กุหลาบแวร์ซายส์ , Lady Oscar , La Rose de Versailles , The Rose of Versailes , Berusai No Bara
|
||||
ตอนที่ 40(2) ลาก่อน ออสการ์ที่รัก (Adieu,My beloved Oscar) วันที่ 20 มิถุนายน 1791 รถม้าลึกลับได้แล่นออกจากปารีส มันเป็นแผนการหนีที่แฟร์ซองใช้ความพยายามทั้งหมดของเขา แฟร์ซองบังคับรถม้าที่มีพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 พระนางมารี อังตัวเน็ต พระธิดา และพระโอรสหลุยส์ชาร์ล ออกจากปารีสในความมืด มุ่งตรงสู่ชายแดนด้วยความรวดเร็ว ในระหว่างทางเขาก็ได้หยุดรถม้าในจุดที่เขานัดแนะกับลูกน้องของเขาไว้ ลูกน้องแฟร์ซอง : “ทางนี้!” ลูกน้องของเขาพร้อมม้าอีก 6 ตัวยืนรอเขาอยู่ในความมืด แฟร์ซองลงมาคุกเข่าที่หน้าประตูรถม้า แฟร์ซอง : “ฝ่าบาท เรามาถึงเมืองบอนดี้แล้วพะยะค่ะ เราจะพักสักครู่และเปลี่ยนม้า ไม่ต้องห่วงพะยะค่ะ จากที่นี่ตรงไปก็จะถึง Pont de Sommavel นายพลบูอีและทหารของเขากำลังรออยู่ที่นั่น พวกเขาจะช่วยพระองค์ข้ามชายแดนไป” ทันใดนั้นพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ก็เดินออกมาที่หน้าประตูรถม้า พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 : “ขอบคุณท่านมากนะ มันไกลพอที่จะปลอดภัยแล้ว ดังนั้นท่านควรจะกลับไปได้แล้ว” ทั้งอังตัวเน็ตและแฟร์ซองรู้สึกใจหาย แฟร์ซอง : “แต่ฝ่าบาท!” พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 : “พวกเราควรจะแยกกันตรงนี้ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น ฉันไม่อยากให้ท่านซึ่งเป็นชาวต่างชาติต้องตกอยู่ในอันตราย” แฟร์ซอง : “พะยะค่ะ ฝ่าบาท หม่อมชั้นจะไปเบลเยี่ยม ได้โปรดระวังตัวด้วย” พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 : “ฉันจะไม่ลืมมิตรภาพของท่านเลย พระราชินีก็เช่นเดียวกัน” แฟร์ซองจำใจกระโดดขึ้นหลังม้าไป แฟร์ซอง : “ขอให้พระองค์โชคดี! หม่อมชั้นขอภาวนาให้การเดินทางในครั้งนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี!” เขาหันหลังแล้วควบม้าออกไปทั้งน้ำตา มันเป็นการอำลาอย่างถาวรที่เหมาะสมแล้วสำหรับความรักที่ไม่สามารถเปิดเผยออกมาได้ เบอ์นาร์ดเล่าต่อ เบอร์นาร์ด : “แต่แผนการหนีต้องล้มเหลวอย่างน่าเวทนา” อัลเลน : “มันก็ควรจะเป็นแบบนั้นแหละ ชื่อเสียงที่ไม่ดีของราชินีและใบหน้าที่หยิ่งยโส ต่างเป็นที่รู้กันทั่วทั้งฝรั่งเศส” เบอร์นาร์ด : “ราชนิกูลถูกจับได้ในเมือง Varene และถูกนำตัวกลับมาที่ปารีส ใช้เวลา 3 วันกว่าจะถึงปารีส ในเมืองระหว่างทางผู้คนต่างรายล้อมรถม้าและโวยวายด่าทอ” ประชาชน : “พระราชา! นั่นมันพระเจ้าหลุยส์ที่16 นี่!” “พระราชาที่คิดจะทิ้งประเทศตัวเอง” “ลากมันออกมาแล้วลงโทษพวกมัน!” “ใช่!” และด้วยความหวาดกลัวตลอดการเดินทางก็ทำให้ผมสีบรอนด์สวยของอังตัวเน็ตกลายเป็นสีขาวเหมือนผมของคนแก่ เพราะการพยายามหลบหนีนี่เอง จึงเป็นสาเหตุให้ประชาชนสูญเสียความเคารพที่มีอันน้อยนิดต่อราชวงศ์ พวกเขาจึงเรียกร้องให้มีการพิจารณาโทษของราชวงศ์ ในเดือนสิงหาคม 1792 ราชวงศ์ถูกย้ายออกจากพระราชวังตุยเลอรีไปที่หอคอยในตำบล Malais และในเดือนกันยายน คณะปกครองประเทศฝรั่งเศสถูกจัดตั้งขึ้นแทนสมัชชาแห่งชาติ ในขณะเดียวกันก็ยกเลิกการปกครองระบอบราชาธิปไตยและประกาศสู่โลกว่าพวกเขาเป็นสาธารณรัฐ ในการพิจารณาโทษของพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 เกิดขึ้นในสภาโดยให้ทุกคนลงคะแนนเสียง เจ้าหน้าที่สภา : “ผู้แทนจากจังหวัด Aisne หลุยส์ เซนต์จัส!” เซนต์จัส : “อำนาจอธิปไตยแต่เดิมมันอยู่ในมือของประชาชน แต่พระราชาเอาพลังนั้นไปและลิดรอนสิทธิของประชาชน! นั่นหมายความว่า การมีชีวิตอยู่ของพระราชานั้นเป็นอาชญากรที่ให้อภัยไม่ได้! พระราชาคืออาชญากร! ความจริงแล้วพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ยังเคยกระพริบตาให้ฉันอย่างน่าขนลุกอีกด้วย!” เจ้าหน้าที่สภา : “ต่อไป แม็กซิมิเลี่ยน โรเบสปิแอร์!” โรเบสปิแอร์ : “พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ไม่ใช่จำเลย! และพวกเราก็ไม่ใช่พระเจ้า พวกเราไม่ควรจะตัดสินพระองค์ แต่! พวกเราควรจะเลือกหนทางที่ถูกต้องสำหรับอนาคตของประเทศ! เป็นธรรมดาที่พระเจ้าหลุยส์จะเป็นอันตรายต่อความเป็นสาธารณรัฐของเรา แต่แค่เขายังมีชีวิตอยู่ เขาก็เป็นอาชญากรแล้ว!” 361 ต่อ 360 เสียง โดย 1 คนต่อ 1 เสียง ประเจ้าหลุยส์ที่ 16 ถูกตัดสินประหารชีวิต ในวันที่ 21 มกราคม 1793 พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ถูกสำเร็จโทษโดยกีโยติน หลังจากนั้นไม่นานก็เป็นพระโอรสหลุยส์ ชาร์ล ทหารจับตัวหลุยส์ชาร์ลไปจากห้องขังต่อหน้าต่อตาพระนางอังตัวเน็ต อังตัวเน็ต : ชาร์ล! ชาร์ล!” ชาร์ล : “ท่านแม่!” อังตัวเน็ต : “ปล่อยเขานะ! แกเอาสามีฉันไป แล้วตอนนี้ก็ลูกของฉันอีก! แกไม่เคยเป็นพ่อคนหรอ?!” อังตัวเน็ตต่อว่าทหารที่กำลังจะเอาตัวลูกชายของเธอไป ทหาร : “ใช่ พวกเรามีลูก! เราไม่มีนมให้เขากิน พวกเราต้องมองดูพวกเขาตายเพราะขาดสารอาหาร ในขณะที่ท่านกินอย่างหรูหรา สวมใส่เพชรนิลจินดา และนั่งหัวเราะอยู่ในแวร์ซายส์!” คำพูดนั้นทำให้พระนางเริ่มรู้สำนึกในสิ่งที่เคยผ่านมาในอดีต “เอาตัวมันไป!” ทหาร : “ครับ!” ทหารเอาตัวพระโอรสหลุยส์ ชาร์ล ไปสำเร็จโทษ โรซารี่เล่าต่อ โรซารี่ : “หลังจากนั้นไม่นานพระราชินีก็ถูกสำเร็จโทษ” อัลเลน : “เฮ้ หยุดเถอะ ฉันไม่สนใจหรอกว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับราชินี เบอร์นาร์ด นายมาที่นี่เพื่อมาบอกฉันเรื่องนี้น่ะหรอ?” เบอร์นาร์ด : “ไม่ ก็ไม่ใช่ทั้งหมดหรอก ฉันมาเพื่อฟังเรื่องของออสการ์กับอังเดรน่ะ ตอนนี้ฉันกำลังเขียนหนังสือชื่อว่า ประวัติศาสตร์ย่อของการปฏิวัติฝรั่งเศส ฉันต้องการกล่าวถึงพวกเขาลงในหนังสือด้วย อย่างน้อยท่านก็เป็นคนหนึ่งที่รู้จักกับพวกเขา” อัลเลน : “งั้นก็ยิ่งแล้วใหญ่เลย! การตายของอังตัวเน็ตไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับฉัน” เบอร์นาร์ด : “ไม่นะ มันมีสิ” โรซารี่เริ่มเล่าต่อ โรซารี่ : “ฉันได้เข้าไปดูแลพระนางอังตัวเน็ตตอนที่เธอย้ายไปอยู่ในคุกกงซีแยร์ เฌอรี ตอนแรกพระนางไม่รู้ว่าฉันเป็นใคร แต่...” อังตัวเน็ต : “เธอคือคนที่อยู่กับออสการ์ที่ฉันเคยพบในงานเต้นรำใช่มั้ย?” อังตัวเน็ตจำโรซารี่ได้ โรซารี่ : “ใช่ค่ะ ฉันคือโรซารี่ ฉันขอเข้ามาทำหน้าที่นี้เผื่อจะปลอบใจท่านได้บ้าง” อังตัวเน็ต : “ฉันคิดถึงออสการ์! ได้โปรดเล่าเรื่องของออสการ์ให้ฉันฟังได้มั้ย นะโรซารี่ ได้โปรด!” โรซารี่ : “หลังจากนั้นฉันก็เล่าเรื่องของท่านออสการ์ให้พระนางฟังเกือบทุกวัน หลังจากได้ฟังแล้ว พระนางมักจะพูดว่า...หัวใจของฉันรู้สึกสงบสุขเมื่อได้ระลึกถึงออสการ์...” 16 ตุลาคม 1793 เวลา 12:15 พระนางมารี อังตัวเน็ต ถูกสำเร็จโทษ... โรซารี่ : “ฝ่าบาทให้สิ่งนี้กับฉัน ในตอนเช้าของวันสุดท้ายของเธอ” โรซารี่หยิบดอกกุหลาบสีขาวที่ทำจากประดาษออกมา “เธอทำมันจากกระดาษเช็ดหน้าในคุก เพื่อระลึกถึงท่านออสการ์ แล้วเธอก็พูดว่า... โรซารี่ ได้โปรดระบายสีที่ดอกกุหลาบให้ด้วย สีที่ออสการ์ชอบ แล้วฉันก็รู้ทันทีว่า ฉันไม่เคยถามเลยว่าท่านออสการ์ชอบดอกกุหลาบสีอะไร” อัลเลน : “สำหรับออสการ์ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่อังเดรเคยบอกว่าเขาชอบสีขาว...” โรซารี่ : “ถ้างั้นฉันจะเก็บมันไว้แบบนี้แหละ” อัลเลน : “อืม แบบนั้นดีกว่า” หลังจากนั้นไม่นานโรเบสปิแอร์และเซนต์จัสก็ถูกประหารชีวิต เมื่อพวกเขาพ่ายแพ้ในการต่อสู้ทางการเมือง แฟร์ซองกลับไปประเทศของเขาหลังจากอังตัวเน็ตตาย เขากลายเป็นคนเย็นชาและเกลียดเรื่องของตัวเอง และประมาณ 10 ปีหลังจากนั้น เขาก็ถูกสังหารโดยคนของเขาเอง จบตอนที่ 40 |
Lady Oscar
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]
Group Blog All Blog
Friends Blog Link |
|||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |