~ หรือ'พี่'เขาจะมาบอกข่าว...จริงๆ ?(ต่อ)(โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน!) ~
|
มาเล่าต่อค่า...(ต้องขออภัยที่มาเสียสายเลย ฝนตกพรำ ๆ ตั้งแต่เช้าเพิ่งจะซาค่ะ)
ตอนนี้ต้องขอเล่าย้อนไปถึงช่วงที่พี่อิ้งเริ่มป่วยอีกนิดหนึ่ง... พี่อิ้งป่วยด้วยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ และในช่วงเวลาใกล้ๆ กันนั้นก็มีญาติห่าง ๆ อีกคนของเราชื่อพี่เกียว เพิ่งตรวจพบว่าตัวเองเป็นมะเร็งเหมือนกัน แต่พี่เกียว...เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
ในขณะที่พี่อิ้งเลือกที่จะรักษาตัวด้วยวิถีแพทย์ทางเลือก พี่เกียวก็เพียรรักษาตัวด้วยวิธีทางเคมี ทั้งสองคนต่างพยายามชักชวนอีกฝ่ายให้หันมารักษาตัวตามตัวเอง แต่ก็ไม่สำเร็จเพราะต่างคนต่างเชื่อมั่นในทางเลือกของตัวเอง
และเมื่อมาพบปะกันแต่ละครั้ง เธอทั้งคู่ต่างแสดงออกว่าตัวเองมีอาการดีขึ้น และต่างปลุกปลอบให้กำลังใจกัน ฉันค่อนข้างสนิทกับพี่อิ้ง แต่ไม่ค่อยจะสนิทกับพี่เกียวสักเท่าไหร่ แม้ในชั้นของความเป็นญาติจะใกล้และห่างพอ ๆ กัน แต่พี่เกียวเธอมีครอบครัว มีลูกมีสามีคอยดูแล ฉันก็เลยไม่ค่อยได้ไปเยี่ยมเยียนหรือคลุกคลีใกล้ชิด ได้แต่ก็รู้สึกเป็นห่วงและเห็นใจในชะตากรรมที่เธอต้องเผชิญ
ดูจากภายนอก ใครต่อใครต่างคิดว่าพี่เกียวดูจะอาการแย่กว่าพี่อิ้ง เพราะการที่เธอต้องเทียวไปศูนย์มะเร็งในจังหวัดบ่อย ๆ และจากการบำบัดด้วยเคมีทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ปรากฏชัดเจนทางกายภาพ เธอผอมมากและผมร่วง บางครั้งขาบวมเป่งทั้งสองข้าง
ในขณะที่พี่อิ้ง แม้จะดูผอมเหมือนกัน แต่การที่เธอยังดูกระฉับกระเฉง ทำนั่นทำนี่เหมือนคนปกติ ผมเผ้าก็ยังดกดำเงางาม ก็เลยดูเหมือนว่าเธอมีอาการดีกว่าพี่เกียว บรรดาญาติ ๆ และคนใกล้ชิดของทั้งสองคนต่างเคยปรารภกันในทำนองว่า... คอยดูนะ ระหว่างสองคนนี้ใครจะ"หาย"ก่อนกัน...หลายคนฟันธงว่า...น่าจะเป็นพี่เกียวนะ เพราะมะเร็งต่อมน้ำเหลืองน่าจะมีโอกาสรักษายากกว่า...หรือเปล่า?
แต่ก็นั่นแหละ...ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน อย่างที่เล่าไปในตอนแรกว่า พี่อิ้งเกิดอาการทรุดหนักอย่างรวดเร็ว นอนโรงพยาบาลแค่เจ็ดวันก็จากไป ซึ่งช่วงนั้นพี่เกียวก็มีอาการที่ทรง ๆ อยู่เหมือนกัน และยังพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลด้วยอาการขาบวม แรก ๆ ญาติ ๆ แอบปิดข่าวการเสียชีวิตของพี่อิ้ง เพราะเกรงพี่เกียวจะใจเสีย แต่หมู่บ้านเรามันเล็ก ใครเป็นอะไร ทำอะไรแป๊บเดียวก็รู้กันทั่วแล้ว... เมื่อพี่เกียวมีอาการดีขึ้นพอสมควร เธอก็ออกจากโรงพยาบาล...เธอรู้ข่าวพี่อิ้งแทบจะวันแรกที่กลับถึงบ้านเลยทีเดียว เธอมีท่าทีที่ปลดปลงแต่ก็พยายามปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของหมออย่างเคร่งครัด จนดูเหมือนว่าอาการของเธอจะดีขึ้นในระดับหนึ่ง...จนญาติ ๆ ต่างวาดหวังถึงปาฏิหาริย์
บังเอิญช่วงนั้นฉันก็มัวแต่วุ่นวายกับภารกิจส่วนตัว เลยไม่ค่อยได้ติดตามถามข่าวพี่เกียวกับใครเลย รู้แต่ว่าแกดีขึ้น ก็รู้สึกยินดี
จนวันนั้นนั่นแหละ...
วันนั้นหลังจากที่ฉันทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้พี่อิ้งแล้ว ก็รู้สึกโล่งใจสบายใจ คิดว่าพี่อิ้งน่าจะรับรู้และไปสู่สุคติได้... แต่แล้ว...ตอนเย็นนั่นเอง เวลาประมาณทุ่มครึ่ง ขณะที่ฉันกำลังอาบน้ำอยู่ เสียงโทรศัพท์ที่บ้านก็ดังกรีดก้องขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เสียงกริ๊งดังอย่างต่อเนื่อง เหมือนมีสายเข้าปกติ ฉันรีบล้างตัวลวก ๆ นุ่งกระโจมอกวิ่งออกมาจะรับโทรศัพท์ (เพราะตอนนั้นแม่กินข้าวเย็นเสร็จเข้าห้องนอนไปแล้ว) แต่พอฉันวิ่งมาถึง เสียงโทรศัพท์ก็หยุดไป ฉันรออยู่พักหนึ่ง คาดว่าถ้าใครมีธุระจริง ๆ เดี๋ยวคงโทรเข้ามาใหม่ แต่ก็ไม่มีใครโทรเข้ามาอีก ฉันก็เลยกลับไปอาบน้ำต่อ... แว่บหนึ่งเผลอคิดว่า...เอาอีกแล้วไหมล่ะ เวลานี้เป็นเวลาที่พี่อิ้งเคยโทรมาประจำนี่นา... แต่ก็ปัดความคิดนั้นทิ้งอย่างรวดเร็ว...
จากนั้นก็ทำกิจวัตรกิจกรรมประจำวันของตัวเองต่อตามปกติ อ่านหนังสือ ดูละคร สวดมนต์สั้น ๆ ปฏิบัติอีกนิดหน่อย แล้วก็เข้านอนโดยลืมเลือนเรื่องของโทรศัพท์ไปเสียสนิท
แล้วคืนนั้นฉันก็ฝัน...ฝันว่าพี่อิ้งมาหาฉัน แกแต่งตัวสวยเชียว ฉันจำรายละเอียดเสื้อผ้าแกได้ค่อนข้างชัดเจนมาก พี่อิ้งใส่เสื้อสีขาว มีลายปักเป็นรูปใบไม้สีเขียว ๆ รอบ ๆ คอเสื้อ ใส่กางเกงขาสี่ส่วนสีออกครีม ๆ แกจูงจักรยานมาเรียกฉันที่หน้าบ้าน เหมือนกับตอนที่เราไปตลาดด้วยกันเป็นประจำเมื่อก่อนเลย
พอฉันออกไปหาแกแกก็ต่อว่าฉันว่า "ทำไมไม่รับโทรศัพท์...รู้ไหม พี่เกียวตายแล้วนะ..." ฉันก็ อ้าวเหรอ...แล้วแกยังพูดต่อว่า "ขอยืมตาลปัตรหน่อยสิ" ฉันก็ถามแกว่า "พี่อิ้งจะเอาตาลปัตรไปทำอะไร แล้วหนูจะมีตาลปัตรได้ยังไงล่ะ" พี่อิ้งก็บอก..."ก็เอาไปใช้ในงานศพน่ะสิ ตาลปัตรของพ่อเธอไง ขอยืมก่อน" แค่นั้น...แล้วฉันก็ตื่นขึ้นพอดี
รุ่งขึ้นฉันก็ไปตลาดตามปกติ ฉันเจอพี่่ที่เขาอยู่บ้านใกล้ ๆ บ้านพี่เกียวก็เลยถามข่าว เขาก็บอกว่าพี่เกียวอาการแย่นะ ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล เมื่อวานเขาก็เฝ้ากันอยู่่ทั้งวัน หมอเขาบอกให้ญาติทำใจแล้วว่าอาจจะไม่พ้นวันสองวันนี้หรอก...
พอสายหน่อย ฉันก็เลยชวนพี่สาว(ลูกพี่ลูกน้อง)ว่าเราไปเยี่ยมพี่เกียวกันเถอะ และเล่าความฝันของฉันให้ฟังด้วย พี่สาวก็บอกไปก็ไป แล้วเราก็ต่างแยกย้ายไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่เราก็ไปไม่ถึงโรงพยาบาลหรอก เพราะสวนกับญาติอีกคนเสียก่อน เขามาบอกข่าวกับเราว่าพี่เกียวเสียแล้วนะ เมื่อกี้นี่เอง...
โอ๊ะโอ...ข่าวของพี่อิ้งช่างแม่นยำเสียนี่กระไร !!!
จบแล้วค่ะเรื่องเล่าจากหลังดอยของฉัน ก็อย่างที่จั่วหัวไว้ที่หัวบล็อกนั่นแหละค่ะว่า... โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านเห็นว่ามันออกแนวแปลก ๆ เหลือเชื่ออยู่สักหน่อยสำหรับตัวเอง เพราะส่วนตัวต้องบอกเลยว่าเป็นคนไม่กลัวผี ไม่ค่อยเชื่อเรื่องผีเรื่องวิญญาณอะไรนี่สักเท่าไหร่
แต่มันก็ยังมีเรื่องค้างคาใจอยู่ตงิด ๆ ใครเป็นนักตีความความฝันช่วยบอกหน่อยเถอะค่ะว่า เจ้า"ตาลปัตร"ที่พี่อิ้งเค้าถามถึงนั่นมันหมายถึงอะไรง่ะ ?
|
Create Date : 20 สิงหาคม 2557 |
|
2 comments |
Last Update : 21 สิงหาคม 2560 12:49:01 น. |
Counter : 2554 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: หอมกร 23 สิงหาคม 2557 20:09:18 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
พี่เค้าคงมาบอกข่าวแน่ๆเลย
บางทีก็ไม่รู้จะให้คิดว่าไง เป็นเรื่องเหนือธรรมชาติหรือลางบอกเหตุก็อาจะได้นะคะ
ขอบคุณสำหรับเรื่องเล่าค่า