สวัสดีค่ะ ภาระหน้าที่ทำให้ต้องเดินทางไกลมาถึงบัวโนสไอเรส แต่ยังคิดถึงเพื่อนบล็อกทุกคนนะค่ะ

อายุกับการออกกำลังกายที่ปลอดภัย

คนทุกวัยสามารถเล่นกีฬาได้ ไม่มีข้อห้ามแม้เด็กเล็กหรือคนสูงอายุ แต่มีข้อแตกต่างกันคือชนิดและความหนักเบาของกีฬาที่เหมาะสมกับวัย แต่ที่สำคัญที่สุดคือ นอกจากจะทำให้สนุกสนานเพลิดเพลิน ร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังต้องปลอดภัยด้วย
ในวัยหนุ่มสาวอายุตั้งแต่ 17 ปีขึ้นไปจนถึงประมาณ 30 ปี สามารถเล่นกีฬาได้ทุกชนิดทุกประเภท

เพราะกระดูกและกล้ามเนื้อเจริญเติบโตเต็มที่ มีความแข็งแรงและอดทน แต่ก็ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยและการป้องกันการบาดเจ็บด้วย ในวัยเด็กมีข้อจำกัดในการเล่นกีฬา ทั้งนี้ เพราะร่างกายกำลังเจริญเติบโต ความทนทานจะมีน้อยและประสาทการสั่งงานมีน้อย ทำให้การประสานงานของกล้ามเนื้อเป็นไปได้ไม่ดี การเล่นกีฬาที่ยากๆ จึงเสี่ยงต่อการเกิดการบาดเจ็บได้ง่าย จึงขอแนะนำดังนี้นะครับ
ในเด็กเล็ก ที่มีอายุต่ำกว่า 10 ขวบ การสั่งงานทางระบบประสาทและการประสานงานของกล้ามเนื้อมีน้อย จึงควรให้เล่นกีฬาประเภทง่ายๆ หรือเบาๆ โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์มากนัก ที่ดีที่สุดคือการวิ่ง ไม่ควรบังคับเด็ก เพราะจะทำให้เด็กเบื่อและเมื่อเลิกบังคับ เด็กจะเลิกการออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาในทันที และอาจเกลียดการออกกำลังกายตลอดไป

การออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาในวัยนี้จึงควรมุ่งอยู่แต่ความเพลิดเพลินสนุกสนานให้แต่พอดี ไม่มากเกินไป และต้องชี้ให้เห็นประโยชน์ของการออกกำลังกายด้วย กีฬาที่หนักหรือต้องใช้การประสานงานของกล้ามเนื้อมากจะทำให้เกิดการบาดเจ็บได้ง่าย นอกจากการวิ่งแล้วกีฬาที่เหมาะสมสำหรับเด็กในวัยนี้จะเป็นพวกประเภทเล่นเกมส์ ยิมนาสติก การเล่นที่ฝึกความคล่องแคล่วและความชำนาญแบบง่ายๆ เช่น ปีน ไต่ เป็นต้น กีฬาประเภทที่ต้องใช้ความอดทน ห้ามเด็ดขาด ปัจจุบันมีการเข้าใจผิดที่ชักจูงเด็กๆ ในวัยนี้ออกมาวิ่งเพื่อสุขภาพกับพ่อแม่และพี่ๆ แม้ว่าจะมีเด็กในวัยนี้สามารถวิ่งมาราธอนได้ก็ตาม แต่ส่วนมากจะเกิดการบาดเจ็บถึงเข้าโรงพยาบาลก็มีบ่อยๆ

การเล่นกีฬาหรือออกกำลังกายประเภทวิ่งหรือกระโดดมากเกินไปสำหรับเด็กในวัยก่อน 10 ขวบนี้อาจทำให้มีการเจ็บปวดที่ข้อตะโพก เนื่องจากหัวกระดูกข้อตะโพกถูกรบกวน ขาดเลือดไปเลี้ยง ทำให้ข้อตะโพกเสียและเกิดความพิการขึ้นได้โดยเฉพาะในเด็กวัย 7-8 ขวบ เด็กชายและเด็กหญิงในวัยนี้ ความสามารถ ความแข็งแรง สมรรถภาพและประสิทธิภาพไม่แตกต่างกัน เพราะยังไม่มีการก้าวเข้าสู่การแตกเนื้อหนุ่มหรือเนื้อสาว จึงเล่นกีฬาหรือออกกำลังกายได้เหมือนกัน ความแตกต่างจะปรากฎเมื่อหลังอายุ 11 ปีไปแล้ว เมื่อถึงตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป สมรรถภาพและประสิทธิภาพของร่างกายของเด็กหญิงจะน้อยกว่าเด็กชาย ดังนั้น ชนิดกีฬาและความหนักเบาจึงต้องแตกต่างกันไปด้วยแข่งกันไม่ได้ ในเด็กโต อายุ 10-14 ปี เป็นช่วงที่เริ่มมีการแตกเนื้อหนุ่มและเนื้อสาว

จะมีการประสานงานการทำงานของกล้ามเนื้อและประสาทสั่งงานดีขึ้นมาก จึงสามารถเล่นกีฬาที่ใช้อุปกรณ์ได้ เช่น ฟุตบอล แชร์บอล วอลเลย์บอล เป็นต้น ซึ่งต้องใช้การประสานงานทั้งร่างกาย เช่น สายตา การได้ยิน และการยืดหดของกล้ามเนื้อสลับกันไปในช่วงสั้นๆได้ แต่ต้องหลีกเลี่ยงการปะทะกันในกีฬาที่ต้องสัมผัสกับฝ่ายตรงข้าม และที่เป็นข้อห้ามอย่างยิ่งคือ การชกมวย กีฬาประเภทอดทน เช่น วิ่งระยะไกลนั้น การวิ่งมากๆ จะทำให้มีการแยกของกระดูกปลายส้นเท้าตรงส่วนที่กำลังมีการเจริญเติบโตเกิดการบาดเจ็บและปูดนูนขึ้น ถ้าเป็นมากๆ จะทำให้มีการหลุดของกระดูกซึ่งเป็นที่เกาะของเอ็นร้อยหวายบริเวณส้นเท้าได้ ในเด็กโต อายุ 14-17 ปี เป็นช่วงที่หนุ่มสาวกำลังเข้าสู่วัยที่สมบูรณ์เต็มที่ จึงมีความแตกต่างอย่างมากสำหรับหญิงและชาย โดยผู้ชายจะเล่นกีฬาได้แทบทุกชนิดที่ทำให้เกิดกำลัง ความแข็งแรง ความรวดเร็วและความอดทน

ส่วนในหญิงนั้นมักจะเน้นกีฬาประเภทที่ไม่หนักแต่ทำให้ร่างกายแข็งแรง และเสริมสร้างรูปร่างทรวดทรง เช่น ว่ายน้ำ ยิมนาสติก และวอลเลย์บอล เป็นต้น การใช้งานมากเกินไปทั้งหญิงและชายในวัยนี้โดยเฉพาะการวิ่ง จะทำให้มีการอักเสบหรือแยกตัวของปุ่มกระดูกหน้าแข้งตอนบน ทำให้กระดูกปูดนูนขึ้นและถ้าเป็นมากๆ จะมีการแยกตัวและมีการหลุดของชิ้นกระดูกบริเวณนั้นได้ มีอาการเจ็บเสียวอยู่ตลอดเวลาเมื่อวิ่งหรือเดินเร็ว ในผู้ใหญ่ก็สามารถพบปุ่มกระดูกที่นูนบริเวณนี้ได้ ทั้งนี้เนื่องจากการบาดเจ็บในวัยเด็กนั่นเอง บางครั้งต้องรักษาโดยการผ่าตัดเอาชิ้นกระดูกนั้นออกจึงจะหายได้ การบาดเจ็บบริเวณนี้เป็นส่วนของกระดูกที่สร้างการเจริญเติบโต ฉะนั้น จึงอาจทำให้การเจริญเติบโตมีความผิดปกติ ทำให้ขาผิดรูปและเกิดความพิการได้

การป้องกันการบาดเจ็บจากการกีฬาในวัยเด็กนี้ นอกจากจะนึกถึงการป้องกันการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬาแล้ว ยังต้องเน้นความสำคัญถึงเรื่องโภชนาการสำหรับเด็กด้วย เพราะนอกจากจะทำให้ไม่ขาดสารอาหารแล้ว ยังต้องเสริมอาหารเพื่อการเจริญเติบโตของเด็กด้วย ดังนั้นการออกกำลังกายที่ปลอดภัยในวัยเด็กจึงไม่ควรหักโหมหรือฝึกหนักจนเกินไป โดยเฉพาะการหมกมุ่นในกีฬาชนิดเดียว และทำซ้ำๆซากๆ ควรให้เด็กเล่นกีฬาหลายๆ อย่างสลับกันไป หนักบ้าง เบาบ้าง จึงจะเกิดผลดีต่อสุขภาพและประสิทธิภาพของร่างกายอย่างแท้จริง



ขอบคุณข้อมูลจาก//www.si.mahidol.ac.th




 

Create Date : 27 มีนาคม 2553
0 comments
Last Update : 27 มีนาคม 2553 7:48:49 น.
Counter : 1072 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


kobnon
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 92 คน [?]




.
สาระน่ารู้ประจำวัน
1.โรคข้อสันหลังอักเสบติดยึด
2. บุหรี่ ทำนมยาน หูตึง
3. Upside down pineapple cake


music
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
27 มีนาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add kobnon's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.