โค้ดนี้เป็นภาพพื้นหลังนำไปวางที่ช่อง Script Area ค่ะ
https://youtu.be/K2vg5yDgVX4
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ตอนที่ ๒๗ สุดไขว่คว้า
|
|
ร้อยตำรวจเอกราชเดินเร่งรีบตรงไปห้องทำงานของผู้บังคับบัญชา ชายหนุ่มยกมือเคาะประตูเมื่อได้ยินเสียงอนุญาตจึงรีบผลักเข้าไปด้านในด้วยท่าทีร้อนรนจนคนที่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานนึกฉงนกับท่าทางที่ดูแปลกไปของผู้ใต้บังคับบัญชาซึ่งถือว่านิ่งและสุขุมที่สุด
อ้าวผู้กองมีอะไรทำไมดูรีบร้อนแบบนั้นล่ะ
ขออนุญาตครับท่าน...คือผมมีเรื่องจะรายงานเกี่ยวกับคุณกฤตยชญ์
นั่งก่อนสิผู้กอง...มีเรื่องอะไรก็ว่ามา
พันตำรวจเอกกษินผายมือเชื้อเชิญก่อนจะเอนหลังพิงพนักเก้าอี้แล้วรอฟัง
เมื่อคืนกฤตยชญ์โทรมาหาผม...ท่านครับผมว่าบางทีเราอาจจะเดินทางผิด
ร้อยตำรวจเอกราชจ้องหน้าผู้บังคับบัญชาตาเขม็งก่อนจะเล่าต่อ
เมื่อคืนที่โรงเลื่อยเกิดเรื่อง...คนของพ่อเลี้ยงเดชฤทธิ์ลักลอบขนไม้เถื่อนเข้าไปปะปนกับไม้ในโรงเลื่อยพร้อมยาบ้าอีกแสนกว่าเม็ด
อะไรนะผู้กอง...
พันตำรวจเอกกษินถึงกับผุดจากพนักเก้าอี้เมื่อได้ยินคำบอกเล่า
ผมคิดว่าคุณกฤตยชญ์คงไม่ใช่เป้าหมายของเรา...เราเดินเกมผิดครับท่าน
ราชบอกน้ำเสียงทั้งหนักใจทั้งกังวล
ผู้กองผมรู้ว่าคุณกับนายกฤตยชญ์เป็นเพื่อนสนิทกันมานาน...คุณใช้ความรู้สึกส่วนตัวตัดสินใจเองหรือเปล่า...
คนเป็นผู้บังคับบัญชาปรายตามองนายตำรวจหนุ่มมาดเข้มสีหน้าไม่เชื่อใจ
ผมยอมรับว่าสนิทกับกฤตยชญ์แต่ผมไม่เคยใช้ความสนิทสนมมาปะปนกับหน้าที่...เวลานี้ผมห่วงผู้กองดาวเราควรรีบพาตัวเธอออกมาก่อนที่มันจะสายเกินไป
พันตำรวจเอกกษินจ้องใบหน้าคมเข้มตรงหน้าแววตาครุ่นคิด นายตำรวจวัยกลางคนขมวดคิ้วคล้ายกำลังใช้ความคิด...ใบหน้ากร้านแดดลมตามกาลเวลาขรึมลงเมื่อเริ่มเข้าใจกรายๆ ว่าทำไมลูกน้องหน้าเข้มถึงดูร้อนรนนัก...
เวลานี้ราชไม่ได้ห่วงหรือสนใจช่วยกฤตยชญ์จนลืมหน้าที่ แต่การที่ชายหนุ่มตรงหน้าพยายามแสดงความบริสุทธิ์ของเพื่อนสนิทนั้นกลับเป็นการทำเพื่อผู้หญิงที่เขาห่วง...เพราะหากเป้าหมายขาวสะอาดใครอีกคนที่กำลังอยู่ในหน้าที่จะถูกกันออกไปทันที...
ผู้กอง...ความรักกับหน้าที่บางครั้งเราต้องชั่งใจว่าสิ่งไหนสำคัญกว่ากัน...ผมเข้าใจว่าคุณคิดยังไงกับผู้กองดาว...เวลานี้เราถอยไม่ได้ถึงคุณจะเคลียร์ทางโน้นได้แต่การที่จะเอาตัวเธอมาตอนนี้มันย่อมไม่เป็นผลดี...คุณลองเล่ามาว่าสองอาหลานนั่นเขามีปัญหาอะไรกันทำไมถึงห้ำหั่นกันเอาเป็นเอาตายแบบนี้
ผู้สูงวัยกว่าพ่นลมหายใจออกมาก่อนจะเอ่ยคำพูดที่คนฟังได้แต่งนั่งปวดใจ...ไปกับความห่างไกลของดวงดาวที่พร่างพราวอยู่บนปลายฟ้า
พ่อเลี้ยงเรืองเดชมักจะขัดแย้งกับพี่ชายในเรื่องธุรกิจ...เพราะคนพี่ทำงานอยู่ในกรอบของกฎหมายแต่คนเป็นน้องกลับเลือกงานที่อยู่นอกกรอบแต่ได้ผลตอบแทนที่มหาศาลไม่ว่าจะเป็นไม้เถื่อน ยาเสพติด รวมถึงค้ามนุษย์ เพราะความแตกต่างของนิสัยและความเห็นแก่ได้จึงทำให้ทั้งสองขัดแย้งกันตลอดเวลา คุณกฤตแม้จะทำธุรกิจเกี่ยวกับไม้แต่ท่านไม่เคยแตะไม้ในป่า...ไม้ที่ได้ส่วนใหญ่ได้มาจากการซื้อขายที่ถูกต้องตามกฎหมายและภายในปางไม้ของตัวเอง...ซึ่งต่างจากพ่อเลี้ยงเรืองเดชที่มักจะรุกรานธรรมชาติหลายครั้งที่พ่อเลี้ยงเรืองเดชขนไม้เถื่อนโดยใช้ชื่อของท่านเป็นใบเบิกทาง...ครั้งหนึ่งเรื่องแดงเพราะคุณกฤตรู้เรื่องเลยแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจยึด ครั้งนั้นไม้ที่ถูกจับมีมูลค่าหลายสิบล้านบาท...
ตอนนั้นคุณอยู่ไหน? ที่ถามเพราะอยากให้แน่ใจว่าสิ่งที่คุณเล่าเป็นความจริงที่เห็นกับตาไม่ใช่ฟังเขาเล่ากันมาปากต่อปาก
นายตำรวจหน้าเข้มเล่ายังไม่ทันจบกษินก็ขัดขึ้นด้วยคำถามที่คนเล่าอดยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นคนเป็นนายเอ่ยถามอย่างเป็นกลางเพื่อให้ความยุติธรรมกับทั้งสองฝ่าย ราชนึกชื่นชมผู้บังคับบัญชาอยู่ในใจเมื่อเห็นนิสัยใจคอที่น่านับถือนายตำรวจหน้าเข้มยิ้มน้อยๆ แล้วเอ่ยต่อ
ตอนนั้นผมเพิ่งเข้ารับราชการและเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ที่เข้าปฏิบัติการ...ครั้งนั้นแม้เราจะได้ของกลางและรายชื่อคนผิดแต่อิทธิพลก็พลิกจนเอาผิดใครไม่ได้...หลังจากเรื่องเงียบไม่นานทั้งสองคนก็ยิ่งบี้กันหนักขึ้นจนลืมความเป็นพี่เป็นน้อง...แต่คุณกฤตท่านเป็นคนง่ายๆ จึงพยายามหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า...แต่เหตุการณ์กลับหนักขึ้นเมื่อท่านเข้าชิงตำแหน่งผู้นำท้องถิ่นจนได้รับชัยชนะโดยได้คะแนนตัดคู่แข่งคนสำคัญซึ่งเป็นฐานอำนาจของน้องชาย...หลังจากเข้าทำงานท่านก็ลงมาให้ความสำคัญกับป่าไม้จนขัดผลประโยชน์กับน้องชายอย่างหนัก...หลังจากหมดวาระท่านลงสมัครแต่ก่อนวันเลือกตั้งไม่ถึงอาทิตย์ท่านก็ถูกยิงเสียชีวิตบนเวทีปราศรัย...
ราชที่รู้รายละเอียดอย่างดีเล่าชนิดไม่มีติดขัด
เท่าที่ฟังดูเหมือนคุณรู้ว่าคนบงการเป็นใคร...แต่ทำไมถึงปล่อยให้เรื่องมันเงียบไปเฉยๆ เสียล่ะ
ทางเราทราบว่าคนบงการเป็นใครแต่ไม่มีหลักฐานเอาผิด...อีกอย่างกฤตยชญ์ไม่คิดเอาความกับใครจึงทำให้เรื่องเงียบๆ ไป...ครับท่าน
แปลกพ่อโดนเก็บทั้งคนนายกฤตยชญ์ไม่เดือดดาลเลยหรือ...เท่าที่ดูจากรายงานเจ้านั่นมีนิสัยเด็ดเดี่ยวดิบเถื่อนไม่ยอมคน...มันผิดวิสัยถ้าจะยอมความกันง่ายๆ แบบนั้น
คนเป็นนายยังจับผิดไม่เลิก
แรกๆ ก็เดือดครับท่านแต่ก็มาคิดได้ว่าขืนแก้แค้นไปทุกอย่างก็ไม่จบไม่สิ้น...เมื่อเห็นว่าการเมืองมีแต่วุ่นวายเขาเลยหันหลังไม่เจริญรอยตามพ่อเดินหน้าทำธุรกิจอย่างเดียวจนประสบความสำเร็จอย่างที่เห็น
เอ...จะว่าไปสองอาหลานนั่นก็เดินคนละสายทำไมถึงยังมาห้ำหั่นกันอยู่อีก...
พ่อเลี้ยงอยากได้โรงเลื่อย...และกิจการปางไม้ทั้งหมด...เพราะคิดว่าตนถูกโกงมรดก...อีกอย่างพ่อเลี้ยงเดชฤทธิ์ต้องการใช้โรงเลื่อยเป็นแหล่งแปรรูปไม้เถื่อนที่ถูกต้องตามกฎหมายและใช้ปางไม้เป็นที่พักสินค้า...
ราชอธิบายส่วนหนึ่งจากการเก็บข้อมูลและอีกส่วนจากความคิดเห็นส่วนตัว
อืม...ถ้าคิดแยบยลขนาดนั้นเห็นทีเราคงต้องให้คนเจาะเข้าทางพ่อเลี้ยงเรืองเดชนั่นตรงๆ เสียแล้วกระมัง
พันตำรวจเอกกษินพยักหน้าน้อยๆ แล้วเริ่มเออออไปกับความคิดของลูกน้อง
ถ้าแบบนั้นเราคงต้องรีบกันหมวดดาวออกมา
ราชกระตือรือร้นขึ้นมาอีกเท่าตัวเมื่อเห็นว่าสิ่งที่เพิ่งรายงานเข้าตากรรมการอย่างจัง
ยังก่อน...เราคงพาเธอออกมาตอนนี้ไม่ได้มันเสี่ยงเกินไป...
แต่...
ผมเข้าใจว่าคุณรู้สึกยังไง...ผู้กองหนูดาวเป็นหลานสาวผมนะอย่าลืม...ผมเป็นห่วงเธอไม่น้อยไปกว่าคุณและอาจจะมากกว่าเสียด้วยซ้ำ...หลานสาวผมคนนี้ไม่ใช่คนเหยาะแหยะเธอเป็นทหารและมีเลือดของนักรบ...เท่าที่หนูต้อยรายงานดูเหมือนนายกฤตยชญ์จะหลงเสน่ห์เธออย่างจังไม่ต่างจากคุณเราผู้ชายมองออกใช่ไหมว่าถ้าได้รักใครจนหมดใจแล้วจะทำยังไงกับความรักนั้น...คุณเป็นเพื่อนรักเขาไม่ใช่เหรอนิสัยใจคอเขาเป็นยังไงย่อมรู้ดีกว่าใคร...ถ้าเราดึงหนูดาวมาตอนนี้บางทีมันอาจจะมีแต่แย่กับแย่...
แม้จะเห็นใจผู้กองหนุ่มหน้าเข้มแต่กษินก็ต้องเตือนอีกฝ่ายด้วยความจริง...เพราะผ่านร้อนผ่านหนาวมาจนถึงสี่ทศวรรษจึงทำให้นายตำรวจรุ่นใหญ่เข้าใจอะไรๆ ได้ง่ายกว่า
ครับท่าน...
พอเจอคำยืนยันของผู้บังคับบัญชาที่เป็นถึงญาติสนิทของหญิงสาวที่เข้ามามีบทบาทในหัวใจ ราชที่มองเห็นแต่ความพ่ายแพ้ได้แต่ถอนใจแล้วล่าถอยอย่างจำยอม
ผู้กองคิดเสียว่าฟ้าส่งเธอมาให้เรารู้จักรักแต่มันไม่ใช่จังหวะของเรา...ผมรู้ว่าอย่างไรนายกฤตยชญ์อะไรนั่นคงไม่มีวันปล่อยคนที่ได้ชื่อว่าเป็นเมียตามนิตินัยให้ใครง่ายๆ หรอก...ถ้าเจ้าหมอนั่นมันชั่วจริงผมคงสะใจพิลึกที่จะจับยัดใส่ตะรางด้วยน้ำมือของคนที่เขารัก...แต่คุณเป็นคนยืนยันเองว่าเขาเป็นคนดีถ้าหนูดาวจะมีคนดีๆ เคียงคู่เราก็ควรยินดีไม่ใช่เหรอ...อย่าให้ความรักกับผู้หญิงทำลายมิตรภาพเลย...มันไม่คุ้มหรอก...
นายตำรวจรุ่นใหญ่ปลอบใจด้วยเหตุผลที่คนฟังได้แต่นั่งนิ่งแล้วยอมรับ
ครับท่าน...บางทีเธออาจจะไม่ได้เกิดมาเพื่อผม...น่าเสียดายที่พอหัวใจรู้จักรักก็ดันมารักคนที่ไม่มีวันได้ครอบครอง...หึ...หึ...น่าขันจริงๆ
ราชเงยหน้าขึ้นสบตากับผู้บังคับบัญชาแล้วหัวเราะออกมาเบาๆ แม้การยอมรับจะทำให้ความรู้สึกของเขาจะเจ็บราวถูกกรีดเฉือนด้วยของมีคมแต่มันก็ยังดีกว่าคิดฝันอยู่คนเดียวจนอกกลัดหนอง
ผู้หญิงสวยๆ มีคนเดียวเสียเมื่อไหร่กันเล่าผู้กอง...ลองหันไปมองคนที่เดินอยู่ข้างๆปะไร...สวยใสไม่ต่างกันหรอกน่า...
ผู้พันกลางคนเริ่มชี้โพรงให้กระรอก
นั่นสิครับ...แต่เขาจะเออออด้วยหรือเปล่านี่สิ...น่ากลุ้มกว่าเผลอๆ จะเจออกหักสองนัดรวดจนปวดใจหรือเปล่าก็ไม่รู้
เท่าที่มองผมว่าคนนี้พอมีลุ้นน่า...
พอพูดจบทั้งสองก็หัวเราะออกมาราวกับนัดกันไว้ ราชที่เริ่มยอมรับกับสิ่งที่เผชิญแล้วเปิดตาเปิดใจมองหาสิ่งที่พอเป็นไปได้ให้กับตัวเอง...แม้ลึกๆ จะนึกเสียดายแต่ถ้าคู้แท้ไม่ใช่เธอเขาก็คงต้องดั้นด้นค้นหาหารักแท้ที่สามารถจับต้องและครอบครองได้...
พันตำรวจเอกกษินยิ้มน้อยๆ เมื่อเห็นว่าผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นคนเข้าใจอะไรง่ายๆ และมีความเป็นลูกผู้ชายเต็มตัว...แม้จะนึกเสียดายที่ไม่ได้ราชเป็นหลานเขยแต่เขายังจะต้องห่วงอะไรในเมื่อยังมีหลานสาวแสนสวยอย่างวิกานดาอีกตั้งหนึ่งคน...นายตำรวจรุ่นใหญ่ยิ้มให้กับความคิดของตัวเอง
เมื่อเคลียร์ปัญหาหัวใจจนเข้าที่เข้าทาง ทั้งสองจึงอยู่ปรึกษาและวางแผนการอีกพักใหญ่ ราชเล่าถึงเรื่องที่เพิ่งรู้เมื่อคืนอย่างละเอียด...ชายหนุ่มรู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูกที่ผู้เป็นนายยอมรับและเริ่มเชื่อใจกฤตยชญ์มากขึ้น...เมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทางเขาจึงขอตัวไปทำงาน...แล้วมุ่งหน้าไปสำรวจโพรงแห่งใหม่ที่ผู้เป็นนายเพิ่งชี้บอกไปด้วยความรู้สึกที่เริ่มมีความหวัง
ราวสามโมงเย็นพริบพันดาวเดินลงจากห้องมาด้วยท่าทีที่ประหม่าไปกับทุกสายตาที่จ้องมองเธอในทุกๆ ฝีก้าว...
คุณผู้หญิงจะรับอาหารว่างเลยไหมคะแตงกวาจะได้เตรียมให้
เด็กรับใช้ที่ถูกเจ้านายกำชับเรื่องการดูแลเอาใจใส่นายผู้หญิงรีบปรี่เข้ามาทำหน้าที่
ยังหรอกจ๊ะ...แล้วนี่เขาไปไหนกันหมด
คุณกริชไปที่โรงเลื่อยค่ะกว่าจะกลับก็คงเย็นๆ คุณผู้หญิงอยากไปที่โน่นไหมคะคุณกริชบอกว่าถ้าคุณผู้หญิงอยากตามไปให้แตงกวาบอกพี่กล้าขับรถพาไปส่ง
ไปได้เหรอ...
พริบพันดาวเลิกคิ้วขึ้นถามอย่างประหลาดใจ
ไปได้สิคะ
อืม...ดีงั้นให้ใครไปเตรียมรถสิ
หญิงสาวรีบบอกเมื่อนึกดีใจที่จะได้ออกไปสืบหาข้อมูลเพิ่มเติม...เพราะตั้งแต่มาอยู่นอกจากชั้นบนกับชั้นล่างเธอก็ไม่ได้ย่างเท้าไปไหน
คุณผู้หญิงรอแปบนะคะเดี๋ยวแตงกว่าไปเรียกพี่กล้าให้เอารถออก
แตงกวาบอกพร้อมกับเลี่ยงไปอีกทาง
หวังว่าทุกอย่างจะไม่เลวร้ายจนฉันต้องเป็นคนจับคุณยัดตะรางนะคุณกริช
พริบพันดาวรำพันออกมาเบาๆ เมื่อสายใยบางอย่างกำลังพันธนาการเธอให้ผูกพันกับเขา...อย่างไม่รู้ตัว
เสียงรถที่เคลื่อนมาจอดอยู่หน้าบ้านหยุดความกังวลของคนที่กำลังเริ่มอ่อนไหวไปกับไออุ่นบางอย่าง ให้นึกถึงหน้าที่ที่เธอกำลังแบกอยู่...พริบพันดาวเดินตรงไปที่รถด้วยความรู้สึกหวิวใจแปลกๆ...แม้จะบอกไม่ได้ว่าเธอกำลังหวั่นใจกับสิ่งใดแต่มันก็รู้สึกใจหายไม่น้อยหากเธอจะเป็นคนจัดการส่งกฤตยชญ์เข้าสู่เงื้อมือกฎหมายหากเขาทำผิดจริง
ร่างเปรียวบางเดินออกมาจากบ้านได้ไม่ถึงสามก้าวเสียงรถยนต์ราคาแพงลิบไม่คุ้นตาก็ขับฉิวเข้ามาจอดเทียบกับรถที่จอดรอ
รถใครเหรอแตงกวา
ใบหน้าสวยหวานหันไปทางเด็กสาวร่างโปร่งแล้วเอ่ยถาม
เอ่อ...เอ่อ...แตงกวาไม่แน่ใจค่ะ
อ้าวแตงกวาไม่เคยเห็นเหรอ
ไม่เคยค่ะ...ไม่คุ้นตาเลย
ขณะที่ทั้งสองกำลังเล่นปัญหาถามตอบเจ้าของรถที่กำลังเป็นปริศนาของทั้งคู่ก็เปิดประตูแล้วเดินเชิดออกมา
อ๋อ...หนูรู้แล้ว...นั่นคุณพราวฟ้า...เอ่อ...
มีอะไร
เอ่อ...คือ...เธอเป็นแฟนเก่าคุณกริชค่ะ แต่คุณผู้หญิงไม่ต้องคิดมากนะคะคุณกริชกับเธอเลิกกันไปนานแล้วค่ะ...
แตงกวาตัดสินใจโพล่งฐานะของอีกฝ่ายให้นายหญิงทราบเพื่อจะได้รู้เขารู้เราแล้วรีบแก้ต่างให้เจ้านาย
งั้นเหรอ...
อ้าวแม่แตงกวายืนบื้ออะไรอยู่มายกกระเป๋าฉันเข้าบ้านสิ เธอด้วยเสียมารยาทจริงๆ เด็กรับใช้บ้านนี้
พราวฟ้าดึงแว่นกันแดดขึ้นคาดผมแล้วเริ่มจิกคนที่เธอเห็นด้วยท่าทางหยิ่งผยองราวนางพญา
เอ่อ...คุณกริชไม่อยู่ค่ะ
แตงกวาเริ่มออกอาการอึกอักเมื่อคนที่ทำเสียงแปร๋นๆ อยู่หน้าบ้านกำลังลามมาถึงนายหญิง
ฉันรู้ว่าไม่อยู่...มาขนกระเป๋าไปไว้ที่ห้องกริชทีฉันจะขึ้นไปอาบน้ำ
พราวฟ้าสั่งพร้อมกับเดินเข้าบ้าน ร่างอวบเย้ายวนเดินผ่านหญิงสาวอีกคนที่ยืนอยู่ไม่ห่างแล้วปรายตามอง แต่ก่อนที่จะเดินเข้าบ้านเธอหันหลังกลับมาจิกเรียกคนที่ยืนเฉยด้วยน้ำเสียงวางอำนาจ
นี่หล่อนช่วยไปเตรียมน้ำผลไม้ให้ฉันสักแก้วสิ...มายืนเป็นศาลพระภูมิอยู่ได้
แตงกวาที่ยืนอยู่ข้างๆ นายหญิงของบ้านนึกคันปากยิกๆ เมื่อผู้มาเยือนยังจิกไม่ดูตาม้าตาเรือ
แตงกวาไปยกกระเป๋าไป...
เมื่อเห็นสีหน้าของเด็กรับใช้ดูเอาเรื่องพริบพันดาวจึงหันไปบอกให้เธอไปทำตามคำสั่งของแขกไปก่อน
จะให้ยกไปไหนล่ะคะ...
เขาบอกว่าเอาไปไว้ที่ห้องคุณกริชไม่ใช่เหรอก็ทำตามที่เขาบอกไปสิ
โอย...ไม่ได้หรอกค่ะคุณกริชไม่ได้สั่งไว้ ขืนแตงกวาเอากระเป๋าไปไว้ที่ห้องแล้วเธอกลับมาไม่ปลื้มมีหวังโดนเล่นงานจนหลังอานแน่ๆ
เขาเป็นแฟนกันไม่ใช่เหรอ
พริบพันดาวเอ่ยถึงฐานะของอีกคนด้วยความรู้สึกเจ็บแปลบๆ ในหัวใจ
แค่แฟนเก่าค่ะ...เลิกกันไปตั้งนานแล้วด้วยผู้หญิงอะไรหน้าด้านชะมัดทำยังกับห้องคุณกริชเธอเป็นโรงแรมแน่ะอยากเข้าก็เข้าอยากออกก็ออก...อยู่ๆ ก็มาแบบนี้คุณกริชจะรู้ด้วยไหมเนี่ย...
ถ้างั้นก็ขนไปกองๆ ไว้ในบ้านก่อนก็แล้วกันเดี๋ยวคุณกริชกลับมาค่อยว่ากันอีกที...ดาวไปก่อนล่ะ
ค่ะ...แต่คุณผู้หญิงไม่ต้องซีเรียสนะคะคุณกริชเธอรักคุณผู้หญิงไม่มีทางหันกลับไปจี๋จ๋าแม่นั่นหรอกค่ะ
อืม...ดาวไปล่ะ
ปากตอบรับเหมือนไม่คิดอะไรแต่ในใจแม่เสือสาวกลับเริ่มเดือดปุดๆ อยู่มาตั้งหลายอาทิตย์ไม่โผล่มาพอโดนรวบหัวรวบหางนางมารก็แสดงตัวเชียว...ฮึ่ม...อีตาอัปยศฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าคุณจะแก้ปัญหานี้ยังไง...หญิงสาวหันไปมองคนที่กำลังเดินกรีดกรายอยู่ในบ้านอย่างเหนื่อยใจ...อยู่ไม่ถึงสองอาทิตย์ก็เริ่มมีคนมาป่วนจิตแล้วตั้งหนึ่งคน...เฮ้อ...แล้วถ้าอยู่ไปตลอดชีวิตมันจะมีมาป่วนจิตอีกกี่คนเนี่ย...
Create Date : 01 กรกฎาคม 2553 |
|
2 comments |
Last Update : 1 กรกฎาคม 2553 10:58:38 น. |
Counter : 478 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: น้องเอ๋ IP: 192.168.0.4, 61.47.26.156 1 กรกฎาคม 2553 13:31:21 น. |
|
|
|
| |
โดย: an-o IP: 110.49.38.52 1 กรกฎาคม 2553 14:55:10 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
พี่เอ๋มาอัพไวๆ นะค่ะ
รออยู่ๆ ๆ ....