sansook
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]




คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
โค้ดนี้เป็นภาพพื้นหลังนำไปวางที่ช่อง Script Area ค่ะ https://youtu.be/K2vg5yDgVX4
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
5 กรกฏาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add sansook's blog to your web]
Links
 

 

ตอนที่ ๒๙ คราวซวย (ของใคร?)



ย่างเข้าอาทิตย์ที่สองหลังเข้าอาศัยอยู่ในบ้านพราวฟ้ายังหาโอกาสเหมาะๆ เผชิญหน้ากับเจ้าของบ้านไม่ได้จึงทำให้แผนการที่วางไว้ยืดออกไปอย่างไม่มีกำหนด หญิงสาวรู้สึกหงุดหงิดเหลือกำลังที่ต้องอยู่อย่างเหงาหงอยเพราะคนในบ้านต่างมองเธอเหมือนเป็นส่วนเกิน

หญิงสาวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถือไว้อย่างชั่งใจว่าควรต่อสายหาเดชฤทธิ์หรือรออีกสักพักเพื่อรอจังหวะและโอกาส...

“เฮ้อ!...จะทำยังไงดี”

ร่างอวบอัดเดินวนไปวนมาอย่างหาทางออกไม่ได้ เมื่อไม่รู้จะทำอย่างไรเธอจึงเดินไปริมหน้าต่าง ใบหน้าสวยงามที่แต่งแต้มบ้างๆ กวาดตาไปรอบๆ ห้อง...แล้วถอนใจยาว

“คุณใจดำเหลือเกินกริช...คุณปล่อยให้ฉันมีชีวิตโดดเดี่ยวอยู่ในห้องรับแขกข้างล่างเหมือนฉันเป็นส่วนเกินเป็นตัวเลวร้ายที่อาจจะทำให้คุณกับแม่นั่นเกิดปัญหา...หัวใจคุณไม่มีฉันอยู่ในนั้นแล้วใช่ไหมถึงได้ทำร้ายใจกันขนาดนี้...”

พราวฟ้าเข่นเขี้ยวถามลมถามแล้วอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ...แม้หัวใจของเธอในเวลานี้จะไม่มีเหลือให้ผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นอดีตคนรัก...แต่ความริษยาที่มักแฝงมากับอุปนิสัยของผู้หญิงกลับสั่งให้เธอเดินหน้าทำลายล้างทุกอย่างที่มันกำลังบาดตาบาดใจ...

ขณะกำลังนึกน้อยเนื้อต่ำใจและแค้นเคืองไปกับสิ่งที่ถูกกระทำสายตาคมวาวก็เหลือบแลไปเห็นภาพหญิงสาวหน้าหวานเดินเคียงมากับเจ้าบ้านหน้าคม ริมฝีปากสีชมพูอ่อนเม้มแน่นเมื่อเห็นสายตากฤตยชญ์มองหญิงสาวคนนั้นราวกับว่าเธอเป็นสิ่งสำคัญนักหนา...

หัวใจสีมัวที่มาพร้อมกับหน้าที่ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นดำมืดเมื่อความริษยาชิงชังเริ่มคุกคามความรู้สึก...พราวฟ้าจ้องเสี้ยวหน้าคมสันของคนรักเก่าประกายตาตัดพ้อ...คบกันมาหลายปีเธอไม่เคยเห็นผู้ชายคนนั้นทำท่ารักและหวงแหนในทุกย่างก้าวได้เท่าแม่นั่น...ขนาดเดชฤทธิ์แย่งไปถึงจะคับแค้นใจแต่กฤตยชญ์ก็ไม่ได้เคยทำท่าจะแย่งคืน...

เสียงถอนใจยาวติดๆ กันดังขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อพราวฟ้านึกย้อนกลับไปในอดีต...หญิงสาวยังคงจ้องคนทั้งสองอยู่อย่างนั้นแล้วถามตัวเองว่า...ตกลงที่เขาปล่อยเธอให้ไปอยู่กับเดชฤทธิ์โดยไม่คิดชิงคืนมันเป็นเพราะเขาไม่แยแส...หรือเพราะความดื้อรั้นและอยากได้ใคร่มีที่เธอเป็น...


กฤตยชญ์พูดถูก...เธอเป็นคนเลือกเอง...และเขาก็นักเลงพอที่จะปล่อย...แต่มันก็ช่วยไม่ได้ในเมื่อเวลานั้นเดชฤทธิ์มีอำนาจและทุกอย่างที่สามารถเนรมิตความสุขให้เธอ...และทุกวันนี้มันก็ยังเป็นเช่นนั้น...ใครจะไม่ชอบความสุขสบายและได้ใช้ชีวิตราวนางพญาที่มีคนคอยเอาอกเอาใจต่างจากเขาที่เธอจะต้องเป็นฝ่ายยอมเสียร่ำไป...ถึงจะนึกเสียดายใบหน้าคมคายและความหนุ่มของอีกฝ่ายแต่หากจะเทียบกับเดชฤทธิ์ที่เติมเต็มเธอให้อิ่มหนำในทุกค่ำคืน...ทำไมจะต้องเสียใจ...หญิงสาวเชิดหน้าบอกตัวเอง

แม้พราวฟ้าไม่นึกอยากได้แต่...ผู้หญิงไม่ว่าใครมักทนไม่ได้หากจะเห็นคนอื่นได้ดีกว่าตน...โดยเฉพาะกับคนที่จะได้ครอบครองกฤตยชญ์เธอยิ่งยอมไม่ได้...ต่อให้เธอไม่คิดหวนคืนแต่ก็ไม่อยากให้ใครได้ในสิ่งที่ตนเคยครอบครอง

“ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าผู้หญิงอย่างแม่นั่นมันจะทานทนได้สักแค่ไหน...ถ้ารักมันมากคุณก็เตรียมตัวรับความเจ็บปวดที่จะตามมาได้เลยฤกตยชญ์”

พราวฟ้ามองภาพตำตาตำใจแล้วเข่นเขี้ยวออกมาอย่างขัดเคือง


เกือบชั่วโมงหลังจากอดทนรอให้กฤตยชญ์ไปทำงานจนแน่ใจว่าชายหนุ่มขับรถออกไปได้สักพัก พราวฟ้าจึงเริ่มขยับตัวลุกจากเตียงเดินไปเปิดประตู ร่างอวบอัดยวนตาเดินนวยนาดไปตามทางเดินแล้วเลี้ยวไปยังห้องๆ หนึ่งซึ่งคิดว่าจะพบกับคนที่ต้องการ

ริมฝีปากสีหวานขยับยกอย่างพอใจเมื่อเห็น...คนที่ต้องการสั่งสอนนั่งอ่านหนังสืออยู่เงียบๆ พริบพันดาวรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าย่ำหนักๆ มาแต่ไกลและรู้ได้ทันทีว่าเจ้าของฝีเท้าที่มาหยุดอยู่ไม่ไกลคือใครแม้จะอยากรู้ว่าแขก...ที่ถูกลืมต้องการอะไรแต่เธอก็ไม่ได้ใส่ใจนัก...หญิงสาวทำทีเป็นนั่งก้มหน้าก้มตาอ่านนิตยสารในมือราวกับสนอกสนใจเนื้อหาในนั้นเป็นนักหนา

“มารยาททราม!...”

เสียงเหยียดที่แค่นทักทายทำเอาหญิงสาวนึกอยากงัดข้อกับแม่นั่นสักตั้งแต่ก็แกล้งเฉยทำเป็นเหมือนไม่ได้ยิน

“หูหนวกตาบอดอย่างนี้นี่เอง...ถึงโง่ดักดานไม่รู้ว่าเอาผัวใครเขาไปกกไปกอด”

พอเห็นหญิงสาวอีกคนยังคงนิ่งเฉย...พราวฟ้าที่เตรียมหาเรื่องเต็มอัตราจึงจัดวาจาท้าทายไปอีกชุด...และได้ผลเมื่อมือเรียวยาวราวทำเทียนที่กำลังกรีดเปิดกระดาษหน้าถัดไปชะงักแล้วนิ่งอยู่เกือบนาที

“ฉันคุยกับเธออยู่...หูหนวกเหรอ...”

“อ้าว...เมื่อกี้เธอคุยกับฉันเหรอ...ขอโทษพอดีเธอไม่ได้เอ่ยชื่อก็เลยคิดว่าพูดกับตัวเอง”

พริบพันดาวโยนนิตยสารในมือลงบนโต๊ะดังปึก! วาดขาไขว่ห้างเอนหลังพิงพนักโซฟาในท่าสบายๆ แล้วเชิดหน้าปรายตาจ้องคนที่คิดล้ำเส้นประกายตาวาววับ

“ในนี้มีแค่เธอกับฉันปัญญาอ่อนหรือไงถึงไม่รู้”

“เธอต้องการอะไร?”

เมื่อเห็นท่าทีคุกคามของหญิงสาวตรงหน้าพริบพันดาวจึงเอ่ยถามออกไปตรงๆ

“เธอนี่มันท่าจะโง่จริง...ฉันต้องการอะไรงั้นเหรอ?...” คิ้วโก่งงามเลิกขึ้นเล็กน้อยก่อนจะปรายตามองอีกฝ่ายอย่างหมิ่นๆ แล้วเหยียดริมฝีปากอวดอ้างสิ่งที่เคยเป็น “ถามมาได้ว่าฉันต้องการอะไร...ฉันกับกริชเป็นอะไรกันเธอไม่รู้เลยหรือไง...เขาไม่เคยเล่าเรื่องของเราให้เธอฟังเลยเหรอ”

พราวฟ้าแค่นเสียงเยาะเมื่อคิดว่าอีกฝ่ายอาจจะยังไม่รู้ว่าเธอกับกฤตยชญ์เคยลึกซึ้งจนถึงขั้นวางแผนแต่งงานกัน

“ทำไมต้องเล่าในเมื่อมันไม่มีประโยชน์อะไรสักนิดกับชีวิตอันแสนราบรื่นของเรา”

พริบพันดาวยิ้มเยาะแล้วเน้นคำว่าเราชัดถ้อยชัดคำจนคนที่คิดจะฝังเธอเริ่มเดือดดาล

“ฉันกับกริชเรารักกัน...และฉันก็ต้องการสามีคืน”

พราวฟ้าโพล่งออกไปในที่สุด

“งั้นเหรอ...แล้วเขาว่าไง”

ไหล่กลมกลึงไหวขึ้นเล็กน้อยคล้ายไม่แยแสกับคำพูดของอีกฝ่าย

“แกอยากจะลองดีกับฉันงั้นเหรอ...”

พอเห็นท่าทางของคนตรงหน้าไม่ได้นุ่มนิ่มอย่างที่คิดพราวฟ้าจึงเพิ่มความแรงของเพลิงโทสะขึ้นอีกเท่าตัว

“ใครที่คิดลองดี...เธอหรือฉัน...”

พริบพันดาวที่เริ่มหมดความอดทนกับการเล่น...ถามกลับเสียงเย็นก่อนจะผุดลุกขึ้นตวัดสายตาจ้องอีกฝ่ายอย่างไม่คิดยอมความ

“อย่ามาทำเสียงจองหองใส่ฉันนังผู้หญิงข้างถนน...ผู้หญิงอย่างแกเชื่อได้เลยว่ากริชต้องหิ้วมาจากโรงแรมหรือไม่ก็ในสถานเริงรมย์ที่ไหนสักแห่งแน่ๆ”

“เหมือนที่เคยหิ้วเธองั้นสิถึงรู้ดีขนาดนั้น”

แม้จะแอบสะดุ้งที่แม่นี่เดาแม่นยังกับมีตาทิพย์แต่...พริบพันดาวก็สวนหมัดกลับไปทันควัน

“กรี๊ด!!...นังบ้าแกว่าฉันเหรอ...”

พราวฟ้าที่ใช้ชีวิตเป็นผู้หญิงของผู้มีอิทธิพลจนไม่มีใครกล้าแตะถึงกับเป่านกหวีด...เสียงปรี๊ดลั่นเมื่อเจอวาจายอกย้อนชนิด...แม่นราวรู้ดีจนรับไม่ได้...

“เธอว่าฉันก่อน...เดือดแบบนี้ท่าจะมีมูล...เอาเถอะฉันเข้าใจว่าเธออยากได้เขาคืน...แต่ขอโทษเธอคุยกับคนของฉันหรือยัง”

“ทำไมต้องคุย...”

“ทำไมงั้นเหรอ...ถามแปลกๆ “ พริบพันดาวจ้องหญิงสาวตรงหน้าประกายตาเยาะ...”เธอจะไม่ถามเขาสักคำเลยเหรอไงว่าเขาต้องการกินอาหารเก่าค้างปีที่ไม่รู้ว่าจะเน่าเสีย...แบบนี้ไหม”

ปากว่าตาก็มองไล่ไปตามเรือนร่างสะโอดสะองของอีกฝ่ายตั้งศีรษะจรดปลายเท้าแล้วเริ่มจากปลายเท้าขึ้นศีรษะอย่างดูแคลน

“กรี๊ด!!...แก...”

พราวฟ้าถึงกับเต้นเร่าๆ เมื่อโดนหมัดสวนกลับแต่ละหมัด เสียงหวีดร้องที่แหลมปริ๊ดหยุดมือของคนรับใช้ในบ้านให้วางงานในมือแล้วปรี่ออกมาแอบมองอยู่ห่างๆ

แตงกวากับเวียงหัวเราะคิกคักอย่างถูกอกถูกใจเมื่อเห็นมวยคู่ใหม่บนสังเวียนกำลังแจกคำพูดหมิ่นแคลนใส่คู่ต่อสู้อย่างดุเดือด...

“เอาเลยค่ะคุณดาว...เอาให้จั๋งๆ “

แตงกวาเชียร์นายหญิงของตนสุดใจขาดดิ้น

“แกว่าเค้าจะตบกันมั้ยแตงกวา”

เวียงที่แอบลุ้นอยู่ห่างๆ ถามขึ้นเมื่อเห็นท่าทางพราวฟ้าดูเอาเรื่องจนเหมือนจะกระโจนเข้าไปทำร้ายนายผู้หญิง

“แกคิดว่าคุณพราวจะตบทันคุณผู้หญิงเธอเหรอ...เห็นหวานๆ อย่างนั้นบทจะดุคุณกริชยังไม่กล้าหือ...คราวซวยของคุณพราวแท้ๆ...ที่คิดแหย่เสือหลับ”

“นั่นสิ...จะสงสารหรือสมน้ำหน้าดีล่ะเนี่ย...เฮ้อ! คุณผู้หญิงเธอจะเอาถึงตายไหมนั่นแก”

“ไม่ตายก็สาหัสแหละวะงานนี้...สมน้ำหน้าซ่าไม่ดูตาม้าตาเรือ...เตรียมเรียกรถพยาบาลเถอะเวียงฉันว่างานนี้ไอซียูแน่ๆ”

แตงกวาบอกยิ้มๆ

“เราไม่คิดจะไปห้ามคุณผู้หญิงหน่อยเหรอแตงกวา...ขืนปล่อยให้เล่นกันถึงขั้นลงไม้ลงมือเกิดคุณผู้หญิงมีแผลคุณกริชเล่นงานเราสองคนแหงเลย ป้ามาลีไม่อยู่ด้วยถ้ามีไรเกิดขึ้นแกกับฉันถึงคราวซวยแน่ๆ”

เวียงที่เริ่มห่วงสวัสดิภาพของตัวเองหันไปปรึกษาเพื่อนสีหน้าจริงจัง แต่ก่อนที่สองสาวจะทันตัดสินใจเสียงแว๊ดของพราวฟ้าก็ดังขึ้นจนกองเชียร์สะดุ้งเฮือก

“...นังผู้หญิงข้างถนนแกกล้าดียังไงถึงมาว่าฉันแบบนั้น...ฉันจะฟ้องกริช”

พราวฟ้าชี้นิ้วแล้วดิ้นเร่าๆ

“เชิญตามสบายฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าคุณกริชจะว่ายังไง...จะว่าไปรีบพูดก็ดีนะเพราะฉันก็เบื่อเต็มทนที่ต้องมานั่งมองส่วนเกินอย่างเธอล่องลอยอยู่ในบ้าน...”

“กรี๊ด!! แก...นังอุกกาบาตแกว่าฉันเป็นผีเหรอ....”

“หยุด! อยู่ตรงนั้นถ้าเธอยังอยากเหลือสภาพศพที่สมบูรณ์...ไม่อย่างนั้นก็อย่าหาว่าฉันใจดำถ้าจะยำเธอจนไม่เหลือชิ้นดี”

พริบพันดาวชี้นิ้วปรามพร้อมตะคอกบอกน้ำเสียงเด็ดขาดเมื่อเห็นพราวฟ้าทำท่าจะถลาเข้ามาทำร้ายร่างกาย ดวงตาสวยหวานจ้องคนตรงหน้าประกายกร้าวดุ...จนคนที่กำลังขยับหยุดกึกอย่างลืมตัว

“ถ้าอยากอยู่ที่นี่อย่างสงบก็อย่ากำแหง...ฉันไม่ว่าถ้าจะอาศัยแต่ถ้าก้าวล้ำเข้ามาหาเรื่องฉันก็ไม่คิดเมตตาเธอเหมือนกัน...กลับไปที่ห้องของเธอแล้วอยู่อย่างคนอาศัย...ถ้าหิวกระหายอยากยืมสามีฉันไปใช้ก็ไปขอร้องกันเอาเอง...ฉันจะสงเคราะห์แบ่งให้...กลับไปซะ”

พราวฟ้าถึงกับเม้มปากแน่นเมื่อเห็นท่าทางเอาเรื่องของหญิงสาวหน้าหวาน...เธอบอกไม่ได้ว่าทำไมจะต้องเชื่อฟัง...แม้ใจอยากกระโจนเข้าฟัดให้มันรู้แล้วรู้รอดแต่เอาเข้าจริงๆ เธอก็ไม่กล้าท้าทายโทสะของแม่นั่นให้เจ็บตัวฟรี...

เมื่อเห็นว่าสู้ไม่ได้ร่างอวบอัดจึงหมุนตัวแล้วเดินฮึดฮัดกลับไปทางเดิม ด้วยความรู้สึกแค้นเคืองอีกเท่าตัวเมื่อเห็นว่าเธอเพียงลำพังคงจัดการแม่นั่นไม่ได้เสียแล้วกระมัง...ดวงตาคมวาวจึงหรี่ลงแล้วแค่นเสียงอย่างอาฆาต...

“แล้วเราจะได้เห็นดีกัน...นังผู้หญิงข้างถนน...”

ภาพพราวฟ้าที่ล่าถอยออกมาอย่างง่ายดายทำเอากองเชียร์ที่แอบลุ้นอยู่ห่างๆ ถึงกับถอนใจยาวอย่างโล่งอก...เมื่อเห็นว่าฝ่ายนางมารไม่อาจหาญกล้าต่อกรกับแม่เสือหน้าหวานทั้งสองสาวจึงหันไปหัวเราะคิกคักแล้วพยักหน้าชวนกันกลับไปทำงาน...

พริบพันดาวมองตามหลังศัตรูที่ไม่คาดคิดว่าในชีวิตจะได้เจอะได้เจอไปอย่างเบื่อหน่าย อีตาอัปยศนั่นจะยังมีแบบนี้ซุกซ่อนไว้เยอะแค่ไหน...เฮ้อ!...เห็นทีคงต้องรีบจัดการทุกอย่างให้เสร็จสิ้นเร็วๆ ไม่อย่างนั้นเห็นทีหัวใจคงจะชีช้ำเอาการหากต้องห้ำหั่นกับผู้หญิงของเขาไม่จบไม่สิ้น

ร่างเปรียวบางทรุดลงนั่งอย่างอ่อนแรง...เมื่อนึกถึงความรู้สึกของเธอที่นับวันจะเอนเอียงจนเกี่ยวพันกับกฤตยชญ์เข้าทุกที...

ดวงตาคู่งามเงยขึ้นจ้องภาพถ่ายขนาดใหญ่ที่แขวนอยู่บนฝาผนัง...ภาพคนในครอบครัวของชายหนุ่มที่ยิ้มละไมบนรูปทำเอาคนมองรู้สึกสะท้อนใจและนึกเห็นใจจนรู้สึกวูบไหวไปกับความเวิ้งว้างของชีวิต...

“คุณกริช...คุณอยู่มาได้ยังไงกับชีวิตที่ไม่เหลือใครในครอบครัว...ตอนนี้ถ้าฉันเป็นคนเดียวในครอบครัวที่เหลืออยู่คุณจะทำยังไงหากเรา...ต้องเดินบนเส้นขนานอย่างนี้...”

พริบพันดาวพึมพำกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะถอนใจยาวเมื่อลึกๆ นึกหวาดหวั่นกับวันข้างหน้าเมื่อรู้อยู่แก่ใจว่าอย่างไรมันก็ไม่มีวันเป็นไปได้ที่เธอและเขาจะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน

ร่างเปรียวบางเอนหลังกับพนักโซฟาแล้วทอดสายตามองไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย...เธอปฏิเสธไม่ได้จริงๆ กับความรู้สึกผูกพันในยามอยู่ในอ้อมกอดของความรัก...กฤตยชญ์แม้จะร้ายกาจในบางคราแต่ก็เป็นผู้ชายที่อบอุ่นจนรู้สึกปลอดภัยเมื่อได้ชิดใกล้...

ดวงตาคู่งามหลับพริ้มเมื่อนึกหวั่นใจกับความเป็นไปในวันหน้า...เธอจะเจ็บปวดมากแค่ไหนหากจะเป็นหนึ่งในคนที่ส่งกฤตยชญ์เข้าสู่เงื้อมือของกฎหมาย...ความรักที่เริ่มก่อรูปร่างกับหน้าที่ที่ต้องยึดมั่นมันเดินร่วมทางกันไม่ได้เลยหรือไง...

“หากเรายังยืนอยู่บนพรมลิขิต...ขอให้คุณอย่าเป็นอย่างที่ฉันหวั่นเลย...คุณกริช...”

เมื่อไม่รู้จะทำอย่างไรพริบพันดาวจึงทำได้แค่ภาวนาขอให้ฟ้าอย่าพรากความสวยงามของรักแรกด้วยหน้าที่ที่เธอแบกอยู่...




 

Create Date : 05 กรกฎาคม 2553
2 comments
Last Update : 5 กรกฎาคม 2553 13:37:38 น.
Counter : 582 Pageviews.

 

น่าจะตบให้สลบ ของแบบนี้แบ่งมายได้ 555+

 

โดย: sakeena IP: 110.168.106.41 5 กรกฎาคม 2553 16:07:41 น.  

 

แหม น่าจะมีตบสักฉาดสองฉาด


 

โดย: Dewii IP: 58.8.122.193 5 กรกฎาคม 2553 21:32:50 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.