เค้กแครอท ตามคำขอ

ไม่ได้ทำเจ้าเค้กชนิดนี้มานานมากพอดู หลังจากที่เคยฮิตอยู่พักหนึ่ง ทำหลายสูตร เปลี่ยนไปมา ทั้งแบบมีฟร้อสติ้ง แบบราดเกลซ และแบบเกลี้ยง ๆ
แต่เนื่องการตอบรับจากคนที่บ้านไม่ค่อยดี (สงสัยทำไม่อร่อย) เลยพาลไม่ค่อยอยากทำอีก
เพราะปรกติเป็นคนไม่ชอบกินเค้ก แต่ชอบทำ
ดังนั้น จึงต้องเริ่มจากมีคนอยากกินก่อน แล้วค่อยคิดทำ

นอกจากว่า นานนานที อยากจะ experiment เค้กบางตัวที่น่าสนใจมาก ๆ ก็จะลุกขึ้นทำเอง
รายการประเภทนี้ มีอยู่เยอะ จัดว่าเป็น Bucket 's List อย่างหนึ่งของเรา
ประมาณว่า สักครั้งในชีวิตต้องลองทำเจ้าขนมนี้ดูสักที..
มักน้อยจริง ๆ เนอะ ทำมั๊ยไม่มีรายการที่ใฝ่ฝันว่าจะทำ เช่น เดินทางรอบโลก ปืนภูเขาสูงที่สุดในโลก หรือว่ายน้ำข้ามช่องแคบอะไรสักอย่าง หรือขี่จักรยานรอบประเทศ ..



Carrot Cupcake


แครอทเค้ก หรือเค้กแครอท มีมากมายหลายสูตร ทั้งแบบใส่ถั่ว ไม่ใส่ถั่ว ใส่สับปะรด ใส่มะพร้าวอบ ใส่ลูกเกด หรือ กระทั่งใส่แครนเบอรี่
ถามไถ่เพื่อน ๆ หลายคน รวมทั้งแวะเวียนไปเยี่ยมครัวหลายบ้าน
น้องชล bear hunt ก็แนะนำมา เป็นสูตรคุณปุ๊ก เจ้าแม่อร่อยรายวัน สูตรนั้นยังไม่ได้ลอง แต่คิดว่าคงอร่อยแน่นอน


รอบนี้ อยากลองทำแบบที่เนื้อไม่หนักมาก ออกจะนุ่มฟู เลยไปที่บ้านคุณ beebie ได้สูตรเค้กนี้มา ไปดูต้นฉบับอันสวยงามได้ที่ Carrot Cupcakeนี้นะคะ

ขอบคุณคุณ Beebie สำหรับสูตรและวิธีทำค่ะ

ส่วนผสม
ส่วนผสมนี้ เราได้คัพเค้กขนาดมัฟฟิ่นไซส์ ประมาณ 20-22 ชิ้นค่ะ ประมาณเพราะเราใส่ไม่ค่อยเท่ากัน เราปรับเปลี่ยนนิดหน่อย เพราะคนที่อยากกินและขอให้ทำ ไม่ชอบกินลูกเกด แต่ชอบวอลนัท คนที่บ้านไม่ชอบถั่วในเค้ก แต่ชอบลูกเกด ดังนั้น ต้องหาสูตรที่สามารถเปลี่ยนสองอย่างนี้ได้ในล็อตเดียวกันแบบง่าย ๆ


แป้งเค้ก 276 กรัม
ผงฟู 6 กรัม
เบคกิ้งโซดา 6 กรัม
ดอกเกลือ 1/2 ช้อนชา
ซินนาม่อน 1/2 ช้อนชา (เราไม่ค่อยชอบกลิ่นแรงเท่าไหร่)

ไข่ไก่เบอร์ 0 จำนวน 4 ฟอง
น้ำตาลทรายป่น 220 กรัม
วานิลลาเอ็กซ์แทรค 1 ช้อนชา

แครอทขูดเป็นเส้น 360 กรัม
สับปะรดสับ 1 ถ้วย หรือ 227 กรัม
วอลนัทสับ 1 ถ้วย
ลูกเกดเหลือง 3/4 ถ้วย
น้ำร้อน เอาไว้แช่ลูกเกด ประมาณพอท่วม

น้ำมันคาโนล่า 1 ถ้วย (250CC)




ส่วนผสมในรูปเฉพาะคร่าว ๆ เท่านั้นค่ะ ไม่ได้มีรูปแป้งเค้ก ผงฟู โซดา ฯลฯ นะคะ

วิธีทำ

อุ่นเตาอบไว้ให้ได้อุณหภูมิ 190 องศาซี
เตรียมถ้วยกระดาษมัฟฟินไว้ในพิมพ์ เราแยกเป็นสองสี เพราะจะใส่วอลนัท กับลูกเกดแยกกันค่ะ



- ร่อนแป้ง ผงฟู เบคกิ้งโซดา และซินนาม่อนด้วยกันสัก 3 ครั้ง พักไว้ก่อน

- แครอท ปอกเปลือกขูดเป็นเส้น





- สับปะรด สับละเอียด รอไว้ โปรดใช้เขียงที่สะอาด ที่ใช้เฉพาะกับผลไม้ เพราะเราจะใช้น้ำจากสับปะรดที่ได้ด้วยนะคะ (หรือใครจะใช้สับปะรดกระป๋อง ใช้แต่เนื้อพอค่ะ)




- วอลนัท อบด้วยอุณหภูมิ 160 องศาซี สัก 10 นาที หรือพอให้หอม พักให้เย็นแล้วนำมาสับหยาบ ๆ




- ลูกเกด แช่ด้วยน้ำร้อนประมาณ 10 นาที แล้วเทน้ำทิ้ง ใช้แต่เนื้อลูกเกด (ไม่รู้รูปหายไปไหน หาไม่เจอค่ะ
แฮ่ะ ลูกเกดที่ได้จะพองน้ำอิ่มตัว ทำให้ไม่ดูดความชื้นจากตัวเค้กไป

- ไข่ทั้งหมดรวมกันในชามผสม ตามด้วยน้ำตาลทราย และเกลือ ตอนแรกเราใช้ Stand Mixer KA หัวตะกร้อ ตีไปสักสามนาที เครื่องก็มีปัญหา สปีดเปลี่ยนเองตามใจชอบ (ถ้าทำกลางคืนคนเดียวจะคิดว่าโดนผีหลอกนะนี่) แล้วในที่สุดมันก็หยุดเอง เปิด ๆ ปิด ๆ สองสามครั้งก็ยังเหมือนเดิม นี่ขนาดใช้มาแค่หนึ่งปีนะเนี่ย

- ในที่สุดต้องย้ายไปใช้ Hand Mixer แทน ตามตำราคุณบีบี๋ ต้องตีไข่ให้ได้ Ribbon Stage แต่เราทำไม่ได้ เพราะหยุด ๆ ย้าย ๆ หลายรอบ ไข่ยุบหมดเลย ฮือ..




- พอได้ไข่ฟูข้นแล้ว ค่อย ๆ เติมแป้งที่ร่อนไว้ลงไป ตีด้วยความเร็วต่ำจนหมดผงแป้ง แล้วเปลี่ยนเป็นความเร็วกลางอีก 2 นาที


- ค่อย ๆ เติมน้ำมันคาโนล่าลงไป ตีด้วยความเร็วปานกลางอีก 2-3 นาที ใส่วานิลลาเอ็กซ์แทรคลงไปในขั้นตอนนี้


- จากนั้น เปลี่ยนมาใช้พายยาง ใส่แครอทขูด สับปะรดสับลงไปผสมก่อน




- ถึงตรงนี้ ถ้าใครไม่มีโจทย์แบบเรา ก็สามารถใส่ทุกอย่างที่เหลือลงไปพร้อมกันได้เลย แต่เราเองต้องแยกแบทเทอร์เป็นสองชาม เพราะมีคนชอบกินไม่เหมือนกัน ยุ่งจริง ๆ


- ชามแรกใส่วอลนัทลงไปเกือบหมด เหลือไว้นิดเดียว (เอาไว้แกล้งคนที่ไม่ค่อยชอบให้เจอ) แล้วใส่ลูกเกดลงไปบ้างนิดนึง ( ด้วยเหตุผลเดียวกับวงเล็บที่แล้ว )


- ชามที่สอง ใส่ลูกเกดส่วนที่เหลือทั้งหมด พร้อมด้วยวอลนัทที่แบ่งไว้นิดหน่อย







- ดูไม่ออกหรอกนะคะ ว่าชามไหนเป็นชามไหน คนทำเองยังกลัวงงเลยเวลาอบเสร็จ จึงต้องแยกถ้วยเป็นสองสีไง

- ใช้สคู้ปตักไอติมขนาดใหญ่ ตักใส่ลงในถ้วยที่เตรียมไว้ แล้วจำให้ได้ว่า สีไหนเป็นอันไหน



- เราว่าเราใส่แบทเทอร์น้อยไปหน่อยนะ







- ส่งเข้าอบในเตาที่อุณหภูมิคงที่แล้ว เราใช้อุณหภูมิสูงกว่าที่คุณบีบี๋บอกไว้ เพราะอยากให้หน้าเค้กมันปูดหน่อย

- ใช้เวลาประมาณ 20-25 นาที หรือจนหน้าเค้กสีสวยและเอาไม้จิ้มลงไปตรงกลางเค้ก แล้วไม่มีเศษอะไรติดขึ้นมา ก็ใช้ได้ค่ะ

พักเค้กบนตะแกรงให้เย็น ถ้วยกระดาษสีเหลือง เป็นแบบใส่วอลนัทเยอะ




ส่วนถ้วยสีแดง เป็นแบบเน้นลูกเกด
วางถ้วยในพิมพ์ไม่ตรง ได้เค้กเอียงไปเอียงมา
เราคงเสียศูนย์ ตั้งแต่ตอนคิดเช่นเอทมีอาการงอแงแล้วละ




คัพเค้กแครอทที่ได้ เนื้อนุ่มเบา ไม่อมน้ำมันและไม่หนัก
อร่อยค่ะ

คนที่ไม่ชอบกินพวกถั่ว ๆ ในเค้ก ชิมทั้งสองแบบ แล้วบอกว่า อันที่ใส่วอลนัทอร่อยกว่า.........

แถมยังบอกว่า คราวที่แล้ว อร่อยกว่านี้นี่

....เอ่อ..ครั้งสุดท้ายที่ทำ มันประมาณห้าปีที่แล้วนะเราว่า..พี่จำได้ขนาดนั้นเลยเหรอ


แต่เราชอบแครอทเค้กสูตรนี้นะคะ ถ้าใครไม่อยากเห็นเนื้อแครอทเป็นเส้นชัดเจนแบบนี้ ก็ขูดให้ละเอียดกว่าได้ค่ะ
ตอนแรกคิดจะทำครีมชีสฟร้อสติ้งด้วย เตรียมเอาออกมาวางนอกตู้เย็นเรียบร้อย แต่เนื่องจากปฎิบัติการกับเจ้า KA ตอนต้น ทำให้จิตตก ไม่อยากทำอะไรต่อแล้ว

ไม่มีหน้าครีมชีส กินเปล่า ๆ ก็อร่อยค่ะ จริง ๆ น้า ไม่ได้แก้ตัว





ขอให้มีความสุขกับการทำตามความใฝ่ฝันของตัวเองนะคะ การทำตามความฝันหรืองานก็ตาม ควรจะเป็นสิ่งที่เราต้องการทำ แล้วเราจะมีความสุข แต่ถ้าเราทำตามสิ่งอื่น เช่น เพื่อแข่งขันกับคนอื่น หรือเพื่อให้คนอื่นชื่นชม จะกลายเป็นว่าเราต้องการชนะ หรือต้องการคำชม ซึ่งถ้าไม่ได้ทั้งสองอย่าง มันจะกลายเป็นความทุกข์ไป


ขอบคุณทุก ๆ ท่าน ที่แวะมาใช้เวลาด้วยกัน ณ ที่นี้เสมอ ๆ ค่ะ

Create Date : 01 กันยายน 2555
Last Update : 18 มิถุนายน 2556 20:42:38 น.		76 comments
Counter : 7949 Pageviews.
Share Tweet