กุหลาบแวร์ซายส์ , Lady Oscar , La Rose de Versailles , The Rose of Versailes , Berusai No Bara
|
||||
ตอนที่ 7(2) ใครเขียนจดหมายรัก? (Who Wrote the Love Letter?) เรื่องราวที่องค์หญิงรัชทายาทหนีออกไปเที่ยวนอกวังนั้นก็ไม่อาจจะเล็ดลอดสายตาของคนในวังไปได้ ที่ห้องของมาดามดูว์บารีซึ่งกำลังสังสรรค์อยู่กับเหล่าสตรีชนชั้นสูง ในห้องนั้นก็กำลังซุบซิบนินทาเรื่องขององค์หญิงรัชทายาทอยู่เช่นกัน ดูว์บารี : “ในที่สุดหล่อนก็เผยธาตุแท้ของหล่อนออกมาจนได้ เธอเกิดเป็นเชื้อพระวงศ์ แต่ทำในสิ่งที่ไม่ต่างจากเด็กสาวธรรมดาทั่วไป” สตรีชั้นสูง : “แต่ฉันก็แอบอิจฉาเธอนะ ได้ยินมาว่าเค้าท์แฟร์ซองหลงรักเธอ” “ใช่ เค้าเต้นรำเก่งและก็หล่อด้วยเค้าเพอร์เฟคมาก” “นี่เค้ามาเข้าเฝ้า 3 ครั้งแล้วนะ” “จะดีหรอ? มกุฎราชกุมารทรงปล่อยปละละเลยพระนางอังตัวเน็ต” เหล่าสตรีชั้นสูงต่างซุบซิบเรื่องพระนางอังตัวเน็ต กับเค้าท์แฟร์ซองอย่างสนุกปาก แล้วก็มีสตรีผู้หนึ่งเปิดประตูเข้ามา “นี่ๆ เค้ามาอีกแล้ว ชายสวีเดนคนนั้นน่ะ” “เค้าท์แฟร์ซองหรอ?” “ไปดูเค้ากันเร็ว”ดูว์บารีได้ยินคำนินทาต่างๆนานา ก็นึกแผนชั่วขึ้นมาได้ เธอจึงพูดกับมาดามเพื่อนของเธอว่า ดูว์บารี : “ก่อนหน้านี้ท่านเคยพูดว่า คำนินทาบางครั้งก็สามารถฆ่าคนได้” เพื่อนดูว์บารี : “ถ้ามีจดหมายอื้อฉาวองค์หญิงรัชทายาทจบเห่แน่ ถ้ามีหลักฐาน...” มาดามดูว์บารีและมาดามเพื่อนของเธอร่วมกันวางแผนจะทำอะไรบางอย่างอีกแล้ว ที่ห้องพระนางอังตัวเน็ตเต็มไปด้วยเหล่าสตรีชั้นสูงที่มาสังสรรค์กันและเค้าท์แฟร์ซอง ซึ่งมาเข้าเฝ้าพระนางอังตัวเน็ต เค้าท์แฟร์ซองทักทายพระนางด้วยการจูบที่มือ สตรีชนชั้นสูงเหล่านั้นต่างให้ความสนใจเค้าท์แฟร์ซองเป็นอย่างมาก “ขอโทษค่ะท่านแฟร์ซองใช่มั้ย? พระอาทิตย์เที่ยงคืนมันเหมือนกับพระอาทิตย์ตอนกลางวันมั้ยคะ?” สตรีชนชั้นสูงผู้หนึ่งถามขึ้นด้วยความอยากรู้ เค้าท์แฟร์ซอง : “ใช่ แต่แค่ช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้น ก็เหมือนกับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในภาคเหนือนั่นแหละ แต่ฉันยังไม่เคยได้ยินว่ามีคนกลายเป็นโรคนอนไม่หลับหรอกนะ” เค้าท์แฟร์ซองตอบแบบตลกสนุกสนาน “แหม ท่านนี่ตลกจริงๆ” พระนางอังตัวเน็ตและเหล่าสตรีชนชั้นสูงคุยกันหัวเราะคิกคักอย่างสนุกสนาน ส่วนออสการ์ก็แอบมาหลบมุมอยู่ห่างๆ และยืนคุยกับอังเดรสองคน ออสการ์ : “เธอสังเกตเห็นอะไรบางอย่างเกี่ยวกับพระนางอังตัวเน็ตมั้ย?” อังเดร : “ก็ไม่มีอะไรนี่ ก็ยังเอาแต่ใจเหมือนเดิม ก็ยังถูกมาดามโนอิลดุเป็นประจำเหมือนเดิม” จริงๆแล้วอังเดรก็รู้อยู่แก่ใจว่า ออสการ์หมายถึงอะไร แต่ก็แกล้งตอบบ่ายเบี่ยงไปอย่างนั้น ออสการ์ : “หรอ ถ้าเธอไม่สังเกตเห็น ฉันก็จะได้ไม่ต้องเป็นห่วงมันเท่าไหร่” อังเดร : “เธอหมายถึงผู้ชายที่ชื่อแฟร์ซองนั่นใช่มั้ย?” อังเดรพูดตรงๆ ออสการ์ : “พระนางมารี อังตัวเน็ตดูเธออารมณ์ดีอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ที่แวร์ซายส์มันอาจจะทำให้เธอตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตราย ที่แวร์ซายส์ถ้าใครคนหนึ่งทำตัวเหมือนมนุษย์ทั่วไป ไม่สนใจกฏเกณฑ์และมารยาทนั่นก็หมายถึงแปลกแยกหรือถูกเนรเทศ ฉันหวังว่าเรื่องแบบนี้คงจะไม่เกิดขึ้น” อังเดร : “ยังหลักแหลมเหมือนเดิมความหยั่งรู้ของผู้หญิงเนี่ย อุ๊ย...ฉันผิดไปแล้ว ออสการ์ ฟรังซัวส์ เดอจาร์เจส์ เป็นผู้ชายนี่นา” อังเดรแกล้งพูดประชดออสการ์ แต่ออสการ์กลับจริงจังขึ้นมา ออสการ์ : “นี่ไม่ใช่เวลาจะมาล้อเล่นนะ! อังเดร จากนี้ไปเธอจะต้องจับตาดูคนรอบข้างของพระนางอังตัวเน็ตให้ดี ถ้าคำนินทาที่น่ารังเกียจหลุดออกไปล่ะก็ มันอาจจะสายเกินไป” อังเดร : “อืม” กลางดึกวันนั้น เจโลเดลเดินถือตะเกียง ออกเดินตรวจตรารอบๆพระราชวังแวร์ซายตามปกติ แต่แล้วเค้าก็สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติบางอย่าง เค้าเห็นมาดามดูว์บารีแต่งตัวด้วยผ้าคลุมมิดชิดขึ้นรถม้าออกไปกลางดึก “ทำไมเธอถึงแต่งตัวแบบนั้นออกไปกลางดึกนะ?” ด้วยความสงสัย เจโลเดลจึงแอบขี่ม้าตามไปเงียบๆ เจโลเดลเห็นมาดามดูว์บารีกับเพื่อนของเธอแต่งตัวด้วยผ้าคลุมมิดชิด เดินเข้าไปในบ้านหลังหนึ่ง เจโลเดลจึงแอบฟังการสนทนาของพวกเค้าอยู่นอกหน้าต่าง มาดามดูว์บารีส่งกระดาษแผ่นหนึ่งให้กับลาซาน ชายตาเดียว ซึ่งเป็นนักปลอมลายมือ ลาซาน : “ท่านต้องการให้ฉันเขียนจดหมายรักโดยปลอมลายมือนี้หรอ?” ดูว์บารี : “จดหมายแบบลุ่มหลง” ลาซาน : “ลายมือนี้ไม่ดีเลย อืม...เป็นงานยาก” ลาซานแกล้งทำเป็นลังเล ดูว์บารี : “ 1,200 ลีฟ” ดูว์บารีเสนอค่าจ้างให้ลาซาน ลาซาน : “ลายเซ็นนี้...อังตัวเน็ต..ก็ยาก” ลาซานเล่นตัวอีกเพื่อหวังว่าจะได้เงินเพิ่ม เพื่อนดูว์บารี : “1,400” มาดามเพื่อนของดูว์บารีจึงเสนอเงินมากกว่าเดิมอีก ลาซาน : “ฉันต้องใช้เวลาแต่งประโยค 3 วัน” ลาซานต่อรองมากขึ้น ดูว์บารี : “ทำให้เสร็จคืนนี้แล้วแกจะได้ 2,000 ลีฟ” ดูว์บารีเสนอเงินมากขึ้นอีก ลาซาน : “เข้าใจแล้ว ฉันจะทำให้เสร็จคืนนี้” มาดามดูว์บารีและเพื่อนของเธอว่าจ้างให้ลาซานเขียนจดหมายรัก โดยปลอมเป็นลายมือของพระนางอังตัวเน็ตนั่นเอง เช้าวันรุ่งขึ้น เค้าท์แฟร์ซองก็ยังคงมาเข้าเฝ้าพระนางอังตัวเน็ตอีกเช่นเคย ทั้งคู่ออกไปเดินเล่นกันในสวน การได้ใช้เวลาอยู่กับเค้าท์แฟร์ซองช่างเป็นช่วงเวลาที่ทำให้พระนางมารีอังตัวเน็ตมีความสุขและลืมทุกสิ่งทุกอย่าง ลืมความเบื่อหน่ายไปจนหมดสิ้น ทางด้านของมาดามดูว์บารีและเพื่อนของเธอซึ่งตอนนี้ได้ปลอมจดหมายรักที่เป็นจดหมายตอบจากพระนางอังตัวเน็ตเขียนถึงแฟร์ซองมาแล้ว มาดามเพื่อนของมาดามดูว์บารีจึงดำเนินการตามแผนต่อไป เธอแอบเอาจดหมายไปวางไว้บนทางเดิน เพื่อหวังว่าจะให้นางกำนันที่กำลังเดินมานั้นเห็นและเก็บไปอ่าน แต่แผนก็ต้องล้มเหลว เพราะทันใดนั้น มาดามจาร์เจส์แม่ของออสการ์ได้เปิดประตูออกมาและพบจดหมายเข้าซะก่อน เธอจึงเก็บขึ้นมา มาดามจาร์เจส์ : “ท่านแฟร์ซอง...อังตัวเน็ต!” มาดามจาร์เจส์เห็นชื่อบนจดหมายก็ต้องตกใจ แต่เธอก็แอบเก็บไปเงียบๆ โดยที่ไม่ให้ใครเห็น มาดามจาร์เจส์ จึงนำจดหมายนี้ไปให้ออสการ์ดู เย็นวันนั้นขณะที่เค้าท์แฟร์ซองกำลังจะเดินทางกลับ ออสการ์ได้มาดักรอแฟร์ซองระหว่างทาง ออสการ์ : “แฟร์ซอง!” ออสการ์เรียกเค้าท์แฟร์ซอง เพื่อมาสอบถามเรื่องจดหมาย ออสการ์ยื่นจดหมายให้แฟร์ซองดู ออสการ์ : “โชคดีนะที่แม่ของฉันเป็นคนเก็บได้ มันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าคนอื่นมาเห็นเข้า!” เค้าท์แฟร์ซอง : “นั่นอะไรน่ะ?” เค้าแฟร์ซองทำหน้างง กับเรื่องที่ออสการ์พูด ออสการ์ : “อย่ามาตีหน้าซื่อใส่ฉัน! จดหมายเขียนตอบถึงท่านจากองค์หญิงไงล่ะ” ออสการ์โมโห เค้าท์แฟร์ซอง : “ฮะ?! ไม่นะ ฉันไม่เคยเขียนจดหมาย” แฟร์ซองได้ยินอย่างนั้นก็ยิ่งงงใหญ่ ออสการ์ : “สารเลว! ไม่ต้องสงสัยเลย มันเป็นจดหมายที่เขียนตอบท่านชัดๆ” ออสการ์โมโหมากขึ้นอีกที่แฟร์ซองปฏิเสธ ทั้งๆที่มีหลักฐานอยู่ในมือ ออสการ์ส่งจดหมายให้เค้าท์แฟร์ซองอ่าน เค้าท์แฟร์ซอง : “...ฉันจะไม่ลืมคำพูดที่ทำให้ใจฉันอบอุ่นและสายตาของท่านเมื่อคืนนี้เลย...” เค้าท์แฟร์ซองได้อ่านข้อความในจดหมายก็รู้สึกตกใจ และงุนงงกับข้อความในจดหมายมากว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร เค้าท์แฟร์ซอง : “เป็นไปไม่ได้” แต่ออสการ์ก็ยังคงไม่เชื่อคำพูดของแฟร์ซองอยู่ดี ออสการ์ : “ช่างกล้านัก! ไม่เพียงแต่เล่นสกปรกกับองค์หญิงเท่านั้น ท่านยังพยายามที่จะยั่วเธอด้วย?” ออสการ์ชักดาบออกมาชี้ที่หน้าของแฟร์ซองด้วยความโกรธ เค้าท์แฟร์ซอง : “เดี๋ยวก่อนออสการ์” แฟร์ซองตกใจ ออสการ์ : “ตอนนี้ท่านจะมาขอความเมตตาจากฉันหรอ? ช่างขี้ขลาดอะไรอย่างนี้ แฟร์ซอง” เค้าท์แฟร์ซอง : “ฉันไม่ทำอะไรน่าอับอายอย่างนั้นหรอก ฉันกล้าสาบานกับพระเจ้า” ออสการ์ : “แล้วท่านจะอธิบายเรื่องจดหมายนี้ว่ายังไง? นี่คือลายมือขององค์หญิง โดยไม่ต้องสงสัย!” ออสการ์ยังคงไม่เชื่อเค้าท์แฟร์ซองอยู่ดี เค้าท์แฟร์ซอง : “ฉันไม่เข้าใจอะไรทั้งนั้น แต่เชื่อฉันเถอะ ฉันไม่เคยแอบพบกับพระนางอังตัวเน็ตและก็ไม่เคยเขียนจดหมายรักด้วย” เค้าท์แฟร์ซองยังยืนยันหนักแน่น ทันใดนั้นอังเดรกับเจโลเดลก็มาถึงพอดี อังเดร : “ออสการ์ เดี๋ยวก่อน” อังเดรตะโกนห้ามออสการ์มาแต่ไกล เจโลเดล : “หัวหน้าเก็บดาบของท่านก่อน! จดหมายนั่นเป็นของปลอม!” ออสการ์ : “ของปลอมหรอ? หมายความว่ายังไง?” หลังจากที่รู้ความจริงจากเจโลเดลแล้ว ออสการ์ อังเดร และเจโลเดลก็บุกไปที่บ้านของลาซานทันที บ้านของลาซานเป็นตึกเก่าสูงหลายชั้นและอยู่ติดกับริมแม่น้ำ พวกเค้าเดินขึ้นไปชั้นบน ออสการ์ : “เปิดประตูนะ ลาซาน!” ออสการ์เคาะประตูห้องของลาซานอย่างแรง แต่ก็ไม่มีใครเปิด อังเดรจึงพังประตูเข้าไป พวกเค้าเดินเข้าไปในห้องแต่ไม่พบลาซาน พวกเค้าจึงเดินไปที่เตียงซึ่งมีอะไรบางอย่างอยู่บนนั้น ออสการ์เปิดผ้าออกก็พบกับศพของลาซาน ลาซานถูกมีดสั้นแทงทางด้านหลัง ออสการ์ : “บ้าเอ๊ย! เค้าตายแล้ว” อังเดร : “ไม่มีพยานให้สืบแล้ว” เจโลเดลเห็นกระดาษแผ่นหนึ่งถูกขย้ำอยู่บนโต๊ะจึงหยิบขึ้นมาดู เจโลเดล : “หัวหน้า! ดูนี่สิ!” ออสการ์หยิบกระดาษแผ่นนั้นขึ้นมาอ่าน ออสการ์ : “แฟร์ซองที่รัก ฉันอ่านจดหมายของท่านแล้วสุขใจ...” เจโลเดล : “ประโยคเดียวกับในจดหมายนั่นเลย” อังเดร : “พวกเรารู้แล้วว่าเค้าเป็นคนเขียน แต่คนตายพูดไม่ได้แล้ว” ออสการ์ : “ไม่ ยังมีพยานอีกคนนึง” แต่ทันใดนั้นเอง ก็มีขวดน้ำมันจุดไฟลอยเข้ามาทางหน้าต่าง ขวดน้ำมันแตกกระจายบนพื้น ไฟลุกลามอย่างรวดเร็วปิดทางออก เจโลเดลพยายามพังประตูทางออกแต่ไม่สามารถทำได้เพราะควันกระจายเต็มห้องไปหมด เจโลเดล : “แย่แล้ว! พวกเราติดกับ” พวกเค้าสามคนติดอยู่ในห้องที่ไฟกำลังไหม้ อังเดร : “ใครกันทำแบบนี้?” ออสการ์ : “หน้าต่าง! ทุบหน้าต่าง!” อังเดรใช้เก้าอี้ทุบหน้าต่าง พวกเค้าสามคนมองลงไปจากตึกสูง ข้างล่างเป็นแม่น้ำ ออสการ์ : “พวกเราไม่มีทางเลือกแล้ว โดดลงไปในน้ำ” พวกเค้าสามคนโดดลงไปในแม่น้ำเพื่อเอาชีวิตรอด ออสการ์ : “ช่างเป็นผู้หญิงที่ร้ายกาจ...เธอจะทำทุกอย่างเพื่อทำลายหลักฐานรวมทั้งพยานคนอื่นด้วย” และแน่นอน ออสการ์คิดไม่ผิด มาดามดูว์บารีก็ได้ฆ่าพยานคนสุดท้าย ซึ่งก็คือมาดามเพื่อนของเธอด้วยการวางยาพิษลงในไวน์ มาดามคนนั้นเสียชีวิตทันที ในวันรุ่งขึ้นมาดามดูว์บารีก็ยังคงใช้ชีวิตในวังตามปกติ เหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอกำลังเดินคุยกับเพื่อนๆของเธออยู่บนทางเดินในพระราชวังแวร์ซายส์ แล้วเธอก็ได้พบกับ ออสการ์ อังเดรและเจโลเดล ซึ่งทั้งสามคนยังคงมีชีวิตอยู่ ดูว์บารี : “อ่าว สบายดีมั้ย ออสการ์?” มาดามดูว์บารีทักทายออสการ์เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ออสการ์ : “เกิดไฟไหม้ที่ฟอนเบิร์นเมื่อวานนี้...ท่านทราบรึป่าว?” ออสการ์แกล้งถามดูว์บารี ดูว์บารี : “ไม่นะ ฉันไม่รู้เรื่องเลย แต่ไฟไหม้นี่มันก็น่ากลัวนะ พวกท่านว่ามั้ย?” ออสการ์ : “พบศพของนักปลอมลายมือที่ชื่อว่าลาซาน ถูกแทงตายอยู่ในนั้น” ดูว์บารี : “โอ้ว ช่างน่ากลัวเหลือเกิน แล้ว? ยังไงต่อล่ะ?” ออสการ์ : “พบสิ่งนี้อยู่ที่นั่นและก็มีพบสิ่งที่เหมือนกันนี้อยู่ในแวร์ซายส์ด้วย” ออสการ์ยื่นจดหมายรักฉบับนั้นให้ดูว์บารีดู ดูว์บารี : “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะ” ดูว์บารีทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น ออสการ์ : “ไม่มีอะไร อาจจะ ไม่มีอะไรใช่มั้ย? แต่ฉันหวังว่าคงจะไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก” ออสการ์พูดใส่หน้าของดูว์บารีเป็นเชิงว่าเธอรู้ทัน มาดามดูว์บารีก็รู้สึกโกรธที่ถูกออสการ์รู้ทัน ออสการ์ : “แต่ขอให้ฉันได้พูดอะไรบางอย่างให้ชัดเจน ฉัน ผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์ ออสการ์ จะปกป้ององค์หญิงรัชทายาทจากคนที่คิดร้ายกับพระองค์ ด้วยชีวิต ขอตัวก่อน” แล้วออสการ์ก็เดินเลยไป พระนางอังตัวเน็ตยังคงใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับเค้าท์แฟร์ซอง ทั้งคู่นั่งฟังดนตรีอย่างเพลิดเพลินอยู่ในสวน โดยมีออสการ์คอยมองทั้งคู่อยู่ห่างๆ“ องค์หญิง พระองค์ซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกของพระองค์เอง พระองค์สวยและบริสุทธิ์เหมือนนางฟ้า มีคนมากมายพยายามที่จะใช้ใจที่ซื่อสัตย์ของพระองค์ทำร้ายพระองค์เอง หม่อมชั้นหวังว่ามันจะผ่านไปได้ด้วยดี...” ออสการ์คิด จบตอนที่ 7 |
Lady Oscar
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]
Group Blog All Blog
Friends Blog Link |
|||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |