กุหลาบแวร์ซายส์ , Lady Oscar , La Rose de Versailles , The Rose of Versailes , Berusai No Bara
|
||||
ตอนที่ 33(2) เสียงระฆังแห่งการสูญเสียดังขึ้นในตอนค่ำ (A Funeral bell tolls in the twilight) ในวันที่ 4 พฤษภาคม 1789 หนึ่งวันก่อนที่จะมีพิธีเปิดสภาฐานันดร บรรยากาศของความขลังเข้าปกคลุมบริเวณโบสถ์เซนต์หลุยส์ในแวร์ซายส์ ขบวนของตัวแทนมุ่งหน้าไปที่โบสถ์ ขบวนถูกคุ้มกันด้วยกองทหารแนวหน้าของฝรั่งเศส ก็คือกองทหารลาดตระเวนและกองทหารองครักษ์จากสวิส ออสการ์และทหารของเธอยืนเรียงแถวอยู่สองข้างทางเดิน ออสการ์มองไปที่หน้าต่างมากมายของพระราชวังแวร์ซาย “องค์ชายจะต้องเฝ้าดูจากหน้าต่างบานใดบานหนึ่งของพระราชวังแวร์ซายส์ องค์ชายกลับมาเพื่อวันนี้” เธอคิด ภายในพระราชวังแวร์ซาย เจ้าชายหลุยส์โจเซฟนั่งอยู่บนเก้าอี้ริมกระจก และเฝ้ามองลงมาที่ลานด้านล่างที่เต็มไปด้วยฝูงชนและทหาร โดยมีพระนางอังตัวเน็ตและเจ้าชายน้อยหลุยส์ชาร์ลอยู่ข้างๆ โจเซฟ : “ออสการ์ อยู่ไหนนะ? หมวกของทหารลาดตระเวนส่องแสงระยับระยับเต็มไปหมด” เจ้าชายโจเซฟหวนคิดถึงวันที่เขานั้นไปขี่ม้ากับออสการ์ “ฉันรักเธอ ฉันจะเป็นผู้ชายที่ดี ได้โปรดรอจนถึงวันนั้น” ในลานกลางพระราชวังแวร์ซายส์ อังเดรวิ่งเข้ามารายงานออสการ์ อังเดร : “พวกเราเข้าประจำที่แล้วครับ! พวกเรากำลังรอคำสั่งครับ!” ออสการ์ : “อังเดร ฉันเกือบจะได้เป็นราชินีแล้วนะ ฮ่าฮ่า” ออสการ์พูดเล่นกับอังเดร อังเดร : “หืม?” อังเดรตอบกลับด้วยความงุนงง ในขณะนั้นใกล้เริ่มเดินขบวนแล้ว ทหารมหาดเล็กก็เข้ามาแจ้งเตือนพระนางอังตัวเน็ตให้เตรียมตัวเข้าพิธี มหาดเล็ก : “ขบวนกำลังจะเริ่มแล้วได้โปรดเตรียมตัวด้วยพะยะค่ะ” อังตัวเน็ต : “เราต้องไปแล้วนะ โจเซฟ” หลุยส์ชาร์ล : “ฉันจะไปด้วย ฉันจะร่วมขบวนในรถม้าคันเดียวกับเสด็จแม่!” หลุยส์ชาร์ลพูดกับโจเซฟ โจเซฟจับที่ไหล่ของน้องชาย และพูดกับเขาว่า โจเซฟ : “หลุยส์ชาร์ล ไปและดูอย่างใกล้ชิดนะ ทำมันแทนฉันด้วย มันเป็นไปได้ที่เธออาจจะกลายเป็นมกุฎราชกุมารคนต่อไป” พระนางอังตัวเน็ตได้ยินดังนั้นก็รู้สึกซึ้งพระทัยอย่างมาก ขบวนพร้อมแล้ว ออสการ์ออกคำสั่ง ออสการ์ : “วันทยาวุธ!” เสียงดนตรีบรรเลงขึ้น ท่ามกลางการโห่ร้องดีใจของประชาชน ตัวแทนของสภาฐานันดรเคลื่อนขบวนไปที่โบสถ์เซนต์หลุยส์ ท่ามกลางฝูงชนที่มาเฝ้าดูตลอดสองข้างทาง ตัวแทนสภาฐานันดรที่สาม จำนวน 621 คน ร่วมในขบวนพาเรด พวกเขาทุกคนสวมชุดสีดำ ตามด้วยตัวแทนของขุนนางที่แสดงถึงความหรูหราของพวกเขา ความแร้นแค้นอยู่ในสายตาของผู้คน แม็กซิมิเลี่ยน โรเบสปิแอร์ ตัวแทนจากจังหวัด Artois อายุ 31 ปี ผู้กำหนดอนาคตของฝรั่งเศส ตัวแทนสามัญชนจำนวน 621 คน แต่ก็มีขุนนางที่สามัญชนให้การสนับสนุนได้รับเลือกเป็นตัวแทนของพวกเขาเหมือนกัน ศักดิ์ศรีของการเป็นชนชั้นสูงไม่มีความหมายอีกต่อไป เหลือเพียงแต่ทหารของราชวงศ์เท่านั้น ในระหว่างการเดินขบวนนั้นเอง เจ้าชายมกุฏราชกุมารหลุยส์โจเซฟก็มีอาการแย่ลงอย่างกระทันหัน นางกำนัน : “เจ้าชายหลุยส์ โจเซฟเพคะ!” “เจ้าชาย!” “ตามหมอหลวงเร็ว!” “พาองค์ชายกลับไปที่ปราสาทมูร์ดงเร็ว!” “องค์ชาย!” หลุยส์ โจเซฟถูกนำตัวกลับไปรักษาที่ปราสาทมูร์ดง วันถัดมา 5 พฤษภาคม 1789 พิธีเปิดการประชุมสภาฐานันดร จัดขึ้นที่หอประชุมของ I’Hotel des Menus Plaisirs ก่อนที่พิธีจะเริ่มขึ้น พระนางอังตัวเน็ตรู้สึกเป็นห่วงพระโอรสอย่างมาก จนไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไร อังตัวเน็ต : “มีข้อความจากปราสาทมูร์ดงมั้ย?” เธอเฝ้าถามคนใกล้ชิด มหาดเล็ก : “ฝ่าบาท พิธีกำลังจะเริ่มแล้ว มันเป็นหน้าที่ของราชินีฝรั่งเศสที่จะเข้าร่วมพิธีเปิดสภาฐานันดรพะยะค่ะ” พระนางอังตัวเน็ตยังคงต้องทำหน้าที่ของเธอต่อไป พิธีการเริ่มขึ้น มหาดเล็กประกาศ “พระราชาเสด็จแล้ว!” พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 เดินออกไปนั่งบนบรรลังค์หน้าที่ประชุม ท่ามกลางเสียงปรบมือและการสรรเสริญที่กึกก้องจากตัวแทนในสภา “ทรงพระเจริญ! ทรงพระเจริญ!” แต่เมื่อมหาดเล็กประกาศ “พระราชินีเสร็จแล้ว!” พระนางอังตัวเน็ตเดินออกมานั่งบนบรรลังค์ข้างๆพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 บรรยากาศกลับเงียบสนิท ไม่มีเสียงสรรเสริญพระนางอังตัวเน็ต ไม่เพียงแต่ฐานันดรที่สามเท่านั้น ไม่มีแม้แต่ชนชั้นขุนนาง พระราชินีจึงตระหนักถึงความเยือกเย็นนี้ว่า ประชาชนฝรั่งเศสไม่ได้โจมตีและเกลียดชังพระราชาหรือราชวงศ์ แต่เกลียดชังแค่เพียงพระราชินีอังตัวเน็ตคนเดียวเท่านั้น “การต่อสู้เริ่มขึ้นแล้ว ฉันจะไม่หนีหรือหลบซ่อนอีกต่อไป เพราะฉันคือราชินีของฝรั่งเศส!” พระนางอังตัวเน็ตคิด เวลาผ่านไปเป็นเดือน การประชุมสภาฐานันดรยังดำเนินไปเรื่อยๆโดยยังไม่มีที่สิ้นสุด เหล่าทหารลาดตระเวนยังคงต้องคุ้มกันสภาอยู่ด้านนอกในทุกๆวัน รวมทั้งอังเดรและอัลเลนที่ยังคงยืนเฝ้ายามอยู่หน้าทางเข้าด้วย อังเดร : “เดือนนึงแล้วยังไม่ได้หยุดเลยตั้งแต่มีการเปิดประชุมสภาฐานันดร ดูเหมือนข้างในจะไม่เรียบร้อยนะ” อัลเลน : “ฉันได้รับแจ้งว่า ตัวแทนของสามัญชนกำลังถกเถียงกับตัวแทนของนักบวชและขุนนางอย่างหนักหน่วง ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันอยากจะเข้าไปร่วมด้วย ถ้าฉันทำได้นะ! อุ๊ย! หัวหน้ามาแล้ว” ออสการ์ลงบันไดมาจากด้านใน “หัวหน้าข้างในเป็นยังไงบ้าง?” อัลเลนถามออสการ์ ออสการ์ : “ก็ไม่เป็นระเบียบเหมือนเดิมนั่นแหละ เมื่อมันจบแล้ว พวกเธอทุกคนจะได้ลาพักร้อน อดทนรอจนถึงวันนั้นนะ” ออสการ์เดินออกมาด้านหน้าอาคาร เธอเห็นขวดแก้วขวดหนึ่งทิ้งอยู่ที่พื้น เธอจึงหยิบมันขึ้นมาและบ่นกับลูกน้องของเธอ “เฮ้ นี่มันไม่ปลอดภัยนะ ตัวแทนอาจจะบาดเจ็บได้ถ้าเขาเดินออกมา ฉันบอกพวกนายแล้วว่าให้กำจัดของพวกนี้” อังเดร : “ขอโทษครับ ฉันไม่ทันสังเกตเห็น” ออสการ์ : “โยนมันทิ้งไป” ออสการ์โยนขวดแก้วนั้นไปให้อังเดร อังเดร : “ครับท่าน” อังเดรกำลังจะเอื้อมมือออกไปรับ แต่ทันใดนั้นเอง ตาของเขาก็เกิดพล่ามัวขึ้นมาอย่างกะทันหัน เขามองเห็นขวดได้ไม่ชัด ขวดแก้วจึงหล่นลงที่พื้น แตกกระจาย ออสการ์เห็นดังนั้นก็ตกใจมาก อัลเลนที่ยืนอยู่ใกล้ๆจึงรีบเข้ามาช่วยอังเดร อัลเลน : “เฮ้ นายนี่แย่จริงๆเลย อังเดร” อัลเลนรีบก้มลงเก็บเศษแก้วที่พื้น ออสการ์ : “อังเดร ตาขวาของเธอ?” ออสการ์ยังคงตกใจอยู่ แต่อังเดรแกล้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรผิดปรกติ อังเดร : “อ...เออ...อะไรหรอ?” เหงื่อของเขาเริ่มซึมออกมาด้วยความตื่นเต้น อัลเลน : “ใครๆก็อ่อนล้าได้ หลังจากยืนตากแดดวันแล้ววันเล่า ใช่มั้ยอังเดร?” อัลเลนช่วยอังเดรแก้ตัวและส่งซิกให้อังเดร อังเดร : “อ๋อใช่ ฉันอาจจะเหนื่อยนิดหน่อย หรืออาจจะเป็นเพราะแสงแดดทำให้ตาพล่าน่ะ..” ออสการ์ : “โอเค ถ้าเป็นเพราะสาเหตุนั้นนะ...” ระหว่างนั้นเองรถม้าของพระนางอังตัวเน็ตก็ผ่านมาและแล่นออกนอกประตูรั้วไป “นั้นมันรถม้าของพระนางอังตัวเน็ตนี่” พระนางอังตัวเน็ตได้รับข้อความจากปราสาทมูร์ดง ว่ามกุฎราชกุมาร หลุยส์โจเซฟมีพระอาการทรุดลงอย่างกะทันหัน พระนางอังตัวเน็ตและพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 จึงรีบออกจากสภาฐานันดรและกลับมาที่ปราสาทมูร์ดงทันที ที่ห้องบรรทมของหลุยส์โจเซฟ องค์ชายนอนดิ้นทุกรนทุรายอยู่บนเตียงด้วยความเจ็บปวด ในคืนนั้นเอง ฝนตกลงมาอย่างหนักเช่นเคย ออสการ์นั่งดื่มชาอยู่ในห้องนั่งเล่น โดยมีอังเดรยืนอยู่ใกล้ๆ อังเดรมองออกไปนอกหน้าต่างมองดูฝนที่ตกลงมา อังเดร : “ฝนตกอีกแล้ว...อาการประชวรของมกุฎราชกุมารดูเหมือนจะแย่ลง เป็นสาเหตุที่ทำให้การประชุมสภาฐานันดรถูกระงับ และพระราชากับพระราชินีรีบไปที่ปราสาทมูร์ดง” ออสการ์ : “เจ้าชายต้องไม่เป็นอะไร ก่อนหน้านี้ก็เป็นแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว ฉันแน่ใจว่าครั้งนี้ก็ต้องเหมือนกัน” อังเดร : “ฉันก็หวังว่าอย่างนั้น” ออสการ์ : “ฉันเป็นห่วงอย่างอื่นมากกว่า” อังเดร : “โอ้ อะไรหรอ?” ออสการ์ลุกออกจากเก้าอี้ในมือของเธอถือมีดสั้นเล่มหนึ่ง เธอเดินเข้าไปหาอังเดรที่ยืนหันหลังอยู่ ออสการ์ : “อังเดร...” ออสการ์ยกมีดขึ้นมาจ่อใกล้ๆหน้าของอังเดร อังเดรหันมาเห็นมีดก็รู้สึกตกใจแต่ยังคงเก็บอาการไว้ อังเดร : “ทำไม เธอจะเช็คตาของฉันหรอ?” อังเดรรู้ทันออสการ์ ออสการ์ : “เธอยังมองเห็นมันใช่มั้ย?” อังเดร : “ก็แน่สิ มันคือมีดไง ทำขึ้นในปี 1612 ตกทอดมารุ่นสู่รุ่นของตระกูลจาร์เจส์และเธอก็ชอบมันมาก” ออสการ์ : “ตาของนายยังดีอยู่ใช่มั้ย?” ออสการ์ถามย้ำเพื่อความแน่ใจอีกที อังเดร : “พอได้แล้ว มันไม่ตลกนะ ฮ่าฮ่าฮ่า” โชคดีที่ตอนนี้ตาของอังเดรยังคงมองเห็นอยู่ ออสการ์ : “ฉันขอโทษ” ออสการ์กำลังจะเดินกลับมานั่งที่เดิม แต่ทันใดนั้นเธอก็ได้ยินเสียงของระฆังดังอยู่ภายนอก เธอรู้สึกตกใจมาก อังเดร : “มีอะไรหรอ ออสการ์ ?!” ออสการ์ : “เธอได้ยินเสียงนั่นมั้ย?” ออสการ์รีบเดินไปริมหน้าต่างและมองออกไปข้างนอก “เสียงระฆังของโบสถ์น็อร์ทดาม” เสียงระฆังยังคงดังอย่างต่อเนื่อง “องค์ชายรัชทายาทมีอาการวิกฤต” ในวันที่ 2 มิถุนายน เวลาสี่ทุ่ม เสียงระฆังของโบสถ์น็อร์ทดามดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง การสวดอ้อนวอนยาวนานถึง 40 ชั่วโมง สำหรับมกุฎราชกุมารซึ่งมีอาการวิกฤต ในห้องบรรทมของมกุฏราชกุมารหลุยส์ โจเซฟ ที่ตอนนี้พระอาการไม่สู้ดีนัก พระนางอังตัวเน็ตและพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 คอยเฝ้าดูพระอาการอย่างใกล้ชิด อังตัวเน็ต : “โจเซฟ!” โจเซฟ : “เสด็จพ่อ เสด็จแม่...” โจเซฟพูดด้วยเสียงที่แผ่วเบา อังตัวเน็ต : “โจเซฟ!” พระนางอังตัวเน็ตยังคงร้องไห้ออกมาไม่หยุด โจเซฟ : “ฉันรู้ว่าพวกท่านยุ่ง ฉันขอโทษ...” อังตัวเน็ต : “โจเซฟ...” พระนางอังตัวเน็ตคุกเข่าลงข้างเตียงและกุมมือโจเซฟไว้แน่น โจเซฟ : “การประชุมสภาฐานันดรยังดุเดือดอยู่รึป่าว? ทำไมตัวแทนถึงไม่พูดกันอย่างมิตรล่ะ?” อังตัวเน็ต : “โถ่...โจเซฟ ลูกไม่ต้องมาเป็นห่วงเรื่องอะไรแบบนั้นหรอก โจเซฟ โจเซฟของแม่!” โจเซฟ : “ฉันอยาก...ฉันอยากจะกลับไปแวร์ซายส์!” อังตัวเน็ต : “แน่นอน ลูกจะต้องได้กลับไป” พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ได้ยินดังนั้นก็ร้องไห้ออกมาเช่นกัน พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 : “ใช่ ลูกจะได้กลับไป โจเซฟ ลูกจะต้องดีขึ้น แล้วเราสามคนจะนั่งรถม้ากลับไปที่แวร์ซายส์ด้วยกัน อ๊า! ฉันจะขอร้องให้ออสการ์ ฟรังซัวส์ คนโปรดของลูกคุ้มกันรถม้าของเราด้วย ลูกจะต้องชอบ!” โจเซฟ : “อ๊า! ผู้หญิงบนหลังม้าสีขาว...ผมบรอนด์ของเธอปลิวไปตามสายลม...” องค์ชายยิ้มออกมาด้วยความดีใจ แต่ทันใดนั้นเอง มกุฎราชกุมารหลุยส์ โจเซฟก็จากไป อังตัวเน็ต : “โจเซฟ! โจเซฟ! อย่าทิ้งแม่ไป! โอ้ พระเจ้า!” พระนางอังตัวเน็ตร้องไห้โฮออกมาแทบขาดใจ เมื่อออสการ์ได้ทราบข่าวร้ายนี้ เธอก็รู้สึกเสียใจจนไม่สามารถกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้เช่นกัน ออสการ์ : “เขาพึ่ง 7 ขวบ 8 เดือนเอง...” ในวันที่ 4 มิถุนายน เวลาตีหนึ่ง ชีวิตที่น่าเศร้าของมกุฎราชกุมาร หลุยส์โจเซฟ ก็มาถึงจุดจบ แต่ความโชคดีอย่างหนึ่งของเขาก็คือ อย่างน้อยเขาก็ตายโดยไม่ต้องมารับรู้ถึงความทุกข์ทรมานที่ราชวงศ์ต้องพบเจอ... กลางดึกคืนนั้นเองออสการ์ขี่ม้าออกไปท่ามกลางสายฝน ออสการ์ : “ฉันจะไปแสดงความเสียใจที่ปราสาทมูร์ดง” ออสการ์บอกกับอังเดร หนทางของฝรั่งเศสที่เต็มไปด้วยความรุนแรงที่ถูกปลุกขึ้นโดยการเปิดประชุมสภาฐานันดร หนทางที่ต้องเลือกระหว่างหนทางของผู้รอดชีวิตและผู้ซึ่งพยายามเอาชีวิตรอดในยุคใหม่ จบตอนที่ 33 |
Lady Oscar
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]
Group Blog All Blog
Friends Blog Link |
|||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |