ตอนที่ 37(1) ค่ำคืนแห่งคำสาบานรัก (On the night of passionate vows)
                อังเดรนอนเขียนไดอารี่อยู่บนเตียงในค่ายทหาร “เช้าวันที่ 12 กรกฎาคม ปี 1789 รัฐมนตรีคลัง ฌัก แนแกร์ ถูกไล่ออกเมื่อวานนี้ ข่าวลือผิดๆเกี่ยวกับการสังหารหมู่ผู้ชุมนุมประท้วงแพร่กระจายออกไป และประชาชนเริ่มจับอาวุธ กลางวันและกลางคืนในปารีสไม่แตกต่างกัน ประชาชนถือไม้และมีดเดินไปตามถนนทุกตรอกซอกซอย ทหาร 100,000 นายมารวมกันในปารีส ได้ก่อกองไฟและข่มขู่ใส่ประชาชน ความอดกลั้นนั้น...คือสัญญาณของยุคใหม่หรือไม่? อะไรคือแสงสว่างของวันพรุ่งนี้? ฉันก็ไม่รู้ ฉันหลงทาง ฉันได้เห็นช่วงสุดท้ายของยุคสมัยด้วยตาของฉันเอง ด้วยตาขวาของฉันที่กำลังจะบอด...”
                ช่วงหัวค่ำคืนนั้น ออสการ์เดินทางไปหาหมอลาซอนที่บ้าน หมอลาซอนคือหมอประจำตระกูลจาร์เจส์ และเป็นคนที่รักษาตาของอังเดรด้วย ออสการ์เคาะประตูบ้าน เมื่อหมอลาซอนเปิดประตูมาเจอออสการ์เขาก็รู้สึกแปลกใจ
หมอ : “อ่าว ท่านออสการ์...”
ออสการ์ : “หมอลาซอน ขอโทษที่มารบกวนท่านตอนค่ำแบบนี้ แต่ฉันอยากจะให้ท่านตรวจอาการของฉันหน่อย” ออสการ์เข้าไปในบ้าน หมอลาซอนใช้เครื่องตรวจฟังหัวใจและการหายใจของเธอ เมื่อตรวจเสร็จหมอลาซอนวางอุปกรณ์ลงบนโต๊ะด้วยสีหน้าเศร้าสลด ออสการ์ลุกขึ้นสวมเสื้อตัวนอก
ออสการ์ : “ฉันพร้อมแล้วหมอ ได้โปรด บอกความจริงกับฉัน ฉันอยากรู้ให้แน่ชัด”
หมอ : “ดูเหมือนท่านจะเป็นหวัดมานาน แต่ไม่มีอะไรต้องกังวลหรอก” หมอลาซานพยายามพูดให้ออสการ์สบายใจ
ออสการ์ : “ฉันไอเป็นเลือดมาหลายครั้งแล้ว ฉันรู้ว่าฉันเป็นโรคปอด ฉันอยากรู้ว่าฉันจะมีชีวิตอยู่ได้อีกนานเท่าไหร่” ออสการ์พูดออกมาตรงๆเพราะเธอรู้ล่วงหน้าอยู่แล้ว
หมอ : “โรคปอดเป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายได้ แต่ในหลายๆเคส สามารถบำบัดได้ด้วยธรรมชาติ อากาศบริสุทธิ์และสิ่งแวดล้อมที่เงียบสงบ”
ออสการ์ : “หมอ ฉันยังไม่อยากตาย แต่ถ้าวันนั้นมาถึงจริงๆ ฉันก็อยากจะใช้ชีวิตให้ดีที่สุด มีอิสรเสรี ทำตามหัวใจของฉัน”
หมอ : “ฉันเป็นหมอที่รับใช้ตระกูลจาร์เจส์มานานหลายปี ฉันยังจำอาการไข้ของท่านที่เคยเป็นตอน 3 ขวบได้ดี เหมือนว่ามันพึ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน ฉันอยากจะบอกท่านว่า ลาออกจากการเป็นทหารซะตอนนี้แล้วกลับไปอยู่ในที่ๆเงียบสงบ ไม่ต้องคิด ไม่ต้องทำงาน ไม่ต้องทำอะไร แค่อาบแดดและสวดอ้อนวอนพระเจ้า! ท่านจะมีชีวิตอยู่ได้นานที่สุดครึ่งปี!” หมอลาซอนร้องไห้ออกมาด้วยความเป็นห่วงออสการ์
ออสการ์ : “ขอบใจท่านมาก หมอลาซอน ฉันจะเก็บไปคิดดู” ออสการ์กำลังจะเดินออกประตูไป แต่หมอลาซอนเรียกเธอไว้
หมอ : “ท่านออสการ์ อาการของอังเดรเป็นยังไงบ้าง? ฉันเป็นห่วงอังเดร เขาไม่ได้มาพบฉันเลย”
ออสการ์ : “อังเดรหรอ? อาการของอังเดรหรอ?” ออสการ์รู้สึกงง เพราะเธอไม่เคยรู้ถึงอาการป่วยของเขาเลย
หมอ : “เอ๊ะ อังเดรคนรับใช้ของท่าน ยังไม่ได้บอกท่านหรอกหรอ?”
ออสการ์ : “ท่านหมายความว่ายังไง? บอกฉันมา!” ออสการ์เค้นถามหมอด้วยความเป็นห่วงอังเดร
หมอ : “เหลือเวลาอีกแค่ระยะหนึ่งก่อนที่อังเดร กรังดิเออจะสูญเสียการมองเห็น!”
ออสการ์ : “อังเดร...” ออสการ์ได้ยินดังนั้นเธอก็รู้สึกสะเทือนใจมาก
                ในเมืองปารีสตอนนี้ ช่างตีเหล็กเริ่มทำหอกแทนการตีเกือกม้า คนทำขนมปังเอาอาวุธเก่าออกมาวางโชว์ขายหน้าร้านแทนการนวดแป้ง กลุ่มคนเล็กๆตามมุมถนนมารวมกันจนเกิดเป็นกลุ่มคนขนาดใหญ่ “เฮ้! เฮ้! เฮ้!” เสียงโห่ร้องของประชาชนที่ชุมนุมกันทั่วทั้งปารีส เช้าวันนี้ออสการ์กำลังเตรียมตัวออกไปทำงาน
แนนนี่ : “คุณหนูคะ วันนี้คุณหนูจะกลับมาเมื่อไหร่คะ?”
ออสการ์ : “ฉันก็ไม่รู้ ฉันอาจจะค้างคืนที่ค่ายก็ได้”
แนนนี่ : “ถ้าอย่างนั้น ท่านควรจะส่งข้อความไปบอกกับอาร์มาน นักวาดภาพด้วยนะคะ เขาตั้งใจว่าบ่ายนี้จะวาดรูปต่อให้เสร็จ” แนนนี่เตือนออสการ์
ออสการ์ : “อ่อ ใช่สิ ได้ๆ ฉันจะรีบกลับมาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ บอกให้เขารอฉันก่อนนะ” แล้วออสการ์ก็ขี่ม้าไปทำงาน
                ภายในค่ายทหารลาดตระเวนหน่วยบี อังเดร และอัลเลน ต่างนอนพักผ่อนอยู่บนเตียงของพวกเขา ส่วนพวกทหารคนอื่นๆกำลังจับกลุ่มนั่งเล่นไพ่กันอยู่
ทหาร : “เฮ้ หน่วยเอพร้อมอาวุธถูกส่งออกไปวันนี้” “ใช่ ฉันก็ได้ยินมาเหมือนกัน แล้วพวกเราหน่วยบีจะไม่ถูกส่งออกไปเร็วๆนี้ด้วยหรอ?” “เตรียมอาวุธสำหรับต่อสู้หรอ? สู้กับใครล่ะ?” “แน่นอน ก็สู้กับประชาชนไงล่ะ” “นั่นคือสิ่งสุดท้ายที่ฉันจะทำแหละ” “อืม มันช่วยไม่ได้นี่ เราได้รับเงินเดือนก็เพื่อการนี้แหละ” “ไม่ต้องสงสัยเลย” “อย่ากังวลไปเลย พวกเราไม่ถูกส่งไปหรอกน่า” “ฉันก็หวังว่าอย่างนั้นนะ”
ออสการ์ขี่ม้ามาถึงค่ายทหารเธอรู้สึกได้ถึงความเงียบ ไม่คึกคักเหมือนทุกๆวันที่ผ่านมา ระหว่างที่ออสการ์นั่งทำงานอยู่ในห้อง ผู้พันดักเอ้าท์ก็เข้ามาหาเธอ
ออสการ์ : “วันนี้เงียบจัง”
ดักเอ้าท์ : “เป็นเพราะว่าหน่วยเอทั้งหมดพร้อมอาวุธถูกส่งเข้าไปในปารีสครับ ปารีสตกอยู่ในความวุ่นวายตั้งแต่เมื่อเช้านี้ แม้แต่ผู้หญิงและเด็กก็นำไม้กวาดและกระบอง ชูขึ้นแล้วโห่ร้องไปทั่ว”
ออสการ์ : “มีการบาดเจ็ดล้มตายมั้ย?”
ดักเอ้าท์ : “ณ ตอนนี้ยังไม่มีครับ ทหารหนึ่งแสนนายแค่ข่มขู่พวกเขา ถึงแม้ว่าผู้ชุมนุมจะมีอาวุธแต่อาวุธของพวกเขาก็แค่ปืนเก่าๆหรือหอกที่ทำขึ้นเอง พวกเขาไม่สามารถต้านทานกองทัพได้หรอก หน่วยเอถูกส่งไปเพื่อเตรียมพร้อมในกรณีเกิดสถานการณ์เลวร้ายเท่านั้น”
ออสการ์ : “ถ้าเกิดสถานการณ์เลวร้ายขึ้น หน่วยบีของเราก็ต้องถูกส่งไปเหมือนกัน”
ดักเอ้าท์ : “กระผมก็คิดเช่นนั้น ศูนย์บัญชาการใหญ่รายงานมาว่า วันนี้หน่วยบีไม่จำเป็นต้องออกลาดตระเวน”
ออสการ์ : “อืม เขาบอกให้เราแสตนบาย”
ดักเอ้าท์ : “ครับท่าน”
ออสการ์ : “ขอบคุณนะ”
ดักเอ้าท์ : “ขอตัวก่อนครับ!” ผู้พันดักเอ้าท์กำลังจะเดินออกจากห้องไป แต่ก่อนออกไป เขาได้พูดกับออสการ์ว่า
ดักเอ้าท์ : “หัวหน้า ท่านดูซีดเซียวนะ และดูเหมือนจะทรุดลง ได้โปรดกลับไปรอที่คฤหาสน์ก็ได้ ถ้ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ผมจะส่งข้อความไปหาท่าน” ดักเอ้าท์พูดด้วยความเป็นห่วงออสการ์
ออสการ์ : “ท่านหมายความว่ายังไง? ฉันไม่ได้เป็นอะไรซะหน่อย” ออสการ์พยายามทำตัวให้เป็นปกติ
ดักเอ้าท์ : “ภรรยาของผมเสียชีวิตไปเมื่อปีที่แล้ว ด้วยโรคปอด ดังนั้นกระผมจึงบอกได้” ผู้พันดักเอ้าท์พูดด้วยน้ำตาคลอเบ้า “ผมสังเกตมานานแล้ว ได้โปรดทำตามคำแนะนำของผมด้วย!” ผู้พันดักเอ้าทำความเคารพออสการ์ และหันหลังเดินไปที่ประตู
ออสการ์ : “ขอบคุณนะ นายพันดักเอ้าท์ ฉันจะทำอย่างที่ท่านพูด” ออสการ์รู้สึกซึ้งในความเป็นห่วงของผู้พันดักเอ้าท์ ผู้พันดักเอ้าท์โค้งคำนับ แล้วเดินออกจากห้องไป
 
ด้วยความเป็นห่วงอังเดร ออสการ์จึงอยากจะทดสอบตาของอังเดรอีกครั้ง เธอจึงให้อัลเลนไปเรียกอังเดรมา อัลเลนเดินเข้าไปหาอังเดรที่เตียง แต่ตอนนั้นเอง ตาของอังเดรเริ่มมองไม่เห็นแล้ว เขาเห็นเพียงเงาลางๆเท่านั้น เขาพยายามเพ่งมอง จึงรู้ว่าเป็นอัลเลน
อังเดร : “เฮ้ อัลเลน มีอะไรหรอ?”
อัลเลน : “หัวหน้าเรียกนายอ่ะ”
อังเดร : “ออสการ์หรอ?”
อังเดรเดินเข้าไปหาออสการ์ที่ห้องทำงาน เขาเปิดประตูเข้าไปในห้อง แล้วก็รายงานตัวทันที
อังเดร : “อังเดร กรังดิเออ มาแล้วครับ! ท่านต้องการพบผมหรอ หัวหน้า!” อังเดรยังคงหันหน้าตรงไปที่โต๊ะทำงานของออสการ์ที่อยู่กลางห้อง แต่จริงๆแล้วออสการ์นั้นยืนอยู่ที่กำแพงทางด้านซ้ายมือ เมื่อไม่มีเสียงตอบรับใดๆ เขาจึงรายงานต่อทันที “สถานการณ์ในปารีสตอนนี้เลวร้ายขึ้นเหมือนกับเสียงโห่ร้องของประชาชนที่ดังมาถึงที่นี่แหละ! ฮ่าฮ่าฮ่า” ยังคงไม่มีเสียงตอบรับใดๆ เขาจึงพยายามเพ่งมองไปที่เก้าอี้ของออสการ์ที่อยู่กลางห้อง จึงเห็นว่าเก้าอี้นั้นว่างเปล่า
อังเดร : “ออสการ์! ออสการ์!” อังเดรเรียกออสการ์ แต่ก็ไม่มีเสียงตอบ
อังเดร : “เธอเรียกฉันมา แล้วเธอก็ไม่อยู่ซะงั้น” แล้วอังเดรก็เดินออกจากห้องไป
เมื่อออสการ์ได้เห็นดังนั้น เธอก็รู้ทันทีว่า อังเดรใกล้จะตาบอดแล้ว เธอรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก “อังเดร เธอมองไม่เห็นฉันแล้วหรอ?” ออสการ์แกล้งเดินอ้อมหลังตึกมาที่หน้าตึกเพื่อดักรออังเดร เมื่ออังเดรเดินออกมาเธอก็ทักทายเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ออสการ์ : “อังเดร! เธอเข้าไปหาฉันในห้องทำงานมาหรอ? ขอโทษด้วย ฉันออกไปที่อื่นมาน่ะ” ออสการ์โกหกอังเดร และพยายามทำตัวให้ร่าเริงเป็นปกติ
อังเดร : “ไม่เป็นไร” ออสการ์เดินเข้าไปยืนข้างหน้าอังเดร
ออสการ์ : “วันนี้ไม่มีงานอะไรแล้ว แค่รอคำสั่ง กลับบ้านด้วยกันนะ”
อังเดร : “แต่ถ้าเรากำลังรอคำสั่ง เราก็ควรจะอยู่รอกับคนอื่นๆนะ” ออสการ์ใช้สองมือของเธอจับที่มือขวาของอังเดร
ออสการ์ : “มาติดตามฉันอีกครั้งนะ” อังเดรได้ยินอย่างนั้นเขาก็รู้สึกดีใจมาก หัวใจของเขากลับมาพองโตอีกครั้ง
ออสการ์ : “ทางกลับบ้านมันไม่ปลอดภัยอีกต่อไปแล้ว เธอก็รู้ ฮ่าฮ่าฮ่า”
 
ในบ่ายวันนั้น คนกลุ่มใหญ่เริ่มเคลื่อนไหว ประชาชนพร้อมอาวุธในมือวิ่งไปตามถนน
ขอทานตาเดียว : “คลื่นของประชาชนดังราวกับฟ้าร้องเพื่อความอิสระ ไม่มีใครสามารถหยุดมันได้อีกแล้ว คลื่นที่พร้อมจะเปลี่ยนเป็นหินก้อนใหญ่เข้ากระทบฝั่ง อิสระ,ความเท่าเทียมและภราดรภาพ! ดูธงของพวกเราที่โบกสะบัดนั่นสิ! แม่น้ำแซนจะต้องไม่ลืมวันนี้! คลื่นที่จะสร้างประวัติศาสตร์!”
กลุ่มคนแหกด่านเข้าไปในพื้นที่ที่ทหารปิดล้อมอยู่ คลังเก็บอาหารของพ่อค้าถูกปล้นเพื่อประทังความหิวของพวกเขา ต่อมาก็เสาะหาอาวุธ พวกเขามุ่งหน้าไปยังคลังเก็บอาวุธของพ่อค้าในปารีส
 
ออสการ์กลับมาที่คฤหาสห์จาร์เจส์ตามที่นัดกับนักวาดภาพไว้เพื่อวาดภาพของเธอต่อให้เสร็จ  ออสการ์อยู่ในชุดลำลอง นั่งเป็นแบบอยู่บนเก้าอี้ในห้องรับแขก เธอเผลอหลับตาลงด้วยความอ่อนเพลีย
นัดวาดภาพ : “ขอโทษนะท่าน ได้โปรดลืมตาขึ้นด้วย”
ออสการ์ : “อ่อ ขอโทษที” เธอลืมตาขึ้น
นักวาดภาพ : “มันใกล้จะเสร็จแล้ว เมื่อฉันวาดตาสีฟ้าของท่านเสร็จ ทุกอย่างก็จะเสร็จสมบูรณ์” นักวาดภาพลงสีบริเวณตาของออสการ์ในภาพวาดอย่างตั้งใจ โดยมีนายพลจาร์เจส์ แนนนี่ และอังเดร เฝ้ารอดูภาพวาดอยู่หน้าห้อง
นักวาดภาพ :  “เสร็จแล้ว” ภาพวาดของออสการ์เสร็จสมบูรณ์แล้ว ในภาพออสการ์สวมชุดอัศวิน นั่งอยู่บนม้าตัวใหญ่สีขาว มือขวาถือดาบชูขึ้น มีสายตาที่มุ่งมั่น ผมลอนสีบรอนด์ปลิวไสว นายพลจาร์เจส์และแนนนี่รีบเดินเข้ามาชมภาพวาดใกล้ๆ
นายพลจาร์เจส์ : “ดูนั่นสิ เธอสวมชุดของ Mars เทพเจ้าแห่งสงครามในตำนาน”
นักวาดภาพ : “แน่นอน เธอนิ่งราวกับผิวน้ำ แต่ภายในเร่าร้อน มุ่งสู่สนามรบ นั่นคือสิ่งที่ฉันเห็นในตัวเธอ ถ้าท่านไม่พอใจ ฉันจะเอามันกลับไปที่บ้านและเก็บมันไว้เป็นสมบัติล้ำค่าของฉัน”
นายพลจาร์เจส์ : “ไม่หรอก มันวิเศษมาก! ดูราวกับว่ามีออสการ์อีกคนอยู่ในนั้น”
นักวาดภาพ : “ฉันไม่ได้ทุ่มเทความพยายามทั้งหมดที่มีลงในงานมานานนับปีแล้ว”
ระหว่างนั้นออสการ์ก็นั่งจิบแก้วไวน์แดงที่อยู่ในมือและคอยสังเกตปฏิกิริยาของอังเดร ที่ตอนนี้เขายังคงยืนอยู่ที่ประตูห้องไม่ได้เดินเข้ามาดูภาพวาด
แนนนี่ : “อังเดร เธอเป็นอะไรหรอ? เธอควรจะมาตรงนี้ มาดูด้วยกันสิ!” แนนนี่เรียกอังเดรเข้ามาดูภาพวาดด้วยกัน
อังเดร : “อ่อใช่ ฉันจะไปดู”



Create Date : 05 มีนาคม 2563
Last Update : 8 พฤศจิกายน 2563 23:47:49 น.
Counter : 759 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Lady Oscar
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]



New Comments
มีนาคม 2563

1
4
6
8
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog