กุหลาบแวร์ซายส์ , Lady Oscar , La Rose de Versailles , The Rose of Versailes , Berusai No Bara
|
||||
ตอนที่ 33(1) เสียงระฆังแห่งการสูญเสียดังขึ้นในตอนค่ำ (A Funeral bell tolls in the twilight) ค่ำคืนหนึ่งในปารีส ที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายทางการเมือง มีชายขอทานตาเดียวที่เล่นดนตรีขับกล่อมผู้คน และร้องเพลงสะท้อนความเป็นไปของปารีสในตอนนั้น ขอทานตาเดียว : “ทำไมแม่น้ำแซนถึงดำมืด? ปารีสเมืองแห่งดอกไม้หายไปไหน? ทุกคนต่อสู้เพื่อขนมปัง ผู้คนที่ร้องเพลงดอกไม้และกระซิบบอกรัก แม่น้ำแซนไหลไปที่ไหน?” ในฤดูหนาว ปี 1788... ความวุ่นวายทางการเมืองและวิกฤตการเงินที่คาราคาซังของราชวงศ์นำมาซึ่งการเก็บภาษีแบบใหม่ ความไม่พอใจและความยากจนของประชาชนฝรั่งเศสมาถึงขีดจำกัดแล้ว แต่แวร์ซายส์ยังคงยึดติดกับอำนาจ เหล่าคณะรัฐมนตรี ขุนนางชั้นสูงและพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 กำลังประชุมกันอย่างเคร่งเครียด รัฐมนตรี : “ถ้าท่านต้องการจะเก็บภาษีแบบใหม่และยืมเงิน 240 ล้านลีฟแล้วล่ะก็ พวกท่านก็ควรจะต้องประชุมกับสภาฐานันดรก่อน ไม่ใช่แค่นักบวชหรือขุนนางจากฐานันดรที่หนึ่งและสองเท่านั้น แต่ต้องรวมถึงสามัญชนจากฐานันดรที่สามด้วย ตัวแทนจากทุกฐานันดรต้องเข้าร่วมด้วย” “ฝ่าบาท เราไม่มีทางอื่นที่จะแก้ปัญหาวิกฤตการเงินของราชวงศ์ที่พอกพูนด้วยหนี้สิน นอกซะจาก ขุนนาง นักบวช และประชาชนจะยอมรับในการเก็บภาษีแบบใหม่ ได้โปรดพิจารณาด้วยพะยะค่ะ ฝ่าบาท!” “เดี๋ยวก่อน ท่านพูดว่าประชาชนต้องเป็นส่วนหนึ่งของการเมืองงั้นหรอ?!” “พระองค์อย่าทรงอนุญาตนะฝ่าบาท!” “สามัญชนอวดดีและเริ่มที่จะทำตามอำเภอใจตัวเอง อำนาจของฝ่าบาทจะลดลงในอนาคต!” “ฝ่าบาทจะต้องเปิดการประชุมสภาฐานันดรอีกครั้ง เป็นครั้งแรกในรอบ 200 ปี!” แกนนำการปฏิวัติฝรั่งเศสเริ่มด้วยขุนนางกบฏบางคน เริ่มโต้แย้งกับกฎของฝรั่งเศสแทนพระราชา ในขณะที่ประชาชนยังคงเดินขบวนเรียกร้องให้ส่งตัวแทนของสามัญชนเข้าไปในสภาฐานันดรอยู่ทั่วปารีส ม็อบ : “สภาฐานันดร! ส่งตัวแทนของเราเข้าไปในสภาฐานันดร!” ในวันหนึ่งที่หิมะเริ่มโปรยปราย เบอร์นาร์ด ลูกน้องของโรเบสปิแอร์แกนนำการปฏิวัติ ได้ขึ้นปราศรัยท่ามกลางประชาชนที่เนืองแน่น ในวันนั้นเอง อังเดรก็ได้แฝงตัวในกลุ่มคนเพื่อร่วมฟังการปราศรัยด้วย เบอร์นาร์ด : “ระบอบการปกครองแบบโบราณจะต้องล่มสลาย! ไม่ควรแบ่งแยกฐานันดรที่หนึ่ง สองหรือสาม!” อังเดร : “เบอร์นาร์ด...” เบอร์นาร์ด : “วันหนึ่งพวกเราจะต้องเท่าเทียมกัน! ทุกคนต้องสร้างความเท่าเทียม!” เสียงประชาชนโห่ร้องสนับสนุนเบอร์นาร์ด หลังจากจบการปราศรัย อังเดรได้เดินตามไปหาเบอร์นาร์ด อังเดร : “เบอร์นาร์ด! เฮ้ เบอร์นาร์ด!” อังเดรตะโกนเรียกเขา เบอร์นาร์ด : “อังเดร นายคืออังเดรนี่!” เบอร์นาร์ดยังคงจำอังเดรได้ อังเดร : “ฉันได้ยินคำปราศรัยของนาย มันเยี่ยมมาก!” อังเดรเห็นด้วยกับความคิดของเบอร์นาร์ด เบอร์นาร์ด : “ขอบคุณ โอ้ ท่านจะต้องอยากเจอใครบางคนแน่ๆ มาที่บ้านของฉันสิ อยู่ใกล้ๆตรงนี้เอง” เบอร์นาร์ดพาอังเดรไปที่บ้านของเขา เมื่อไปถึงบ้าน อังเดรก็ต้องแปลกใจและดีใจมากเมื่อได้พบกับโรซารี่ โรซารี่ : “โอ้! อังเดร! ยินดีต้อนรับค่ะ” โรซารี่ต้อนรับอังเดรด้วยความดีใจ โรซารี่ถือถาดน้ำชาเข้ามาให้โดยมีเบอร์นาร์ดยืนโอบไหล่อยู่ข้างๆ อังเดร : “โรซารี่?!” อังเดรแปลกใจที่เห็นโรซารี่ โรซารี่ : “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ” อังเดร : “นานมากเลย เธอเป็นยังไงบ้าง? เธอขาดการติดต่อกับเราไปเลย แล้ว...ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ กับเบอร์นาร์ดล่ะ? ฉันไม่เข้าใจ” อังเดรสงสัยว่าทำไมโรซารี่ถึงมาอยู่ที่นี่ แต่เมื่อลองคิดดู ก็ร้องออกมาด้วยความแปลกใจ “อ๊า! เธอสองคนแต่งงานกัน!” เบอร์นาร์ด : “ใช่ หลังจากเหตุการณ์อัศวินดำเล็กน้อย” อังเดร : “อ่อ ฉันเข้าใจแล้ว ยินดีด้วยนะ!” โรซารี่ : “เออ...ท่านออสการ์เป็นยังไงบ้างคะ?” อังเดร : “เธอสบายดี เธอย้ายจากทหารองครักษ์มาเป็นทหารลาดตระเวน แต่เธอยังคงทำงานหนักอยู่ตลอดเลย!” โรซารี่ได้ยินดังนั้นเธอก็คิดถึงและเป็นห่วงออสการ์ขึ้นมาจับใจจนน้ำตาเอ่อล้นออกมา อังเดร : “ไม่ต้องห่วงนะ โรซารี่ ไม่มีใครและอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากตอนนั้น ไม่มี” ภายนอกหน้าต่างเสียงของการเดินขบวนของประชาชนดังแว่วมาถึงในห้อง “สภาฐานันดร! ส่งตัวแทนของเราเข้าสภาฐานันดร!” เบอร์นาร์ด : “ใช่ ไม่มีใครและอะไรเปลี่ยนแปลง แต่การเปลี่ยนแปลงกำลังจะเกิดขึ้น!” โรซารี่ยกน้ำชามาวางบนโต๊ะให้อังเดร โรซารี่ : “อังเดร ทำตัวตามสบายได้เลยนะคะ แต่ฉันต้องออกไปทำงานก่อน” อังเดร : “อืม ขอบคุณนะ โรซารี่” โรซารี่ : “ได้โปรดฝากความคิดถึงของฉันให้ท่านออสการ์ด้วย” อังเดร : “อืม พวกเราคงจะต้องได้มาเจอกันอีก ซักวันหนึ่ง” แล้วโรซารี่ก็เดินออกจากห้องไป เบอร์นาร์ด : “ตอนนี้โรซารี่ทำงานในองค์กรของท่านโรเบสปิแอร์กับฉัน เธอต้องออกไปทำใบปลิวและโปสเตอร์สำหรับการชุมนุมครั้งต่อไปของพวกเรา” อังเดร : “เธอสองคนดูมีความสุขดีนะ” เบอร์นาร์ด : “จริงสิ...อังเดร ทำไมนายไม่มาเข้าร่วมกับเราล่ะ? นายแน่ใจได้เลยว่าจะไม่มีใครคัดค้านที่นายเป็นคนเลี้ยงม้าของขุนนางหรอก!” เบอร์นาร์ดชักชวนอังเดรให้เข้าร่วมกับพวกเขา อังเดร : “กาแฟดีมากเลย ถึงรสชาติจะอ่อน แต่เต็มเปี่ยมด้วยความรัก” อังเดรไม่ได้ตอบรับ แต่เขาเลี่ยงที่จะตอบ เบอร์นาร์ดจึงเข้าใจได้ว่าเขาปฏิเสธ เบอร์นาร์ด : “แล้วทำไมนายถึงมาฟังการปราศรัยของฉันล่ะ?! ทำไมนายถึงเข้าร่วมชุมนุมในวันนี้ล่ะ?” อังเดร : “ฉันพึ่งจะเลิกงาน ฉันแค่ว่างน่ะ” ทันใดนั้นเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ลูกน้องเบอร์นาร์ด : “เบอร์นาร์ด! เบอร์นาร์ด!” แล้วลูกน้องของเบอร์นาร์ดก็เปิดประตูเข้ามาแจ้งข่าวด้วยความตื่นเต้น “พึ่งมีคำสั่ง! จะมีการเปิดประชุมสภาฐานันดร!” เบอร์นาร์ด : “อะไรนะ?! จริงหรอ?!” เบอร์นาร์ดได้ยินดังนั้นก็รู้สึกดีใจ ความหวังในการเปลี่ยนแปลงประเทศให้ดีขึ้นเริ่มชัดเจน ในเดือนมกราคม 1789 พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 มีรับสั่งให้เปิดประชุมสภาฐานันดรในวันที่ 1 พฤษภาคม การประชุมสภาฐานันดรเท่ากับว่ามีการจำกัดอำนาจการปกครองแบบเผด็จการของกษัตริย์ แต่พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ก็ไม่มีทางที่จะเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ได้ ในวันหนึ่ง ออสการ์ได้รับข้อความด่วนจากพระนางอังตัวเน็ตให้เข้าพบ ณ วังมูร์ดง เป็นปราสาทเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในเขตมูร์ดง ที่ซึ่งพระราชินีย้ายมาประทับเพื่อดูแลพระโอรสที่กำลังประชวร มกุฎราชกุมารหลุยส์ โจเซฟ ออสการ์รีบขี่ม้ามาที่ปราสาทมูร์ดงทันที ออสการ์ : “ฉันคือหัวหน้ากอง ออสการ์ ฟรังซัวส์ เดอ จาร์เจส์ ฉันมาที่นี่ตามรับสั่งด่วนของพระนางอังตัวเน็ต ได้โปรดกราบฑูลพระนางด้วยว่าฉันมาแล้ว!” ออสการ์เดินเข้าไปในปราสาทก็พบกับพระนางอังตัวเน็ตที่รอเธออยู่ด้วยความร้อนใจ ออสการ์ : “พระนางอังตัวเน็ตพะยะค่ะ!” อังตัวเน็ต : “ออสการ์! ขอบคุณที่มานะ ออสการ์ โจเซฟต้องการพบเธอ” ออสการ์ : “องค์ชายหรอ?” ออสการ์รู้สึกแปลกใจ แต่แล้วความสงสัยทั้งหมดก็คลี่คลาย เมื่อพระนางอังตัวเน็ตบอกเล่าถึงอาการของมกุฏราชกุมารหลุยส์โจเซฟให้ออสการ์ฟัง อังตัวเน็ต : “เขาอาจจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกิน 6 เดือน กระดูกสันหลังของเขาคด เลยทำให้กระดูกซี่โครงผิดรูป อาการเยื่อหุ้มไขสันหลังอักเสบเริ่มรุนแรงขึ้น เขาพึ่งจะ 7 ขวบ...” อังตัวเน็ตพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงโวยวายขององค์ชายดังออกมาจากห้องบรรทม โจเซฟ : “เงียบนะ! ออกไป!” นางกำนัน : “ไม่ได้เพคะ องค์ชาย! องค์ชาย!” ภายในห้องบรรทมของเจ้าชายหลุยส์โจเซฟ เจ้าชายที่นอนป่วยอยู่บนเตียงมานาน กำลังดิ้นรนอยากจะออกไปข้างนอก แต่ถูกนางกำนันห้ามไว้ โจเซฟ : “ฉันจะออกไป! ฉันจะไป! ปล่อยฉันนะ! ฉันอยากอยู่คนเดียว!” พระนางอังตัวเน็ตเดินนำออสการ์เข้าไปหาโจเซฟ อังตัวเน็ต : “โจเซฟ” ออสการ์ : “องค์ชาย” โจเซฟ : “ออสการ์...” เมื่อโจเซฟเห็นออสการ์ก็สงบลงทันที ออสการ์ : “ได้โปรดยกโทษให้หม่อมชั้นด้วย ที่ไม่ได้มาเยี่ยมองค์ชายนานแล้ว” โจเซฟ : “ออสการ์...ออสการ์” องค์ชายรู้สึกดีใจมากที่ได้เจอออสการ์ ออสการ์ : “พะยะค่ะ ฝ่าบาท” โจเซฟ : “ได้โปรด พาฉัน...พาฉันออกไปข้างนอกที! ได้โปรดพาฉันไปขี่ม้าหน่อย!” องค์ชายขอร้องออสการ์ ออสการ์ : “ฝ่าบาท...” โจเซฟ : “ฉันอยากขี่ม้ากับออสการ์!” อังตัวเน็ต : “ไม่เป็นไรหรอก ออสการ์ ได้โปรด ได้โปรดทำให้ความฝันของเขาเป็นจริงด้วยเถอะ” อังตัวเน็ตพูดด้วยน้ำตานองหน้า เธอรู้สึกสงสารลูกชายจับใจ ออสการ์ : “พะยะค่ะ ฝ่าบาท” ออสการ์พาเจ้าชายหลุยส์โจเซฟนั่งบนม้าสีขาวของเธอทางด้านหน้า แล้วพาไปขี่ม้าในสนามรอบๆวัง โจเซฟ : “ฮ่าฮ่าฮ่า ฮี่ก๊อบๆ! ฮี่ก๊อบๆ!” องค์ชายร้องออกมาด้วยความสนุกสนาน ออสการ์ : “ฮ่าฮ่า อย่าดึงม้าแรงสิพะยะค่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า” โจเซฟ : “ฮ่าฮ่าฮ่า ฮี่ก๊อบๆ! ฮี่ก๊อบๆ!” โจเซฟ : “ฉันหวังว่าฉันจะได้มาขี่ม้าแบบนี้ ตลอดไป...” เมื่อขี่ม้ามาซักพักองค์ชายก็เผลอหลับไปในอ้อมแขนของออสการ์ ออสการ์จึงพาองค์ชายมานอนพักบนพื้นหญ้าริมลำธาร ออสการ์ใช้ผ้าเช็ดหน้าสีขาวชุบน้ำ แล้วเอามาวางบนหน้าผากขององค์ชาย ออสการ์ : “องค์ชาย สบายดีมั้ยพะยะค่ะ ฝ่าบาท? เรารีบกลับกันดีกว่าพะยะค่ะ” โจเซฟ : “ฉันได้ยินมาว่าจะมีการเปิดประชุมสภาฐานันดร” ออสการ์ : “ใช่พะยะค่ะ” โจเซฟ : “ฉันจะกลับไปที่แวร์ซายส์ วันนั้นอาจจะถูกจารึกในประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศส ฝรั่งเศส...ที่วันหนึ่งฉันจะต้องปกครอง” ออสการ์ : “พะยะค่ะ ฝ่าบาทจะต้องกลายเป็นพระเจ้าหลุยส์ที่ 17...” แล้วออสการ์ก็รู้สึกตกใจเมื่อองค์ชายโจเซฟมีน้ำตาไหลออกมา โจเซฟลุกขึ้นและเข้ามากอดออสการ์ และจูบปากของเธอ โจเซฟ : “ฉันรักเธอ! เมื่อฉันเกิดใหม่ ฉันจะไม่ป่วย ฉันจะโตขึ้นอย่างมีสุขภาพที่ดีและเป็นผู้ชายที่ดี ได้โปรดรอฉันจนถึงวันนั้นนะ!” ทางด้านของพระนางอังตัวเน็ต เธอนั่งสวดมนต์อ้อนวอนอยู่หน้ารูปปั้นของประเยซู อังตัวเน็ต : “พระเจ้าได้โปรดช่วยให้หลุยส์โจเซฟได้มีชีวตอยู่ต่ออีกซักเดือน...ไม่สิ อีกซักสัปดาห์หรือซักวันก็ได้! ได้โปรด ได้โปรดเถิด พระเจ้า...” พอดีกับที่แฟร์ซองแวะมาเยี่ยมเธอ แฟร์ซองกำลังจะเดินเข้าไปหาอังตัวเน็ตแต่ทันใดนั้นพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ก็เดินผ่านมาพอดี พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 : “ขอโทษนะ” แฟร์ซองจึงต้องหลบให้ฝ่าบาทเดินผ่านไป พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 เดินเข้าไปหาพระนางอังตัวเน็ตที่กำลังสวดอ้อนวอนกับพระเจ้าอยู่ อังตัวเน็ต : “ฝ่าบาท...” พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 คุกเข่าลงข้างๆอังตัวเน็ต พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 : “เรามาสวดอ้อนวอนด้วยกันนะ” อังตัวเน็ต : “เพคะ” แฟร์ซองจึงกลับไปโดยไม่ได้พบกับพระนางอังตัวเน็ต ในคืนวันที่ฝนตกหนัก ภายในค่ายทหารของกองทหารลาดตระเวนหน่วยบี ระหว่างที่ทุกคนรวมทั้งอังเดรกำลังพักผ่อนอยู่นั้น อัลเลนก็เปิดประตูเข้ามา หลังจากที่เขาหายไปนาน เพื่อนทหาร : “เฮ้ อัลเลน! หัวหน้าทีม!” เพื่อนทหารต่างมารุมล้อมและดีใจที่เขากลับมา อัลเลน : “ไม่เจอกันนานเลยนะ ฉันยังต้องพึ่งพาพวกนายอยู่นะ” เพื่อนทหาร : “พวกเราได้ยินข่าวเกี่ยวกับไดแอนแล้ว มันคงจะเป็นเรื่องยากสำหรับนาย ฉันเสียใจด้วยนะ แล้วหลังจากนั้นแม่ของนายก็เสียชีวิตใช่มั้ย? นายหายไปไหนมาตั้งครึ่งปี? พวกเราคิดว่านายจะไม่กลับมาแล้ว” อัลเลน : “ใช่ ฉันก็ไม่คิดว่าจะกลับมาหรอก ฉันไปอยู่แถบชนบท ริมทะเล ไปเฝ้าหลุมฝังศพของแม่และไดแอน แต่ในเดือนพฤษภาคมหลังจากหน้าฝนนี้ ถ้ามีการเปิดประชุมสภาฐานันดร ฉันก็ควรจะกลับมา ฉันอยากติดตามดูอย่างใกล้ชิด ว่าตัวแทนของสามัญชนจะตั้งคำถามกับขุนนางว่ายังไง ใช่มั้ย อังเดร?” อัลเลนหันไปหาอังเดร “ฉันรู้ว่าตาที่บอดของนายมันมองไม่เห็นหรอก” ระหว่างที่ออสการ์ยืนมองสายฝนออกไปนอกหน้าต่างห้องทำงาน อังเดรก็เข้ามาหาเธอในห้อง อังเดร : “ออสการ์ เค้าท์แฟร์ซองกลับไปสวีเดนแล้ว มีข้อความจากกองทัพว่า เขาฝากความคิดถึงมาถึงเธอด้วย” อังเดรรายงาน แต่ออสการ์ไม่ได้สนใจอะไร “มีอะไรหรอออสการ์?” ออสการ์ : “อังเดร การฝึกพิเศษจะเริ่มขึ้นพรุ่งนี้ สำหรับการคุ้มกันสภาฐานันดร บอกคนอื่นๆด้วย” อังเดร : “ได้” |
Lady Oscar
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]
Group Blog All Blog
Friends Blog Link |
|||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |