มกราคม 2557

 
 
 
1
2
3
4
5
6
8
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
EAT PRAY LOVE /อิ่มมนต์รัก
EAT PRAT LOVE/อิ่มมนต์รัก

ชีวิตของแต่ละคน คงจะมีเส้นทางเดินที่แตกต่างกัน...
แล้วแต่..แต่อะไรดีล่ะ
นั่นสิ แล้วแต่อะไร...บอกไม่ได้เหมือนกัน
เพราะแต่ละคน..ก็คงเจอปัญหาในชีวิตแตกต่างกัน
คงต้อง...แล้วแต่ชีวิตใคร...ชีวิตมัน...ล่ะมั้ง

ก็เหมือนนางเอกของหนังเรื่องนี้
ชีวิตเธอที่เปิดเรื่องมา ก็ดูน่าจะเป็นชีวิตที่สมบูรณ์นะ
เธอชื่นชอบการเดินทางไปยังที่ต่างๆ
อาจเพราะอาชีพนักเขียนของเธอก็ได้
ทำให้เธอต้องเดินทางไปพบเรื่องราวต่างๆ 
เพื่อมาเป็นข้อมูลในการเขียน

แต่การทำนายทายทักของหมอดูเทวดาคนหนึ่งในบาหลี
ก็ทำให้ชีวิตเธอผกผัน...เพราะมันดันเดินตามคำทำนาย
ของเขาเสียทั้งหมดเลย 

เริ่มจากการแต่งงานกับคนที่เธอรัก
และมีทุกสิ่งทุกอย่างเพียบพร้อม
แต่เมื่อนานวัน ความรักของเธอก็เริ่มรู้สึกว่า มันไม่ใช่
แม้จะอยู่ด้วยกันมานานหลายปี แต่ยิ่งอยู่เธอก็ยิ่งรู้สึกอึดอัด
จนเธอต้องขอหย่า...และเพราะผู้ชายไม่ยอมหย่า
จึงกลายเป็นคดีความของการฟ้องหย่า
และเธอก็ไม่ได้ทรัพย์สินอะไรเลย...จากการฟ้องหย่าครั้งนี้
ซึ่งตรงกับคำทำนายแรก...ที่เธอจะสูญเสียทุกอย่างจนหมดตัว


เธอพบรักอีกครั้งกับชายหนุ่มที่เป็นนักแสดงละครเวที
อยู่ด้วยกันระยะหนึ่ง...ความรักที่เหมือนจะหวาน
ก็เริ่มเจือจาง...และจืดชืดลงในท้ายสุด

เธอเบื่อหน่ายกับชีวิตและความเป็นอยู่ ณ ตรงนี้ อย่างที่สุด
จึงลางานเป็นเวลาหนึ่งปีและเดินทางแสวงหาโลกใหม่ 
ที่ซึ่งเธอไม่เคยคุ้นและไม่รู้จักใคร...สักคน
เพื่อจะได้ค้นหาอะไรสักอย่างในชีวิต...ที่เธอต้องการ
โดยเลือกที่จะเดินทางไปยังสถานที่สามแห่ง

หนึ่งคือ ประเทศอิตาลี
ที่แห่งนี้เธอพบมิตรใหม่ๆ มากมาย และได้ลิ้มรสชาติอาหารอิตาลีแท้ๆ 
อย่างเอร็ดอร่อย รวมทั้งได้รู้จักวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนอิตาลี 
ภาษาและการสื่อสาร  ที่ซึ่งทำให้เข้าใจความหหมายของ
คำว่า "เสน่ห์ของการไม่ทำอะไรเลย"

จากอิตาลีเธอเดินทางไปประเทศอินเดีย
พำนักในอาศรมแห่งหนึ่ง เพื่อเรียนรู้เรื่องการควบคุมจิตและการฝึกสมาธิ 

"ห้องนั่งสมาธิอยู่ในใจ ต้องรู้จักตกแต่งมันด้วยตนเอง
ต้องหัดเลือกความคิดแบบที่เลือกเสื้อผ้าทุกวัน
นั่นคือ อำนาจที่เราฝึกได้ ถ้าอยากควบคุมชีวิต
ให้เพ่งจิต นั่นล่ะที่ควรพยายามควบคุม
ถ้าอยู่เหนือความคิดไม่ได้ ชีวิตก็มีปัญหาตลอด"

นี่คือคำแนะนำของเพื่่อนใหม่ในอาศรม

"การมีความรักกับคนคนหนึ่ง ถ้าคิดถึงก็จงคิดถึง 
ส่งประทีปความรักไปหาเขาเวลาคิดถึง 
หรือไม่ก็ลืมซะ ถ้าสามารถเคลียร์พื้นที่ในใจ
จงใช้ครอบงำผู้ชายคนนี้ 
ส่วนชีวิตคู่ที่ล้มเหลวใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดทิ้งไปซะ"


สถานที่แห่งสุดท้ายแต่เป็นสถานที่เริ่มต้นของเรื่องคือ บาหลี
ที่แห่งนี้ทำให้เธอพบกับความรักอีกครั้ง 
แต่ครั้งนี้เธอกลับกลัวที่จะรัก 
ขณะที่ผู้ชายเองก็กลัวเหมือนกัน เพราะเพิ่งหย่าขาดจากภรรยา
ที่เขารักมากเช่นกัน แต่เขาพร้อมที่จะเปิดรับนางเอก 
โดยบอกกับนางเองว่า 
"คุณไม่ได้ต้องการสามี แต่ต้องการคนปกป้อง" 
ความรักของทั้งคู่เหมือนจะลงตัวในทุกๆ เรื่อง 
แต่นางเอกกลับรู้สึกว่า ชีวิตมันยังไม่สมดุลย์ 

"บางครั้งการเสียสมดุลย์เพื่อความรัก 
คือ ส่วนหนึ่งของชีวิตที่สมดุลย์" 
นั่นคือคำกล่าวของหมอดูเทวดาที่ฝากให้นางเอกคิดไตร่ตรอง


"ทุกคนต้องการความรัก มันยุให้คนทำเรื่องแปลกๆ 
ทุกคนเป็นแบบนั้น ในช่วงเริ่มต้นความสัมพันธ์ 
ความสุขที่มากล้น เพลินตาเพลินใจ จนตัวเองต้องทุกข์"


เมื่อคิดไตร่ตรองได้ และเข้าใจความสมดุลย์ของชีวิต
เธอจึงเปิดใจที่จะมีความรักอีกครั้ง...
และคงเป็นความรักครั้งสุดท้าย...ของเธอ

ตอนซื้อมาและเปิดดู ก็ยังไม่เข้าใจในชื่อเรื่องเท่าใดนัก
แต่พอดูไปเรื่อยๆ ถึงรู้ว่า ชื่อเรื่องนั้นมาจากการเดินเรื่องนั่นเอง
การได้ลิ้มรสอาหาร การได้เข้าถึงการควบคุมจิตและสมาธิ
และการได้รับความรัก....นี่แหล่ะ Eat Pray Love

เป็นหนังเก่าอีกเรื่องที่ดูแล้วคิดตามตลอดทั้งเรื่อง
ถ้าเป็นแบบนางเอกได้...ก็คงดี
อยากเดินหนีจากสถานที่เดิมๆ ชีวิตเดิมๆ 
เพื่อเติมเต็มชีวิต...และสร้างชีวิตใหม่ๆ ...เช่นกัน
สักวัน...เมื่อถึงเวลาของมัน

https://www.youtube.com/watch?v=G82bUOavP1s

ปล.อยากรู้ว่าเพลงอะไร Copy ไปฟังเองนะคะ เพลงความหมายดีค่ะ



Create Date : 09 มกราคม 2557
Last Update : 10 มกราคม 2557 15:18:50 น.
Counter : 571 Pageviews.

6 comments
  

จากในหนังชอบประโยคที่พระเอกบอกนางเอกว่า

"คุณไม่ได้ต้องการสามี แต่ต้องการคนปกป้อง"

นั่นสิเนอะ...บางที
เราก็ไม่ได้ต้องการแฟน คนรัก หรือสามี

แต่ต้องการใครสักคน
ที่พร้อมจะดูแลและอยู่ด้วยกันตลอดไป
หมายถึงอยู่กับเราคนเดียวนะ

เพราะถึงเวลาหนึ่ง...เราก็ต้องจากไปคนเดียว
การได้อยู่กับคนที่มีความรู้สึกดีๆ ต่อกัน
และผูกพันกันจนถึงวันที่จากไป
คงเป็นความสุข...ที่น่าจดจำเนอะ

อยากมีแบบนี้...น่ะ


โดย: sunny-low วันที่: 14 มกราคม 2557 เวลา:15:47:43 น.
  
"กำลังใจ"

วันนี้นั่งเล่นเฟส และให้กำลังใจน้องแถวบ้านคนหนึ่ง
เขาอายุยังน้อย แต่ก็มีลูกเล็กๆ ซะแล้ว
อายุยี่สิบต้นๆ และสามีก็ไม่ได้เป็นโล้เป็นพาย
ดีว่ามีแม่เป็นหลักประคองชีวิต

น้องเขามักจะบ่นทางเฟส
เกี่ยวกับชีวิตที่เหน็ดเหนื่อยของเขา
เราเองก็ผ่านมาก่อน...ย่อมรู้ดีว่า
การเลี้ยงลูกเล็กๆ มันเหนื่อยแค่ไหน
เขายังมีแม่คอยช่วยเหลือ
แต่เรา...ไม่มีใคร

เพียงแต่เรามีฐานะการเงินที่ค่อนข้างมั่่นคงกว่า
แต่น้องฐานะการเงินแล้วแต่สถุานการณ์
เพราะเขารับตัดเสื้อผ้ากับแม่
ส่งขายตามห้าง แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ปิด กทม.แบบนี้
มันคงจะลำบากกับชีวิตเขาล่ะ

คงช่วยอะไรเขาไม่ได้
นอกจากชวนเขาคุยและให้กำลังใจเขา
ขณะที่เราปลอบเขา ก็รู้สึกว่าตัวเองก็เหนื่อย
จนน้ำตาซึมออกมาเหมือนกัน
ตลกตัวเอง...
ชีวิตตัวเองยังเอาตัวเองไม่ค่อยจารอด
แต่ยังขันอาสาไปช่วยคนนั้นคนนี้





แด่คุณแม่ที่รักลูก...
และแด่คุณลูกที่รักแม่....


โดย: sunny-low วันที่: 15 มกราคม 2557 เวลา:16:44:18 น.
  

"เริ่มเบื่อโลกออนไลน์แล้วนะ"

รู้สึกตัวเองใช้โทรศัพท์ผิดประเภทยังไงไม่รู้
หลังๆ มันไม่ได้เป็นโทรศัพท์เลยนะ
เพราะหยิบขึ้นมาโทร.หาใครน้อยมาก
และมีคนโทร.เข้ามาหาก็น้อยมากเช่นกัน

มันกลายสภาพเป็นคอมพิวเตอร์ขนาดย่อม
ที่เราสามารถคุยกับใครก็ได้แบบไม่ต้องได้ยินเสียง
เราสามารถทราบความเป็นอยู่ของอีกคนก็ได้
แบบไม่ต้องเห็นหน้าหรือเจอตัวเป็นๆ
เราสามารถฟังเพลงดูหนังหรือทำอะไรก็ได้
แบบไม่ต้องนั้งหน้าจอทีวี หน้าคอมม์ หรือหน้าวิทยุ

เหมือนโลกมันแคบลงจริงๆ
แต่มองอีกมุมก็ทำให้คนเราไกลกันไปโดยปริยาย
เพราะวันๆ เราแทบจะไม่ต้องคุยกับใคร
เพียงแต่อ่านไลน์ อ่านเฟส
เราก็จะรู้แล้วว่าคนไหนคนนั้นเป็นยังไงทำอะไร

แต่ฉันเบื่อแล้วน่ะ
ฉันเริ่มไม่ชอบแบบนี้แล้ว
ความใกล้แบบไม่เห็นหน้า
ความใกล้แบบไม่ได้ยินเสียง
ความใกล้จากตัวอักษร
ไม่ได้ทำให้รับรู้ความรู้สึกของอีกฝ่ายอย่างแท้จริง
เท่ากับการได้เห็นหน้าตา หรือ
แค่ได้ยินเสียงกันก็ยังดี

อย่างน้อยน้ำเสียงที่เราได้ยิน
ก็ยังจะพอบอกเราได้ว่า
คนคนนั้นเขาเป็นยังไง
รู้สึกยังไง และ.....

เรามาส่งเสียงคุยกันบ้างดีกว่ามั้ย
ไม่อยากอ่าน อ่าน อ่าน แล่้วน่ะ
อยากได้ยินเสียงมากกว่า







โดย: sunny-low วันที่: 16 มกราคม 2557 เวลา:15:35:20 น.
  


ช่วงนี้ กทม.อากาศหนาวอีกแล้ว
ปีนี้หนาวมาเป็นระลอกๆ เลย
หนาวจนต้องหยิบเสื้อกันหนาวและ
ผ้าพันคอ มาสวมมาพัน เพื่อให้ความอบอุ่น

หนาวจนรู้สึกว่า ไม่ใช่ กทม.เหมือนที่เคยอยู่
บางเช้าออกไปทำงานให้เกิดความรู้สึกว่า
ตัวเองอยู่ต่างจังหวัดที่ไหนสักแห่ง
ด้วยความที่อากาศเย็นและมีหมอกบางๆ

นึกถึงวันเวลาและภาพเหตุการณ์เก่าๆ
ที่แบกเป้ไปท่องเที่ยวกับเพื่อนยังที่ต่างๆ
โดยเฉพาะในแถบจังหวัดภาคเหนือ
อ.ปาย แม่ฮ่องสอน
เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ประทับใจมาก
หากมีโอกาสก็อยากไปอีกนะ

แต่ตอนนี้คงเปลี่ยนไปจากสิบปีที่แล้วมาก
ไม่รู้ว่ายังมีเดินป่าอยู่อีกหรือเปล่า

คิดถึง เมืองปาย..
โดย: sunny-low วันที่: 17 มกราคม 2557 เวลา:12:17:54 น.
  

พี่อุ้มแวะมาอ่าน
ฟังเพลงประกอบหนังเรื่องนี้แหล่มเลยจ๊ะ
ไพเราะ...โดน
เหมือนกับที่บล็อกพี่อุ้มตอนนี้
ไม่น่าเชื่อจะยืนยงยืนยาวมาเข้าสู่ปีที่ 10
ขอบคุณ BLOGGANG ที่ทำให้เราได้มาเจอกันเน๊าะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 20 มกราคม 2557 เวลา:9:55:49 น.
  
สิบปีแล้วเหรอ...

ถึงหรือพี่...

ไม่น่าเชื่อ....

นานเนาะ...
โดย: sunny-low วันที่: 20 มกราคม 2557 เวลา:10:05:18 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

sunny-low
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]



ความทุกข์
สอนให้อดทน
ถ้าผ่านมันได้
ก็จะเจอความสุข...