วันที่ 16 วันนี้หน้าตาเธอดูดีกว่าเมื่อวาน...เธอยังคุยไม่ค่อยได้ เพราะยังมีสายระโยงระยางในปากและรอบตัวเธอ...ไม่เป็นไร แค่เห็นหน้าเธอดีขึ้นฉันก็พอใจและมีความสุขแล้ว...เธอพูดเสียแผ่วเบาบอกฉันว่า เมื่อคืนมีคนที่เธอรักคนหนึ่งมาเยี่ยมเธอตอนห้าทุ่ม มายืนมองดูเธอ..เธอบอกว่าคนๆ นั้นน้ำตาไหลที่เห็นเธอในสภาพแบบนี้...ฉันถามเธอว่า ร้องไห้เพราะรู้สึกผิด สำนึกผิดหรือเสียใจ หรือสงสารเธอ เธอบอกอาจประการหลังก็ได้ นี่เป็นอีกผลหนึ่งที่เธอดีขึ้น...เป็นหนึ่งในสองคนที่ทำให้เธอดีขึ้น...อีกคนก็มาเยี่ยมเธอตอนเย็นมากแล้ว มาพร้อมความเสียใจและสำนึกที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้เธอต้องพบอุบัติเหตุในครั้งนี้ เธอขอร้องฉัน...อย่าโกรธเธอคนนั้นเลย เป็นความผิดเธอเอง...ฉันเห็นความรักของเธอที่มีต่อเธอคนนั้น จนเธอคนนั้นบอกกับฉันว่า "แพ้ใจของเธอจริงๆ เธอคนนั้นยอมแพ้เธอแล้ว" ยังไงก็ได้เพื่อเธอฉันทำทุกอย่างได้เสมอ เหตุผลอยู่บนความไม่มีเหตุผลเพราะความรักมากมักไม่มีเหตุผล...วันนี้ตอนเย็นเธอย้ายออกจากห้อง ICU แล้วแต่เธอก็ยังมีสายระโยงระยางตามไปเหมือนเดิม หมอบอกอย่าขยับ อย่าดึง จนกว่าจะครบ 2 อาทิตย์ ฉันรู้ว่าเธอเมื่อย เธอเหนื่อย เธอล้า เธออยากทำอะไรด้วยตัวเธอเอง เธอพยายามต่อสู้กับอาการบาดเจ็บครั้งนี้...ฉันได้แต่เตือนเธอว่า..อดทน..ไว้ก่อนเชื่อหมอนะ...เธอพยักหน้า...ตอนนี้เช้าวันที่ 17....เมื่อคืนฉันนอนหลับผลอยไม่รู้ตัว..ปวดหัว...เหนื่อยและเพลียเหลือเกิน...ไม่เคยเหนื่อย รู้สึกแย่ ปวดหัวขนาดนี้..แต่ฉันก็จะสู้ๆ เหมือนที่ฉันบอกให้เธอสู้ๆ...สู้ๆ นะ...วันนี้ไป รพ. เหมือนหลายวันที่ไป...ใจไปหาเธอก่อนตัว...เข้าไปคำแรกที่ถาม "เป็นอย่างไรบ้างวันนี้" เธอพูดได้แล้วและตอบกลับว่า "ดีกว่าเมื่อวาน" ฉันดีใจ เธอพูดได้สะดวกขึ้นเพราะวันนี้หมอเอาสายดูดสเลดในคอเธอออกแล้ว แต่เธอยังไม่ค่อยมีเรี่ยวแรงที่จะพูดสักเท่าไร เธอเริ่มขยับตัวไปมาพร้อมใบหน้าที่เจ็บปวด.."เจ็บเหรอ" ฉันถามเธอไปอย่างนั้น เธอบอกว่า "นิดหน่อยแต่เมื่อยและปวดหลังมากกว่า" ฉันอยากเจ็บแทนเธอเหลือเกิน สงสารเธอมาก...ขอให้เธอหายไวไวนะ...หมอบอกเธอต้องทนแบบนี้ 2 อาทิตย์และหยุดพักงาน 1 เดือนเป็นอย่างต่ำ...เธอส่ายหน้า...แต่ฉันพยักหน้าแทนเธอ...พักเหอะนะ...พักจากสิ่งที่เจ็บปวด...พักจากความเหนื่อยล้ากับชีวิต พักจากสิ่งต่างๆ รอบตัวที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้...พักเพื่อลุกขึ้นมาสู้เหมือนที่เคยสู้ร่วมกับฉันตลอดไป...รักเธอคนนี้มากจริงๆ นะ...สี่ทุ่มกว่า (อีกแล้ว)..มีโทร. มาบอกว่า...เธอคงต้องผ่าตัดใหม่...ตอนนี้เธอกำลังแย่กำลังรอหมออยู่...ฉันเริ่มกังวล และงุนงงอีกครั้ง...เกิดอะไรขึ้นกะเธอหนอ..ไม่ว่าอะไรจะเกิดก็ตามขอให้หมอมาดูแลเธอรีบด่วนและขอให้ทุกสิ่งผ่านไปด้วยดี ขอให้เธอไม่ต้องผ่าตัดใหม่...ตอนนั้นฉันคิด..ฉันจะทำอย่างไรดี ฉันจะกลับไป รพ. อีกดีมั๊ย มีโทร. มาอีกครั้งบอกว่ายังไม่ต้องไปจะขอแก้ไขเองถ้ามีอะไรจะโทร.มาบอก...ฉันเดินไปเดินมาอย่างงุ่นง่านเหมือนคนจิตตก เดินไปนั่งที่หน้าพระกราบวิงวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งปวงอวยพรให้เธอไม่ต้องผ่าตัดและหายจากอาการที่เป็นอยู่ด้วยเถิด...สักพักมีโทร. กลับมาว่าตอนนี้หมอมาแล้ว ไม่ต้องห่วงแล้วนะ...หมอรักษาอาการที่เกิดเรียบร้อยแล้วไม่ต้องผ่าตัดแล้ว...เฮ้อ...เหนื่อยเหลือเกิน...ขอให้เธอหายไวไวนะ...วันที่ 18 รีบไป รพ. แต่เช้าและเกงานอีกหนึ่งวันหลังจากที่วันศุกร์เกมาแล้ว ตอนนี้งาน หรืออะไรก็ไม่สำคัญเท่าเธออีกแล้ว..เพราะฉันจะอยู่อย่างไรหากไม่มีเธอ...ไปถึงฉันเห็นหน้าตาเธอแจ่มใสกว่าเมื่อวาน...ดีใจที่เห็นเธอแบบนี้...สายหน่อยฉันบอกเธอว่าฉันจะไปวัดไปทำบุญ แล้วจะเอาบุญมาฝากนะ เธอพยักหน้ารับ...ไปทำบุญหลายที่ บุญครั้งนี้มอบให้เธอทั้งหมดขอให้เธอหายวันหายคืนมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงเหมือนเดิม...วันนี้เธอย้ายห้องอีกแล้วเพราะห้องที่เธออยู่เป็นห้องพิเศษรวม 2 เตียงตอนเช้ามีคนไข้มานอนรอรักษา 1 คนคุยกันเสียงดังมากเธอไม่ได้หลับได้นอนเลยเมื่อคืนเธอก็ไม่ได้นอนเพราะมีอาการไม่ดี...แต่พอตกบ่ายเค้าก็ย้ายออกจาก รพ. เธอบอกฉันว่าถ้าขืนเค้ายังไม่ไป คืนนี้คงมีเรื่องแน่นอน...ตกตอนเย็นมีคนไข้คนใหม่มาอีกคนแล้ว...เสียงไม่ดัง...แต่ญาติเยอะ คุยกันจ๊อกแจ๊กฟังไม่ได้ศัพท์ เธอบ่นว่าเบื่อขอย้ายไปห้องพิเศษเดี่ยว...มีห้องให้เธอด้วย...เธอยิ้มที่ได้ห้องที่ไม่ต้องรบกวนใครและไม่ให้ใครมารบกวน...ในช่วงหนึ่งเธอพูดกับฉันว่า เมื่อคืนนี้เธอได้อธิษฐานไว้ว่า...เมื่อเธอหายเจ็บป่วยครั้งนี้ เธอจะบวชเสียที...เป็นข่าวดีจริงๆ นะ...ฉันเองก็คิดว่าถึงเวลาที่เธอควรบวชเสียที..รู้ไหมว่าสิ่งนี้ทำให้ใครหลายๆ คนมีความสุข...คนที่รอเห็นชายผ้าเหลืองของเธอ...ความสุขที่เธอให้คนอื่นนี้...ขออธิษฐานให้เธอหายวันหายคืน มีความสุขมากๆ และคืนนี้ฝันดีนะ...พรุ่งนี้ตื่นมาขอให้เธอหายไวไวและหายดีมีสุขภาพแข็งแรงเหมือนเดิมนะ...อ่อ..วันนี้หมอให้เธอทานโอวัลตินได้แล้วแต่ก็ยังคงให้น้ำเกลือ...วันที่ 19 วันนี้ไปหาเธอตอนเย็นมากแล้วเพราะวันนี้ต้องไปทำงาน เพื่อจะได้หยุดได้ในวันพรุ่งนี้และวันต่อไปที่จำเป็น...พยาบาลบอกเธอว่าหมอให้ออกจาก รพ. ได้แล้วเพราะอาการเธอปลอดภัยแล้ว...ฉัน งง เท่าที่ฉันเห็นเธอยังลุกจากเตียงไม่ได้ แค่นั่งเธอก็หน้าบูดเบี้ยวเพราะเจ็บแผลที่หมอเย็บ..แล้วเธอจะกลับบ้านได้อย่างไร พวกเราจึงไปคุยกับพยาบาลเพราะเย็นมากแล้วหมอกลับบ้านไปนานแล้ว...พยาบาลบอกคุณหมอให้กลับบ้านวันนี้ได้แล้ว...พวกเราพกปัญหามากมายไปถามคุณพยาบาล...ทำไม...ทำไม...และทำไม..พยาบาลบอกเอางี้แล้วกันรอคุยกับคุณหมอพรุ่งนี้เพราะอะไร ??...วันนี้เธอหน้าตาดีขึ้นกว่าวันก่อน...มีนอนกระดิกขาเล่นเกมกด...วันนี้เธอทานโจ๊กได้แล้ว...แต่เธอบ่นว่าแน่นแบบจุกที่หน้าอกใต้หัวใจ...สักพัก...ค่อยยังชั่วขึ้น...คงเป็นเพราะไม่ได้ทานอะไรมาหลายวันลมจึงขึ้นมั๊ง...พยาบาลนัดพวกเราเจอคุณหมอตอนเช้า...รู้ตัวว่าต้องเกงานแหงๆ...วันที่ 20 แวะไป รพ. แต่เช้าเพื่อเจอกับหมอ ก่อนไป รพ. แวะซื้อเกี้ยมอี๋ และอาหารอย่างอื่นสำหรบคนเฝ้าเธอ พอไปถึง รพ. เธอทานเกี้ยมอี๋ของ รพ. เรียบร้อยไปแล้ว..ช่างใจตรงกันแฮะ...เสร็จคนที่ไปด้วย ซัดเกี้ยมอี๋แทนคนป่วยหมดชาม...คนป่วยนอนมองตาปริบๆ..สายตาฟ้องพูดว่า...มันตายอดตายอยากมาจากไหนหนอเนี่ย....หมอยืนยันว่าเธอสมควรกลับบ้านได้แล้ว...อาการเธอดีรวดเร็วและปลอดภัยแล้ว...กลับก็กลับ...พอกลับถึงบ้านเธอพูดคำแรกว่า...อยากกลับมานอนบ้านนานแล้วนอนที่บ้านสบายกว่ากันเยอะที่นอนที่ รพ. แข็งจนปวดหลัง...55555....แต่ไม่มีพยาบาลสวยๆ มาพยาบาลนะ มีแต่พยาบาลหน้าเดิมๆ ที่เธอเห็นจนชินมาพยาบาลแทนเอาเหรอ...เธอพยักหน้าตกลง...อาหารมื้อแรกที่บ้านที่เธอขอ คือ ข้าวมันไก่..หมดห่อเลย...คนข้างตัวเธอต่างอึ้งทึ่ง...คงอยากทานจริงๆ แต่มีคนห่วงกลัวจะทานไม่ได้ ทานได้หรือไม่ได้ก็หมดห่อไปแล้ว...ทุกคนเป็นห่วงเธอนะ คอยเป็นกำลังใจและดูแลเธอให้เธอหายดี ขอให้เธอหายไวไวมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงเหมือนเดิมนะ...พวกเรารักเธอค่ะ...ปล.พักนี้มีเรื่องมากมาย จนไม่มีกระจิตกระใจไปทักทายใครที่บล๊อก ถ้าหากใครที่ยังคงคิดถึงกันและนึกถึงกันได้เข้ามาอ่านบล๊อกนี้ ได้รับทราบไว้ก่อนนะคะ เมื่อทุกอย่างเข้าสู่ภาวะปกติแล้วจะกลับไปทักทายดังเดิม (เขียนเหมือนใบลาป่วยส่งคุณครูสมัยเด็กๆ เลยค่ะ...55555...) คิดถึงทุกคนเสมอค่ะ แต่ไม่มีเวลามากมายค่ะ......