sansook
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]




คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
โค้ดนี้เป็นภาพพื้นหลังนำไปวางที่ช่อง Script Area ค่ะ https://youtu.be/K2vg5yDgVX4
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
1 กรกฏาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add sansook's blog to your web]
Links
 

 

ตอนที่ ๒๗ สุดไขว่คว้า




ร้อยตำรวจเอกราชเดินเร่งรีบตรงไปห้องทำงานของผู้บังคับบัญชา ชายหนุ่มยกมือเคาะประตูเมื่อได้ยินเสียงอนุญาตจึงรีบผลักเข้าไปด้านในด้วยท่าทีร้อนรนจนคนที่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานนึกฉงนกับท่าทางที่ดูแปลกไปของผู้ใต้บังคับบัญชาซึ่งถือว่านิ่งและสุขุมที่สุด

“อ้าวผู้กองมีอะไรทำไมดูรีบร้อนแบบนั้นล่ะ”

“ขออนุญาตครับท่าน...คือผมมีเรื่องจะรายงานเกี่ยวกับคุณกฤตยชญ์”

“นั่งก่อนสิผู้กอง...มีเรื่องอะไรก็ว่ามา”

พันตำรวจเอกกษินผายมือเชื้อเชิญก่อนจะเอนหลังพิงพนักเก้าอี้แล้วรอฟัง

“เมื่อคืนกฤตยชญ์โทรมาหาผม...ท่านครับผมว่าบางทีเราอาจจะเดินทางผิด”

ร้อยตำรวจเอกราชจ้องหน้าผู้บังคับบัญชาตาเขม็งก่อนจะเล่าต่อ

“เมื่อคืนที่โรงเลื่อยเกิดเรื่อง...คนของพ่อเลี้ยงเดชฤทธิ์ลักลอบขนไม้เถื่อนเข้าไปปะปนกับไม้ในโรงเลื่อยพร้อมยาบ้าอีกแสนกว่าเม็ด”

“อะไรนะผู้กอง...”

พันตำรวจเอกกษินถึงกับผุดจากพนักเก้าอี้เมื่อได้ยินคำบอกเล่า

“ผมคิดว่าคุณกฤตยชญ์คงไม่ใช่เป้าหมายของเรา...เราเดินเกมผิดครับท่าน”

ราชบอกน้ำเสียงทั้งหนักใจทั้งกังวล

“ผู้กองผมรู้ว่าคุณกับนายกฤตยชญ์เป็นเพื่อนสนิทกันมานาน...คุณใช้ความรู้สึกส่วนตัวตัดสินใจเองหรือเปล่า...”

คนเป็นผู้บังคับบัญชาปรายตามองนายตำรวจหนุ่มมาดเข้มสีหน้าไม่เชื่อใจ

“ผมยอมรับว่าสนิทกับกฤตยชญ์แต่ผมไม่เคยใช้ความสนิทสนมมาปะปนกับหน้าที่...เวลานี้ผมห่วงผู้กองดาวเราควรรีบพาตัวเธอออกมาก่อนที่มันจะสายเกินไป”

พันตำรวจเอกกษินจ้องใบหน้าคมเข้มตรงหน้าแววตาครุ่นคิด นายตำรวจวัยกลางคนขมวดคิ้วคล้ายกำลังใช้ความคิด...ใบหน้ากร้านแดดลมตามกาลเวลาขรึมลงเมื่อเริ่มเข้าใจกรายๆ ว่าทำไมลูกน้องหน้าเข้มถึงดูร้อนรนนัก...

เวลานี้ราชไม่ได้ห่วงหรือสนใจช่วยกฤตยชญ์จนลืมหน้าที่ แต่การที่ชายหนุ่มตรงหน้าพยายามแสดงความบริสุทธิ์ของเพื่อนสนิทนั้นกลับเป็นการทำเพื่อผู้หญิงที่เขาห่วง...เพราะหากเป้าหมายขาวสะอาดใครอีกคนที่กำลังอยู่ในหน้าที่จะถูกกันออกไปทันที...

“ผู้กอง...ความรักกับหน้าที่บางครั้งเราต้องชั่งใจว่าสิ่งไหนสำคัญกว่ากัน...ผมเข้าใจว่าคุณคิดยังไงกับผู้กองดาว...เวลานี้เราถอยไม่ได้ถึงคุณจะเคลียร์ทางโน้นได้แต่การที่จะเอาตัวเธอมาตอนนี้มันย่อมไม่เป็นผลดี...คุณลองเล่ามาว่าสองอาหลานนั่นเขามีปัญหาอะไรกันทำไมถึงห้ำหั่นกันเอาเป็นเอาตายแบบนี้”

ผู้สูงวัยกว่าพ่นลมหายใจออกมาก่อนจะเอ่ยคำพูดที่คนฟังได้แต่งนั่งปวดใจ...ไปกับความห่างไกลของดวงดาวที่พร่างพราวอยู่บนปลายฟ้า

“พ่อเลี้ยงเรืองเดชมักจะขัดแย้งกับพี่ชายในเรื่องธุรกิจ...เพราะคนพี่ทำงานอยู่ในกรอบของกฎหมายแต่คนเป็นน้องกลับเลือกงานที่อยู่นอกกรอบแต่ได้ผลตอบแทนที่มหาศาลไม่ว่าจะเป็นไม้เถื่อน ยาเสพติด รวมถึงค้ามนุษย์ เพราะความแตกต่างของนิสัยและความเห็นแก่ได้จึงทำให้ทั้งสองขัดแย้งกันตลอดเวลา คุณกฤตแม้จะทำธุรกิจเกี่ยวกับไม้แต่ท่านไม่เคยแตะไม้ในป่า...ไม้ที่ได้ส่วนใหญ่ได้มาจากการซื้อขายที่ถูกต้องตามกฎหมายและภายในปางไม้ของตัวเอง...ซึ่งต่างจากพ่อเลี้ยงเรืองเดชที่มักจะรุกรานธรรมชาติหลายครั้งที่พ่อเลี้ยงเรืองเดชขนไม้เถื่อนโดยใช้ชื่อของท่านเป็นใบเบิกทาง...ครั้งหนึ่งเรื่องแดงเพราะคุณกฤตรู้เรื่องเลยแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจยึด ครั้งนั้นไม้ที่ถูกจับมีมูลค่าหลายสิบล้านบาท...”

“ตอนนั้นคุณอยู่ไหน? ที่ถามเพราะอยากให้แน่ใจว่าสิ่งที่คุณเล่าเป็นความจริงที่เห็นกับตาไม่ใช่ฟังเขาเล่ากันมาปากต่อปาก”

นายตำรวจหน้าเข้มเล่ายังไม่ทันจบกษินก็ขัดขึ้นด้วยคำถามที่คนเล่าอดยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นคนเป็นนายเอ่ยถามอย่างเป็นกลางเพื่อให้ความยุติธรรมกับทั้งสองฝ่าย ราชนึกชื่นชมผู้บังคับบัญชาอยู่ในใจเมื่อเห็นนิสัยใจคอที่น่านับถือนายตำรวจหน้าเข้มยิ้มน้อยๆ แล้วเอ่ยต่อ

“ตอนนั้นผมเพิ่งเข้ารับราชการและเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ที่เข้าปฏิบัติการ...ครั้งนั้นแม้เราจะได้ของกลางและรายชื่อคนผิดแต่อิทธิพลก็พลิกจนเอาผิดใครไม่ได้...หลังจากเรื่องเงียบไม่นานทั้งสองคนก็ยิ่งบี้กันหนักขึ้นจนลืมความเป็นพี่เป็นน้อง...แต่คุณกฤตท่านเป็นคนง่ายๆ จึงพยายามหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า...แต่เหตุการณ์กลับหนักขึ้นเมื่อท่านเข้าชิงตำแหน่งผู้นำท้องถิ่นจนได้รับชัยชนะโดยได้คะแนนตัดคู่แข่งคนสำคัญซึ่งเป็นฐานอำนาจของน้องชาย...หลังจากเข้าทำงานท่านก็ลงมาให้ความสำคัญกับป่าไม้จนขัดผลประโยชน์กับน้องชายอย่างหนัก...หลังจากหมดวาระท่านลงสมัครแต่ก่อนวันเลือกตั้งไม่ถึงอาทิตย์ท่านก็ถูกยิงเสียชีวิตบนเวทีปราศรัย...”

ราชที่รู้รายละเอียดอย่างดีเล่าชนิดไม่มีติดขัด

“เท่าที่ฟังดูเหมือนคุณรู้ว่าคนบงการเป็นใคร...แต่ทำไมถึงปล่อยให้เรื่องมันเงียบไปเฉยๆ เสียล่ะ”

“ทางเราทราบว่าคนบงการเป็นใครแต่ไม่มีหลักฐานเอาผิด...อีกอย่างกฤตยชญ์ไม่คิดเอาความกับใครจึงทำให้เรื่องเงียบๆ ไป...ครับท่าน”

“แปลกพ่อโดนเก็บทั้งคนนายกฤตยชญ์ไม่เดือดดาลเลยหรือ...เท่าที่ดูจากรายงานเจ้านั่นมีนิสัยเด็ดเดี่ยวดิบเถื่อนไม่ยอมคน...มันผิดวิสัยถ้าจะยอมความกันง่ายๆ แบบนั้น”

คนเป็นนายยังจับผิดไม่เลิก

“แรกๆ ก็เดือดครับท่านแต่ก็มาคิดได้ว่าขืนแก้แค้นไปทุกอย่างก็ไม่จบไม่สิ้น...เมื่อเห็นว่าการเมืองมีแต่วุ่นวายเขาเลยหันหลังไม่เจริญรอยตามพ่อเดินหน้าทำธุรกิจอย่างเดียวจนประสบความสำเร็จอย่างที่เห็น”

“เอ...จะว่าไปสองอาหลานนั่นก็เดินคนละสายทำไมถึงยังมาห้ำหั่นกันอยู่อีก...”

“พ่อเลี้ยงอยากได้โรงเลื่อย...และกิจการปางไม้ทั้งหมด...เพราะคิดว่าตนถูกโกงมรดก...อีกอย่างพ่อเลี้ยงเดชฤทธิ์ต้องการใช้โรงเลื่อยเป็นแหล่งแปรรูปไม้เถื่อนที่ถูกต้องตามกฎหมายและใช้ปางไม้เป็นที่พักสินค้า...”

ราชอธิบายส่วนหนึ่งจากการเก็บข้อมูลและอีกส่วนจากความคิดเห็นส่วนตัว

“อืม...ถ้าคิดแยบยลขนาดนั้นเห็นทีเราคงต้องให้คนเจาะเข้าทางพ่อเลี้ยงเรืองเดชนั่นตรงๆ เสียแล้วกระมัง”

พันตำรวจเอกกษินพยักหน้าน้อยๆ แล้วเริ่มเออออไปกับความคิดของลูกน้อง

“ถ้าแบบนั้นเราคงต้องรีบกันหมวดดาวออกมา”

ราชกระตือรือร้นขึ้นมาอีกเท่าตัวเมื่อเห็นว่าสิ่งที่เพิ่งรายงานเข้าตากรรมการอย่างจัง

“ยังก่อน...เราคงพาเธอออกมาตอนนี้ไม่ได้มันเสี่ยงเกินไป...”

“แต่...”

“ผมเข้าใจว่าคุณรู้สึกยังไง...ผู้กองหนูดาวเป็นหลานสาวผมนะอย่าลืม...ผมเป็นห่วงเธอไม่น้อยไปกว่าคุณและอาจจะมากกว่าเสียด้วยซ้ำ...หลานสาวผมคนนี้ไม่ใช่คนเหยาะแหยะเธอเป็นทหารและมีเลือดของนักรบ...เท่าที่หนูต้อยรายงานดูเหมือนนายกฤตยชญ์จะหลงเสน่ห์เธออย่างจังไม่ต่างจากคุณเราผู้ชายมองออกใช่ไหมว่าถ้าได้รักใครจนหมดใจแล้วจะทำยังไงกับความรักนั้น...คุณเป็นเพื่อนรักเขาไม่ใช่เหรอนิสัยใจคอเขาเป็นยังไงย่อมรู้ดีกว่าใคร...ถ้าเราดึงหนูดาวมาตอนนี้บางทีมันอาจจะมีแต่แย่กับแย่...”

แม้จะเห็นใจผู้กองหนุ่มหน้าเข้มแต่กษินก็ต้องเตือนอีกฝ่ายด้วยความจริง...เพราะผ่านร้อนผ่านหนาวมาจนถึงสี่ทศวรรษจึงทำให้นายตำรวจรุ่นใหญ่เข้าใจอะไรๆ ได้ง่ายกว่า

“ครับท่าน...”

พอเจอคำยืนยันของผู้บังคับบัญชาที่เป็นถึงญาติสนิทของหญิงสาวที่เข้ามามีบทบาทในหัวใจ ราชที่มองเห็นแต่ความพ่ายแพ้ได้แต่ถอนใจแล้วล่าถอยอย่างจำยอม

“ผู้กองคิดเสียว่าฟ้าส่งเธอมาให้เรารู้จักรักแต่มันไม่ใช่จังหวะของเรา...ผมรู้ว่าอย่างไรนายกฤตยชญ์อะไรนั่นคงไม่มีวันปล่อยคนที่ได้ชื่อว่าเป็นเมียตามนิตินัยให้ใครง่ายๆ หรอก...ถ้าเจ้าหมอนั่นมันชั่วจริงผมคงสะใจพิลึกที่จะจับยัดใส่ตะรางด้วยน้ำมือของคนที่เขารัก...แต่คุณเป็นคนยืนยันเองว่าเขาเป็นคนดีถ้าหนูดาวจะมีคนดีๆ เคียงคู่เราก็ควรยินดีไม่ใช่เหรอ...อย่าให้ความรักกับผู้หญิงทำลายมิตรภาพเลย...มันไม่คุ้มหรอก...”

นายตำรวจรุ่นใหญ่ปลอบใจด้วยเหตุผลที่คนฟังได้แต่นั่งนิ่งแล้วยอมรับ

“ครับท่าน...บางทีเธออาจจะไม่ได้เกิดมาเพื่อผม...น่าเสียดายที่พอหัวใจรู้จักรักก็ดันมารักคนที่ไม่มีวันได้ครอบครอง...หึ...หึ...น่าขันจริงๆ”

ราชเงยหน้าขึ้นสบตากับผู้บังคับบัญชาแล้วหัวเราะออกมาเบาๆ แม้การยอมรับจะทำให้ความรู้สึกของเขาจะเจ็บราวถูกกรีดเฉือนด้วยของมีคมแต่มันก็ยังดีกว่าคิดฝันอยู่คนเดียวจนอกกลัดหนอง

“ผู้หญิงสวยๆ มีคนเดียวเสียเมื่อไหร่กันเล่าผู้กอง...ลองหันไปมองคนที่เดินอยู่ข้างๆปะไร...สวยใสไม่ต่างกันหรอกน่า...”

ผู้พันกลางคนเริ่มชี้โพรงให้กระรอก

“นั่นสิครับ...แต่เขาจะเออออด้วยหรือเปล่านี่สิ...น่ากลุ้มกว่าเผลอๆ จะเจออกหักสองนัดรวดจนปวดใจหรือเปล่าก็ไม่รู้”

“เท่าที่มองผมว่าคนนี้พอมีลุ้นน่า...”

พอพูดจบทั้งสองก็หัวเราะออกมาราวกับนัดกันไว้ ราชที่เริ่มยอมรับกับสิ่งที่เผชิญแล้วเปิดตาเปิดใจมองหาสิ่งที่พอเป็นไปได้ให้กับตัวเอง...แม้ลึกๆ จะนึกเสียดายแต่ถ้าคู้แท้ไม่ใช่เธอเขาก็คงต้องดั้นด้นค้นหาหารักแท้ที่สามารถจับต้องและครอบครองได้...

พันตำรวจเอกกษินยิ้มน้อยๆ เมื่อเห็นว่าผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นคนเข้าใจอะไรง่ายๆ และมีความเป็นลูกผู้ชายเต็มตัว...แม้จะนึกเสียดายที่ไม่ได้ราชเป็นหลานเขยแต่เขายังจะต้องห่วงอะไรในเมื่อยังมีหลานสาวแสนสวยอย่างวิกานดาอีกตั้งหนึ่งคน...นายตำรวจรุ่นใหญ่ยิ้มให้กับความคิดของตัวเอง

เมื่อเคลียร์ปัญหาหัวใจจนเข้าที่เข้าทาง ทั้งสองจึงอยู่ปรึกษาและวางแผนการอีกพักใหญ่ ราชเล่าถึงเรื่องที่เพิ่งรู้เมื่อคืนอย่างละเอียด...ชายหนุ่มรู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูกที่ผู้เป็นนายยอมรับและเริ่มเชื่อใจกฤตยชญ์มากขึ้น...เมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทางเขาจึงขอตัวไปทำงาน...แล้วมุ่งหน้าไปสำรวจโพรงแห่งใหม่ที่ผู้เป็นนายเพิ่งชี้บอกไปด้วยความรู้สึกที่เริ่มมีความหวัง


ราวสามโมงเย็นพริบพันดาวเดินลงจากห้องมาด้วยท่าทีที่ประหม่าไปกับทุกสายตาที่จ้องมองเธอในทุกๆ ฝีก้าว...

“คุณผู้หญิงจะรับอาหารว่างเลยไหมคะแตงกวาจะได้เตรียมให้”

เด็กรับใช้ที่ถูกเจ้านายกำชับเรื่องการดูแลเอาใจใส่นายผู้หญิงรีบปรี่เข้ามาทำหน้าที่

“ยังหรอกจ๊ะ...แล้วนี่เขาไปไหนกันหมด”

“คุณกริชไปที่โรงเลื่อยค่ะกว่าจะกลับก็คงเย็นๆ คุณผู้หญิงอยากไปที่โน่นไหมคะคุณกริชบอกว่าถ้าคุณผู้หญิงอยากตามไปให้แตงกวาบอกพี่กล้าขับรถพาไปส่ง”

“ไปได้เหรอ...”

พริบพันดาวเลิกคิ้วขึ้นถามอย่างประหลาดใจ

“ไปได้สิคะ”

“อืม...ดีงั้นให้ใครไปเตรียมรถสิ”

หญิงสาวรีบบอกเมื่อนึกดีใจที่จะได้ออกไปสืบหาข้อมูลเพิ่มเติม...เพราะตั้งแต่มาอยู่นอกจากชั้นบนกับชั้นล่างเธอก็ไม่ได้ย่างเท้าไปไหน

“คุณผู้หญิงรอแปบนะคะเดี๋ยวแตงกว่าไปเรียกพี่กล้าให้เอารถออก”

แตงกวาบอกพร้อมกับเลี่ยงไปอีกทาง

“หวังว่าทุกอย่างจะไม่เลวร้ายจนฉันต้องเป็นคนจับคุณยัดตะรางนะคุณกริช”

พริบพันดาวรำพันออกมาเบาๆ เมื่อสายใยบางอย่างกำลังพันธนาการเธอให้ผูกพันกับเขา...อย่างไม่รู้ตัว

เสียงรถที่เคลื่อนมาจอดอยู่หน้าบ้านหยุดความกังวลของคนที่กำลังเริ่มอ่อนไหวไปกับไออุ่นบางอย่าง ให้นึกถึงหน้าที่ที่เธอกำลังแบกอยู่...พริบพันดาวเดินตรงไปที่รถด้วยความรู้สึกหวิวใจแปลกๆ...แม้จะบอกไม่ได้ว่าเธอกำลังหวั่นใจกับสิ่งใดแต่มันก็รู้สึกใจหายไม่น้อยหากเธอจะเป็นคนจัดการส่งกฤตยชญ์เข้าสู่เงื้อมือกฎหมายหากเขาทำผิดจริง

ร่างเปรียวบางเดินออกมาจากบ้านได้ไม่ถึงสามก้าวเสียงรถยนต์ราคาแพงลิบไม่คุ้นตาก็ขับฉิวเข้ามาจอดเทียบกับรถที่จอดรอ

“รถใครเหรอแตงกวา”

ใบหน้าสวยหวานหันไปทางเด็กสาวร่างโปร่งแล้วเอ่ยถาม

“เอ่อ...เอ่อ...แตงกวาไม่แน่ใจค่ะ”

“อ้าวแตงกวาไม่เคยเห็นเหรอ”

“ไม่เคยค่ะ...ไม่คุ้นตาเลย”

ขณะที่ทั้งสองกำลังเล่นปัญหาถามตอบเจ้าของรถที่กำลังเป็นปริศนาของทั้งคู่ก็เปิดประตูแล้วเดินเชิดออกมา

“อ๋อ...หนูรู้แล้ว...นั่นคุณพราวฟ้า...เอ่อ...”

“มีอะไร”

“เอ่อ...คือ...เธอเป็นแฟนเก่าคุณกริชค่ะ แต่คุณผู้หญิงไม่ต้องคิดมากนะคะคุณกริชกับเธอเลิกกันไปนานแล้วค่ะ...”

แตงกวาตัดสินใจโพล่งฐานะของอีกฝ่ายให้นายหญิงทราบเพื่อจะได้รู้เขารู้เราแล้วรีบแก้ต่างให้เจ้านาย

“งั้นเหรอ...”

“อ้าวแม่แตงกวายืนบื้ออะไรอยู่มายกกระเป๋าฉันเข้าบ้านสิ เธอด้วยเสียมารยาทจริงๆ เด็กรับใช้บ้านนี้”

พราวฟ้าดึงแว่นกันแดดขึ้นคาดผมแล้วเริ่มจิกคนที่เธอเห็นด้วยท่าทางหยิ่งผยองราวนางพญา

“เอ่อ...คุณกริชไม่อยู่ค่ะ”

แตงกวาเริ่มออกอาการอึกอักเมื่อคนที่ทำเสียงแปร๋นๆ อยู่หน้าบ้านกำลังลามมาถึงนายหญิง

“ฉันรู้ว่าไม่อยู่...มาขนกระเป๋าไปไว้ที่ห้องกริชทีฉันจะขึ้นไปอาบน้ำ”

พราวฟ้าสั่งพร้อมกับเดินเข้าบ้าน ร่างอวบเย้ายวนเดินผ่านหญิงสาวอีกคนที่ยืนอยู่ไม่ห่างแล้วปรายตามอง แต่ก่อนที่จะเดินเข้าบ้านเธอหันหลังกลับมาจิกเรียกคนที่ยืนเฉยด้วยน้ำเสียงวางอำนาจ

“นี่หล่อนช่วยไปเตรียมน้ำผลไม้ให้ฉันสักแก้วสิ...มายืนเป็นศาลพระภูมิอยู่ได้”

แตงกวาที่ยืนอยู่ข้างๆ นายหญิงของบ้านนึกคันปากยิกๆ เมื่อผู้มาเยือนยังจิกไม่ดูตาม้าตาเรือ

“แตงกวาไปยกกระเป๋าไป...”

เมื่อเห็นสีหน้าของเด็กรับใช้ดูเอาเรื่องพริบพันดาวจึงหันไปบอกให้เธอไปทำตามคำสั่งของแขกไปก่อน

“จะให้ยกไปไหนล่ะคะ...”

“เขาบอกว่าเอาไปไว้ที่ห้องคุณกริชไม่ใช่เหรอก็ทำตามที่เขาบอกไปสิ”

“โอย...ไม่ได้หรอกค่ะคุณกริชไม่ได้สั่งไว้ ขืนแตงกวาเอากระเป๋าไปไว้ที่ห้องแล้วเธอกลับมาไม่ปลื้มมีหวังโดนเล่นงานจนหลังอานแน่ๆ”

“เขาเป็นแฟนกันไม่ใช่เหรอ”

พริบพันดาวเอ่ยถึงฐานะของอีกคนด้วยความรู้สึกเจ็บแปลบๆ ในหัวใจ

“แค่แฟนเก่าค่ะ...เลิกกันไปตั้งนานแล้วด้วยผู้หญิงอะไรหน้าด้านชะมัดทำยังกับห้องคุณกริชเธอเป็นโรงแรมแน่ะอยากเข้าก็เข้าอยากออกก็ออก...อยู่ๆ ก็มาแบบนี้คุณกริชจะรู้ด้วยไหมเนี่ย...”

“ถ้างั้นก็ขนไปกองๆ ไว้ในบ้านก่อนก็แล้วกันเดี๋ยวคุณกริชกลับมาค่อยว่ากันอีกที...ดาวไปก่อนล่ะ”

“ค่ะ...แต่คุณผู้หญิงไม่ต้องซีเรียสนะคะคุณกริชเธอรักคุณผู้หญิงไม่มีทางหันกลับไปจี๋จ๋าแม่นั่นหรอกค่ะ”

“อืม...ดาวไปล่ะ”

ปากตอบรับเหมือนไม่คิดอะไรแต่ในใจแม่เสือสาวกลับเริ่มเดือดปุดๆ อยู่มาตั้งหลายอาทิตย์ไม่โผล่มาพอโดนรวบหัวรวบหางนางมารก็แสดงตัวเชียว...ฮึ่ม...อีตาอัปยศฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าคุณจะแก้ปัญหานี้ยังไง...หญิงสาวหันไปมองคนที่กำลังเดินกรีดกรายอยู่ในบ้านอย่างเหนื่อยใจ...อยู่ไม่ถึงสองอาทิตย์ก็เริ่มมีคนมาป่วนจิตแล้วตั้งหนึ่งคน...เฮ้อ...แล้วถ้าอยู่ไปตลอดชีวิตมันจะมีมาป่วนจิตอีกกี่คนเนี่ย...





 

Create Date : 01 กรกฎาคม 2553
2 comments
Last Update : 1 กรกฎาคม 2553 10:58:38 น.
Counter : 478 Pageviews.

 

เริ่มสนุกขึ้นเรื่อยๆ อยากให้นางเอกแก้เผ็ดนางมารร้ายให้เข็ดเลยค่ะ

พี่เอ๋มาอัพไวๆ นะค่ะ

รออยู่ๆ ๆ ....

 

โดย: น้องเอ๋ IP: 192.168.0.4, 61.47.26.156 1 กรกฎาคม 2553 13:31:21 น.  

 

ช่ายๆ...เห็นด้วยนางเอกเราออกจะดุเด็ดเผ็ดมันส์
คงจะปราบยัยพราวฟ้าได้....ยิ่งอ่านยิ่งมัส์
มาไวๆๆๆๆๆ...นะ

 

โดย: an-o IP: 110.49.38.52 1 กรกฎาคม 2553 14:55:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.