เดินทางมา 33 ปี วอยเอเจอร์ 1 ส่งสัญญาณใกล้แตะขอบระบบสุริยะเป็นครั้งแรก
เดินทางมา 33 ปี วอยเอเจอร์ 1 ส่งสัญญาณใกล้แตะขอบระบบสุริยะเป็นครั้งแรก
ภาพวาดแสดงการเดินทางของวอยเอเจอร์ซึ่งส่งสัญญาณมาล่าสุดว่าพ้นขอบเขตฟองอนุภาคที่ส่งมาจากดวงอาทิตย์แล้ว และกำลังมุ่งหน้าสู่อวกาศระหว่างดวงดาว เป็นการเดินทางออกจากสุริยมณฑลครั้งแรกที่กำลังจะเกิดขึ้น (บีบีซีนิวส์)
วอยเอเจอร์ 1 มาถึงจุดที่จะก้าวพ้นขอบสุริยะ หลังตรวจพบสัญญาณความเร็วการเคลื่อนที่ของลมสุริยะเหลือศูนย์ ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเป็นจุดสิ้นสุดของระบบสุริยะ คาดยานสำรวจอายุ 33 ปี จะเข้าสู่อวกาศด้านนอกในอีก 3-4 ปีข้างหน้า วอยเอเจอร์ 1 (Voyager 1) เข้าสู่หลักไมล์ใหม่ ในเส้นทางสำรวจของตัวเอง และกำลังจะก้าวพ้นระบบสุริยะของเราออกไปในไม่ช้า ซึ่งตอนนี้ยานอยู่ห่างจากโลกออกไป 1.74 หมื่นล้านกิโลเมตร โดยบีบีซีนิวส์ระบุว่า ยานที่ผ่านประสบการณ์เดินทางมาอย่างโชกโชนได้ตรวจพบการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนของกระแสอนุภาคที่อยู่รอบๆ ยาน อนุภาคที่ฟุ้งกระจายออกมาจากดวงอาทิตย์เหล่านี้ ไม่ได้ฟุ้งกระจายออกไปข้างนอก แต่กำลังเคลื่อนที่ไปข้างๆ ซึ่งหมายความว่ายานวอยเอเจอร์ใกล้จะเข้าสู่อวกาศระหว่างดวงดาว (interstellar space) แล้ว ดร.เอ็ดเวิร์ดส สโตน (Edward Stone) นักวิทยาศาสตร์โครงการวอยเอเจอร์ ชื่นชมยานสำรวจอวกาศและข้อมูลวิทยาศาสตร์อันน่าเย้ายวนที่ยานส่งกลับตลอด 33 ปี นับแต่ส่งยานขึ้นไป ซึ่งเมื่อครั้งนั้น "ยุคอวกาศ" (space age) เพิ่งเริ่มต้นได้เพียง 20 ปีเท่านั้น จึงยังไม่มีใครทราบว่า ยานอวกาศจะคงอยู่ได้นานขนาดนี้ เราไม่รู้เลยว่า เราจะต้องเดินทางไกลแค่ไหนเพื่อจะพ้นจากระบบสุริยะ ตอนนี้เรารู้แล้วล่ะว่าในอีกราวๆ 5 ปี เราจะได้ออกไปข้างนอกเป็นครั้งแรก ดร.สโตนกล่าวภายในงานประชุมวิชาการสหภาพธรณีฟิสิกส์อเมริกันประจำฤดูใบไม้ร่วง (American Geophysical Union (AGU) Fall Meeting) ซึ่งเป็นงานที่รวมนักธรณีวิทยาที่ใหญ่ที่สุดในโลก วอยเอเจอร์ 1 ถูกส่งขึ้นไปเมื่อ 5 ก.ย. ปี ค.ศ.1977 และยานผู้น้องวอยเอเจอร์ 2 (Voyager 2) ถูกส่งตามขึ้นไปหลังจากนั้นไม่มีกี่เดือนคือในวันที่ 20 ส.ค. ซึ่งยานสำรวจขององค์การบริหารการบินอวกาศสหรัฐฯ (นาซา) มีเป้าหมายเบื้องต้นคือการสำรวจดาวเคราะห์วงนอก ดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ ยูเรนัสและเนปจูน โดยภารกิจดังกล่าวสำเร็จเมื่อปี ค.ศ.1989 จากนั้นยานทั้งสอง ได้ทำหน้าที่ในการส่งข้อมูลและข่าวสารจากการมุ่งหน้าสู่อวกาศห้วงลึกและทิศทางสู่ใจกลางกาแลกซีทางช้างเผือก ความคงทนของชุดพลังงานกัมมันตภาพรังสีทำให้อุปกร์ณต่างๆ ของยานทั้งคู่ยังคงทำงานได้ดีอยู่ และยังคงส่งข้อมูลกลับมายังโลก แม้ว่าด้วยระยะทางที่ไกลมาระหว่างโลกและยานอวกาศจะทำให้ข้อความจากสัญญาณวิทยุที่ส่งมาต้องใช้เวลานานถึง 16 ชั่วโมง รายงานการสำรวจล่าสุดมาจากเครื่องมือตรวจวัดอนุภาคมีประจุพลังงานต่ำ (Low-Energy Charged Particle Instrument) ของยานวอยเอเจอร์ 1 ซึ่งทำหน้าที่จับตาความเร็วลมสุริยะ ซึ่งกระแสของอนุภาคมีประจุนี้ก่อตัวเป็นเหมือนฟองอากาศรอบๆ ระบบสุริยะ ที่รู้จักกันในชื่อ สุริยมณฑล (heliosphere) โดยลมสุริยะดังกล่าวเคลื่อนที่ด้วยความเร็วระดับเสียงซูเปอร์โซนิกจนกระทั่งข้ามผ่านคลื่นกระแทกที่เรียกว่า กำแพงกระแทก (termination shock) ณ จุดนี้เมื่อถึงบริเวณที่เรียกว่า ฝักสุริยะ (heliosheath) ลมสุริยะจะลดความเร็วลงอย่างมากและร้อนขึ้น โดยยานวอยเอเจอร์ประเมินว่าความเร็วของลมสุริยะ ณ จุดที่ยานอยู่นั้นช้าลงเหลือศูนย์ เราได้มาถึงจุดที่ลมจากดวงอาทิตย์ซึ่งปกติจะเคลื่อนออกไปข้างนอกอยู่ตลอดไม่เคลื่อนออกไปข้างนอกแล้ว แต่มีเพียงการเคลื่อนไหวข้างๆ ซึ่งท้ายสุดจะรวมเป็นหางของสุริยมณฑล ที่มีรูปร่างคล้ายดาวหาง ดร.สโตน ซึ่งประจำอยู่ที่สถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนียในพาซาเดนา (California Institute of Technology in Pasadena) แคลิฟอร์เนียอธิบาย ปรากฏการณ์ดังกล่าวเป็นผลจากลมต้านสสารที่มาจากดาวอื่น ซึ่งขอบเขตระหว่างลมทั้งสองทิศทางนั้นถือเป็น ขอบอย่างเป็นทางการ ของระบบสุริยะหรือ ขอบสุริยะ (heliopause) เมื่อวอยเอเจอร์ผ่านจุดดังกล่าวไปแล้ว ตำแหน่งของยานก็จะอยู่ในอวกาศระหว่างดวงดาว สัญญาณแรกที่บ่งชี้ว่าวอยเอเจอร์ได้ก้าวสู่หลักไมล์สำคัญมาถึงโลกเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา และข้อมูลต่อมาอีกหลายเดือนยืนยันชัดเจนถึงสิ่งที่วอยเอเจอร์ได้สำรวจพบ ซึ่งสัญญาณความเร็วเหลือศูนย์ของอนุภาคจากดวงอาทิตย์นั้นทำให้ ร็อบ เด็คเกอร์ (Rob Decker) ผู้สังเกตการณ์ร่วมในเครื่องมือตรวจวัดอนุภาคมีประจุพลังงานต่ำ จากห้องปฏิบัติการฟิสิกส์ประยุกต์ มหาวิทยาลัยจอห์นสฮอพกินส์ (Johns Hopkins University) ในลอเรล แมรีแลนด์ รู้สึกอึ้ง วอยเอเจอร์ที่ทำหน้าที่เป็นม้างานมานาน 33 ปี ได้แสดงให้เราได้เห็นถึงการค้นพบใหม่ๆ อีกครั้ง เด็คเกอร์กล่าว ตอนนี้วอยเอเจอร์กำลังซิ่งออกจากขอบอวกาศด้วยความเร็ว 17 กิโลเมตรต่อวินาที ซึ่ง ดร.สโนคาดการณ์ว่า การข้ามผ่านขอบอวกาศจะเกิดขึ้นในอีก 3-4 ปีข้างหน้า
ที่มา //www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9530000175826
Create Date : 16 ธันวาคม 2553 |
Last Update : 16 ธันวาคม 2553 10:07:55 น. |
|
2 comments
|
Counter : 1210 Pageviews. |
|
|
|
โดย: axquest IP: 58.8.54.207 วันที่: 16 ธันวาคม 2553 เวลา:13:11:16 น. |
|
|
|
โดย: Expert IP: 193.47.167.190 วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:19:51:54 น. |
|
|
|
|
|