..สีสันของความหลากหลาย อาจทำให้ความหมายของชีวิตแปรเปลี่ยน แต่ความเป็นเพื่อนยังคงหมุนเวียน สับเปลี่ยนอยู่ในตำแหน่งของความผูกพัน..
Group Blog
 
<<
กันยายน 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
24 กันยายน 2553
 
All Blogs
 

รำลึกถึงวันวาน(5)

ช่วงที่อยู่เมืองตาก อยู่กับผู้ว่าฯและรองผู้ว่าฯ หลายท่าน แต่ละท่านก็มีสไตล์การทำงานที่แตกต่างกัน ผู้ว่าฯ คนแรก คือท่านผู้ว่าฯ กาจ ท่านเอ็นดูและเมตตาเรามาก ส่วนท่านรองฯ ไพบูลย์ ท่านก็ใจดีมาก ๆ เอ็นดู ดูแลเราเหมือนลูกหลาน เสาร์อาทิตย์ ถ้าเราไม่ได้กลับกรุงเทพฯ ก็จะพาเราไปเที่ยวด้วย เป็นคนจังหวัดจันทบุรี แต่ผู้บังคับบัญชาที่เรารู้สึกประทับใจที่สุด ก็คือ ท่านรองฯ ฮึกหาญ ท่านย้ายมาอยู่ตากเมื่อเราอยู่ตากได้สี่ปี ก่อนที่ท่านจะย้ายมา ก็มีข่าวจากส่วนกลางสารพัดว่า ท่านเป็นคนที่ดุที่สุด พอท่านย้าย พวกข้างในก็พากันดีใจกันใหญ่ เราก็ยังไม่ค่อยรู้สึกอะไร เพราะยังไม่ได้เจอตัวจริง แต่พอท่านมาจริง ๆ ก็เป็นดังที่เค้าว่า คนอะไรดุชะมัด หน้าตาก็ไม่ค่อยจะยิ้มแย้มเอาซะเลย นึกถึงท่านรองฯ ไพบูลย์ จับใจ คนหนึ่งใจดี อีกคนก็ดุซะเหลือเกิน ความปั่นป่วน สับสนวุ่นวายเกิดขึ้นไปทั่วศาลากลาง ช่างเป็นสไตล์การทำงานที่ไม่เหมือนใครเลยจริง ๆ ข้าราชการในสำนักงานจังหวัด ขอย้ายกันเป็นแถว จนกองการเจ้าหน้าที่โทรมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น




แรก ๆ ที่ท่านมาอยู่ ใครที่เสนอหนังสือมา ไม่มีใครสักคนที่ผ่านไปได้ง่าย ๆ ต้องมีการแก้ไข ขีดฆ่าด้วยปากกาแดงเต็มไปหมด โยงตัวหนังสือเป็นลายแทงมหาสมบัติ ต้องพิมพ์ใหม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า กว่าจะผ่าน กว่าท่านจะเซ็นได้ สมัยก่อนยังไม่มีคอมพิวเตอร์ ถ้าแก้ไขก็ต้องพิมพ์ใหม่ทั้งหมด เจ้าหน้าที่พิมพ์ดีดมือเป็นระวิง จนพวกเราบ่นว่า มันอะไรกันนักกันหนา ท่านบอกว่า จะให้ผมผ่านไปได้ยังไง ดูซิพวกคุณพิมพ์ภาษาไทย ผิด ๆ ถูก ๆ เว้นวรรคตอนก็ผิด แม้แต่เลขที่หนังสือ เบอร์โทรศัพท์ พวกคุณก็ยังพิมพ์มาผิด ๆ แสดงว่าพวกคุณไม่ได้ใส่ใจกับหนังสือราชการเลย จะปล่อยออกไปให้คนอื่นเค้าหัวเราะเยาะเอาหรือ พวกคุณต้องเพิ่มความละเอียดรอบคอบ และเอาใจใส่ให้มากกว่านี้ พวกเราก็นึกทบทวนดู ก็จริงอย่างที่ท่านพูด เราไม่ได้ใส่ใจกับหนังสือเท่าที่ควร บางทีก็อ่านพอแค่ผ่าน ๆ ตา ละเลยรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ไป ท่านสอนให้เราตรวจดูหนังสือทุกตัวด้วยใจจรดจ่อ ท่านตั้งกฎไว้ว่า ถ้าพิมพ์ผิดหนึ่งตัวปรับ 1 บาท หลังจากนั้นเป็นต้นมา ความละเอียดรอบคอบของทุกคนก็เพิ่มมากขึ้นตามลำดับ เริ่มตั้งแต่เจ้าหน้าที่พิมพ์ดีด ที่จะต้องพยายามพิมพ์ให้ถูกต้องที่สุด เจ้าหน้าที่เจ้าของเรื่องก็ต้องตรวจทานอย่างละเอียด หัวหน้าก็ต้องกลั่นกรองงานอย่างดี พอทุกคนทำตามนี้แล้ว การแก้ไขหนังสือก็ลดน้อยลงเรื่อย ๆ





เราจำได้ว่า ตอนที่ท่านย้ายมาใหม่ ๆ ครั้งหนึ่งเราเคยถูกท่านตำหนิ และดุ ตอนนั้นเราทำเรื่องการประชุมหัวหน้าส่วนราชการประจำเดือน พิมพ์ผิดแค่ตัวเดียวเท่านั้นมั้ง ท่านก็นัดทั้งคนพิมพ์ เจ้าหน้าที่(คือเรา) หัวหน้าฝ่าย หัวหน้าสำนักงานจังหวัด มาพบตอนหนึ่งทุ่ม แล้วท่านก็ดุเสียงดัง ดุเอาดุเอา ทุบโต๊ะปัง ๆ เราก็นึกในใจว่า นี่เราทำความผิดร้ายแรงมากนักหรือ ถึงได้ดุเราซะขนาดนี้ ไม่เข้าใจจริง ๆ แล้วน้ำตาเจ้ากรรมก็ไหลออกมา ท่านก็ให้เราออกมาจากห้อง ความรู้สึกในตอนนั้น ทั้งโกรธ ทั้งเกลียด คนอะไร ไม่เคยพบเคยเจอ พูดกันดี ๆ ไม่ได้หรือ เรากลับบ้าน ตอนนั้นเพิ่งซื้อมอเตอร์ไซต์ใหม่ ๆ บิดมันซะ 60 กม. เพราะความโกรธ หัวหน้าฝ่ายรีบบึ่งปิคอัพไล่ตามมา เพราะพี่เค้ารู้ว่าอารมณ์ตอนนั้นของเราเป็นอย่างไร บีบแตร ตะโกนบอกให้เราใจเย็น ๆ ค่อย ๆ ขี่รถกลับบ้าน ไปนอนซะ พอรุ่งเช้า หัวหน้าก็มาเล่าให้ฟังว่า หัวหน้าบอกให้ท่านฟังว่า เราเป็นคนอย่างไร ทำงานอย่างไร ท่านบอกว่าท่านเป็นอย่างนี้เอง โผงผาง แล้วนับแต่วันนั้นเป็นต้นมา ท่านไม่เคยดุเราอีกเลย ท่านบอกว่า ท่านไม่อยากดุ เดี๋ยวมันจะร้องไห้อีก แม้แต่เมื่อเราทำผิดจริง ๆ เรารู้ว่าท่านโกรธ เพราะสังเกตจากสีหน้า แต่เมื่อเราเข้าไปขอโทษ และยอมรับผิดในข้อบกพร่องของตนเอง ท่านก็ให้อภัย แล้วเราก็ตั้งใจเลยว่า จะไม่ให้มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น





สไตล์การทำงานของท่านไม่เหมือนใครเลยจริง ๆ ถ้ามีงานแก้ไข ก็ต้องขึ้นมาทำงานกันช่วงค่ำ ศาลากลางฯ เปิดไฟสว่างโร่ราวกับกลางวัน ถ้าเป็นผู้หญิง ก็จะนัดหัวค่ำหน่อย ถ้าเป็นผู้ชายก็นัดดึกหน่อย ใคร ๆ ก็พากันพูดเล่น ๆ ว่า สงสัยท่านคงจะเหงา เลยนัดพวกเรามาอยู่เป็นเพื่อน ชาวสำนักงานจังหวัดกับชาวปกครองจะใกล้ชิดกับท่านเป็นพิเศษ บางวันท่านก็ให้สตางค์ไปซื้อข้าวมาทานกันบนห้องทำงาน เราทานอะไร ท่านก็ทานแบบนั้น ไม่ต้องหาอะไรพิเศษมาให้ ดู ๆ แล้ว ท่านเป็นผู้บังคับบัญชาที่ติดดินจริง ๆ ตอนที่ท่านมาใหม่ ๆ ท่านตั้งกฎเหล็กไว้หลายข้อ เช่น ห้ามทานอะไรบนห้องนอกจากน้ำและยาเท่านั้น ขนม ของจุกจิกต่าง ๆ ห้ามเด็ดขาด มาทำงานต้องเซ็นชื่อ กลับก็ต้องเซ็นชื่อกลับ ขีดเส้นแดง 08.45 น. หลังจากนั้นสมุดเซ็นชื่อจะเอาเข้าไปไว้ในห้องท่าน ตัวท่านเองก็เซ็นชื่อด้วย ไม่มีข้อยกเว้น เออ ..ก็เพิ่งเคยเจอนะ เที่ยงตรงค่อยลงไปทานข้าว บ่ายโมงทุกคนต้องกลับมาประจำโต๊ะของตัวเองแล้ว ห้ามไปเถลไถล ช๊อบปิ้งแถวไหน แต่ถ้ามีธุระก็ขอให้บอก ไม่ว่ากันอยู่แล้ว หลายคนบอกว่า ที่ท่านดุ ๆ เจ้าอารมณ์แบบนี้ เพราะท่านเลิกบุหรี่แบบหักดิบ เพราะลูกสาวบอกให้เลิก คนที่มาอยู่เวรกลางคืน จะได้ทำหน้าที่เลขาหน้าห้องท่านทุกคน เราเองก็เคยทำหน้าที่เป็นเลขาหน้าห้องท่านอยู่หลายเดือน





ท่านเป็นคนที่ละเอียดมาก งานต่าง ๆ จะจดลงสมุดโน้ตทุกเรื่อง จนแถบจะไม่มีที่ว่างเลย ใคร ทำอะไร ครบกำหนดที่ต้องรายงานเมื่อไหร่ ท่านจดหมด ตอนเช้าคนที่เป็นหน้าห้อง จะต้องนำกระดาษที่ท่านเขียนเตือนความจำหน่วยงานต่าง ๆ ว่าวันนี้มีเรื่องอะไรที่ถึงกำหนดรายงานบ้าง ท่านขอทราบผลเรื่องนั้นเรื่องนี้บ้าง พอเย็น หน้าห้องก็จะไปเก็บโน้ตที่มีคำตอบจากหน่วยงานต่าง ๆ ถ้าหน่วยงานไหนไม่ตอบ ก็จะมีโน้ตเขียนด้วยปากกาแดงไปทวงถาม ทำเช่นนี้จนกว่าท่านจะได้รับคำตอบ ท่านมักจะตั้งฉายาให้กับลูกน้องทุกคน โดยเฉพาะคนที่พิมพ์อะไรผิดบ่อย ๆ เช่น ชัยวัฒน์ ก็จะเป็น “นายชุ่ยวัฒน์” สรเดช ก็จะเป็น “นายส่งเดช” โสพิศ ก็จะเป็น “แสนพิษ” หรือว่า “โทรมพิศ” สมยศ ก็จะเป็น “นายเสื่อมยศ” แต่ก็มีเพื่อนคนหนึ่ง หัวหน้ากลัวท่านรองฯ จะตั้งชื่อ อันไพเราะเพราะพริ้งให้ เลยชิงตั้งให้ก่อน เพื่อนชื่อว่า สมฤทัย หัวหน้าตั้งให้ว่า ยัย “สมน้ำหน้า” อิอิ ส่วนเรา ท่านรองฯ พยายามหาชื่อที่เหมาะสมให้ แต่ก็หาไม่ได้ แต่ในที่สุด ท่านก็หาให้จนได้ ตั้งให้ว่า “เสา – รัก” แถมมีความหมายให้เสร็จสรรพว่า “เสา มันรัก แต่คนน่ะ ไม่รัก” พวกเราก็ตั้งชื่อให้ท่านเหมือนกันนะ ว่า “ฮ่วยหาญ” แล้วก็ “ฮึกเหิม” ท่านก็ไม่โกรธ กลับหัวเราะชอบใจ



พูดถึงเพื่อนที่ชื่อ "ยัยสมน้ำหน้า" เค้าเป็นลูกคนจีน ไม่ค่อยเรียบร้อย พูดอะไรก็พูดตรงๆ มารับราชการทีหลังเรา แต่ถามไปถามมา กลายเป็นรุ่นพี่ที่ รร.สตรีมหาพฤฒาราม เวลาเค้าพูดอะไร มักจะมีคำสร้อยต่อท้ายมาด้วยอยู่เป็นประจำ "ไอ้เ " "ไอ้ห่.." จนหัวหน้าบอกกับเราว่า "ไอ้เปี๊ยก เอ็งไปหาสุ่มหรือกรงมาหน่อยซิ มาไล่จับไอ้ตัวพวกนี้หน่อย มันวิ่งกันเพ่นพ่านทั่วห้องไปหมดแล้ว" อิอิ




ตอนเย็น ๆ เวลากินข้าวที่บ้าน พวกเรามักจะมาเล่าสู่กันฟังว่า วันนี้ใครโดนท่านดุเรื่องอะไรบ้าง วันไหนไม่โดนดุ ก็จะทานข้าวไม่ลง พวกเราก็เลยถือคติกันว่า “นายด่า ถือว่านายให้พร” ท่านมักจะบอกกับใคร ๆ ว่า พวกเราชาวสำนักงานจังหวัดตาก ทนมือ ทนteen ดีจริง ๆ ตอนที่ทำงานกับท่าน ก็มีเรื่องขำ ๆ เยอะเหมือนกัน เช่น การแก้หนังสือของท่าน พวกเราอยู่ไปนาน ๆ ก็จะเพิ่มความระมัดระวังกันมากขึ้น ไม่ค่อยมีอะไรผิด แต่บางครั้งก็มีการเผลอไปบ้าง ท่านก็จะเขียนมาว่า “อะไรผิด” แล้วก็มีภาษาอังกฤษ เขียนมาสองสามตัว พวกเราก็หากันทั้งวันก็ไม่เจอ ด้วยความบังเอิญ เราจบเอกอังกฤษ ก็เลยลองเดา ๆ ดู ว่าโค้ดลับภาษาอังกฤษของท่านหมายถึงอะไร ก็บังเอิญถูก แก้ไขเสนอหนังสือเข้าไปใหม่ หลัง ๆ ท่านก็มีโค้ดลับอีก เราก็เดาถูกอีก บอกพี่เค้าไป ตานี้ พอเรื่องไหนผิด แล้วมีโค้ดลับ พอหน้าห้องยกแฟ้มออกมา ท่านก็จะต้องรีบออกมาบอกเราว่า ห้ามบอกนะ ให้หากันเอาเอง เพราะท่านรู้ว่าเรารู้โค้ดลับของท่าน อิอิ บางคืนท่านบอกให้พวกเรามาทำงานกัน แต่ท่านกลับย่องลงบันไดข้าง ขับรถกลับบ้าน แต่เปิดไฟในห้องทิ้งไว้ พวกเราก็นึกว่าท่านยังอยู่ ที่ไหนได้ กลับบ้านไปนอนแล้ว อย่างเรื่องเซ็นชื่อก็เหมือนกัน ใครที่มาสายเกิน 08.45 น. ต้องเข้าไปเซ็นชื่อในห้องท่าน ท่านก็จะโค้งคำนับอย่างงาม แล้วก็บอกว่า “ขอโทษนะครับ ที่ผมมาเช้ากว่าคุณ” ตอนเย็นจะกลับบ้านก็เหมือนกัน สี่โมงครึ่งท่านถึงจะให้เข้าไปเอาสมุดเซ็นชื่อออกมาได้ มีอยู่วันหนึ่ง พี่ ๆ เค้าให้เราเป็นแนวหน้ากล้าตายเข้าไปเอาสมุดในห้องท่าน ท่านก็ถามว่ากี่โมงแล้ว ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู เราก็บอกว่า สี่โมงครึ่งแล้ว ท่านก็บอกว่ายังไม่ถึง อีกสองนาที เราก็บอกว่านาฬิกาเราสี่โมงครึ่งแล้ว ท่านก็ว่า นาฬิกาของเรายี่ห้ออะไร เราก็ตอบว่า Seiko ท่านก็บอกว่า ของผม Lolex ก็เลยยิ้มปุเลี่ยน ๆ แล้วก็หยิบสมุดออกมา (ยังใจกล้านะนั่น อิอิ)





บางทีท่านก็ชอบบอกว่า จะไปโน่นไปนี่ แล้วก็แอบกลับมาดูว่าพวกเรา เป็นประเภท แมวไม่อยู่ หนูร่าเริงรึเปล่า ใหม่ ๆ ก็หลงกลท่านไปบ้าง พอหลัง ๆ เริ่มรู้แกว ไม่มีใครไปไหน พอท่านมาดู อยู่กันครบ เราก็เลยบอกกับท่านว่า “ ท่านคะ แผนล่อเสือออกจากถ้ำ ใช้ไม่ได้ผลแล้วล่ะค่ะ” ถึงแม้ว่าท่านจะเป็นคนออกกฎว่า ห้ามทานอะไร แต่พอถึงช่วงเทศกาลปีใหม่ มีคนเอากระเช้ามาอวยพร ท่านก็เอาของกินต่าง ๆ ใส่ให้ไว้ในตู้เย็นของสำนักงานจังหวัด ให้พวกเราทานได้ แล้วก็มักจะให้คนขับรถเปิดตู้เย็นดูทุกวัน วันไหนของเริ่มร่อยหรอ ก็ให้คนขับรถเอามาเติมให้ ต่อมากฎเหล็กที่ห้ามทานอะไรก็หายไป ท่านชอบดื่มน้ำมะนาวผสมกับน้ำผึ้ง ดังนั้น ของในตู้เย็นที่ขาดไม่ได้คือ น้ำผึ้งกับมะนาว จนเราแกล้งแซวท่านว่า ไม่ห้ามโน่นห้ามนี่แล้วหรือ ท่านก็บอกว่า แหม...ใหม่ๆ ก็ต้องให้กลัว ต้องให้เกรงใจกันหน่อยซิ





พออยู่ ๆ ไป นาน ๆ เข้า ช่องว่างระหว่างนายกับลูกน้อง ก็ค่อย ๆ ลดน้อยลง เพราะความที่ท่านเป็นกันเอง ติดดิน มีความยุติธรรมมาก ๆ ใครมีเรื่องเดือดร้อน ขอให้บอก ท่านยินดีช่วยเหลือเสมอ ทำให้พวกเรารู้สึกรักท่านเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยไม่รู้ตัว ความดีของท่านมันค่อย ๆ ซึมซับเข้าไปในจิตใจของพวกเราทีละเล็กทีละน้อย เค้าเรียกว่า “ต้นร้าย ปลายดี” เพราะโดยแท้จริงแล้ว ท่านไม่ใช่คนดุเลย ท่านดุอย่างมีเหตุผล ท่านมักจะบอกกับพวกเราเสมอว่า ท่านเหมือนครู ที่ต้องการเห็นลูกศิษย์ได้ดี เห็นลูกศิษย์ก้าวหน้า ใครก็ตามที่รู้จักท่านเพียงไม่กี่เดือน จะรู้สึกเกลียด ไม่ชอบท่าน แต่ถ้าอยู่ด้วยกันนาน ๆ ก็จะรู้เองว่า แท้จริงแล้วท่านเป็นคนอย่างไร ท่านไม่เคยลืมลูกน้อง จำได้แม้กระทั่งว่า ใครชอบทานอะไร ไม่ชอบทานอะไร แม้ยามที่ท่านใกล้วัยเกษียน ถ้าเจอพวกเรา ท่านก็มักจะหาโอกาสพาพวกเราไปทานข้าวบ่อย ๆ




ตอนนี้ท่านเกษียณแล้ว อยู่บ้านเป็นคุณตาเลี้ยงหลาน ๆ อย่างมีความสุข พวกเราชาวสำนักงานจังหวัดตากยังคงระลึกถึงท่านอยู่เสมอ นี่แหล่ะ “เลือดดีมหาดไทย” โดยแท้


จังหวัดตาก เป็นที่ทำงานแห่งแรกของเรา ความประทับจึงมีอยู่มากมาย ยากที่จะลืมเลือน ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ คน เพื่อนร่วมงาน ผู้บังคับบัญชา แม้เวลาจะล่วงเลยมานานแล้ว แต่ภาพเหตุการณ์ และความรู้สึก ความประทับใจ ยังคงมิลืมเลือนไปจากใจ








































 

Create Date : 24 กันยายน 2553
23 comments
Last Update : 30 กันยายน 2553 9:38:18 น.
Counter : 785 Pageviews.

 

ท่านรองฯ ฮึกหาญ ละเอียดรอบคอบจริงๆ เลยนะครับ แต่ก็ดุในส่วนเนื้องาน
มีเหตุผลดีครับ หัวหน้าแบบนี้ดีจริงๆ เลยครับ เป็นผม ผมก็ประทับใจเหมือนกัน

 

โดย: กลิ่นดอย 29 กันยายน 2553 8:50:11 น.  

 


หูยยยย คุณดอย ตัดหน้าซะงั้น

 

โดย: reception hall 29 กันยายน 2553 10:02:04 น.  

 

แหม่ บิดมอไซร์ 60 ไม่เห็นเร็วเลย คนที่ละเอียดนี่ดีนะครับ หลานอ่านแล้ว ถ้าซักวันหลานมีวาสนาเป็นหัวหน้า หลานจะเอาอย่าง ท่านรองฮึดหาญครัว

 

โดย: kanit2425 29 กันยายน 2553 10:20:21 น.  

 

สมัยโน้นนนนน่ะ บิดมอไซต์ 60 ก็เร็วแล้วล่ะ เพราะทุกทีขับไม่เกิน 20 กม/ชม. จนถูกใครๆ แซวว่า เดินไปยังเร็วกว่า 555

แล้วนี่นะ ไปเปลี่ยนชื่อให้ท่านฮึกหาญเหรอ บอกแล้วว่าอย่ารีบพิมพ์ อย่ารีบพิมพ์ อิอิ

 

โดย: kapeak 29 กันยายน 2553 10:34:49 น.  

 

ก้ากกกกกก ขออภัย พิมพ์ผิดอะ

 

โดย: kanit2425 29 กันยายน 2553 12:03:35 น.  

 

กริ กริ ผมนายให้พรปราจำเลยละครับงั้น

 

โดย: panwat 29 กันยายน 2553 14:31:57 น.  

 

ความจริงก็ต้องเห็นใจท่านเนาะ เพราะท่านเป็นคนเซนต์ชื่อน่ะค่ะ

 

โดย: tuk-tuk@korat 29 กันยายน 2553 14:42:15 น.  

 

ถ้าผู้บังคับบัญชาทุกสายงานราชการในประเทศไทยเป็นอย่างท่าน หลัง 8.45 ใครมาทำงานช่วงนี้ต้องเข้าไปเซ็นชื่อในห้อง หรือตอนเลิกงานก็เหมือนกัน กลับก่อนเวลา ใครจะกล้าเข้าไปขอเซ็นบ่อยๆถ้าไม่จำเป็นจริงๆ รับรองว่าราชการไทยคงเจริญก้าวหน้าไปอีกไกล

คนอย่างท่าน สงสัย 1 ใน พัน ยังหาไม่ค่อยพบละมั้งคุณเปี๊ยก

 

โดย: ปลายแป้นพิมพ์ 29 กันยายน 2553 14:52:46 น.  

 

อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับท่านรองฮึกหาญแล้ว รู้สึกนับถือครับ สมกับที่เป็นข้าราชการน้ำดีอย่างที่พี่เปี๊ยกบอกไว้จริงๆ ไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้จะยังเหลือหัวหน้าดีแบบแบบนี้อยู่ซักกี่มากน้อย

 

โดย: NET-MANIA 29 กันยายน 2553 16:05:22 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณอาเปี๊ยก (คนสวยน่ารัก) &
น้องปอย (คนสวยสิเน่หา อิอิ)
+=============================+

"หัวหน้าที่มีลูกน้องรักและเคารพ" เช่นนี้หายากค่ะ
เป็นความรู้สึกดีดี ซึ่งทำให้ระลึกถึงตลอดเวลา

เหมือนที่สาวบ้านนอกฯ ระลึกถึง ผอ.นพ.วีระพันธุ์ (รพ.ขอนแก่น)
ลูกน้องรักและศรัทธาท่านด้วยความเคารพเสมอ

"เกษียร" "เกษียณ" เกษียน"
3 คำ อ่านออกเสียงเหมือนกัน
แต่ความหมายไม่เหมือนกัน
ไหว้วานคุณอาเปี๊ยก ช่วยแนะนำด้วยค่ะ
(ผู้เชี่ยวชาญในการพิมพ์หนังสือราชการ)

ปล. ช่วงนี้สาวฯ ต้องติดตามพี่สาวฯ คนโตไปในงาน "เกษียนอายุราชการ"
(ทำหน้าที่ถ่ายภาพในฐานะผู้ใกล้ชิด)
"เกษียน" (สะกด น.หนู) ใช้ถูกต้องไหมคะ

 

โดย: สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น 29 กันยายน 2553 17:08:04 น.  

 

วันวานยังหวานอยู่หรือคะพี่เปี๊ยก อิอิ
การ์ตูนที่พี่เปี๊ยกเอาไปแปะที่บล็อกเปิ้น
ก็น่ารักมากๆเลยค่ะ
ลูกสาวเป็นคนวาดหรือคะ??
เห็นว่าลูกสาวชอบวาดการ์ตูน
แถมมีปากกาวาดด้วย เปิ้นเหวิ่นแอบอิจฉา ฮ่ะๆ
เพราะอยากได้เหมือนกันค่ะ อิอิ

 

โดย: fonrin 29 กันยายน 2553 18:52:29 น.  

 

แวะมาเยี่ยมเยียน ทักทายกันตามประสา

เข้าไปแวะชมได้ตามลิงก์ที่แนบมานะค่ะ

//www.weloveshopping.com/template/a07/shop.php?shopid=230268

แวะเข้าไปชมกันได้ค่ะ

คุณแม่ลูกสอง

 

โดย: สาวสะตอใต้ 29 กันยายน 2553 19:28:58 น.  

 

แวะมาดูเรื่องอดีตตอนค่ำ ๆ

ขอให้มีความสุขนะครับ..


 

โดย: ไกลเกินใจสายเกินแก้ 29 กันยายน 2553 20:13:31 น.  

 

สวัสดียามเย็นครับพี่

ลืม ตอบเม้นท์เมื่อวานแหล่ะ

ที่พี่บอกว่า ผม ตอนเด็กๆ คงจะน่ารัก

อยากบอกว่า ตอนเด็กๆ อ่ะ ผมไม่มีผมเลย ฮ่าๆๆ หัวล้านตั้งแต่เด็ก

 

โดย: กลิ่นดอย 29 กันยายน 2553 20:13:35 น.  

 

คนที่ดูดุ หลายคนที่ผมรู้จักจริงๆข้างในเป็นคนจิตใจดีทั้งนั้นเลยครับ ที่เห็นมันก็เป็นแค่เปลือกนอก มีเจ้านายแบบนี้ได้ใจลูกน้องทุกคนเลยน่ะครับ

 

โดย: Don't try this at home. 29 กันยายน 2553 20:31:13 น.  

 

ไม่ไหวครับ
หลุดจนเซ็งไปเลย
ขออนุญาติลาไปนอนตรงนี้เลย

อย่านอนดึกนะครับ

หลับฝันดีนะครับ

 

โดย: kanit2425 29 กันยายน 2553 21:49:45 น.  

 

อ้าว ทำไมเราเข้าบ้านนี้อีกรอบนะ

งง

 

โดย: กลิ่นดอย 29 กันยายน 2553 22:09:36 น.  

 

ฝันดีค่ะคุณพี่

เดวพรุ่งนี้มาอ่านนะคะ
ม่ายไหวแย้ว

ง่วงหยั่งแรงงง..

 

โดย: เก็บดาวที่ราวฟ้า 30 กันยายน 2553 0:33:33 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับพี่เปี๊ยก






 

โดย: กะว่าก๋า 30 กันยายน 2553 6:42:52 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับบ ตื่นมาให้สดใส พร้อมสู้กับอีกวันของวันทำงานครับ

 

โดย: Sleeping_prince 30 กันยายน 2553 6:57:31 น.  

 

ตามมาอ่านวันวานอย่างกระชั้นชิด ^^




อรุณสวัสดิ์นะครับคุณอา ^^

 

โดย: พระจันทร์ของขวัญ (Great_opal ) 30 กันยายน 2553 7:23:55 น.  

 

สวัสดีครับ หลานชายผู้โดดเดี่ยว มาแว้ว ตื่นยังครับ

 

โดย: โดดเดี่ยวผู้น่ารัก (kanit2425 ) 30 กันยายน 2553 7:38:55 น.  

 


สวัสดีตอนเช้าค่ะคุณอา

มีความสุขในวันทำงานนะค่ะ

เพื่อนกอล์ฟเป็นไรอีกค่ะเนี่ย

ไปบ่นอยู่บล็อกปอยว่าปวดใจเล็กๆปวดหัวน้อยๆ

เฮ้อ !!!

 

โดย: reception hall 30 กันยายน 2553 7:42:13 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


พูดไม่เก่ง แต่เจ๋งทุกคำ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 18 คน [?]




"ตั้งใจว่า...ทำบล๊อกนี้ขึ้นมาเพื่อบันทึกเรื่องราว ความทรงจำดี ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักและอยากจะทำ และไม่เคยหวังผลตอบแทนใด ๆ ในทุกสิ่งที่ได้ทำ นอกจากรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ มิตรภาพและความจริงใจจากเพื่อนๆ เท่านั้น"











# เริ่มทำบล๊อกเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2552 #


ไปหลังบ้านทางนี้เน้อ
Friends' blogs
[Add พูดไม่เก่ง แต่เจ๋งทุกคำ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.