กุหลาบแวร์ซายส์ , Lady Oscar , La Rose de Versailles , The Rose of Versailes , Berusai No Bara
|
||||
ตอนที่ 27(1) แม้ฉันจะต้องสูญเสียแสงสว่าง (Even if I lose the light) อังเดรต่อสู้กับอัศวินดำแต่เกิดพลาดท่าถูกอัศวินดำฟันเข้าที่ตาด้านซ้ายจนเลือดอาบ เขาทรุดตัวลงกับพื้นแล้วร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ออสการ์: “อังเดร! อังเดร! อังเดร!” ออสการ์รีบวิ่งเข้าไปประคองอังเดรด้วยความเป็นห่วง และในจังหวะนั้นเอง อัศวินดำก็ได้หนีไปในความมืด ออสการ์พาอังเดรกลับมารักษาที่บ้าน เธอตามหมอลาซอน หมอประจำตระกูลจาร์เจส์ให้มาดูอาการของเขา อังเดรนอนอยู่บนเตียงในห้องที่ปิดหน้าต่างจนมืด หมอพันผ้าพันแผลปิดบริเวณตาซ้ายของเขาไว้ หมอลาซอน : “มันไม่ใช่บาดแผลเล็กๆเลย กรุณาอย่าเอาผ้าพันแผลออกโดยปราศจากคำแนะนำของผม มิเช่นนั้นแล้ว ตาซ้ายของเขาอาจจะบอดอย่างถาวร” ออสการ์: “ได้” แนนนี่ได้ยินดังนั้นก็ร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจ ระหว่างที่แนนนี่เดินลงบันไดเพื่อส่งหมอกลับบ้าน เธอจึงถามหมอด้วยความกังวลใจ แนนนี่: “หมอคะ เค้าจะสามารถมีชีวิตอยู่ได้โดยไม่มีตาซ้ายหรอคะ?” แล้วเธอก็เริ่มร้องไห้ออกมาอีกครั้ง หมอลาซอน : “ยาย เรายังไม่รู้เลยว่าเขาจะตาบอดหรือเปล่า ต้องสู้สิ! ฮ่าฮ่าฮ่า” หมอปลอบใจแนนนี่ แนนนี่: “ขอบคุณมากค่ะ แล้วพบกันใหม่นะคะ” หมอลาซอน : “แล้วพบกันใหม่” ออสการ์ยืนเฝ้าอังเดรอยู่ข้างเตียงด้วยความเป็นห่วงอย่างสุดใจ อังเดร: “เกิดอะไรขึ้นกับอัศวินดำ?” ออสการ์: “น่าเสียดาย เขาหนีไปแล้ว” อังเดร: “ทำไมเธอไม่จับเขาล่ะ? นั่นอาจจะเป็นโอกาสเดียวของเรา” ออสการ์: “อย่าไร้สาระน่าอังเดร ฉันจะทิ้งเธอเอาไว้ข้างหลังเพื่อไล่จับเขาได้ยังไงกัน?” อังเดรหันไปมองดอกกุหลาบสีแดงที่ปักอยู่ในแจกันที่วางไว้ใกล้หน้าต่าง แสงของพระอาทิตย์ยามเช้าค่อยๆส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาในห้อง ออสการ์: “พระอาทิตย์ขึ้นแล้ว อังเดร” อังเดร: “ฉันดีใจจริงๆ ที่มันไม่ใช่ตาของเธอ” ออสการ์: “อังเดร...” ออสการ์ได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกซึ้งใจยิ่งนัก อัศวินดำพร้อมพรรคพวกของเขาหลายสิบคนพากันขี่ม้ามาดักปล้นขบวนรถม้า ที่กำลังลำเรียงปืนไรเฟิลจำนวนหนึ่ง เพื่อไปส่งให้กองทัพ อัศวินดำ: “สำหรับยุคใหม่ที่กำลังจะมา ปืนแต่ละกระบอกมีค่ามากกว่าการกล่าวสุนทรพจน์เป็นชั่วโมง ลุยเลยสหาย!” เมื่อขบวนรถม้าที่ขนปืนไรเฟิลมาถึง พวกเขาก็จู่โจมในทันที ทหารที่คุ้มกันขบวนไม่สามารถต้านทานเอาไว้ได้ พวกอัศวินดำจึงได้ปืนไปทั้งหมด ที่บ้านของออสการ์นายพลจาร์เจส์กำลังนั่งดูดปล้องยาสูบอยู่หน้าเตาผิงด้วยสีหน้ากลัดกลุ้มใจ นายพลจาร์เจส์ : “ฉันควรทำยังไงดี?” นายพลเอ่ยปากถามออสการ์ ออสการ์: “เกิดอะไรขึ้นหรอท่านพ่อ?”ออสการ์ถามด้วยความสงสัย นายพลจาร์เจส์ : “พวกมันเอาไปแล้ว” ออสการ์: “เอาอะไรไป?” นายพลจาร์เจส์ : “ปืนไรเฟิล 200 กระบอก มันอยู่ในความรับผิดชอบของฉันในการคุ้มกันการขนส่ง มันคือพวกอัศวินดำ!” วันนี้หมอลาซอนได้เดินทางมาที่บ้านของออสการ์อีกครั้ง เพื่อดูอาการของอังเดร หมอปิดหน้าต่างห้องนอนของอังเดรจนมือสนิท หมอนั่งลงตรงหน้าอังเดรจากนั้นก็จุดเทียนไข 1 เล่ม แล้วเลื่อนเทียนไปซ้ายและขวาเพื่อทดสอบการมองเห็นของเขา โดยมีแนนนี่และออสการ์คอยฟังผลอย่างใกล้ชิด หมอลาซอน : “เป็นยังไงบ้าง เธอเห็นแสงไฟมั้ย?” อังเดรปิดตาข้างขวาลงแล้วใช้ตาข้างซ้ายที่บาดเจ็บ มองไปที่เทียนไข อังเดร :“เห็นครับ นิดหน่อย แต่เบลอๆ...” หมอดับเทียนลง แนนนี่ : “หมอคะ เค้าเป็นยังไงบ้าง?” หมอลาซอน : “หลังจากนี้ฉันจะทำการฆ่าเชื้อและใส่ผ้าพันแผลก่อน เสร็จแล้วค่อยเปิดหน้าต่างนะ” แนนนี่: “ค่ะ หมอ” หมอถืออ่างน้ำไว้และให้อังเดรทำการล้างแผลที่ตาของเขา ระหว่างนั้นในหัวของออสการ์คิดแต่เรื่องที่จะตามล่าหาตัวอัศวินดำมาแก้แค้นแทนอังเดรให้ได้ ออสการ์: “ปาแลรัวยัล!” ออสการ์นึกถึงเหตุการณ์เก่าที่เธอเคยไล่ล่าอัศวินดำ แต่เขาก็หายตัวไปใกล้กับวังปาแลรัวยัล ออสการ์: “ปาแลรัวยัลหรอ? ฉันอาจจะต้องเข้าไปดูข้างใน” ปาแลรัวยัล..เคยเป็นสถานที่ที่ออสการ์เจอกับอัศวินดำก่อนที่เขาจะหายตัวไป และเป็นวังของดยุคโอเรียน พระญาติของพระราชา...ผู้ซึ่งต่อต้านระบอบราชาธิปไตย ออสการ์อยากเข้าไปสืบหาตัวอัศวินดำในวังปาแลรัวยัล เธอจึงได้ทำเรื่องเพื่อขอเข้าพบกับดยุคโอเรียน ออสการ์ในชุดทหารอย่างเป็นทางการ นั่งรถม้าไปที่วังปาแลรัวยัลตามนัดหมาย หน้าประตูวังมียามเฝ้าอยู่อย่างแน่นหนา ออสการ์: “ฉันคือหัวหน้าองครักษ์ ออสการ์ ฟรังซัวส์ เดอ จาร์เจส์ ฉันได้รับอนุญาตจากดยุคโอเรียนให้เข้าพบอย่างเป็นทางการ กรุณาเปิดประตูด้วย!” ออสการ์เข้าไปพบกับดยุคโอนเรียนเป็นการส่วนตัวในห้องรับแขก ดยุคโอเรียน: “ยินดีต้อนรับ หัวหน้าจาร์เจส์ ฉันยินดีจากหัวใจที่ท่านแวะมาเยี่ยม” ออสการ์โค้งคำนับด้วยความนอบน้อม ออสการ์: “ขอบคุณท่านมาก ดยุคโอเรียน ฉันดีใจที่เห็นท่านยังคงมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงดี” ดยุคโอเรียน: “ฉันชินแล้วกับการถูกเรียกว่าพวกต่อต้านระบอบราชาธิปไตย ฉันอยู่ด้วยสุขภาพดีทุกวัน นั่งลงก่อนสิ พิธีรีตองมันไม่เหมาะกับคนอย่างฉันหรอก” ออสการ์: “ขอบคุณ” ออสการ์นั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามดยุคโอเรียน ดยุคโอเรียน: “เรามาคุยธุระของเรากันเถอะ ท่านบอกว่าท่านมีเรื่องจะคุยกับฉันนี่” ออสการ์: “ใช่ ฉันมีบางอย่างที่อยากจะถามท่าน ท่านรู้จักอัศวินดำมั้ย เขาเป็นคนของท่านรึป่าว?” ออสการ์ถามในสิ่งที่เธออยากรู้โดยไม่อ้อมค้อม ดยุคโอเรียน: “ใช่ ฉันเคยได้ยินเรื่องของเขามาบ้าง” ดยุคโอเรียนตอบอย่างใจเย็นพร้อมกับรินไวน์ใส่แก้ว ออสการ์: “ไม่ใช่ ฉันไม่ได้หมายถึงเรื่องราวของเขา ฉันหมายความว่า ท่านรู้จักตัวจริงของเขาหรือไม่?” ดยุคโอเรียน: “ฮ่าฮ่าฮ่า ช่างตรงไปตรงมาซะจริงๆ ฉันรู้จักกับคนที่มีชื่อเสียงหลายคน แต่น่าเสียดาย ที่ฉันไม่เคยพบเขามาก่อน แต่ก็ดีที่เธอถามฉันตรงๆ เอาล่ะ ไม่ต้องเกรงใจ ฉันจะพาเธอชมห้องรับแขกของฉัน มีคนหลากหลายประเภทในนั้น โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ บางทีในกลุ่มคนเหล่านั้น เธออาจจะเจออัศวินดำที่เธอตามหาอยู่ก็ได้ ฮ่าฮ่าฮ่า” ดยุคโอเรียนเดินนำออสการ์ไปที่ห้องโถงรับแขกของเขา ซึ่งภายในห้องนั้นมีผู้คนมากหน้าหลายตาต่างจับกลุ่มนั่งคุยกันในเรื่องที่พวกเขาสนใจ กลุ่มคนในห้องโถงต่างพูดคุยกันในเรื่องต่างๆ “ทั้งดนตรี, วรรณกรรม,ศิลปะและการศึกษา จนถึงดอกไม้ประดิษฐ์ในวัง! ศิลปะและวัฒนธรรมยุคใหม่จะกำเนิดขึ้นจากสังคมของเรา” “ใช่ จากโลกใบเล็กๆไปสู่โลกที่ใหญ่ขึ้น จากที่ลับ สู่ที่แจ้ง!” ดยุคโอเรียน: “ท่านแปลกใจหรอ?” ดยุคโอเรียนหันไปถามออสการ์ ดยุคโอเรียน:“ห้องโถงของฉันเปิดกว้างให้นักกฎหมายรุ่นใหม่ที่สังคมเหยียดหยามพวกเราว่าเป็นพวกต่อต้านระบอบราชาธิปไตย แต่ฉันชอบเรียกมันว่า เสรีนิยม ฮ่าฮ่าฮ่า” ระหว่างนั้น ออสการ์ก็ไม่ได้สนใจที่ดยุคโอเรียนพูดเลย เธอสอดส่ายสายตาไปรอบๆห้องโถงและคิดในใจว่า “มันเข้าท่านะ ฉันอยากจะแฝงตัวอยู่ในห้องโถงนี้ ฉันจะตามหาผู้ชายที่พยายามทำให้ตาซ้ายของอังเดรบอดให้ได้” ออสการ์แฝงตัวเข้าไปนั่งรวมกลุ่มสนทนากับคนอื่นๆ เพื่อหวังจะได้พบอัศวินดำ ผู้ชาย: “ว้าว ภาษาลาตินของท่านนี่เยี่ยมมากเลย” ออสการ์ : “อ่อไม่หรอก มันไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลย” ผู้ชาย: “มันคลาสสิคดี แต่ลองอ่าน Jean Jacques Rousseau ดูสิ ถ้ามีโอกาส” ออสการ์: “Rousseau หรอ?” ผู้ชาย: “ต้นกำเนิดของความเสมอภาคในหมู่มวลมนุษยชาติ มันแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าโลกเราไม่ได้มีแค่ขุนนาง” ในขณะนั่นเองอัศวินดำที่กบดานอยู่ภายในห้องลับในวังปาแลรัวยัลก็ได้แอบดูออสการ์ผ่านช่องหน้าต่างเล็กๆ เมื่อเขารู้ว่าออสการ์เป็นลูกของนายพลจาร์เจส์ที่รับผิดชอบในเรื่องการขนส่งอาวุธของกองทัพ เขาจึงคิดแผนที่จะเรียกค่าไถ่ตัวออสการ์จากนายพลจาร์เจส์ อัศวินดำ: “ดี จับเธอมาเป็นๆ ถ้าเราแบล็คเมล์พ่อของเธอล่ะก็ พวกเราจะเรียกปืนมากเท่าไหร่ก็ได้เท่าที่เราต้องการ” อัศวินดำวางแผนให้ผู้ช่วยของดยุคโอเรียนไปหลอกออสการ์ลงมายังห้องเก็บไวน์ชั้นใต้ดิน ผู้ช่วย: “ท่านออสการ์ ฉันจะพาท่านไปพบกับดยุคโอเรียน เค้าอยากจะให้ท่านชมไวน์เก่าๆที่เขาเก็บสะสมไว้” ออสการ์เดินตามเขาลงไปในห้องเก็บไวน์ชั้นใต้ดินโดยมิได้สงสัยอะไร เธอเดินเข้าไปหยิบขวดไวน์เก่าขึ้นมาดูด้วยความสนใจ ออสการ์: “โอ้ว นี่มันมหัศจรรย์มาก แล้วดยุคโอเรียนอยู่ไหนล่ะ?” ผู้ช่วย: “เดี๋ยวคงมา ได้โปรดรอเขาอยู่ที่นี่ก่อน” ออสการ์: “ได้” แล้วผู้ช่วยก็เดินออกไป ทันใดนั้นเอง ขวดไวน์บนชั้นขวดหนึ่งก็ตกลงมาแตก ออสการ์หันไปมองก็ต้องตกใจเมือเห็นปืนกระบอกหนึ่งยื่นออกมาผ่านช่องเก็บไวน์ เล็งมาที่เธอ อัศวินดำ: “อย่าขยับ หัวหน้าองครักษ์! ถ้าท่านเชื่อฟังฉัน พวกเราจะไว้ชีวิตท่าน” แล้วลูกน้องของอัศวินดำ 2 คนที่ซ่อนอยู่ก็ปรากฏตัวออกมา พร้อมกับนำปืนจ่อไปที่หัวของออสการ์ พวกอัศวินดำจับตัวออสการ์ไปขังไว้ในคุกใต้ดิน 2 วันผ่านไป ยังไม่มีใครรู้ชะตากรรมของออสการ์ รวมถึงอังเดรก็ยังไม่รู้เรื่องที่ออสการ์หายตัวไป อังเดรนั่งล้างแผลที่ตาของเขาตามที่หมอสั่ง โดยมีแนนนี่คอยดูแลอยู่ใกล้ๆ แนนนี่: “ให้ฉันช่วยมั้ย อังเดร?” อังเดร: “ไม่ต้องหรอก ไม่เป็นไร แต่ช่วยบอกให้ใครแปรงขนม้าของออสการ์ที ฉันคงทำเองไม่ได้ซักระยะนึง” แนนนี่: “อืม... ท่านออสการ์ไม่ได้กลับบ้านมา 2 วันแล้ว” อังเดร: “ฮะ?!” อังเดรได้รู้ดังนั้นก็ตกใจมาก แนนนี่: “เราไม่ได้ข่าวของเธอเลย ตั้งแต่เข้าไปในวังปาแลรัวยัลวันนั้น เราส่งข้อความไปที่นั่น แต่เขาตอบกลับมาว่าเธอกลับออกมาตั้งแต่วันนั้นแล้ว” อังเดร: “ปาแลรัวยัลหรอ?” ณ คุกใต้ดินในวังปาแลรัวยัลที่ออสการ์ถูกคุมขังอยู่ เธอนั่งอยู่บนเตียงและพูดกับอัศวินดำที่คอยเฝ้าเธออยู่นอกห้องขัง ออสการ์: “แกจะขังฉันไว้ที่นี่อีกนานแค่ไหน?” อัศวินดำ: “จนกว่าท่านจะเชื่อฟังคำสั่งของฉัน จงเขียนจดหมายไปถึงพ่อของท่านและเมื่อเราได้รับปืนไรเฟิล 500 กระบอกเป็นการแลกเปลี่ยนกับชีวิตของท่านแล้ว พวกเราก็จะบรรลุเป้าหมาย พวกเรารู้ว่าพ่อของท่าน นายพลจาร์เจส์ เป็นผู้รับผิดชอบในการขนส่งอาวุธของกองทัพ เขาจะสามารถหาปืนไรเฟิล 500 กระบอกได้ไม่ยากเย็นหรอก” ออสการ์: “อย่ามาดูถูกฉัน แกคิดหรอว่าฉันจะเขียนจดหมายนั่น?” อัศวินดำ: “ยังมีเวลาอีกเหลือเฟือ ใช่ ท่านจะต้องเขียนมันแน่ พวกเรารู้ดีว่าความภาคภูมิใจของพวกขุนนางคือ ความอ่อนแอและบอบบาง ฮ่าฮ่าฮ่า” เมื่ออังเดรได้รู้ข่าวการหายตัวไปของออสการ์ เขาก็รู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก เขาแน่ใจว่าออสการ์จะต้องถูกจับอยู่ในวังปาแลรัวยัลเป็นแน่ อังเดรยืนมองตัวเองที่มีผ้าพันแผลปิดตาเอาไว้อยู่หน้ากระจก แล้วคิดถึงคำที่หมอเคยพูดไว้ หมอ : “กรุณาอย่างเอาผ้าพันแผลออกโดยปราศจากคำแนะนำของผม มิเช่นนั้นแล้ว ตาซ้ายของเขาอาจจะบอดอย่างถาวร” |
Lady Oscar
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]
Group Blog All Blog
Friends Blog Link |
|||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |