ดาวน์โหลดโปรแกรม ดูละครย้อนหลัง อ่านเรื่องราวของความรู้รอบตัว วิทยาศาสตร์ ท่องเที่ยว สุขภาพ อาหาร รถยนต์ต่างๆ ไม่ทิ้งเรื่องราวความบันเทิงและเรื่องส่วนตัวอีกด้วย
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2553
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
31 พฤษภาคม 2553
 
All Blogs
 
วิตามิน (VITAMINS)..รู้หรือยังว่ามันมีตั้ง 24 ชนิด

วิตามิน (VITAMINS)

วิตามิน เป็นสารที่ร่างกายต้องการเพียงวันละน้อยเท่านั้น แต่มีความจำเป็นต่อการทำงานของร่างกาย ตั้งแต่การหายใจของเชลล์ การนำโปรตีนไขมัน และคาร์โบไฮเดรต ไปใช้ในการสร้างเนื้อเยื่อ และผลิตพลังงานสำหรับการดำรงชีวิต นอกจากนี้วิตามินยังจำเป็นสำหรับการทำงานของอวัยวะต่างๆ เช่น การสร้างเม็ดเลือดแดง การแข็งตัวของเลือด การสร้างกระดูก และการมองเห็น การทำงานของระบบประสาท วิตามินจึงเป็นสารสำคัญที่ร่างกายจะขาดเสียไม่ได้

วัตถุประสงค์ของการใช้วิตามิน
1. ให้เพื่อเสริม เป็นการให้วิตามินบางชนิดเสริมบางสภาวะที่ร่างกายมีความต้องการวิตามินและ เกลือแร่มากกว่าปกติ เช่น หญิงตั้งครรภ์
2. ระหว่างให้นมบุตรจะมีความต้องการสารอาหารเพิ่มขึ้น
3. ให้เพื่อป้องกันการขาด เป็นอาหารารเสริมในคนที่มีความเสี่ยงต่อภาวะขาด เช่นเด็กแรกเกิด หรือผู้ป่วยโรคเรื้อรัง
4. ให้เพื่อการรักษา ให้กับผู้ป่วยที่แสดงอาการขาด
5. ให้เพื่อหวังผลทางเภสัชวิทยา วิตามินขนาดสูงๆจะถูกนำมาใช้ในการรักษาโรคต่างๆได้

ชนิดของวิตามิน
แบ่งตามคุณสมบัติในการละลายน้ำ แบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม คือ

1. วิตามินที่ละลายในน้ำ ได้แก่ วิตามินบี 1, วิตามินบี 2, วิตามินบี 3, วิตามินบี 5, วิตามินบี 6, วิตามินบี 9, วิตามินบี 12, วิตามินบี 15, วิตามินบี 17, วิตามินซี, วิตามินพี, วิตามินเอช, โคลีน, รูติน, พาบา, อีโนซิตอล, คาร์นิทีน

2. วิตามินที่ละลายในไขมัน ได้แก่ วิตามินเอ, วิตามินเค, วิตามินดี, วิตามินอี, วิตามินเอฟ, แคโรทีน, เทารีน

ผลเสียของวิตามิน
วิตามินนั้นมีประโยชน์ต่อร่างกายของ แต่ถ้าได้รับวิตามินในปริมาณที่เกินพอดี อาจจะมีผลเสียต่อร่างกายได้ดังนี้

- วิตามินเอ ถ้าได้รับในปริมาณมากเกินไป จะเกิดอาการอาเจียน ผมร่วง ผิวหนังแห้งตกสะเก็ต ทำลายประสาทตา ตับ และกระดูก หรืออาจทำให้เด็กในท้องพิการได้
- วิตามินบี6 ถ้าได้รับในปริมาณมากเกินไป จะมีอาการเดินเซ มือเท้าชา และส่งผลให้ประสาทกล้ามเนื้อแขนขาถูกทำลาย
- วิตามินซี ถ้าได้รับในปริมาณมากเกินไป จะมีอาการปวดท้อง แน่นท้อง ท้องเสีย ท้องอืด และอาจรุนแรงถึงขั้นเป็นนิ่วในไตได้ แต่ถ้าหยุดรับประทานอาการเหล่านี้จะหายไป
- วิตามินอี ถ้าได้รับในปริมาณมากเกินไป จะมีอาการปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ตาพร่ามัว กล้ามเนื้อล้า แน่นท้อง และท้องร่วง และถ้าร่างกายขาดวิตามินอีสูงมาก อาจขัดขวางวิตามินเอได้

คราวนี้มาทำความรู้จักกับวิตามินกันสักชนิดหนึ่ง ยกมาเป็นกระสัยได้แก่วิตามิน เอ

วิตามินเอ
วิตามินเอ มีส่วนประกอบสำคัญของคอร์เนีย และยังมีผลต่อการเจริญเติบโต การสร้างกระดูก และระบบสืบพันธุ์ นอกจากนี้ ยังป้องกันการติดเชื้อระบบทางเดินอาหาร ระบบทางเดินหายใจ และระบบขับปัสสาวะ ทำให้ผิวและผมแข็งแรง วิตามินเอถูกค้นพบโดย ดร. อี.วี. แมคคอลลัม (E.V. McCollum) นักวิทยาศาสตร์ชาวสหรัฐอเมริกา

วิตามินเอ แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม
1. อยู่ในรูปแบบวิตามินอยู่แล้ว (Proformed Vitamin A)หรือเรียกว่า Retinol ซึ่งได้มาจากเนื้อสัตว์ เช่น น้ำมันตับปลา
2. กำลังจะเป็นวิตามินเอ (Provitamin A) หรือเรียกว่า Carotene เป็นสารที่เมื่อเข้าสู่รางกายจึงได้รับการเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ พบมาในผักสีต่างๆ เช่น แครอท ผักโขม

ประโยชน์
- ช่วยบำรุงสายตา และแก้โรคตามัวตอนกลางคืน (Night Blindness)
- ช่วยให้กระดูก ผม ฟัน และเหงือกแข็งแรง
- สร้างความต้านทานให้ระบบหายใจ
- ช่วยสร้างภูมิชีวิตให้ดีขึ้น และทำให้หายป่วยเร็วขึ้น
- ช่วยในเรื่องของผิวพรรณ ลดการอักเสบของสิว และช่วยลบจุดด่างดำ
- ช่วยบรรเทาโรคเกี่ยวกับไทรอยด์



แหล่งวิตามินเอ
ผักผลไม้ที่ให้วิตามินเอส่วนใหญ่จะมีสีเหลือง ส้ม แดง และเขียวเข้ม เพราะมีเบต้าแคโรทีนและแคโรนอยด์ที่ร่างกายจะเปลี่ยนเป็นวิตามินเอต่อไป เนื่องด้วยวิตามินเอในผักผลไม้มีความไวต่อออกซิเจนมาก ดังนั้นวิธีการต้มที่ป้องกันการสูญเสียวิตามินได้ดีทีสุดคือ ควรปิดฝาภาชนะขณะต้มและใส่น้ำน้อยๆ

ร่ายกายต้องการวิตามินเอในแต่ละวันอยู่ที่วันละ 4,000-5,000 IU แหล่งวิตามินในธรรมชาติ จำนวน ปริมาณสารอาหารที่ได้รับ (ต่อน้ำหนัก 100 กรัม)

-ผักตำลึง 18,608 IU
-ยอดชะอม 10,066 IU
-คะน้า 9,300 IU
-แครอท 9,000 IU
-ยอดกระถิน 7,883 IU
-ผักโขม 7,200 IU
-ฟักทอง 6,300 IU
-มะม่วงสุก 1 ผล(โดยเฉลี่ย) 4,000 IU
-บรอกโคลี 1 หัว(โดยเฉลี่ย) 3,150 IU
-แคนตาลูบ 3,060 IU
-แตงกวา 1 กิโลกรัม 1,750 IU
-ผักกาดขาว 1,700 IU
-มะละกอสุก 1 ชิ้นยาว(โดยเฉลี่ย) 1,500 IU
-หน่อไม้ฝรั่ง 810 IU
-มะเขือเทศ 800 IU
-พริกหวาน 1 เม็ด(โดยเฉลี่ย) 500-700 IU
-แตงโม 1 ชิ้นใหญ่ 700-1,000 IU
-กระเจี๊ยบเขียว 470 IU

อันตรายจากการขาดวิตามินเอ
1. โรคผิวหนัง เนื่องจากวิตามินเอมีส่วนสำคัญในการรักษาสภาพเยื่อบุผิวหนัง ขาดวิตามินเอทำให้ผิวพรรณขาดความชุ่มชื้น หยาบกร้าน แห้งแตก โดยเฉพาะผิวหนังบริเวณข้อศอก ตาตุ่มและข้อต่อด่างๆ ซึ่งอาจนำไปสู่โรคผิวหนัง เช่น สิวและโรคติดเชื้ออื่นๆ ได้
2. ตาฟาง หน้าที่ของวิตามินเอคือช่วยในการสร้างสารที่ใช้ในการมองเห็น หากขาดจะทำให้มองเห็นได้ยากในเวลากลางคืนหรือในที่แสงสว่างน้อย และทำให้เยื่อบุตาแห้ง กระจกตาเป็นแผล ในกรณีที่ร่างกายขาดวิตามินเออย่างรุนแรงอาจทำให้ตาบอดได้
3. ความต้านทานโรคต่ำ วิตามินเอเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายของเราทำงานตามปกติ การขาดวิตามินเอจึงทำให้เกิดโรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจได้ง่าย อีกทั้งยังทำให้เกิดการอักเสบในโพรงจมูก ช่องปาก คอ และที่ต่อมน้ำลาย

อันตรายจากการได้รับวิตามินเอเกิน
1. แท้งลูกหรือพิการ หญิงมีครรภ์ที่ได้รับวิตามินเอมากเกินไปมีความเสี่ยงต่อภาวะทารกในครรภ์คลอดออกมาพิการหรือแท้งได้ เนื่องจากวิตามินเอมีผลต่อการเจริญเติบโตของเด็กในครรภ์ ซึ่งอาจทำให้เด็กมีความผิดปกติที่ทางเดินปัสสาวะ กระดูกผิดรูป หรือมีติ่งปูดออกมาที่บริเวณหู
2. อ่อนเพลีย หากร่างกายได้รับวิตามินเอเกินครั้งละ 15,000 ไมโครกรัม จะมีผลทำให้รู้สึกอ่อนเพลียและอาเจียนได้
3. เจ็บกระดูกและข้อต่อ เบื่ออาหาร เซื่องซึม นอนไม่หลับ กระวนกระวาย ผมร่วง ปวดศีรษะ ท้องผูก ทั้งหมดนี้เป็นโทษในระยะยาวที่เกิดจากการรับประทานวิตามินเอมากเกินไป


ส่วนวิตามินอื่นๆ ลองเข้าไปศึกษาเพิ่มเติมได้ครับ(คลิกที่ชื่อได้เลย)

1. วิตามินเค (MENADIONE)
2. วิตามินอี (TOCOPHEROL)
3. วิตามินเอฟ (LINOLEIC ACID)
4. วิตามินดี (CALCIFEROL หรือ ERGOSTEROL)
5. เทารีน (TAURINE)
6. แคโรทีน (CAROTENE)
7. คาร์นิทีน (CARNITINE)
8. อีโนซิตอล (INOSITOL)
9. พาบา (PABA - AMINOBENZOIC ACID)
10. รูติน (RUTIN)
11. โคลีน (CHOLINE)
12. วิตามินเอช (BIOTIN)
13. วิตามินพี (BIOFLAVONOIDS)
14. วิตามินซี (ASCORBIC ACID)
15. วิตามินบี 17 (AMYGDALIN หรือ LAETRILLE)
16. วิตามินบี 15 (PANGAMIC ACID)
17. วิตามินบี 12(COBALAMIN)
18. วิตามินบี 9 (FOLIC ACID)
19. วิตามินบี 6 (PYRIDOXINE)
20. วิตามินบี 5 (PANTOTHENIC ACID)
21. ไนอาซิน(วิตามินบี 3)
22. ไรโบเฟลวิน(วิตามินบี2)
23. ไทอามีน(วิตามินบี1)
24. วิตามินเอ



Create Date : 31 พฤษภาคม 2553
Last Update : 31 พฤษภาคม 2553 17:16:43 น. 0 comments
Counter : 1806 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

scimovie
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 108 คน [?]




แหล่งรวบรวมความรู้ โปรแกรม เพลง หนัง เกมส์ วิทยาศาสตร์ ดูละคร เรื่องย่อ ภาพยนตร์ การเงิน และอื่นๆ อีกมากมาย สุดท้ายขอกำลังใจให้มีแรงอัพเดทตลอดๆ ครับ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยียนกันครับ
Friends' blogs
[Add scimovie's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.