มิถุนายน 2557

1
2
3
4
5
6
7
8
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog
ขอกลับมาเป็นตัวเอง...
รู้สึกเหมือนว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา
ตัวเองไม่ได้เป็นตัวของตัวเองเลย
วิ่งไล่ตามใครบางคน
เหมือนคนไร้ค่า....
หมกหมุ่นกับเรื่องบางเรื่อง
จนหลงลืมอะไรต่ออะไร

มองเห็นแต่สิ่งดีๆ ที่เขาให้
แต่มองไม่เห็นสิ่งไม่ดีที่เขาก็ให้มาเช่นกัน

เพียงเพราะหลงและคิดไปเองว่า...
เขาจะรู้สึกพิเศษอะไรๆ กับตัวเอง
เพียงเพราะแค่เขา...มาทำดีด้วย
เชื่อเขาเลย...
โง่มาก...

เขาก็บอกเสมอๆ ว่า
สิ่งที่ทำไปทั้งหมด
อยู่ในพื้นฐานของคำว่า "เพื่อน"

ไม่รู้ทำไม???
ถึงมักจะโง่กับความรักเสมอๆ 

****************************

"นับแต่นี้ต่อไป....ไม่เอาแล้ว
ความรักที่เพริศแพร้ว...แค่ในฝัน
ขอกลับมาเป็นตัวเอง...นิจนิรันดร์
ใครวาดฝันยังไง...ไม่สนใจ

เจ็บมานักต่อนักคำล่อหลอก
เหมือนมาหยอกเล่นให้เหลิงแล้วเมินหาย
ขอเป็นตัวเองของตัวเองจนวันตาย
ไม่ขอฝากชีวิตใคร....ให้หมองมล

....ชอบเพลงเพื่อชีวิตค่อนข้างมาก...หมายถึงชอบฟังนะคะ...
ก็เลยขอฉลองการกลับมาเป็นตัวเองด้วยเพลงนี้...ซะเลย







Create Date : 20 มิถุนายน 2557
Last Update : 20 มิถุนายน 2557 10:41:20 น.
Counter : 384 Pageviews.

11 comments
  

กด Like ให้เป็นคนที่ 1
เน๊าะ....อะไรที่ทำแล้วมีความสุขก็จงทำต่อไป
เวลคัมจีะ
ขอต้อนรับสู่สมาคมฉันเป็นฉันเอง
มีด้วยเหรอสมาคมนี้ อิอิอิ
โดย: อุ้มสี วันที่: 20 มิถุนายน 2557 เวลา:11:02:01 น.
  
จะเป็นใครก็ไม่ถนัด
ไม่สันทัดเท่ากับเป็นตัวเราเองหรอกค่ะ
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 20 มิถุนายน 2557 เวลา:12:28:07 น.
  

ใช่ค่ะพี่ๆ

ขอบคุณมากๆ ค่ะ

ฉันเป็นฉันเองนี่แหล่ะ

ดีที่สุดแล้ว

โดย: sunny-low วันที่: 20 มิถุนายน 2557 เวลา:12:50:48 น.
  

 photo be681ec5-0e5a-48b2-92c8-ba5f97676f4e.jpg



 photo b8096d7f-88ab-479e-a10f-43ed6a92b9f8.jpg


เมื่อวานไม่ได้ทำงานเพราะมีกิจกรรมพิเศษ
เลยมีโอกาสไปหาหนังสือที่อยากอ่าน
และได้มาทั้งสองเล่มเลย...ดีจัง

นานๆ จะนึกอยากอ่านหนังสือกับเขาสักที
มีหนังสือรออ่านมากมาย
แต่ยังไม่อยากหยิบมาอ่าน
สองเล่มนี้อยากอ่าน
ก็เลยได้รัดคิว

เมื่อคืนเริ่มอ่าน Daddy Long Leg
อ่านทั้งง่วงๆ ล้าๆ
แต่ก็ติดใจแระ....
คนแปลเขาแปลได้ดีทีเดียว
ผู้แต่ง....จีน เว็บส์เตอร์
ผู้แปล...สังวรณ์ ไกรฤกษ์
เขาแปลเหมือนเราคือ เจอรูชา แอ๊บบอท เลยน่ะ

อ่านไปก็คิดตามไป....
เมื่อวานอ่านบทแรกๆ
ที่สะกิดใจคือ สำหรับเด็กกำพร้าแล้ว
เขาจินตนาการคำว่า "บ้าน" ของเขาไม่ออก
เพราะเขาอยู่แต่อาคารที่เป็นสถานเลี้่ยงเด็ก
มโนภาพคำว่า "บ้าน" ของเขาจึงไม่มี
เขาไม่รู้ว่า บ้าน ต้องเป็นยังไง
ต้องมีอะไร...???
ไม่รู้ว่า...เด็กกำพร้าทุกคน
จะเป็นแบบนี้...หรือเปล่า

"ตลอดเวลา 17 ปีในชีวิตของเธอ เจอรูชาไม่มีโอกาส
เหยียบย่างเข้าบ้านธรรมดาสักครั้งเดียว จึงไม่อาจ
จินตนาการได้ว่า ชีวิตประจำวันของคนเรานั้น
ดำเนินไปอย่างไรภายใน "บ้าน" เด็กกำพร้า
จะกินอยู่และหลับนอนในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า
ซึ่งเป็นเพียงอาคารที่อาศัย มิใช่ "บ้าน"
ตามความหมาย...."

สำหรับเราๆ คนที่มีบ้านและมีครอบครัว
คงจะจิตนาการแต่เพียงว่า
จะทำยังไงให้บ้านเราสวยงาม
น่าอยู่ ตกแต่งด้วยอะไร
แวดล้อมด้วยอะไร
ในบ้านควรมีใคร...

แต่สำหรับคนไม่มีบ้านและไม่มีใคร
เขามองพวกนี้ไม่ออก...จริงๆ

น่าสงสารพวกเขานะคะ...
การเป็นเด็กกำพร้า
ไร้ซึ่งบ้านและครอบครัวของตัวเอง
คงต้องมีความเข็มแข็ง
ทางจิตใจอย่างมาก
จึงจะดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างมั่นคง
เวลาเกิดปัญหาเข้ามาในชีวิต
พวกเขา...รับมือกับมันยังไงนะ...
เก่งจริงๆ ....

******************************

ไม่คิดว่าแกรมมี่จะมีเพลงนี้ด้วยนะเนี่ย
โชคดีจัง...



โดย: sunny-low วันที่: 24 มิถุนายน 2557 เวลา:11:20:45 น.
  

กว่าจะถึงวันพรุ่งนี้ - เฉลียง - เพลงหวานติดกบาล.mp3

วันนี้ที่โรงเรียนน้องริวเปิดเพลงนี้ให้ฟัง
ก็นั่งฟังเนื้อเพลง...เรื่อย เรื่อย
และทบทวนเรื่องราวบางเรื่อง
ทบทวนทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น
ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่...

ตัวเองทำอะไรไป...
ตัวเองยึดใครไว้..มากไปหรือเปล่า
แล้วพอมันไม่ใช่....
ตัวเอง...ก็ทำในสิ่งที่ตัวเอง
คิดว่ามันถูก มันควรทำ

พอกลับมาเป็นตัวของตัวเอง
ถึงมาคิดได้ว่า...
ที่ผ่านมา...ตัวเองต่า่งหาก
ที่ทำให้เกิดปัญหา
ไม่ใช่...ใครอื่น

ชีวิตเป็นของตัวเอง
ไปให้คนอื่นเข้ามามีความสำคัญ
พอเขาทำให้ไม่ได้ดังที่คิด
ก็กลายเป็นเขาผิด....

ชีิวิตของตัวเองก็เป็นของตัวเอง
ชีวิตของคนอื่่นก็เป็นของคนอื่น
จะให้ชีวิตตัวเองไปอิงกับชีวิตคนอื่น
แล้วให้ชีวิตคนอื่นมาอิงกับชีวิตตัวเอง
มันก็จะเป็นปัญหาเหมือนเดือนที่ผ่านมา

แต่ถ้าให้ชีวิตของตนเองยังเป็นของตนเอง และ
ให้ชีวิตของคนอื่นยังเป็นของคนอื่น
และต่างใช้ชีวิตของกันและกันไป
อาจมีบางห้วงเวลาที่สองชีวิตนี้
มาจอยกันในเรื่องที่สนใจเหมือนๆ กัน
แต่ละคนก็จะมีความสุขกับชีวิตตัวเอง

เพลงๆ เดียว..ทำให้คิดอะไรได้ งง!!!
ขนาดนี้เชียวหรือ อิอิ...

************************
ตอนนี้อ่านคุณพ่อขอยาวที่รักถึงตอนที่
เจอรูชา แอ๊บบอท ขอเปลี่ยนชื่อเล่นๆ ตัวเองว่า
จูดี้ แล้วนะคะ ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกว่า เรากำลังเห็นชีวิต
ของเด็กสาวคนหนี่งผ่านตัวอักษร
การเขียนเล่าเรื่องเขาเหมือนกับว่า
กำลังฟังจูดี้เล่าให้ฟังด้วยตัวเอง
เพลิดเพลินมาก จนอยากเขียนจดหมายแบบนั้น
หาใครสักคน....เขียนไปเรื่อยๆ
ไม่ต้องมาตอบ...แค่ได้อ่าน...ก็พอแล้ว

ตอนนี้คุณพ่อขายาวส่งเสื้อผ้าชุดใหม่มาให้เธอหกชุด
เธอยินดีอย่างมากมาย เพราะตลอดชีวิตที่ผ่านมา
เธอใช้เสื้อผ้าที่ต่อจากคนอื่น หรือไม่ก็จากการบริจาค
ซึ่งในความรู้สึกลึกๆ เธออับอายกับการใส่เสื้อผ้านั้น
การมีชุดใหม่เป็นของตัวเอง
ทำให้เธอมีความสุขมากมาย.....

อืม...คนที่ไม่มีมักจะเห็นของธรรมดามีค่าเสมอๆ
แต่สำหรับคนมีอะไรมากมาย
เสื้อผ้าแค่หกชุดคงไม่มีความหมายอะไรเท่าใดนัก
ความรู้สึกคนเรามันแตกต่างกันด้วย
ชีวิตความเป็นอยู่...เนอะ
โดย: sunny-low วันที่: 25 มิถุนายน 2557 เวลา:15:55:45 น.
  

๑. หลายวันก่อน ระหว่างนั่งรถเมล์
มองไปข้างหน้าเห็นวินจักรยานยนต์
จอดติดไฟแดงสองคัน
คุยกันเหมือนรู้จักคุ้นเคยกันมาก
แต่ชี้โน่นชี้นี่ เข้าใจว่าคงคุยกันเรื่องเส้นทาง
ตอนนั้นคิดว่าเขาสองคนคงอยู่วินเดียวกัน
เพราะท่าทางคุยกันสนิทสนมดีมาก
แต่พออ่านป้า่ยเสื้อวิน
คันแรกวินปทุมวัน อีกคันวินบางบอน
คนละวินคนละทางเลย
แสดงว่าวินบางบอนคงถามวินปทุมวัน
ถึงเส้นทางไปที่ไหนสักแห่ง
แต่จากการที่เห็น...ทำให้รู้สึกว่า
เสมือนเป็นเพื่อนร่วมวินเลยน่ะ
ดีจัง...

๒. วันนี้แวะซื้อกระเพาะปลาแถวเทเวศน์
มากินเป็นมื้อเช้า
ตอนที่ซื้อลูกค้าเยอะมาก ก็เลยรอไปเรื่อยๆ
ไม่รีบร้อนอะไร และมาทีหลังเขาด้วย
ใครจะสั่งอะไรก็ให้เขาสั่งไป
และมีป้าอีกท่าน เหมือนจะมาพร้อมๆ กัน
เพราะมายืนก็เห็นท่านยืนอยู่ก่อน
ก็เลยบอกให้ท่านสั่งก่อน แต่ท่านยิ้มให้
แล้วบอกให้เราสั่งก่อน เพราะเรามาก่อน
ก็เลยกลัวแม่ค้าจะว่าเกี่ยงกันไปมา
จึงสั่งแม่ค้า พอจ่ายเงินเสร็จก็
กล่าวขอบคุณป้าเขา
ได้อะไรกลับมารู้หรือเปล่าคะ
รอยยิ้มหวานๆ จากป้า...ค่ะ
เป็นรอยยิ้มที่ประทับใจมาก

***********************************
ทั้งสองเรื่องแตกต่างที่ตัวละคร
แต่เนื้อหาของเรื่องเหมือนกัน
คือ ความมีน้ำใจแก่กันและกัน
วินปทุมวันมีน้ำใจแก่วินบางบอน
ทำให้ภาพที่ออกมา เขาเหมือนเพื่อนร่วมวิน
ป้ามีน้ำใจกับเรา เราจึงกล่าวขอบคุณ
ท่านจึงมอบรอยยิ้มกลับมาให้
สังคมไทย หากต่างมีน้ำใจในกันและกันมากๆ
เราคงเห็นรอยยิ้มแบบป้าคนนี้
มากขึ้นเช่นกัน

**************************



เมื่อวานอ่านคุณพ่อขายาวถึงตอนที่
จูดี้อารมณ์ไม่ดี..และเขียนจดหมายไปต่อว่า
คุณพ่อขายาวด้วยถ้อยคำรุนแรง
ประมาณว่าเขาไม่สนใจใส่ใจที่จะอ่านจดหมายเธอ
แรงดีนะถ้อยคำเธอ ...

"ท่านไม่เคยตอบจดหมายของดิฉันเลย
ไม่ว่าจะเป็นคำถามใดก็ตาม ท่านไม่เคยแสดงความสนใจแม่แต่น้อย ไม่ว่าสิ่งใดที่ดิฉันได้ทำ
ท่านคงเป็นกรรมการบริหารสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า
ที่โหดร้ายที่สุดในบรรดากรรมการบริหาร
ผู้โหดร้ายทุกคน เหตุผลที่ท่านให้การศึกษาดิฉันนั้น
คงจะไม่ใช่เพราะท่านสนใจในชีวิตของดิฉัน
แม้แต่น้อย แต่ท่านทำเพราะความรู้สึกเป็นหน้าที่
ดิฉันรู้สึกอึดอัดมากที่ไม่ทราบอะไรเกี่ยวกับตัวท่าน.
เลยสักอย่างเดียว ไม่ทราบแม้แต่ชื่อของท่าน
เป็นการยากที่จะเกิดความบันดาลใจในการเขียน
จดหมายถึง "สิ่งหนึ่ง" ซึ่งดิฉันไม่เพียงสงสัยเท่านั้น
แต่ยังเชื่อมั่นทีเดียวว่า ท่านโยนจดหมายทุกฉบับ
ของดิฉันลงถังผง โดยมิได้อ่านหรือชำเลืองดูแม้แต่น้อย"

เป็นยังไงคะ ภาษาเต็มไปด้วยอาการตัดพ้อต่อว่า
น้อยใจและเอาเรื่องใช้ได้เลย
สำหรับสาวน้อยวัยสิบเจ็ดปีอย่าง....จูดี้

แต่วันต่อมาเธอก็เขียนจดหมายไปขอโทษเขา
เพราะช่วงขณะนั้นเธอกำลังมีอาการป่วย
ด้วยอาการต่อมทอนซิลอักเสบ
ทำให้ร่ายกายและจิตใจเธอปรวนแปรไปหมด
และสิ่งที่เธอได้จับกลับมาจากคุณพ่อขายาว
คืออะไรรู้หรือเปล่าคะ

".....พยาบาลคนหนึ่งเข้ามา ตรงมายังเตียงของดิฉัน
พร้อมด้วยกล่องยาวๆ สีขาว จ่าหน้าถึงดิฉัน
มองผ่านฝากล่องซึ่งเป็นกระดาษแก้ว
ดิฉันเห็นกุหลาบแย้มสีชมพู สวยน่ารักที่สุด
ที่วิเศษกว่านั้น มีบัตรเขียนข้อความสุภาพ
ด้วยลายมือประหลาดคล้ายพยายามฝืนลายมือ
ที่เคยเขียน (แต่แสดงให้เห็นอุปนิสัยใจคอที่เข้มแข็ง)
....เดี๋ยวนี้ดิฉันทราบแน่แล้วค่ะว่า ท่านอ่านจดหมายของดิฉัน"

****************************

เป็นยังไงคะ คุณพ่อขายาวของเรา น่ารัก เนอะ
สมเป็นคุณพ่อขายาวที่น่ารักจริงๆ

***************************
นอนอ่านตอนนี้เมื่อคืน ก็นึกถึงตัวเอง
อารมณ์ของจูดี้ คืออารมณ์ของตัวเองที่เกิดขึ้น
ในช่วงประจำเดือนจะมาทุกครั้งเลย
จะพาลเพโลไปหมด โดยเฉพาะกับคนที่เรารู้สึกดีๆ ด้วย
จะพาลใส่เขามากเป็นพิเศษ
และจะโวยวายเหมือนที่จูดี้โวยวายนี่แหล่ะ
เหมือนกันทุกประการ
แต่เขาจะเอาความเงียบและความนิ่งมาสยบเรา
รอให้เราหายบ้า ก็จะเหมือนจูดี้นี่แหล่ะ
คือ ต้องขอโทษเขาทุกทีสิน่า
อืม...สงสัยต้องแต่งเรื่อง
คุณพ่อขาสั้น...ที่รัก มาแข่งแล้วล่ะมั้ง
โดย: sunny-low วันที่: 26 มิถุนายน 2557 เวลา:13:04:44 น.
  
"อาการแพ้"

ไม่เคยรู้ตัวเองมาก่อนเลยว่า
ตัวเองจะแพ้ "กล้วย"
กล้วยน้ำว้า กล้วยหอม แพ้แน่ๆ
แต่กล้วยไข่ ยังไม่แน่ใจ
และชอบลืม...ว่าตัวเองแพ้กล้วย
หลายวันก่อนอยากกินกล้วยแขกกับข้าวเม่า
กินกล้วยแขกไม่มีอาการ
พอกินข้าวเม่า...เท่านั้นเอง
เริ่มจากเจ็บคอ จมูกฟุตฟิต น้ำมูกเริ่มจะไหล
และจาม จาม จาม ...
อาการหนักมากๆ คือ หายใจทางจมูกไม่ได้เลย
ต้องหายใจทางปากแทน
หากได้กินยาแแก้แพ้เร็ว
อาการก็หายไว แต่ถ้าไม่ได้กิน
ก็ทรมานไปกับอาการนานระยะหนึ่งเลยล่ะ
คราวนี้ต้องพกยาแก้แพ้ติดตัวเลย

นอกจากแพ้กล้วยแล้ว
อาการแพ้อีกอย่างที่เห็นได้ชัดคือ
แพ้ผงชูรส...หากซื้อก๊วยเตี๋ยวหรือ
กับข้าว โดยเฉพาะที่เป็นแกงๆ ทั้งหลาย
แล้วมีผงชุรสเยอะๆ
เมื่อกินสักพัก อาการจะมาทันทีเหมือนกัน
แต่เป็นอาการครั่นเนื้อครั่นตัว
และอยากอาเจียน...พะอืดพะอมมาก
จะรู้ทันทีว่า เขาใส่ชูรสมากเกินเรากินได้
ต้องกินน้ำเยอะๆ เพราะให้สิ่งที่กินไป
เจือจางเบาบางลงบ้าง อาการจึงจะทุเลา

ส่วนอาการแพ้อีกอย่าง
ที่ไม่แสดงความผิดปกติทางกาย
แต่มาแสดงความผิดปกติทางใจ
คือจะมีอาการ กระสับกระส่าย
หงุดหงิด ขี้โมโห พาลเพโลไปหมด
บางทีก็เหงาๆ สุกๆ ดิบๆ เอ๊ย สุขๆ ทุกข์ๆ
และเบื่อๆ เศร้าๆ บางครั้ง บางเวลา
นั้นคือ อาการแพ้ "คน"

*******************************


เมื่อก่อนรู้สึกว่าตัวเอง
คาดหวังอะไรกับคนบางคน
พอเขาไม่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองหวัง
ก็มีอาการแบบจูดี้ คือ ตัดพ่้อน้อยใจ
และเริ่มพาลเพโล
ไม่อยากติดต่อ ไม่อยากคุย
และเมื่อปล่อยเวลาในการ
ไม่อยากติดต่อ ไม่อยากคุย
นานๆ หลายๆ วัน
ก็เริ่มคิดอะไรบางอย่างได้
ถ้าสิ่งที่แสดงออกไป...
มันไม่มีประโยชน์อันใด...
ก็เก็บๆ มันไว้กับตัวเอง
น่าจะดีกว่า...

***********************
ตอนนี้ตูดี้เจอผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเป็นอาของเพื่อน
ซึ่งเพื่อนคนนี้เธอไม่ชอบอย่างมากและพาลไม่ชอบ
คนทุกคนที่มาจากตระกูลนี้
แต่อาของเพื่อนคนนี้อยากให้เธอนำชมวิทยาลัย
เธอก็นำชมและเขาก็พาเธอไปเลี้ยงขนม
ลักษณะของชายคนนี้ทำให้จูดี้ชื่นชม
รู้สึกถูกคอและเพลิดเพลินในการพูดคุย
ซึ่งให้บังเอิญว่าเธอไปพักที่ฟาร์มแห่งหนึ่ง
ช่วงปิดภาคฤดูร้อน และเป็นฟาร์มที่พ่อแม่
ชายคนนี้เคยเป็นเจ้าของและชายคนนี้ยกให้
ครอบครัวพี่เลี้ยงที่เคยดูแลเขา
จูดี้จึงทราบเรื่องราววัยเด็กของชายคนนี้

ชายคนนี้จะมีบทบาทสำคัญในอนาคตมาก
เสียดายดันอ่านเรื่องย่อมาก่อน
แต่ไม่เป็นไร...แม้เราจะรู้ว่าชายคนนี้สำคัญยังไง
แต่เพื่อนๆ ที่ไม่เคยอ่านเรื่องนี้
คงไม่รู้หรอก...ใช่ปะ
โดย: sunny-low วันที่: 27 มิถุนายน 2557 เวลา:14:26:07 น.
  

แอน & อรรถพร - ไม่มีใช่ไหม



More Videos & Games at VidHouse

เมื่อวันเสาร์หนีเจ้าริวไปเที่ยวธรรมศาสตร์
ไปดูคอนเสิร์ตวงคาราวานในงาน 80 ปีธรรมศาสตร์
พอวันอาทิตย์ เจ้าริวหนีแม่ไปเล่นบ้านพี่เลี้ยงบ้าง
ติดใจที่ได้ไปวันเสาร์ แม่ชอบเลย...อิอิ

เมื่อวานเลยมีเวลาทำอะไรส่วนตัวมากมาย
และได้ดูหนังที่ค่อนข้่างชอบ
หนังเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ชอบ
ตอนนั้นช่อง 7 นำมาฉายเหมือนดูไม่อิ่มใจ
เลยไปซื้อแผ่นมาเก็บไว้
เพิ่งมีโอกาสเปิดดูเมื่อวาน

ข้อความหนึ่งที่ได้จากหนัง และรู้สึกชอบคือ

" คนสองคน ถ้าเกิดมาเพื่อกันและกันแล้วล่ะก้อ
ถึงจะมาจากต่างที่ต่างทาง ห่างกันแค่ไหนก็มาเจอกันได้"

แต่ถ้าการมาเจอกัน...แล้วต้องแยกจากกันตลอดไป
เหมือนสองคนในหนังเรื่องนี้ ควรจะเจอกันหรือ...??

นั่นสินะ...
เราคงไม่อาจหยั่งรู้อนาคตได้ว่า
เมื่อเราเจอคนที่รู้สึกว่า "ใช่" แล้ว
การเจอกันหรืออยู่ร่วมชีวิตกันนั้น
มีระยะเวลาสั้นยาวเพียงใด
คงทรมานมากมายนะ...
ถ้าต้องเป็นแบบนี้


เศร้า...ไปเปล่า....เนี่ย

*******************************
หลังๆ จูดี้เริ่มเจอคุณเจอวิส
ซึ่งเป็นอาของเพื่อนเธอมากขึ้น
เธอรู้สึกชื่นชมเขามากมาย
และเขียนบอกเล่าให้คุณพ่อขายาวทราบ
ช่วงนี้ไม่ค่อยมีอะไรมาก เป็นการบอกเล่า
ชีวิตการเรียนของเธอ....และเรื่องชีวิตประจำวันทั่่วไป
มีครั้งหนึ่งเธอไปเที่ยวห้างและเห็นหมวกสวยๆ
แต่ราคาค่อนข้างแพง หลังจากเธอเขียนจดหมาย
บอกคุณพ่อขายาวทราบ เขาก็ส่งเงินมาให้เธอ
เพื่อให้ซื้อหมวกนั้นทันที
เธอรีบส่งเงินคืนเขาพร้อมถ้อยคำปฏิเสธ
ที่ค่อนข้างรุนแรง และพอคิดได้
ก็เขียนไปขอโทษเขา (อีกแระ)
เกี่ยวกับถ้อยคำดังกล่าว ว่าไม่ได้มีเจตนาไม่ดี
เพียงแต่เธอไม่อยากรับเงินเขาในสิ่งที่ไม่จำเป็น
และหากมีโอกาสวันข้างหน้า เธอก็จะขอชดใช้เงิน
ที่เขาเคยให้เธอมา
พร้อมบอกเขาว่าเธอเป็นคนที่เขียนอะไรไม่ค่อยคิด
เขียนไปตามความรู้สึกจริงๆ ตอนนั้น
ถ้อยคำอาจจะดูไม่ดีไปบ้าง
คำขอโทษของเธออ่านเสร็จหลับเลย
ยาวจัง...นะ
โดย: sunny-low วันที่: 30 มิถุนายน 2557 เวลา:13:20:42 น.
  

เพื่อนๆ จะตกใจมั้ยเนี่ย เปิดบล็อกนี้ถูกบังคับฟังเพลงเลย

ไม่อยากฟังก็ปิดเพลงนะคะ เพราะจะเปิดบล็อกใหม่
คงต้องให้คุณพ่อขายาวจบก่อน
ใกล้แล้วค่ะ เลยครึ่งเล่มแล้ว
ยิ่งอ่านก็ยิ่งรู้สึกว่า
จูดี้กับตัวเองนี่ นิสัยคล้ายๆ กันเลย
มีอารมณ์กวนๆ ขำๆ ฮาๆ อยู่บางเวลา

เมื่อวานอ่านถึงตอนที่เธอเรียนวิชา
การจำแนกเรื่องเป็นหัวข้อต่างๆ
แล้วเธอก็นำรูปแบบนั้นมาเขียนจดหมาย
ให้คุณพ่อขายาวของเธออ่าน ขำมาก เช่น

2. ตึกนอนใหม่กำลังก่อสร้าง วัสดุก่อสร้างมี
ก.อิฐแดง ข.หินสิเทา
3. ผู้อยู่อาศัย คือ
ก.คณบดี 1 คน อาจารย์ 5 คน
ข.นักศึกษาหญิง 200 คน
ค. แม่บ้าน 1 คน คนครัว 3 คน....
7. ตอนนี้ 21.30 น.
8. ราตรีสวัสดิ์ค่ะ

ตลกดี...ช่างคิด เนอะ

แต่คราวนี้เธอโกรธคุณพ่อขายาวของเธอ
ที่ห้ามเธอไม่ให้ไปพักที่ฟาร์มของเพื่อนเธอ
ช่วงปิดภาคฤดูร้อนนี้
ทั้งๆ ที่จะมีกิจกรรมสนุกสนานมากมาย
และจะมีหนุ่มๆ ที่เป็นเพื่อนๆ ของน้องชายเพื่อน
มาพักในฟาร์มด้วย
แต่เขาไม่อนุญาตให้เธอไป แต่ให้เธอไปพัก
ที่ฟาร์มของอาเพื่อนเธออีกคนแทน
เธอจึงไม่เขียนจดหมายหาเขาเป็นเวลาสองเดือน
เพราะรู้สึกผิดหวังและเสียใจมากกับคำสั่งห้ามของเขา
พอเธอหายโกรธก็เขียนจดหมายหาเขา
แต่ยังแฝงไว้ด้วยความไม่พอใจ

"แม้ดิฉันจะมีปมด้อย เป็นเด็กที่ถูกเก็บมาเลี้ยง
ถูกบังคับให้เคลื่อนไหวปราศจากเหตุผล จนกระทั้ง
มีผู้เมตตา จิตใจอารี แสดงความปรารถนาดีต่อดิฉัน
มาตลอด เขาก็ควรมีสิทธิ์ดังหนึ่งพระเจ้าซึ่งมอง
ไม่เห็นตัวตน ทรงอำนาจ วางอำนาจ ออกคำสั่ง
ตามอำเภอใจอย่างไร้เหตุผล มิใช่หรือคะ..."

ถ้อยคำสมเป็นว่าที่นักเขียนในอนาคตเลยเนาะ
อ้อ....ตอนนี้คุณอาเจอวิส อาของเพื่อนที่เป็นเจ้าของ
ฟาร์มจะมาพักที่ฟาร์มสองอาทิตย์ เธอจะได้อยู่กับเขา
ที่ฟาร์มนี้ คงจะมีอะไรสนุกๆ ล่ะ
เพราะเธอเองก็แอบชื่นชอบและชื่นชมเขาอยู่มาก
แม้ว่าจะไม่ค่อยชอบหลานสาวเขาซึ่งเป็นเพื่อนของเธอ
สักเท่าไหร่นัก...เดี๋ยวค่อยเล่าให้ฟังใหม่นะ




ไม่รู้ช่วงนี้เป็นอะไร...อาจเพราะเป็นช่วงวันนั้นของเดือนด้วยล่ะมั้ง
อารมณ์มันหดหู่ เหงา และเศร้า มากมาย
เหนื่อยล้ากับภาระการงานและปัญหาส่วนตัว
รวมทั้งความรู้สึกบางอย่าง...ที่หาคำตอบ
ให้ตัวเองไม่ได้สักที...ว่าควรจะยังไง

ถามตัวเอง...และคุยกับตัวเองบ่อยๆ
ในทุกๆ เรื่องราว เพราะไม่รู้จะคุยกับใคร

อยากมีคนคุยด้วย...
เหมือนที่คุยกับบางคนตอนนี้
เป็นคนแรกและคนเดียวล่ะมั้ง
ที่คุยได้ทุกเรื่องแม้แต่เรื่องส่วนตัว
เพียงแต่ภาระเขาก็เยอะเหมือนกัน
จะยึดเขาไว้กับตัวเองก็ใช่ที่

เมื่อถึงวันหนึ่ง...เขาก็คงต้องไปจากเรา...อยู่ดี

อยากมี่ไหล่หนาๆ แข็งแรงไว้พิง
เวลาเหนื่อยๆ ล้าๆ

อยากมีอ้อมแขนไว้โอบกอดให้กำลังใจ
เวลารู้สึกหมดแรง...

มีแต่ความอยาก...ที่ไม่มีในความจริง

คงต้องรอเกิดชาติใหม่เสียแล้วล่ะมั้ง

ยัยตะวันยอแสงเอ๊ยยยย
โดย: sunny-low วันที่: 1 กรกฎาคม 2557 เวลา:11:34:31 น.
  

พรุ่งนี้ วันที่ ๓ กรกฎาคม
เป็นวันคล้่ายวันเกิดของคนสำคัญ
ผู้ชายที่รักมากมายในชีวิต
พรุ่งนี้ท่านอายุ ๗๑ ปี
สุขภาพทั่วไปยังแข็งแรง
ปั่นจักรยานได้อยู่ แต่ไม่อยากให้ปั่นเลย
แต่ท่านชอบของท่าน
ขอให้พระคุ้มครอง ให้ท่านสุขภาพแข็งแรง
แบบนี้ทุกคืนทุกวัน
......รักพ่อ...ค่ะ
 photo d1d3b6f0-1f62-4673-946b-8e33697918cd.jpg


ร้องเพลงให้พ่อฟัง-ยุ้ย ปัทมวรรณ เค้ามูลคดี.mp3

************************

คุณเจอวิสของจูดี้เป็นผู้ชายที่น่ารักนะคะ
ฟังที่เธออธิบายลักษณะของเขาแล้ว
เทียบเคียงกับคุณพ่อขาสั้นของเรา
เอ๊ย ใกล้เคียงกันเลย...อิอิ

"เขาเป็นเพื่อนชายที่ดีวิเศษของฉัน
แม้ว่าดูผิวเผินเขาจะไม่เป็นเช่นนั้น และได้เห็น
เพียงแวบเดียวก็จะบอกได้ว่า เขาเป็นคนตระกูล
เพ็นเดิลตั้นจริงๆ แต่ที่แท้แล้วไม่มีลักษณะแพนเดิ้ลตั้น
แม้แต่น้อย เขาแสนจะธรรมดาสามัญ เรียบๆ ง่ายๆ
และสุภาพอ่อนโยน การบรรยายลักษณะผู้ชายคนนี้
ดูออกจะพิกล แต่ก็เป็นความจริงค่ะ เขามีอัธยาศัย
และมีมรรยาทดีอย่างยิ่งต่อชาวนาทุกคนที่นี่
เขาพบปะพูดคุย และปฏิบัติต่อผู้เช่านาในลักษณะ
ชนชั้นเสมอกัน ทำให้ฅนเหล่านั้นรักและเป็น
กันเองกับเขา"

เพิ่งสังเกตุว่า สำนักพิมพ์ผีเสื้อ เขาจะใช้ "ฅ" ในการ
พิมพ์คำว่า "คน" คือพิมพ์เป็น "ฅน" ดีเหมือนกันนะคะ อนุรักษ์ไว้ก็ไม่เสียหลาย

พูดถึงผีเสื้อทำให้นึกถึงบางเรื่อง
ชีวิตนี้จะลืมอะไรที่เีกี่ยวกับเขาได้หรือนี่
สมองมันจดจำทุกๆ เรื่องที่เขาบอกเล่า
ไว้มากมาย...มันคงตายไปพร้อมกับ
ชีวิตตัวเองล่ะมั้ง ความทรงจำพวกนี้

ผีเสื้อ ภาษาอังกฤษคือ butterfly
มีบางคนเขาเล่าที่มาของคำ butterfly ว่า
ฝรั่งเขาเห็นว่ามันเป็นแมลงมีปีกสีเหลืองๆ
เหมือนเนย เขาจึงตั้งชื่อประมาณนั้น
จริงเท็จไม่รู้ แต่กว่าจะคุยกันรู้เรื่อง
กับคำว่า butterfly นี่
ก็เกือบทำให้เราตีกันได้เหมือนกัน
ไม่รู้เป็นอะไร การสื่อสารของเราสองคน
มักไม่ค่อยจะตรงกันสักเท่าใดนัก
และไม่รู้อีกเหมือนกันว่า
ทำไม...ยังคบกันได้..อยู่ทุกวันนี้
โดย: sunny-low วันที่: 2 กรกฎาคม 2557 เวลา:11:37:46 น.
  

"เด็กน้อยจูดี้ที่รักของผม...คุณเดาไม่ออกเลยหรือว่า
ผม----เจอวิส คือคุณพ่อขายาวของคุณ"

อ่านจบแล้วค่ะ...ดีจัง
แฮปปี่เอนดิ้งดี

สุดท้่ายพระเอกก็แกล้งปลอมตัวไปหานางเอก
เหมือนนวนิยายไทย....เลย

อ่านเมื่อคืน ง่วงๆ ไม่เกิดอารมณ์ร่วม
ในคำบรรยายของจูดี้ ที่เธอเขียนจดหมาย
เล่าให้คุณพ่อขายาว หรือคุณเจอวิส ฟังว่า
เธอรู้สึกอย่างไร เมื่อรู้ว่าคนที่เธอรัก ---เจอวิส
กับคนที่เธอเคารพ---คุณพ่อขายาว
คือบุคคลคนเดียวกัน

มาอ่านตะกี้...ถึงเห็นว่า ภาษาบรรยาย
ให้เกิดความรู้สึกเหมือนว่าตัวเองคือ จูดี้
และกำลังพบกับเรื่องประหลาดใจ
ที่นำมาทั้งความสุขสันต์และสงสัย

"คุณนอนหลับหรือเปล่าคะเมื่อคืนนี้ ดิฉันนอนไม่หลับเลย แม้แต่งีบเดียว
ดิฉันตื่นเต้นเกินไป สับสน งงงัน พิศวงสงสัย ฉงน สรเทห์
และเป็นสุขที่สุด ดิฉันคิดว่าตัวเองคงจะไม่มีวันนอนหลับได้อีกต่อไป
และคงจะรับประทานอาหารไม่ได้ด้วย ประสาทมันตื่น ทั้งตาและใจ.."

"ดิฉันอดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหลาดใจ งงงัน ดีใจ อิ่มเอมใจ
และรู้สึกแปลกๆ ว่า ในทีุ่สดดิฉันก็มีเจ้าของชีวิตแล้ว
ดิฉันจะไม่ว้าเหว่เหมือนที่เคยเป็นอีกต่อไป
ดิฉันมีชายสุดที่รักเป็นผู้ปกป้องคุ้มครองชีวิต
เป็นความรู้สึกที่ปลอดภัย หวานชื่น และแสนเป็นสุข
ดิฉันสัญญาว่า จะไม่ทำให้คุณเสียใจหรือผิดหวัง
แม้เพียงชั่วขณะ
รักคุณชั่วนิรันดร์
จูดี้
ปล.นี่เป็นจดหมายรักฉบับแรกที่ดิเฉันเขียน ตลกดีไหมคะ ที่ดิฉันรู้จักเขียนจดหมายรักด้วย"

*****************************
หวานดีมั้ย...
ความรักมักจะหอมหวานแบบนี้เสมอ
ภาษาที่ออกมาถึงมีแต่ถ้อยคำที่หวาน
อ่านแล้วก็อมยิ้มไปมา

***********************

หลายเดือนที่ผ่านมา
มีใครคนหนึ่งทำตัวเสมอต้นเสมอปลายมาก
กับการส่งไลน์ทักทายทุกเช้า
เขาทำเพียงแค่นั้น...
แต่ทุกเช้าและทุกวัน
มากกว่าสองเดือนแล้ว

หลังๆ เริ่มมีการทักทายตอนเย็น
เป็นการทักทายธรรมดา
บอกเล่าว่าไปออกกำลังกายมา
แล้วรู้สึกอย่างไร
ก็แนะนำให้ดูแลอาหารและไปวัดเพิ่มด้วย
เพราะเขาอายุมากแล้ว
และมีปัญหาสุขภาพมากมาย

ก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่า
เขาทำแบบนั้น...ทำไม
แต่ความรู้สึกเราที่มีต่อเขา
ไม่มีอะไร..นอกจาก...
เขาคือคนดีๆ ที่อยากสื่อสารกับเรา
เท่านั้นเอง...

กำลังคิดว่า น่าจะหันมาสื่อสารกับเขา
อย่างจริงจัง แทนการสื่อสารกับสายลม
แสงจันทร์...ที่มักไม่มีการโต้ตอบกลับมา
เสียคงดีล่ะมั้ง...

จบบล็อกนี้นะคะ
คราวหน้าเปิดบล็อกใหม่
กับหนังสือเล่มใหม่
สาวทรงเสน่ห์ (อังกฤษ: Pride and Prejudice)
ที่จะอ่านนะคะ ไม่ใช่ที่จะเอามาเล่า



โดย: sunny-low วันที่: 3 กรกฎาคม 2557 เวลา:11:23:00 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

sunny-low
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]



ความทุกข์
สอนให้อดทน
ถ้าผ่านมันได้
ก็จะเจอความสุข...