วว.ชู แคปซูลปรับสมดุลร่างกาย จากเปล้าและผักบุ้งผลงานเด่น '54
วว.ชู แคปซูลปรับสมดุลร่างกาย จากเปล้าและผักบุ้งผลงานเด่น '54
BPAS CAPS ที่มีสรรพคุณในการปรับสมดุลร่างกายที่มีสาเหตุมาจากความเครียดและช่วยควบคุมความดันโลหิต
วว.-วว.ชูผลงานเด่นปี '54 แคปซูลปรับสมดุลร่างกาย สารสกัดจากพืชวงศ์เปล้าและผักบุ้ง พร้อมเน้นยำทิศทางวิจัยสนองการเปลี่ยนแปลงส่สังคมผู้สูงอายุ เน้นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ พร้อมสรุปผลงานอื่นในรอบปีรวมถึงการค้นพบ จำปีเพชร พืชวงศ์ใหม่จาก จ.เพชรบุรี นางเกษมศรี หอมชื่น ผู้ว่าการ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวชี้แจงสรุปผลงานวิจัยเด่นของ วว. ประจำปี 2554 ว่า ด้วยกระแสของความตระหนักในเรื่องสุขภาพอนามัย และการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอายุของประชากรที่ผู้สูงอายุมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้สถาบันวิจัยและพัฒนาในหลายๆ ประเทศ ได้มุ่งเน้นวิจัยและพัฒนาไปในทิศทางตอบสนองต่อกระแสการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว "ในส่วนของประเทศไทยนั้น ได้กำหนดนโยบายเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศที่ชัดเจน โดยอาศัยการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีภายในประเทศให้พึ่งพาตนเองได้ วว. ซึ่งมีบทบาทในด้านการวิจัยและพัฒนาทางวิทยาศาสตร์ ตระหนักถึงความจำเป็นในการต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับกระแสการเปลี่ยนแปลงภายนอก จึงได้มุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนาด้านอาหารเพื่อสุขภาพ ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ และพัฒนาอุปกรณ์ เครื่องมือที่ส่งเสริมด้านสุขภาพเป็นหลัก" นางเกษมศรีกล่าว นางเกษมศรี กล่าวอีกว่า ฝ่ายเภสัชและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ วว. ประสบความสำเร็จในการวิจัยสารสกัดสมุนไพรรวมของพืชวงศ์เปล้าและผักบุ้ง และนำมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในรูปแบบเม็ด หรือ BPAS CAPS ที่มีสรรพคุณในการปรับสมดุลร่างกายที่มีสาเหตุมาจากความเครียดและช่วยควบคุมความดันโลหิต โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้ผ่านการศึกษาในทางเภสัชวิทยาและด้านความปลอดภัยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และบอกด้วยว่า ความเครียดเป็นสาเหตุของโรคมากมาย เช่น ภูมิแพ้ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และมะเร็ง เป็นต้น ดังนั้น วว.จึงมีแนวคิดในศึกษาวิจัยสมุนไพรไทยที่น่าจะมีผลต่อความดันโลหิต "วว. ได้รับความร่วมมือจากบริษัทภูมิรดี ซึ่งเป็นภาคเอกชนผู้ผลิตสมุนไพรในจังหวัดตราด สนับสนุนในด้านวัตถุดิบหลักเพื่อใช้ในการศึกษาวิจัยการออกฤทธิ์ของสมุนไพรที่มีความสามารถในการต้านความเครียด พร้อมได้ศึกษาผลความปลอดภัย สารสกัดที่มีผลต่อความดันและต้านความเครียด โดยผลิตภัณฑ์ของBPAS CAPS ที่ วว.พัฒนาขึ้นนั้นมีสรรพคุณในการปรับสมดุลร่างกายที่มีสาเหตุมาจากความเครียด รวมทั้งช่วยควบคุมความดันโลหิตได้อีกด้วย ผลงานวิจัยดังกล่าวถือได้ว่าเป็นการนำสมุนไพรไทยมาเพิ่มมูลค่า อีกทั้งยังมีผลการศึกษาทางวิทยาศาสตร์เป็นเครื่องยืนยันความปลอดภัยให้แก่ผู้บริโภคได้เป็นอย่างดีผู้ว่าการ วว.กล่าว ด้าน ดร.ชุลีรัตน์ บรรจงลิขิตกุล ผอ.ฝ่ายเภสัชและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ วว.ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร BPAS CAPS นั้นพัฒนาจากการนำสารสกัดสมุนไพรรวมของพืชวงศ์เปล้าและผักบุ้งมาผสมกันในสัดส่วนที่เหมาะสม โดยผลการศึกษาในทางเภสัชวิทยาและความปลอดภัยพบว่า ปริมาณสารสกัด 200-500 มิลลิกรัม มีผลต้านความเครียดในสัตว์ทดลอง รวมทั้งมีผลลดความดันโลหิตในสัตว์ทดลองที่ถูกกระตุ้นให้เกิดภาวะความดันโลหิดสูงได้เป็นอย่างดี สำหรับวิธีรับประทานผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ให้รับประทาน 1-2 แคปซูล ก่อนนอน เป็นเวลาอย่างน้อย 1 เดือน จะช่วยทำให้ปรับสมดุลในร่างกายพร้อมทั้งลดความดันโลหิตได้อีกด้วย นอกจากนี้รอบปี พ.ศ. 2554 วว. ยังวิจัยและพัฒนา เทคโนโลยี นวัตกรรม และผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ดังนี้ ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ จำนวน 5 ผลงาน ได้แก่ - ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากเส้นใยผลไม้ไทย มีปริมาณใยอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระสูง ให้พลังงานน้อย ไขมันต่ำ ช่วยลดคอเลสเตอรอล คงระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยการขับถ่ายอุจจาระ ขับถ่ายสารพิษ/สารก่อมะเร็ง ป้องกันท้องผูก ริดสีดวงทวารหนัก และป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ - ผลิตภัณฑ์ไพลเจอร์สิก มีประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการอักเสบของข้อ ที่มีสาเหตุมาจากโรคข้อเสื่อม - ผลิตภัณฑ์ลดริ้วรอยจากสารสกัดธรรมชาติเห็ดนางรมทองและนางรมดอย มีประสิทธิภาพในการสร้างคอลลาเจน ช่วยลดริ้วรอย ทำให้ผิวเรียบเนียน เต่งตึงดูอ่อนกว่าวัย และอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวให้สดใส มีชีวิตชีวาอย่างเป็นธรรมชาติ - ผลิตภัณฑ์เวชสำอางจากบอระเพ็ดพุงช้าง มีประสิทธิภาพดีในการลดการอักเสบจากการติดเชื้อจุลินทรีย์ที่ผิวหนังและในช่องปาก มี 5 รูปแบบผลิตภัณฑ์ คือ เวชสำอางสำหรับรักษาสิวและทำความสะอาดช่องปาก สบู่/เจลสำหรับล้างหน้า น้ำยา/มาสค์แต้มสิว และน้ำยาบ้วนปากเข้มข้น - แกงผักหวานป่าสำเร็จรูป เหมาะสำหรับนำไปผลิตในเชิงพาณิชย์ช่วงนอกฤดูกาลของผักหวานป่า พลังงานทดแทนและสิ่งแวดล้อม จำนวน 2 ผลงาน ได้แก่ -งานวิจัยคัดเลือกสายพันธุ์สาหร่ายน้ำมันด้วยเทคนิคการย้อมสีแห่งแรกของไทย เป็นการวิจัยสาหร่ายผลิตน้ำมันอย่างก้าวกระโดด เพื่อเป็นพลังงานทดแทนในอนาคตรวดเร็วขึ้น -เปิดตัวโรงงานต้นแบบผลิตไบโอดีเซลต่อเนื่องคุณภาพสูงแห่งแรกของไทย ภายใต้ความร่วมมือขององค์กรพันธมิตรไทย-ญี่ปุ่น เทคโนโลยีและนวัตกรรมการเกษตร จำนวน 3 ผลงาน ได้แก่ - เครื่องบำบัดสารเคมีการเกษตรโดยใช้จุลินทรีย์ แก้ปัญหาสารปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อมสำหรับภาคเกษตรและอุตสาหกรรมครั้งแรกของประเทศไทย ช่วยลดปริมาณสารเคมีตกค้างปนเปื้อนในร่องน้ำสวนส้มได้ถึง 10 เท่า ในเวลาเพียง 1 เดือน และช่วยลดปริมาณของสารกำจัดศัตรูพืชได้ 14 ชนิด โดยลดลงถึง 80-100 เปอร์เซ็นต์ - การเพิ่มผลผลิตเห็ดนางฟ้าภูฏานโดยใช้กากอ้อยโรงงาน สามารถเพิ่มผลผลิตเห็ดนางฟ้าภูฏาน 1.2-1.7 เท่าของการใช้ขี้เลื่อยไม้ยางพาราเพียงอย่างเดียว - การเพิ่มผลผลิตผักกาดหอมใบด้วยหลอดไดโอดเปล่งแสง มีการใช้กระแสไฟน้อยกว่าการใช้หลอดฟลูออเรสเซ้นต์ประมาณ 4 เท่า ให้ผลผลิตสูงกว่าการใช้หลอดฟลูออเรสเซ้นต์ 1.8 เท่า และสูงกว่าการใช้แสงธรรมชาติ 1.3 เท่า นอกจากนี้ทำให้อายุการเก็บเกี่ยวผักกาดหอมสั้นลง 5 วันเมื่อเทียบกับการใช้แสงธรรมชาติ (ไดโอดแสงใช้เวลาเก็บเกี่ยว 31 วัน ส่วนแสงธรรมชาติใช้เวลาเก็บเกี่ยว 36 วัน) พร้อมกันนี้ ในปี 2554 วว.ยังค้นพบพืชชนิดใหม่ของโลก 1 ชนิด คือ จำปีเพชร" ซึ่งเป็นจำปีพื้นเมืองที่หายากและใกล้สูญพันธุ์มากที่สุดของไทย ค้นพบในพื้นที่ จ.เพชรบุรี และ วว. ประสบผลสำเร็จขยายพันธุ์นอกถิ่นกำเนิดเพื่อการอนุรักษ์อย่างยั่งยืน
ที่มา //www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9540000163389
Create Date : 24 ธันวาคม 2554 |
|
0 comments |
Last Update : 24 ธันวาคม 2554 20:06:23 น. |
Counter : 1691 Pageviews. |
|
|
|