ฝนดาวตก มีให้ชมเกือบทุกเดือน
โลกอาบ ฝนดาวตก เกือบทุกเดือน
แผนภาพแสดงการเกิดฝนดาวตกลีโอนิดส์จากจุดกระจายฝนดาวตกบริเวณกลุ่มดาวสิงโต (surveyor.in-berlin.de)
เราอาจรู้จักฝนดาวตกเพียงไม่กี่ชุด แต่อันที่จริงมีฝนดาวตกที่ได้รับการรับรองแล้วถึง 64 ชุด และยังมีฝนดาวตกชุดอื่นๆ ที่รอการรับรองอย่างเป็นทางการกว่า 300 ชุด เรียกได้ว่าโลกของเราได้ผ่านเข้าไปในเส้นทางเศษฝุ่นของวัตถุอวกาศที่โคจรรอบดวงอาทิตย์ตลอดทั้งปี
แผนภาพแสดงการเกิดฝนดาวตก อีตา อควารีดส์ ซึ่งอยู่ใกล้กลุ่มดาวคนเลี้ยงสัตว์(surveyor.in-berlin.de)
สหพันธ์ดาราศาสตร์สากลหรือไอเอยู (International Astronomical Union : IAU) ที่ลดชั้นดาวพลูโตลงไปเป็นแค่ดาวเคราะห์แคระ (dwarf planet) มีรายชื่อฝนดาวตกทั้งหมด 365 ชุด ในจำนวนนั้นได้รับรองไปเพียง 64 ชุด ซึ่งทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ได้เลือกชุดฝนดาวตกที่น่าสนใจ มาให้รู้จักกันดังต่อไปนี้
- ควอดรานติดส์ (Quadrantids) เป็นฝนดาวตกส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่จากฝุ่นดาวเคราะห์น้อย 2003 อีเอช1 (2003 EH1) วันที่จำนวนดาวตกสูงสุดตรงกับ 3 ม.ค.
ภาพการเกิดฝนดาวตกเอพริล ลิริดส์ โดยมีจุดกระจายฝนดาวตกที่กลุ่มดาวพิณ (surveyor.in-berlin.de)
- เอพริล ลิริดส์ (April Lyrids) เป็นฝนดาวตกจากฝุ่นดาวหางธัทเชอร์ (Thatcher) วันที่จำนวนดาวตกสูงสุดตรงกับ 22 เม.ย.
- ไพ พัพพิดส์ (pi Puppids) เป็นฝนดาวตกจากฝุ่นดาวหาง 26พี/กริกก์-เจลเลอรัพ (26P/Grigg-Skjellerup) สังเกตปรากฏการณ์ได้ระหว่างวันที่ 15-28 เม.ย. โดยมีจำนวนดาวตกสูงสุดในวันที่ 23 เม.ย.
- เอตา อควารีดส์ (eta Aquariids) ฝนดาวตกจากฝุ่นดาวหางฮัลเล่ย์ (Halley) อันโด่งดัง วันที่จำนวนดาวตกสูงสุดตรงกับ 6 พ.ค.
- จูน บูติดส์ (June Bootids) เป็นฝนดาวตกซึ่งเกิดจากฝุ่นดาวหาง 7พี/พอนส์-วินเนค (7P/Pons-Winnecke) เกิดปรากฏการณ์ในช่วง 26 มิ.ย. 2 ก.ค. แต่มีจำนวนดาวตกสูงสุดในวันที่ 27 มิ.ย.
แผนภาพแสดงการเกิดฝนดาวตกเพอร์เซอิด ซึ่งมีจุดกระจายฝนดาวตกใกล้กลุ่มดาวเพอร์ซิอุส (surveyor.in-berlin.de)
- เพอร์เซอิด (Perseids) มีช่วงจำนวนดาวตกสูงสุดวันที่ 12-13 ส.ค. ซึ่งโดยฝนดาวชุดนี้มีจำนวนมากถึง 100 ดวงต่อชั่วโมง ฝนดาวตกชุดนี้เกิดจากดาวหางสวิฟต์-ทัทเทิล (Swift-Tuttle) ซึ่งฝุ่นของดาวหางนี้ผ่านเข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลกด้วยความเร็วถึง 212,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
แผนภาพแสดงการเกิดฝนดาวตกออริกิดส์
- ออริกิดส์ (Aurigids) เป็นฝนดาวตกจากฝุ่นดาวหางคีสส์ (Kiess) ซึ่งสังเกตปรากฏการณ์ได้ระหว่าง 20-23 ส.ค. ทั้งนี้ สถาบันวิจัยเซติ (SETI Institute) ของสหรัฐฯ มีโครงการศึกษาฝนดาวตกชุดนี้โดยขึ้นเครื่องบินไปสังเกตการณ์และบันทึกภาพปรากฏการณ์
- ลีโอนิดส์ (Leonids) มีจำนวนดาวตกสูงสุดวันที่ 17 พ.ย. ฝนดาวตกชุดนี้ได้ชื่อว่าเป็นราชาฝนดาวตก โดยฝุ่นจากดาวหาง 55พี/เทมเปล-ทัทเทิล (55P/Tempel-Tuttle) เป็นแหล่งกำเนิดของฝนดาวชุดนี้ ช่วงปีที่เราสังเกตฝนดาวตกชุดนี้ได้ดีที่สุดคือระหว่างปี 1998-2002 ซึ่งจากการลงความเห็นของผู้สังเกตการณ์ระบุว่าลีโอนิดส์ในปี 1998 เป็นชุดดีที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยสังเกตมา และช่วงสูงสุดของปี 1998 และ 2001 มีจำนวนดาวตกมากถึง 3,000 ดวงต่อชั่วโมง
- ฝนดาวตกเจมินิดส์ (Geminids) มีช่วงจำนวนดาวตกสูงสุดวันที่ 13-14 ธ.ค. ข้อมูลจากองค์การบริหารการบินอวกาศสหรัฐฯ (นาซา) ระบุว่า ฝนดาวตกชุดนี้เกิดจากฝุ่นของ 3200 เฟตอน (3200 Phaethon) ซึ่งเดิมเชื่อว่าเป็นดาวเคราะห์น้อย แต่ปัจจุบันเข้าใจใหม่ว่าเป็นดาวหางที่สลายไปแล้ว และในช่วง 40-50 ปีที่ผ่านมาเจมินิดส์มีจำนวนดาวตกชุกมากขึ้น โดยเมื่อปี 2009 ที่ผ่านมาคาดว่าช่วงสูงสุดมีจำนวนดาวตกมากถึง 140 ดวงต่อชั่วโมง และคาดว่าแนวโน้มจำนวนดาวตกเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากแรงดึงดูดของดาวพฤหัสดึงให้สายธารฝุ่นของดาวตกชุดนี้เข้าใกล้โลกมากขึ้นเรื่อยๆ
สำหรับผู้สนใจสามารถค้นรายชื่อฝนดาวตกชุดอื่นๆ ได้ในเว็บไซต์องค์กรศึกษาดาวตกระหว่างประเทศ @ //www.astro.amu.edu.pl/~jopek/MDC2007/index.php
ที่มา ผู้จัดการออนไลน์
Create Date : 06 สิงหาคม 2553 |
Last Update : 6 สิงหาคม 2553 12:17:18 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1407 Pageviews. |
|
|
|
|
|