ตอนที่ 31(1) ดอกไลแลคเบ่งบานในค่ายทหาร (A Lilac blooming in the barracks)
            ร้านขนมปังในปารีสต่างถูกปล้นและนายทุนเงินกู้ถูกทำร้าย ปารีสทั้งเมืองตกอยู่ในความวุ่นวายเนื่องจากการคอรัปชั่นของขุนนางและการขูดรีดภาษีที่หนักหน่วง มันเป็นสิ่งสะท้อนที่ชัดเจนของยุคใหม่ แต่คนรุ่นใหม่ผู้ซึ่งไม่สามารถอดทนรอเวลาได้จึงหันไปทำการก่อการร้าย เป็นเวลากว่า 1 เดือนแล้วตั้งแต่ออสการ์ลาออกจากหัวหน้าองครักษ์มาเป็นผู้บัญชาการกองทหารลาดตระเวน เธอได้เห็นเหตุการณ์ความไม่สงบต่างๆมากมายที่เกิดขึ้น
            เช้าวันหนึ่ง ณ ค่ายทหารของกองทหารลาดตระเวน วันนี้เป็นวันเยี่ยมญาติ ไดแอนน้องสาวคนสวยของอัลเลนมาเยี่ยมอัลเลนที่ค่ายทหาร พร้อมกับถุงใส่เสื้อผ้าถุงใหญ่
ไดแอน : “พี่อัลเลน! อ่ะนี่ ฉันซักเสื้อผ้าและชั้นในมาให้แล้วค่ะ” ไดแอนส่งถุงเสื้อผ้าถุงใหญ่ที่ซักแล้วให้อัลเลน
อัลเลน : “ขอบใจนะ! ยังมีอีกกองนึง เธอเอามาให้ฉันตอนมาเยี่ยมคราวหน้าได้มั้ย?” อัลเลนส่งถุงเสื้อผ้าอีกถุงใหญ่ให้ไดแอนช่วยเอากลับไปซัก
ไดแอน : “ได้ค่ะ โห เยอะมากเลย!” ไดแอนรับถุงเสื้อผ้าไป
อัลเลน : “ตอนนี้ฉันค่อนข้างยุ่งน่ะ ฉันไม่มีเวลาซักผ้าเองเลย ขอโทษด้วยนะ” อัลเลนรู้สึกเกรงในน้องสาวมาก
ไดแอน : “ฉันรู้ค่ะ”
อัลเลน : “อ่ะนี่ ฉันให้เงินเธอไว้นะ” อัลเลนส่งถุงเงินเล็กๆให้ไดแอน
ไดแอน : “ขอบคุณค่ะ”
อัลเลน : “อาการป่วยของแม่เป็นยังไงบ้าง?”
ไดแอน : “ก็เหมือนเดิมแหละค่ะ”
อัลเลน : “อ่อหรอ...” เมื่อเหล่าเพื่อนทหารรู้ว่าน้องสาวคนสวยของอัลเลนมาเยี่ยมเขาที่ค่าย หลายคนต่างพากันตื่นเต้น
ทหาร : “เฮ้ เธอมาแล้ว ไดแอนมาแล้ว!” “ว๊าว จริงหรอ?!” “ใช่สิ วันนี้เป็นวันเยี่ยมญาตินี่นา!” เพื่อนทหารต่างพากันมาแอบดูไดแอนอยู่ที่มุมตึก “เธอยังน่ารักเหมือนเดิมเลย!” “มันเป็นไปได้ยังไงน๊า ชายร่างยักษ์แต่มีน้องสาวที่น่ารัก?” “ฉันอยากได้ผู้หญิงแบบนี้มาเป็นแฟนจังเลย บางทีฉันอาจจะขอเธอออกเดทในวันหยุดคราวหน้าก็ได้นะ” “ไอ้บ้า! ถ้านายทำแบบนั้น อัลเลนได้ฆ่านายแน่! ฮ่าฮ่าฮ่า” “ไม่ต้องสงสัยเลย ฮ่าฮ่าฮ่า”
อัลเลนเดินไปส่งน้องสาวที่หน้าค่าย แต่บังเอิญได้เจอกับออสการ์ที่ขี่มาสวนมาพอดี อัลเลนจึงแนะนำออสการ์ให้รู้จักกับไดแอน
อัลเลน : “เธอคือหัวหน้าคนใหม่ของเรา” อัลเลนแนะนำออสการ์ให้ไดแอนรู้จัก
ไดแอน : “พี่ชายของฉันติดหนี้บุญคุณท่านมากเลย ฉันชื่อไดแอน เป็นน้องสาวของอัลเลนค่ะ”
ออสการ์ : “ฉันก็ติดหนี้บุญคุณเขาด้วยเหมือนกัน ฉันชื่อออสการ์ ฟรังซัวส์”
 
            ออสการ์เดินกลับเข้ามาในห้องทำงาน เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็ต้องตกใจเมื่อพบกับนายพลบูอีนั่งรออยู่
ออสการ์ : “ท่านบูอี ฉันขออภัยในการกระทำที่หยาบคายในวันนั้นด้วย” ออสการ์รู้สึกสำนึกผิด และคิดว่านายพลบูอีจะมาต่อว่าเธอเรื่องงานเลี้ยงเต้นรำเมื่อคราวก่อน
นายพลบูอี : “ไม่เป็นไรหรอก ฉันกับพ่อของเธอเป็นเพื่อนกันมานาน ฉันไม่โกรธเธอเลย”
ออสการ์ : “ขอบคุณท่านมาก” ออสการ์โค้งคำนับด้วยความสำนึกผิด
นายพลบูอี : “ฉันมาที่นี่วันนี้เพื่อมอบหมายภารกิจพิเศษ อย่างที่เธอพอจะรู้แล้วว่า ดยุคอาเดลอสและครอบครัวของท่านจากประเทศสเปนกำลังจะมาเยี่ยมเยียนประเทศของเรา”
ออสการ์ : “ใช่ ฉันได้ยินมาว่าเป็นการเชื่อมสันถวไมตรีของราชวงศ์”
บูอี : “พวกเราได้รับรายงานว่าจะมีการก่อการร้ายกับพวกเขา พวกมันพยายามโจมตีดยุคอาเดลอสและทำลายอำนาจของราชวงศ์ของเรา เพื่อสร้างความวุ่นวายในระหว่างที่ท่านดยุคเดินทางไปทั่วประเทศ ดังนั้น ฉันต้องการให้เธอและหน่วยของเธอไปคุ้มกันพวกเขา”
ออสการ์ : “แต่ท่าน ฉันไม่ได้จะโต้แย้ง แต่ฉันไม่ได้เป็นทหารองครักษ์อีกต่อไปแล้ว” ออสการ์ปฏิเสธ
บูอี : “ฉันเข้าใจ เธออยากจะบอกว่ามันเป็นหน้าที่ของทหารองครักษ์ แต่ตอนนี้ทหารองครักษ์กำลังยุ่งกับภารกิจอื่นอยู่ นอกจากนั้นแล้ว ยังไม่มีใครจากหน่วยอื่นที่รู้ว่าจะต้องดูแลบุคคลสำคัญจากต่างประเทศยังไงให้ถูกต้องและเหมาะสม นี่คือเหตุผลที่ฉันมาขอร้องเธอโดยเฉพาะ” นายพลบูอีขอร้องออสการ์ ออสการ์จึงตอบตกลงที่จะทำภารกิจนี้
ออสการ์เรียกทหารลาดตะเวนหน่วยบีมาประชุมและรับคำสั่ง ภายในค่าย ทหารทุกคนยืนเรียงแถวพร้อมด้วยอาวุธปืนไรเฟิลในมือ
ออกสาร์ : “พวกเราจะออกเดินทางพรุ่งนี้เช้า คุ้มกันพวกเค้าตลอดการเดินทางโดยไม่ให้รบกวนครอบครัวของท่านมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ด้วยสถานการณ์แบบนี้ เราจึงต้องไปตั้งแคมป์ข้างนอก จัดข้าวของทั้งหมดสำหรับการเดินทาง” ระหว่างที่ออสการ์กำลังสั่งงานอยู่นั้น เธอก็สังเกตเห็นว่าทหารนายหนึ่งยืนเข้าแถวโดยที่ไม่มีปืนไรเฟิลอยู่ในมือ เธอจึงรีบเอ่ยถาม
ออสการ์ : “ปืนของเธออยู่ไหน? ทำไมไม่เอาปืนมาเข้าแถวด้วย?”
ลาเซลล์ : “เออ...ผ..ผม..ทำมันหาย” นายทหารร่างเตี้ยคนนั้นมีสีหน้าตกใจ
ออสการ์ : “ที่ไหน? เมื่อไหร่?” ออสการ์ถามด้วยสีหน้าจริงจัง
ลาเซลล์ : “ผมไม่รู้ครับ ผมจำไม่ได้ว่าทำหายที่ไหน เมื่อไหร่” เขาหลบตาออสการ์ด้วยความกลัว
ออสการ์ : “อะไรนะ? เธอคิดว่าเธอจะรอดความผิดด้วยคำตอบง่ายๆ หลังจากที่เธอทำปืนไรเฟิลอันมีค่าของเธอหายงั้นหรอ? ถ้าทหารทำปืนที่ประเทศมอบให้หายโดยไม่มีเหตุผลอันสมควรแล้วล่ะก็ เขาจะต้องถูกโบยหรือเลวร้ายที่สุดคือจับขังคุก ลองนึกดีดีซิว่าเธอทำหายที่ไหน เมื่อไหร่!” ออสการ์เค้นถามอีกครั้ง แต่กลายเป็นว่า ลาเซลล์ยอมรับโทษโดยไม่มีข้อโต้แย้งอะไรเลย
ลาเซลล์ : “ครับ ตกลงครับ จะถูกโบยหรือขังคุกก็ได้ครับ ผมตกลง”
ออสการ์ : “เธอชื่ออะไร?”
ลาเซลล์ : “ลาเซลล์ เดรสเซิล ครับ”
ออกสาร์ : “ผู้พันดักเอ้าท์” ออสการ์หันไปเรียกผู้พันดักเอ้าท์ที่ยืนอยู่ด้านหลัง
ดักเอ้าท์ : “ครับ”
ออสการ์ : “เข้าไปในคลังอาวุธแล้วเอาปืนมาให้ลาเซลล์ บอกเหตุผลอะไรก็ได้กับพวกเค้า”
ดักเอ้าท์ : “ครับท่าน”
 
            ในวันถัดมา ออสการ์และทหารของเธอได้เดินทางไปคุ้มกันขบวนรถม้าของทูตจากสเปนตามคำสั่งของนายพลบูอี
ออสการ์ : “นั่นคือดยุคอาเดลอสและคณะผู้ติดตามของเค้า จากตรงนี้เราจะแยกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มนึงจะคุ้มกันดยุคอาเดลอส อีกกลุ่มนึงจะเป็นทีมจู่โจม ทีมจู่โจมจะคอยลาดตระเวนและพยายามหาตัวผู้ก่อการร้าย โดยคอยดูทั้งด้านหน้าและด้านหลังของคณะฑูต ผู้พันดักเอ้าท์”
ดักเอ้าท์ : “ครับ”
ออสการ์ : “ท่านดูแลกลุ่มคุ้มกัน ฉันจะนำกลุ่มจู่โจมเอง”
ดักเอ้าท์ : “ได้โปรดระวังตัวเป็นพิเศษด้วย”
ออสการ์ : “อืม” แล้วออสการ์ก็ขี่ม้านำทหารครึ่งหนึ่งแยกตัวออกไปตามแผน ส่วนผู้พันดักเอ้าท์กับทหารอีกครึ่งนึง คุ้มกันขบวนรถม้าของคณะฑูตอย่างแน่นหนา
            ในขณะนั้นเอง เซนต์จัส กบฏหัวรุนแรง และพวกของเขา ได้วางแผนที่จะฆ่าทูตจากสเปน เขานำรูปของดยุคอาเดลอสและครอบครัวมาติดไว้ที่ฝาผนังเพื่อให้คนอื่นๆได้ดู
เซนต์จัส : “นี่คืออาเดลอส จากสเปน” เซนต์จัสขว้างมีดสั้นไปปักบนรูปของดยุคอาเดลอสที่ติดอยู่บนกำแพง “และนี่คือภรรยาและลูกสาวของเค้า” เซนต์จัสขว้างมีดอีกสองเล่มไปปักบนรูปของภรรยาและลูกสาวของดยุคอาเดลอสอีก “ฉันจะบอกว่าฆ่ามันให้หมด มันน่าตกใจ พวกขุนนางจะต้องได้รับความหวาดกลัวยิ่งกว่าความตกใจ นั่นคือเป้าหมายของเรา ความพยามของท่านโรเบสปิแอร์ในการจัดตั้งสมัชชาแห่งชาติก็เป็นหนทางหนึ่ง แต่มันใช้เวลานานเกินไป! ฉันไม่ชอบ!” ผู้ร่วมขบวนการของเซนต์จัสคนหนึ่งเดินเข้ามารายงานสถานการณ์
พวกของเซนต์จัส : “อาเดลอสและคณะทูตของเขาออกจากแวร์ซายส์มุ่งหน้าไปทางเหนือ”
เซนต์จัส : “โอเค สหาย ไปกันเลย!”
พวกของเซนต์จัส : “เดี๋ยวก่อนเซนต์จัส วันนี้ไม่ค่อยเป็นใจเลย ทหารลาดตระเวนคุ้มกันอย่างแน่นหนา”
เซสต์จัส : “ไม่ต้องห่วงหรอก พวกเรามีสหายอยู่ในกองทหารลาดตระเวน”
 
ระหว่างที่ออสการ์และทหารของเธอสำรวจรอบๆเส้นทางที่คณะทูตจะเดินทางผ่าน เธอก็มาหยุดอยู่ที่ชายป่า ซึ่งมองไปข้างหน้ามีปราสาทร้างหลังหนึ่งตั้งตระหง่านอยู่
ออสการ์ : “อัลเลน อังเดร พวกเราเข้าไปดูในปราสาทร้างนั่นกัน มากับฉัน”
อังเดร,อัลเลน : “ครับ”
ออสการ์ : “ส่วนคนที่เหลือ รออยู่ตรงนี้จนกว่าฉันจะให้สัญญาณ”
ทหาร : “ครับ หัวหน้า!”
ออสการ์ อังเดร และอัลเลน ทั้งสามคนขี่ม้าเข้าไปใกล้ๆตัวปราสาทปล่อยให้ทหารคนอื่นๆรออยู่ที่ชายป่า เมื่อถึงตัวปราสาท ออสการ์ถือปืนสั้นค่อยๆเปิดประตูเข้าไปอย่างระแวดระวัง โดยมีอัลเลนและอังเดรตามเข้าไปด้วย ในระหว่างนั้นเอง เซนต์จัส ได้นำพวกของเค้ามุ่งหน้าไปที่หมู่บ้านอาร์แซ็งกูร์ หมู่บ้านเล็กๆทางเหนือของปารีส เพื่อก่อการร้ายต่อคณะฑูตจากสเปนตามแผนของเค้า
เซนต์จัส : “พวกเราจะโจมตีอาเดลอสที่บ้านพักในหมู่บ้านอาร์แซ็งกูร์ ฉันจะบอกสหายของเราในกองทหารลาดตระเวนให้ฆ่าหัวหน้าของมันก่อนที่คณะฑูตจะไปถึงที่นั่น...หึหึ”
 
ในระหว่างที่ทหารของออสการ์กำลังรอคำสั่งอยู่ที่ชายป่า บาสตาร์ด ทหารร่างยักษ์ที่มีแผลเป็นบนใบหน้า ที่เคยทำร้ายอังเดรเมื่อคราวก่อน เขาได้ถือปืนไรเฟิลเดินออกไปจากกองทหาร
ทหาร : “นายจะไปไหนอ่ะ?” ทหารนายหนึ่งถามขึ้นด้วยความสงสัย
บาสตาร์ด : “พวกเราถูกสั่งให้รออยู่ที่นี่ ใช่ แต่ฉันมีเรื่องที่จะรายงานหัวหน้าหน่อยน่ะ” บาสตาร์ดไม่สนใจคำเตือนของเพื่อนทหาร เขายังคงเดินตรงไปยังตัวปราสาท ภายในปราสาทร้าง ออสการ์ อังเดร และอัลเลน แยกย้ายกันสำรวจภายในปราสาท
ออสการ์ : “อังเดร ทางนั้นเป็นไงบ้าง!” ออสการ์ตะโกนถาม
อังเดร : “ทางนี้เคลียร์”
อัลเลน : “ฉันก็ไม่เจออะไรเหมือนกัน!”
ออสการ์ : “โอเค ดี พวกนายไปตรวจดูห้องใต้ดิน ส่วนฉันจะขึ้นไปตรวจดูข้างบน”
อังเดร,อัลเลน : “ครับ”
ออสการ์เดินขึ้นไปตามบันไดวนแคบๆของปราสาท ที่เชื่อมต่อกับระเบียงบนยอดหอคอย ในระหว่างที่เดินขึ้นไปนั้น เธอก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของใครบางคนเดินตามขึ้นมาด้วย เธอจึงหยุดเดิน ในตอนแรกออสการ์คิดว่าเป็นเสียงฝีเท้าของอังเดร หรือไม่ก็อัลเลน
ออสการ์ : “ฉันบอกว่าตรงนี้คนเดียวก็พอไง!” แต่เธอก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าคนที่เดินขึ้นมานั้นไม่ใช่อังเดร หรืออัลเลน แต่เป็นบาสตาร์ด ลูกน้องในกองทหารลาดตระเวนหน่วยบี เดินถือปืนไรเฟิลตามขึ้นมา
ออสการ์ : “เธอมาทำอะไรที่นี่! เธอลืมคำสั่งของฉันแล้วหรอ? ไปรอในป่า กลับไปเดี๋ยวนี้!” ออสการ์ออกคำสั่ง
บาสตาร์ด : “อย่าเข้มงวดนักเลยหัวหน้า ฉันมาช่วยท่านนะ”
ออสการ์ : “กลับไป ฉันสามารถลงโทษนายที่ขัดคำสั่งของฉันได้นะ” ออสการ์ขู่ แล้วก็เดินขึ้นบันไดต่อไป โดยคิดว่าบาสตาร์ดคงจะกลับออกไปตามคำสั่งของเธอ
ออสการ์เดินขึ้นบันไดต่อไปจนถึงระเบียงของหอคอยที่มองเห็นทุ่งหญ้าสีเหลืองอร่ามรอบๆปราสาท แต่ทันใดนั้นเองออสการ์ก็ต้องตกใจเมื่อหันหลังกลับมาเห็นบาสตาร์ดจ่อปืนไรเฟิลมาที่เธอ
บาสตาร์ด : “ถ้าแกตาย ทหารลาดตะเวนก็จะไม่ต้องคุ้มกัน ดยุคอาเดลอส!”
ออสการ์ : “แกเป็นพวกเดียวกับผู้ก่อการร้ายหรอเนี่ย?!” ออสการ์ตกใจ
บาสตาร์ด : “ลาก่อน หัวหน้าหญิงผู้มีน้ำใจ!” บาสตาร์ดเหนี่ยวไกยิงออสการ์ทันที ในวินาทีนั้นเอง ออสการ์กระโดดหลบโดยล้มตัวไปบนพื้นทางขวา พร้อมกับใช้ปืนสั้นในมือยิงสวนกลับไป ออสการ์รอดพ้นกระสุนของบาสตาร์ดไปได้อย่างหวุดหวิด ส่วนบาสตาร์ดนั้นถูกออสการ์ยิงเข้าที่ต้นแขนซ้ายจนปืนไรเฟิลกระเด็นหลุดออกจากมือไป ทางด้านของอัลเลนและอังเดรได้ยินเสียงปืนก็รู้สึกตกใจเหมือนกัน
อัลเลน : “เสียงปืนอะไรน่ะ?”
อังเดร : “ออสการ์!” อังเดรรีบวิ่งขึ้นไปหาออสการ์ด้านบนของปราสาทด้วยความเป็นห่วงสุดขีด
ทางด้านบาสตาร์ดถึงแม้จะถูกยิง แต่เขายังคงไม่ยอมแพ้ เขาชักมีดสั้นที่เตรียมไว้ออกมา
ออสการ์ : “ใครเป็นหัวหน้าของแก? ถ้าแกบอกฉัน ฉันจะพิจารณาโทษของแกใหม่” ออสการ์พยายามเค้นถามแต่บาสตาร์ดก็ไม่ได้สนใจคำขู่ของออสการ์ เขาถือมีดสั้นวิ่งเข้าไปพยายามแทงออสการ์อีก แต่ออสการ์ก็หลบหลีกได้อย่างง่ายดาย บาสตาร์ดยังคงไม่ละความพยายาม เขาวิ่งกลับเข้าไปแทงออสการ์อีกครั้ง แต่ถูกออสการ์สกัดขาจนล้มคว่ำ
ออสการ์ : “อย่าเลย! แกไม่สามารถฆ่าฉันได้ด้วยแขนข้างเดียวหรอก! แกควรจะเป็นห่วงแผลของตัวเองมากกว่า นายจะตายก่อนที่จะได้ฆ่าฉัน!” เลือดยังคงไหลออกมาจากบาดแผลของบาสตาร์ดไม่หยุด
บาสตาร์ด : “พวกเขาบอกฉันว่า ถ้าฆ่าแกแล้ว! จะเป็นประโยชน์กับยุคใหม่ ฉันไม่สนหรอกว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับฉัน!” ทันใดนั้นเอง ออสการ์ก็สังเกตเห็นว่าอังเดรกับอัลเลนทั้งสองคนได้ขึ้นมาถึงระเบียงอีกข้างหนึ่งของหอคอยแล้ว เมื่ออังเดรและอัลเลนขึ้นมาถึงระเบียงของหอคอยและมองมาที่ระเบียงหอคอยอีกฝั่ง พวกเขาก็เห็นบาสตาร์ดกำลังจะวิ่งเข้าแทงออสการ์ พวกเขาทั้งสองคนจึงลั่นไกยิงบาสตาร์ดทันที
ออสการ์ : “อย่ายิง!” ออสการ์ร้องตะโกนห้าม แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว อังเดร และอัลเลนยิงบาสตาร์ดเสียชีวิตทันที
ทางด้านเซนต์จัสและพวกของเขาที่ซุ่มดูเหตุการณ์อยู่ใกล้ๆก็รู้ทันทีว่าบาสตาร์ดทำงานพลาดแล้ว
พวกเซนต์จัส : “ดูเหมือนว่าเขาจะทำพลาดนะ เราจะทำยังไงต่อไป?”
เซนต์จัส : “เราจะทำยังไงน่ะหรอ? แผนยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เราแค่ทำมันต่อไป สหาย!”



Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2563
Last Update : 11 พฤศจิกายน 2563 22:53:04 น.
Counter : 1023 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Lady Oscar
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]



New Comments
กุมภาพันธ์ 2563

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
18
21
22
25
27
28
29
 
All Blog