BlogGang.com : : scimovie : มลพิษทางอากาศ

มลพิษทางอากาศ

มลพิษทางอากาศ
มลพิษทางอากาศ เป็นสภาวะของอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปโดยการกระทำของมนุษย์และธรรมชาติ เช่น การระเบิดของภูเขาไฟซึ่งจะพ่นเอาเถ้าถ่าน ฝุ่นผงและก๊าซต่างๆ ออกสู่อากาศ การเกิดไฟป่าซึ่งจะทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จำนวนมหาศาล เถ้าถ่าน และฝุ่นผงต่างๆ แก่อากาศเป็นต้น สิ่งต่าง ๆ เหล่ามีผลให้เกิดสารพิษในอากาศมากจนเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตสารพิษในอากาศที่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต มีดังนี้

1. ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ( CO )
เกิดจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ของเชื้อเพลิงต่าง ๆ เป็นก๊าซที่ไม่มีกลิ่นไม่มีสีจะรวมตัวกับก๊าซออกซิเจนได้ง่าย เกิดเป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และรวมตัวกับเฮโมโกลบิน ในเม็ดเลือดแดง ได้ดีกว่าก๊าซออกซิเจน ดังนั้นถ้าร่างกายได้รับก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์สูงถึงระดับที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย จะเกิดอาการเวียนศรีษะ ตาพร่ามัว อ่อนเพลีย หายใจอึดอัด คลื่นไส้ อาเจียน จนถึงเสียชีวิตได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณความเข้มข้นของก๊าซกับระยะเวลาที่ได้รับก๊าซ

2. ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ( SO2)
เกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงที่มีกำมะถันเป็นองค์ประกอบ เป็นก๊าซที่ไม่มีสี มีกลิ่นฉุน ละลายน้ำจะได้กรดซัลฟิวรัส เมื่อร่างกายได้รับก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์จะเกิดอาการระคายเคืองต่อนัยน์ตา จมูก และระบบ ทางเดิน หายใจ ทำให้เป็นโรคหลอดลมอักเสบ

3. ก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ ( NO 2)
เป็นก๊าซสีน้ำตาลแดง มีกลิ่นฉุนละลายน้ำจะได้กรดไนตริก มื่อร่างกายได้รับ ก๊าซ ไนโตรเจนไดออกไซด์จะ ทำลายเนื้อเยื่อตาและระบบทางเดินหายใจ เมื่อได้รับในปริมาณมากอาจถึงแก่ชีวิตได้

4. ไฮโดรคาร์บอน
พบทั้งในธรรมชาติจากการย่อยสลายพืชโดยแบคทีเรีย และจากกระกระทำของมนุษย์เช่น การเผาไหม้เชื้อ เพลิงที่ไม่สมบูรณ์ในรถยนต์ โรงงานอุตสาหกรรม การเผาขยะ เมื่อร่างกายได้รับสารประกอบไฮโดรคาร์บอนจะทำให้เคืองนัยน์ตา และเกิดอาการเป็นมะเร็ง

5. ฝุ่นละออง
เป็นของแข็งที่มีอนุภาคขนาดเล็ก กระจายอยู่ทั่วไปในอากาศและบนพื้นดิน ฝุ่นละอองทำให ้สิ่งของ เครื่องใช้ รวมทั้งอาคารบ้านเรือนสกปรก ถ้ามีอนุภาคของฝุ่นฟุ้งกระจายในบรรยากาศจนแสงส่องผ่านไม่สะดวกจะทำให้บรรยากาศมัวเป็นฝ้าได้ เมื่อร่างกายได้รับอนุภาคเหล่านี้จะทำให้เกิดโรค เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจได้

สรุปแหล่งที่มาของสารพิษในอากาศ

1. การเผาไหม้ภายในเครื่องยนต์ ควันจากท่อไอเสียให้ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์

2. จากโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งมักจะปล่อยควันของสารพิษ ฝุ่นละออง ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ออกไซด์ ของไนโตรเจน ก๊าซอื่น ๆหลายชนิดและอาจจะมีไอของสารหนูหรือไอของกรดออกมาด้วย การเผาไหม้น้ำมันที่ใส่สารตะกั่วก็จะปล่อย ไอของสารตะกั่วออกมา ปะปนในอากาศด้วย

3. จากโรงงานไฟฟ้า โรงงานไฟฟ้าต้องเผาไหม้เชื้อเพลิงต่าง ๆเช่น น้ำมันเตา ถ่านหินลิกไนต์ หรือเชื้อเพลิงอื่นๆเพื่อใช้ใน การผลิตกระแสไฟฟ้า ก่อให้เกิดซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ออกไซด์ของไนโตรเจนหลายชนิดและเขม่าควันต่าง ๆ

4. การเผาไหม้ของเชื้อเพลิง จากกิจการค้า สถาบันและหน่วยงานของรัฐ ก่อให้เกิดคาร์บอนมอนอกไซด์ไนโตรเจนออกไซด์ ไฮโดรเจนคาร์บอนและถ้ามีห้องปฏิบัติการเคมีก็จะมีไอกรดและไฮโดรเจนซัลไฟด์ออกมาด้วย

5. การเผาไหม้เชื้อเพลิงภายในบ้าน การเผาไหม้ฝืน ถ่าน ก๊าซหุงต้ม ก่อให้เกิดคาร์บอนมอนอกไซด์ไนโตรเจนไดออกไซด์ ไฮโดรคาร์บอน และเขม่าควัน

6. การเผาขยะและสิ่งปฏิกูล ก่อให้เกิดก๊าซไฮโดรคาร์บอน ออกไซด์ของไนโตรเจน คาร์บอนมอนอกไซด์และซัลเฟอร์ไดออกไซด์

7. เกิดโดยธรรมชาติ เช่นไฟไหม้ป่าส่งควันไฟและฝุ่นละอองปะปนในอากาศการเน่าเปื่อยของอินทรียวัตถุก็ทำให้เกิดก๊าซต่าง ๆ ภูเขาไฟระเบิดจะมีฝุ่นและควันรวมทั้งก๊าซต่าง ๆปะปนในอากาศด้วย

8. แหล่งน้ำเสีย ให้ก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์และก๊าซไฮโดรคาร์บอนออกมา

9. การระเหยของสารเคมีต่าง ๆเช่น น้ำมัน กรด สี

สรุปอันตรายและความเสียหายที่เกิดจากสารพิษในอากาศ

1. เป็นอันตรายต่อสุขภาพมนุษย์ ก่อความระคายเคืองต่อระบบประสาท ทำให้แสบจมูก ตาเจ็บ หายใจไม่ออก เป็นต้น

2. เป็นอันตรายต่อสัตว์เลี้ยง เช่น สารประกอบฟลูออไรด์ และสารประกอบอินทรีย์ฟอสเฟตทำให้ ปศุสัตว์ล้มตายได้

3. ทำอันตรายต่อพืช เช่น ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ คลอรีน ออกไซด์ของไนโตรเจน ไฮโดรคาร์บอน และไอปรอท ทำลายคลอโรฟิลล์ ทำให้พืชแห้งเหี่ยวและตายในที่สุดฝุ่นละอองก็จะขัดขวางการหายใจของพืช

4. ทำความเสียหายแก่ทรัพย์สิน เช่น ยางเสื่อมคุณภาพจากโอโซน หินอ่อนถูกฝนกรดกัดกร่อน

5. ทำให้โลหะผุกร่อน เช่น ไอกรดจากโรงงานอุตสาหกรรม ทำความเสียหาย แก่โลหะของอาคารบ้านเรือนที่อยู่ ในรัศมีที่ไอจะแพร่ ไปถึง

6. ทำความสกปรกแก่เครื่องใช้และพื้นผิวต่าง ๆ เนื่องจากอากาศสกปรกมีฝุ่นละอองเขม่าควัน

7. ลดทัศนวิสัย เช่น ฝุ่นและควันทำให้มองเห็นในระยะไกลไม่ชัด เป็นอุปสรรคในการคมนาคมการเผาหญ้าข้างถนนก่อให้เกิด อุบัติเหตุ เนื่องจากผู้ขับยานพาหนะไม่สามารถ กะระยะทางหรือหลบหลีกได้ทัน

8. ทำให้ฟ้ามืดครึ้มลดความสว่าง เช่น เขม่าควัน ฝุ่นละอองและก๊าซจากปล่องควันของโรงงานจะปะปน กับอากาศ ทำให้ความ สว่างลดลง

9. ทำให้ความร้อนเพิ่มขึ้น เช่นปรากฏการณ์เรือนกระจก ทำให้ก๊าซคาร์บนไดออกไซด์ดูดกลืนความร้อนไม่ให้กระจาย สู่บรรยากาศ เบื้องบน อุณหภูมิจึงสูงขึ้น

แนวทางการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ

1. การใช้มาตรการทางกฏหมายและกฏระเบียบ หน่วยงานที่มีความเกี่ยวข้องได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติกระทรวงมหาดไทย กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงคมนาคม เช่น การออกกฏหมายควบคุมปริมาณควัน ที่ออกมาท่อไอเสียรถยนต์

2. การกำหนดเขตการใช้ที่ดิน คือการกำหนดให้มีย่านที่พักอาศัย ย่านธุรกิจ ย่านอุตสาหกรรม ฯลฯ แยกออกจากกันอย่างชัดเจน จะทำให้สามารถวินิจฉัยลักษณะเฉพาะของปัญหามลพิษ ตลอดจนการควบคุมหรือแก้ไขปัญหาของแต่ละย่านได้ง่าย

3. การเปลี่ยนแปลงกระบวนการผลิตและเชื้อเพลิง เช่น การใช้น้ำมันที่มีค่าออกเทน สูงจะลดปัญหาก๊าซพิษที่ออกมาจากท่อไอเสียรถ

4. การใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ควบคุมและกำจัดสารมลพิษ เช่นการใช้หน้ากากกรองควันพิษที่มีอยู่ในอากาศในย่านที่มีการ คมนาคมขับคั่ง การปลูกต้นไม้ข้างถนนเพื่อให้ต้นไม้ดูดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ที่ออกมาจากยานพาหนะที่อยู่บนท้องถนน

5. การให้การศึกษาและประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนได้เข้าใจและทราบผลเสียของปัญหามลพิษ ทางอากาศ ตลอดจนแนวทาง แก้ไข ซึ่งจะทำให้ไม่เกิดปัญหามลพิษขึ้นในชุมชนอีกต่อไป

Create Date : 05 พฤศจิกายน 2552

Last Update : 5 พฤศจิกายน 2552 15:59:03 น.

0 comments

Counter : 1874 Pageviews.