ตอนที่ 12(1) ออสการ์ดวลกันในตอนเช้าหรอ...? (Oscar at the Duel at Dawn...?)

         ในเช้าวันหนึ่งระหว่างที่ออสการ์และอังเดรกำลังขี่ม้าอยู่ภายในพระราชวังแวร์ซายส์เพื่อที่จะไปทำงานตามปกติ พวกเค้าก็บังเอิญได้พบกับขบวนของดยุคโอเลียนและเหล่าขุนนางที่กำลังจะเดินทางออกไปล่าสัตว์
อังเดร : “ดูเหมือนว่าพวกเค้ากำลังจะไปล่าสัตว์นะ”
ออสการ์กับอังเดรจึงหลีกทางให้พวกเค้าผ่านไป แต่เมื่อดยุคเจอร์เมนขี่ม้าผ่านหน้าออสการ์เค้าก็ตั้งใจเหยียบน้ำที่นองอยู่ตรงพื้นให้กระเด็นใส่หน้าออสการ์
ออสการ์ : “นั่นดยุคเจอร์เมน” เมื่อออสการ์เห็นหน้าของดยุคเจอร์เมนก็ทำให้คิดถึงเหตุการณ์ที่เค้ายิงเด็กตัวเล็กๆ ที่ขโมยเงินเพราะความหิวอย่างเลือดเย็น เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาทีไรออสการ์ก็รู้สึกโกรธแค้นขึ้นมาทุกที ออสการ์เตรียมจะชักดาบขึ้นมา แต่ก็ถูกอังเดรห้ามไว้
อังเดร : “เธอคิดจะทำอะไรน่ะ!?”
ออสการ์ : “ปล่อย!”
อังเดร : “ถ้าเธอเผชิญหน้ากับดยุคเจอร์แมนในที่แบบนี้ล่ะก็ เธอจบแน่!”
ออสการ์ : “ฉันจะไม่ยอมยกโทษให้มัน! เมื่อฉันนึกถึงเหตุการณ์วันนั้นขึ้นมาทีไร ก็ทำให้เลือดในตัวฉันเดือดขึ้นมาทุกที”
 
          ภายในโถงทางเดินของพระราชวังแวร์ซายส์ที่เต็มไปด้วยชนชั้นสูงรวมถึงออสการ์และอังเดรก็อยู่ที่นั่นด้วย มีมาดามท่านหนึ่งเดินนำขบวนของหญิงสาวซึ่งถือกล่องใส่ของเรียงเป็นตั้งสูงหลายสิบกล่อง เดินมายังทางเดินตรงไปที่ห้องของพระนางอังตัวเน็ต ออสการ์จึงถามอังเดรด้วยความสงสัยว่าพวกเค้าเป็นใครและในกล่องพวกนั้นมีอะไรกันแน่
ออสการ์ : “นั่นอะไรน่ะ?”
อังเดร : “เธอไม่รู้หรอ?”
ออสการ์ : “อืม”
อังเดร : “คนพวกนั้นมาจาก โรส เบอร์ติน ร้านตัดเสื้อในปารีส พวกเค้าเริ่มเข้ามาในวังเมื่อไม่นานมานี้และพระราชินีอังตัวเน็ตก็ทรงโปรดมากเลยล่ะ”
ออสการ์ : “มีเสื้อผ้าอยู่ในกล่องพวกนั้นหรอ?”
อังเดร : “คงจะใช่ มิน่าล่ะ สองเดือนมานี้รัฐมนตรีกระทรวงการคลังถึงได้บ่นเรื่องค่าใช้จ่ายของร้านเบอร์ตินว่ามันสูงอย่างไม่น่าเชื่อ เธอคิดว่าพระราชินีอังตัวเน็ตใช้จ่ายมากไปรึเปล่า ออสการ์?” ออสการ์ไม่ได้ตอบอะไร
        มาดามเบอร์ตินและลูกน้องได้ขนเสื้อผ้ามากมายมาให้พระราชินิอังตัวเน็ตและสตรีชั้นสูงอีกสองคนได้เลือกชม ภายในห้องของพระนางเต็มไปด้วยเสื้อผ้า
มาดามเบอร์ติน : “ฝ่าบาททอดพระเนตรดีไซน์พวกนี้สิเพคะ” มาดามเบอร์ตินหยิบชุดราตรีสีส้มที่สวมอยู่ในหุ่นมานำเสนอให้พระราชินีและสตรีชั้นสูงที่อยู่ภายในห้องได้ชม
อังตัวเน็ต : “ว้าว”
สตรีชั้นสูง : “ถ้าฝ่าบาทสวมชุดนี้แล้วล่ะก็ จะต้องมีผู้ชายไม่ต่ำกว่า 50 คนตะลึงจนเป็นลมล้มฟุบในงานเลี้ยงเต้นรำตอนค่ำนี้แน่ๆเลยเพคะ!” แล้วลูกน้องขอมาดามเบอร์ตินก็หยิบชุดราตรีที่ตัดเย็บด้วยผ้าไหมสีเขียว ตัดกับริบบิ้นสีม่วงและสีดำออกมานำเสนอ
มาดามเบอร์ติน : “และชุดนี้ เรียกว่า‘ความลึกลับ’ เพคะ” ลูกน้องของมาดามเบอร์ตินนำชุดมาทาบลงบนตัวของพระนางอังตัวเน็ต
สตรีชั้นสูง : “โห สวยจังเลย! มันเหมาะกับฝ่าบาทเป็นที่สุดเพคะ!”
อังตัวเน็ต : “แต่ฉันมีชุดพระราชพิธี 18 ชุดแล้วนะ เมื่อเดือนที่แล้วฉันก็พึ่งตัดชุดราตรีไป 38 ชุด”
มาดามเบอร์ติน : “ทรงตรัสอะไรอย่างนั้นเพคะ! พระราชินีจะต้องเป็นผู้นำแฟชั่นอยู่เสมอสิเพคะและฝ่าบาทจะต้องเป็นแบบอย่างของสังคมชั้นสูง”
สตรีชั้นสูง : “จริงด้วย! ถูกต้องแล้วเพคะฝ่าบาท”
อังตัวเน็ต : “ก็ใช่นะ แต่ฉันคิดว่าชุดนี้น่าจะใช้ผ้าไหมสีน้ำตาลจะดูเหมาะกว่าสีนี้นะ ท่านคิดว่ายังไง?”
มาดามเบอร์ติน : “ตามที่พระราชินีต้องการเพคะ พระองค์นี่รสนิยมดีจริงๆเลยเพคะ”
สตรีชั้นสูง : “สวยจังเลย! ฉันก็อยากได้บ้าง!”
ระหว่างนั้นเอง ออสการ์กับอังเดรก็ได้เข้ามาในห้องของพระนางอังตัวเน็ต
ออสการ์ : “ฝ่าบาทพะยะค่ะ!”
อังตัวเน็ต : “โอ้ ยินดีที่ได้พบเธอนะออสการ์! ฉันรอเธอทุกวันเลย เธอหายหน้าหายตาไปนานเลยนะ มีปัญหาอะไรรึเปล่า ออสการ์?”
ออสการ์ : “เปล่า พะยะค่ะ”
พระนางอังตัวเน็ตหยิบผ้าไหมสีน้ำตาลเข้มขึ้นมาให้อังเดรดู
อังตัวเน็ต : “นี่อังเดรเธอคิดว่าสีนี้เป็นยังไงบ้าง? สีน้ำตาลแบบนี้สวยใช่มั้ย?”
อังเดร : “เออ...คือหม่อมชั้นคิดว่าสีของมันเหมือนตัวหมัดนะ พะยะค่ะ" อังเดรซึ่งตอบไปตามที่เค้าคิด ในตอนแรกนั้นก็ทำให้สตรีชั้นสูงและมาดามเบอร์ตินรู้สึกไม่พอใจ
สตรีชั้นสูง : “สีของตัวหมัดหรอ? เธอกล้าดียังไง?” แต่แล้วมาดามเบอร์ตินก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
มาดามเบอร์ติน : “สีของหมัดหรอ? สีหมัด? อัจฉริยะมาก! ฉันจะเอาชื่อนี้แหละ!” มาดามเบอร์ตินเห็นด้วยกับอังเดร
อังตัวเน็ต : “ถ้าลองแยกเป็นสีท้องหมัด สีขาหมัดดูล่ะ ท่านคิดว่ายังไง?”
มาดามเบอร์ติน : “เป็นไอเดียที่ยอดเยี่ยมเพคะฝ่าบาท! ฉันตัดสินใจแล้ว สีแฟชั่นประจำปีนี้ คือ สีหมัด”
สตรีชั้นสูง : “ตัดชุดสีท้องหมัดให้ฉันบ้างนะ ชุดฉันในสีหมัดด้วย! สีหมัด! สีหมัด!”
 
หลังจากที่ออสการ์และอังเดรเข้าเฝ้าพระนางอังตัวเน็ตเสร็จ พวกเค้าก็เดินมานั่งพักบริเวณน้ำพุภายในวัง อังเดรเองรู้สึกไม่ชอบใจในพฤติกรรมของพระนางอังตัวเน็ต เค้าจึงบ่นให้ออสการ์ฟัง
อังเดร : “บ้าที่สุด! สีหมัดบ้าบออะไรกัน!”
ออสการ์ : “ไม่รู้สิแต่ฟังแล้วดูคันๆยังไงไม่รู้” ออสการ์ตอบแบบขำๆ
อังเดร : “ตอนนี้พระองค์กลายเป็นราชินีแล้ว พระองค์มีหน้าที่มากมายนับไม่ถ้วนเกี่ยวกับชาติบ้านเมืองที่ต้องทำ แต่ทุกวันนี้พระองค์แสวงหาแต่สิ่งที่พระองค์ปรารถนา! ก่อนหน้านี้เธอก็เคยพูดไม่ใช่หรอว่า เงินทั้งหมดที่ฝ่าบาทใช้จ่ายนั้นมาจากภาษีของประชาชน แต่พระองค์กลับใช้มันไปกับงานเลี้ยงเต้นรำและเสื้อผ้า...สิ้นเปลืองจริงๆ!” ออสการ์ได้ยินดังนั้นก็รู้สึกไม่สบายใจ แต่ตัวเธอเองรู้สึกถึงพระทัยของพระนางอังตัวเน็ตดี ว่าพระนางต้องทนทุกข์ทรมานมากแค่ไหน
ออสการ์ : “ฉันเคยพูด แต่ตอนนี้...ฉันอยากจะให้พระนางได้ทำในสิ่งที่พระนางปรารถนาอีกซักหน่อย พระนางรู้สึกโดดเดี่ยว กุหลาบจะบานได้อย่างไรถ้าขาดแสงอาทิตย์? เมื่อไม่มีดาวหรือพระจันทร์แล้ว กะลาสีเรือจะหาแผ่นดินเจอได้อย่างไรกัน?”
อังเดร : “เธอหมายถึง ฮานส์ แอ็คเซล วอน แฟร์ซองใช่มั้ย?”
ออสการ์ : “พระนางพยายามที่จะลืมความโดดเดี่ยว...ด้วยการแต่งตัวและซึมซับในการชมละคร ฉันอยากจะให้เธอเข้าใจด้วย เราไปกันเถอะ ฉันอยากจะไปดูการเตรียมพร้อมสำหรับงานเลี้ยงวันพรุ่งนี้”
 
          ณ พระราชวังในประเทศออสเตรีย เสนาบดีได้นำภาพวาดที่พระนางอังตัวเน็ตได้ส่งมาให้พระมารดาของเธอ จักรพรรดินี มาเรีย เทเรซ่า มาถวาย ภาพวาดนั้นเป็นภาพของพระนางอังตัวเน็ตแต่งกายด้วยชุดราตรีสีสันฉูดฉาด บนศีรษะประดับด้วยขนนกช่อใหญ่ ดูสวยงาม แต่พระนางมาเรีย เทเรซ่า ไม่คิดเช่นนั้น เมื่อเธอได้เห็นภาพวาดนั้น ก็รู้สึกไม่พอพระทัยเป็นอย่างมาก
เทเรซ่า : “อะไรเนี่ย...ทำไมเธอถึงได้กลายเป็นแบบนี้!”
เสนาบดี : “พระองค์ทรงมีพระศิริโฉมงดงามมากขึ้นนะพะยะค่ะ”
เทเรซ่า : “นี่มันไม่สวย! นี่มันไม่ใช่ภาพวาดของราชินิแห่งฝรั่งเศส แต่มันเป็นภาพของนักแสดงหญิงที่แต่งตัวฉูดฉาดต่างหาก!”
เสนาบดี : “แต่...”
เทเรซ่า : “ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าลูกสาวของฉันจะแต่งตัวโง่ๆและฟุ่มเฟือยขนาดนี้ ส่งรูปกลับไปฝรั่งเศสเดี๋ยวนี้” พระนางเทเรซ่า รู้สึกเสียพระทัยเป็นอย่างมากที่พระธิดาของเธอที่เป็นถึงราชินีของฝรั่งเศส แต่ไม่ได้ทำหน้าที่ของราชินีที่ดีเลย แต่พระนางก็ไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากสวดอ้อนวอนต่อพระแม่มารี “พระแม่มารี...ความหลงใหลในเพชรนิลจินดาและการแต่งตัว เธอรู้มั้ยว่าเธอได้ใช้เงินภาษีของประชาชนไปเท่าไหร่แล้ว? พระแม่มารี ได้โปรดคุ้มครองเธอด้วย”
 
ทางด้านของพระนางมารีอังตัวเน็ตนั้นถึงแม้ว่าจะเป็นถึงราชินี มีชีวิตที่หรูหราและสุขสบาย แต่ในพระทัยของพระองค์รู้สึกโดดเดี่ยวและไม่ได้มีความสุขเลยซักนิดตั้งแต่แฟร์ซองได้จากไป พระนางสวมชุดราตรีสีหมัดยืนอยู่หน้ากระจกและพูดกับตัวเองว่า
อังตัวเน็ต : “เธอดูมีความสุขดีนะ มารี อังตัวเน็ต เธอสวยขึ้น นางฟ้าแห่งแวร์ซายส์ ราชินิแห่งร็อคโกโก กุหลาบแห่งแวร์ซายส์! ทุกคนต่างหลงใหลในตัวฉัน แต่...ทำไมฉันยังรู้สึกว่าฉันขาดอะไรไป? แม่คะ บอกลูกหน่อยความรู้สึกแบบนี้มันคืออะไร?”
 
          ณ ห้องอาหารภายในพระราชวังแวร์ซาย กำลังมีงานเลี้ยงอาหารของเหล่าราชนิกูลอยู่ โดยมีออสการ์ ยืนรักษาการในฐานะของทหารรักษาพระองค์ ระหว่างรับประทานอาหารและดื่มไวน์ ก็ได้มีการพูดคุยกันตามปรกติ
เค้าท์โอเลียน : “มันคือไวน์ Chateau Iquemo ปี 1692 รสชาติเยี่ยมมาก”
ท่านป้าอเดลเลต : “ปี 91 เป็นปีที่โหดร้ายมาก คงเป็นเพราะฝนตกมากเกินไป”
เค้าท์เจอร์เมน : “และในปี 80 เจ้าของคฤหาสน์บอโดก็หมดอำนาจลง เค้าจึงใช้ชีวิตเรียบง่ายอย่างเกษตรกร”
พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 : “แล้วมันมีผลกับรสชาติของไวน์ด้วยหรอ?”
เค้าท์เจอร์เมน : “มีแน่นอน เพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดี จะต้องแลกด้วยชีวิตของชาวนา ถ้าพวกเค้าขี้เกียจละก็ พวกเราก็จะไม่ได้กินอาหารดีดีแบบนี้หรอก ฮ่าฮ่าฮ่า”
ในระหว่างนั้นพระนางอังตัวเน็ตก็ได้พูดขัดขึ้นมาว่า
อังตัวเน็ต : “ฉันคิดว่าจะยกเลิกการประชุมในตอนเช้า พวกท่านคิดว่ายังไง?” พระนางอังตัวเน็ตหันไปถามความเห็นของเหล่าราชนิกูล ดยุคโอเลียนถึงแม้ว่าจะรู้ดี ว่านี่คือหน้าที่ที่พระราชาและพระราชินีควรจะทำ แต่เค้าก็ยังเห็นด้วยกับความคิดนี้ เพราะเค้าไม่ต้องการให้พระราชาและพระราชินีนั้นกลายเป็นที่รักของประชาชน เค้าจึงแกล้งทำเป็นเห็นดีเห็นงามกับความคิดนี้
เค้าท์โอเลียน : “ดีพะยะค่ะ พวกเราจะได้ตื่นสายๆ” และด้วยความที่พระราชายังทรงพระเยาว์จึงเห็นด้วยกับความคิดนี้เช่นกัน
พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 : “ถ้าไม่มีการประชุมในวันอังคาร พวกเราก็จะได้ออกไปล่าสัตว์กันแต่เช้า”
อังตัวเน็ต : “ดยุคเจอร์เมนแล้วท่านล่ะ?”
เค้าท์เจอร์เมน : “ดีพะยะค่ะ เป็นความคิดที่ดี มันไม่จำเป็นสำหรับพระราชินีของฝรั่งเศสที่จะต้องให้พวกชาวนาเข้าเฝ้า รีบๆยกเลิกไปซะก็ดี” ในขณะที่ทุกคนกำลังเห็นดีเห็นงามกับความคิดนี้กันอยู่นั้น ออสการ์ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์และไม่เห็นด้วยกับความคิดนี้ จึงจำเป็นที่จะต้องพูดขัดขึ้นมา
ออสการ์ : “แต่...” เค้าเจอร์เมนซึ่งเป็นพวกเดียวกับเค้าท์โอเลียนเห็นว่าออสการ์กำลังจะทำให้แผนของพวกเค้าเสีย จึงพูดขัดขึ้นมา
เค้าท์เจอร์เมน : “โอ้ นี่พวกเค้าไม่ได้สอนมารยาทให้กับทหารรักษาพระองค์หรอ เป็นแค่ทหารจะมาพูดแทรกระหว่างการสนทนาของเชื้อพระวงศ์ได้ยังไงกัน!”
อังตัวเน็ต : “ไม่เป็นไรหรอก ออสการ์เป็นเพื่อนของฉัน พูดมาเลย ออสการ์”
ออสการ์ : “การประชุมนอกจากจะเพื่อชนชั้นสูงแล้ว การประชุมกับประชาชนทั่วไปนั้น เป็นหน้าที่ของพระราชาและพระราชินีพะยะค่ะ”
อังตัวเน็ต : “หน้าที่หรอ?”
ออสการ์ : “ถ้าพระองค์ได้พูดคุยกับประชาชนซึ่งเดินทางมาจากที่ห่างไกล พระองค์ก็จะรักและเข้าใจพวกเค้ามากขึ้น นอกจากนี้ฝ่าบาทจะได้เรียนรู้สิ่งต่างๆภายนอกวังและเรียนรู้เกี่ยวกับราษฎรของพระองค์ด้วยพะยะค่ะ ดังนั้น...” เมื่อพระนางอังตัวเน็ตได้ฟังเหตุผลของออสการ์แล้วก็เปลี่ยนพระทัยทันที
อังตัวเน็ต : “อ๋อ ฉันเข้าใจแล้ว”
ออสการ์ : “ได้โปรด หม่อมชั้นขอร้องว่าอย่าตัดความสัมพันธ์ของฝ่าบาทกับประชาชนของฝ่าบาทเลยพะยะค่ะ”
อังตัวเน็ต : “ฉันจะทำตามที่เธอบอกนะออสการ์”
ออสการ์ : “ขอบพระทัยพะยะค่ะ ฝ่าบาท”
ทั้งดยุคโอเลียน และ ดยุคเจอร์เมนที่ไม่ชอบออสการ์อยู่แล้วก็ยิ่งรู้สึกไม่พอใจมากขึ้นที่ออสการ์ทำให้เค้าเสียโอกาสไป

หน้าถัดไป




Create Date : 30 มิถุนายน 2555
Last Update : 29 มีนาคม 2563 15:02:06 น.
Counter : 2390 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Lady Oscar
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]



New Comments
มิถุนายน 2555

 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
7
8
9
11
12
13
14
15
17
18
19
20
21
22
23
25
26
27
28
29
 
All Blog