุมที่ประทับใจต่างกันไป แต่บอกได้ว่าชุดนี้สนุกจริงๆค่ะ ไม่เสียแรงที่อ่านเลย เนื้อเรื่องไม่อาจคาดเดาได้ว่าต่อไปจะเป็นยังไงต้องไปลุ้นตอนอ่าน แม้จะขี้โกงเปิดตอนจบอ่านก่อน แต่เอาแค่ว่าจะลงเอยแบบที่เราคาดไว้หรือเปล่ากับรักในวังหลวงแบบนั้น ซึ่งตอนจบก็โดนใจอยู่ และอ่านจากรายละเอียดในตอนพิเศษบางอย่างก็คิดว่าน่าจะมีอะไรบางอย่างเปลี่ยนแปลงไปบ้าง เพราะชิงเฟิงเองก็รู้สึกว่าเธอโลภมากในความรักที่เยี่ยนหงเทียนมีให้ ที่คิดว่าน่าจะพอกลับเริ่มไม่พอ และต้องบอกว่าดีใจที่ตอนเปิดอ่านตอนจบไม่อ่านไล่ไปยาวมากทำให้ไม่ไปเจอความลับหนึ่งที่มันมีความสำคัญต่อตัวละครทั้งหมดในชุดนี้ แม้ว่าตัวละครนี้อาจจะดูไม่มีบทบาทมากนัก แต่เชื่อว่าพอขึ้นชุดสามเสน่หา รุ่นลูกสาวคงต้องมีอะไรที่ให้ลุ้นกันแน่นอน รวมทั้งตัวละครที่เกี่ยวพันจากเล่มนี้ที่ออกปากถึงชิงโม่เอาไว้ด้วย ปริศนาที่ถูกทิ้งเอาไว้หลายอย่างจากเล่มนี้จนเหมือนว่าเขียนแล้วค้างคายิ่งกระตุ้นให้อยากอ่านชุดต่อไวๆ แล้วค่ะ แต่ตอนนี้ชุดสาวงามบรรณาการเป็นหนึ่งในนิยายจีนแปลที่อ่านแล้วใช่และโดนใจมากเลยทีเดียว นี้คงเป็นเสน่ห์นิยายจีนแปล มันมีความลึกในเนื้อหา ซับซ้อนในความรู้สึก บีบคั้นอารมณ์ได้ดี ยิ่งอ่านยิ่งสนุก อยากรู้เนื้อเรื่องในตอนถัดไปแล้ว ใครไม่เคยอ่านนิยายจีนแปลอยากจะแนะนำ สำนวนอ่านไม่ยาก ตัวละครที่เป็นชื่อจีนอาจจะงงๆ ไปบ้าง แต่เดี๋ยวความสนุกจะทำให้ลืมเรื่องนี้ไปเลยค่ะ อาจติดใจนิยายจีนแปลกันไปอีกคน เพราะหลายคนที่ไม่อ่านนิยายจีนแปลหันมาอ่านก็เพราะชุดนี้ ไม่งั้นอาจจะเสียดายที่พลาดความสนุกระดับนี้ไปได้นะคะ