deeplove
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




Group Blog
 
<<
มีนาคม 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
2 มีนาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add deeplove's blog to your web]
Links
 

 
คุณค่ากับการคาดหวัง






คนเราเกิดมาในโลกนี้...ทุกคนมีคุณค่ากันทุกคน

ถึงแม้ใครจะไม่เห็นค่า..แต่ตัวเราเองย่อมเห็นคุณค่าของตัวเอง

คุณค่าของคนแต่ละคนย่อมแตกต่างกัน....

คุณค่าของคนไม่ได้อยู่ที่จนหรือรวย แต่คุณค่าของคนอยู่ที่ความดี....



หากเรามีเส้นเชือกสองเส้น มีความยาวไม่เท่ากัน

เส้นหนึ่งยาว 7 ฟุต อีกเส้นหนึ่งยาว 5 ฟุต

ถ้าหากว่าเราจะทำให้เส้นยาว 5 ฟุต ยาวกว่าเส้น 7 ฟุต เราจะทำอย่างไร



หลายคนคงตัดสินใจตัดเส้น 7 ฟุตตัดออกจนเหลือ 3 ฟุต

ซึ่งเป็นสิ่งที่แน่นอนว่าทำให้เชือกเส้น 7 ฟุตและเส้น 5 ฟุตยาวกว่าแน่นอน

ทางเลือกของคนเรามักไม่มีทางเลือกเดียวให้เราต้องเลือก

แล้วเคยคิดบ้างมั๊ยว่า จากเรื่องเชือกสองเส้นนี้

ทำให้เราเรียนรู้ความคิดที่เป็นทางเลือกได้อีกแบบว่า

ถ้าหากว่าเราลองต่อเส้น 5 ฟุตให้ยาวออกไปเป็น 10 ฟุต

วิธีนี้จะไม่ดีกว่าวิธีแรกหรือ คือ เป็นวิธีที่ไม่ทำลายเส้นที่มีอยู่ให้เสียไป

เพราะการลบออก ก็เหมือนกับการมองอะไรในแง่ลบ

สิ่งใด ๆ ก็ตามที่เป็นแง่ลบ ทุกคนก็ย่อมรู้ว่าไม่ใช่สิ่งที่ดี


ในแง่ของเชือกสองเส้นนี้ก็เช่นเดียวกันการตัดเชือกออกจึงไม่ใช่ทางเลือกที่ดี

และถ้าเราเปรียบเชือกสองเส้นนี้ คือ คน ก็จะทำให้เห็นได้ว่า

ถ้าหากเราต้องการเพิ่มค่าให้กับตัวเราเอง เราก็ไม่ควรไปทำลายค่าของคนอื่น

หรือไปลดค่าของผู้อื่นเพราะทุกคนย่อมต้องการให้ตัวเองมีคุณค่าเช่นกัน

คือ ถึงแม้จะไม่ได้เพิ่มค่าขึ้น แต่ก็ไม่อยากให้ตัวเองถูกทำลายค่า

จึงเห็นได้ว่าวิธีลดคุณค่าคนอื่นไม่ใช่วิธีการฉลาดเลยที่จะเลือกทำ

เพราะในโลกนี้ยังมีวิธีอื่นที่ดีกว่า เหมือนอย่างเส้นเชือกถ้าเปรียบเป็นคน

ก็โดยการเพิ่มคุณค่าตัวเองด้วยตัวของตัวเองและไม่ไปลดค่า

หรือ ทำลายค่าของคนอื่น และให้คนอื่นทรงคุณค่าของเขาอยู่อย่างนั้น



เปรียบเหมือนคนที่พยายามจะเลื่อนตัวเองขึ้นไปเพื่อให้ตัวเองดูดีและสำเร็จ

โดยการฆ่าน้อง ฟ้องนาย และขายเพื่อน ซึ่งเป็นวิธีการทำลายคนอื่นนั้น

ถึงแม้จะทำได้สำเร็จ แต่เป็นความสำเร็จที่น่าละอายแก่ใจ

และไม่มีศักดิ์ศรีเอาเสียเลย อีกทั้งยังไม่สามารถจะบอกใครๆได้อย่างภาคภูมิใจ

เพราะเป็น การเลื่อนตัวเองโดยวิธีที่ไม่ชอบธรรม และทำให้เกิดผลที่ผิดกันต่างกัน



ในทางชีวิตแล้ว "จงอย่าคิดว่าคู่แข่งของเรา คือ ศัตรู"

แต่จงคิดว่า คู่แข่ง คือ คนสำคัญ

เป็นคนที่ทำให้เรามองเห็นอะไรบางอย่าง ที่จะทำให้เรานำสิ่งที่ผิดพลาด

ไปใช้ในการพัฒนาตนเอง ให้เทียบเท่า หรือ ดีกว่า

เป็นคนที่จะทำให้เราก้าวไปข้างหน้าเพราะมีคู่แข่งที่สำคัย

ซึ่งในชีวิตจริงของคนเรา ถ้าหากว่าเราปราศจากคู่แข่งแล้วเราจะรู้ได้หรือว่า

ตัวเรามีคุณภาพในการทำงานตรงนั้นแค่ไหนเขาว่ากันว่า

ถ้าหาก ไม่มีความอัปลักษณ์ ก็จะไม่รู้จักความสวยงาม

นักสู้ที่ดีมักชื่นชมคู่ต่อสู้ที่เข้มแข็งและฉลาด เพราะนั่นทำให้เรามีความพยายาม

ที่จะทำให้ตัวเองเก่ง และดีกว่าคู่ต่อสู้ ซึ่งคู่ต่อสู้ก็ยอมรับในความสามารถของเรา

เพราะเขาทำได้แค่นั้น แต่เราทำได้ดีกว่าเขา เราจึงไม่มีศัตรูเพิ่ม

และทำให้เรามีเพี่อนที่ดีเกิด ถึงแม้ว่าเพื่อนคนนั้นจะเป็นคู่แข่งกันกับเรา

แต่เป็นเพื่อนที่ได้จากมิตรภาพของการแข่งขันอย่างสมศักดิ์ศรีและจริงใจ

ซึ่งเป็นรากฐานของมิตรภาพที่เกิดขึ้นในโลกมนุษย์ใบนี้อย่างแท้จริง.....



ในความรัก เมื่อเวลาที่เรามีความรู้สึกรักใครสักคน

ทุกคนย่อมคาดหวัง ที่จะให้ความรักที่มีสมหวังเสมอ


ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกว่าเค้าคนนั้นจะต้องรักเรา

เหมือนที่เรารักเค้า..เค้าคนนั้นจะต้องคิดถึงเรา

เหมือนที่เราคิดถึงเค้า..เค้าคนนั้นจะห่วงใยเรา

เหมือนที่เราห่วงใยเค้า..เค้าคนนั้นจะต้องกำลังโทรมาหาเรา

เหมือนที่เรากำลังจะโทรไปหาเค้า



และอีกหลายความรู้สึกที่เราคาดหวังในตัวคนๆ นั้น

แต่ในความเป็นจริง รู้มั๊ยว่า "ความคาดหวัง"

เป็นตัวทำลายความรู้สึกที่เรามีให้เค้าทีละนิด..ทีละนิด


เพราะว่าเวลาที่เราคาดหวังในใครสักคน เรามักจะตั้งความหวัง

อย่างที่เราคิด เช่น "คิดว่าเค้าจะต้องโทรมาหาเราแน่"

แต่ "เค้าก็ไม่โทรมา" เราก็จะเกิดอาการหงุดหงิดหาว่าเค้าไม่ใส่ใจ "

หรือคิดว่าเค้าต้องมารับเราไปทานข้าวเย็นในวันนี้"

แต่ "เค้ากลับบอกว่าติดธุระด่วน มาไม่ได้" หาว่าเค้าเห็นสิ่งอื่นสำคัญกว่า

"คิดว่าเค้าจะมาเซอร์ไพร์ในวันสำคัญของเรา" แต่ "เค้าก็ทำตัวเฉย ๆ

เหมือนเป็นวันปกติธรรมดาทั่วไป" เราก็จะโกรธหาว่าเค้าไม่รัก"


นี่แหละ..คือข้อเสียของการคาดหวัง ซึ่งไม่ใช่สิ่งดีที่ไปตั้งความหวังในตัวเค้ามาก


ควรจะปล่อยวางบ้างดีกว่า ไม่ควรไปตั้งความคาดหวังในตัวเค้า

และพยายาม ลดๆ ความรู้สึกลงบ้าง หรือไม่ก็พยายาม มองโลกในแง่ดีไว้มาก ๆ

เช่น เวลาที่เค้าไม่โทรมาหาเรา อย่างที่เราคิด.เราก็คิดซะว่าเค้าคงไม่ว่างจริงๆ

หรือบางทีเค้าไม่มารับเราไปทานข้าวเย็นด้วยกัน.. ก็คิดว่า เค้าคงติดงาน

คิดในแง่บวกเราจะได้ไม่ต้องคิดมาก และทำให้มีความสุขกับสิ่งรอบตัว..


หมั่นยิ้มให้กับตัวเองบ่อย ๆและยิ้มให้คนอื่นบ้าง แต่ไม่ใช่ยิ้มมั่วเหมือนคนบ้านะ!!!

แล้วเราก็จะรู้ว่าโลกนี้ช่างน่าอยู่และสดใสจริง ๆ ไม่มัวแต่หมกหมุ่นฟุ้งซ่าน

กับสิ่งที่คิดไปในทางลบมาก ๆ เราก็จะหงุดหงิดเสียใจจิตใจก็จะห่อเหี่ยว

หน้าตาไม่สดใสดูไม่น่ารัก พยายามทำตัวให้ดูมีค่าในสายตาคนอื่นและตัวเอง


หลังจากนี้"สิ่งที่เราคาดหวัง"ในตัวเค้า ก็จะมาหาเราเองโดยที่เราไม่ต้องไปโหยหา

เพราะถ้าเราทำตัวน่ารัก ใคร ๆก็อยากจะอยู่ใกล้ และใช้กับความรักได้เช่นกัน

ใครๆ ก็ต้องการคนดีทำตัวน่ารัก มีเหตุมีผล อยู่ใกล้แล้วมีแต่ความสุข

แล้วแบบนี้ "รักแท้"จากการไม่คาดหวังจะหนีเราไปได้อย่างไรกัน

จงปล่อยให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์รักแท้ ด้วยการไม่คาดหวังจะดีกว่ามั๊ย


นอกจากนี้ในระหว่างคนสองคน ก็จงหมั่นเติมความรัก ความใส่ใจทีละนิด

ให้กันทุกวัน จะรู้สึกว่า ความรักทำให้มีความสุขและยิ้มได้จริง ๆ

โดยที่เรา "ไม่ได้คาดหวัง" ใดใดกับรักทั้งสิ้น..ที่สำคัญอย่าลืมจำไว้ว่า

อย่าเพิ่มค่าให้ตัวเองโดยการลดค่าของคนอื่น ด้วยนะคะ ขอให้คนมีรักมีรักที่ดีค่ะ






Those Were The Days
Mary Hopkins


(Gene Raskin)

[Originally by Mary Hopkin]


Once upon a time there was a tavern

Where we used to raise a glass or two

Remember how we laughed away the hours

And dreamed of all the great things we would do


Those were the days my friend

We thought they'd never end

We'd sing and dance forever and a day

We'd live the life we choose

We'd fight and never lose

For we were young and sure to have our way.

La la la la...

Those were the days, oh yes those were the days


Then the busy years went rushing by us

We lost our starry notions on the way

If by chance I'd see you in the tavern

We'd smile at one another and we'd say


Those were the days my friend

We thought they'd never end

We'd sing and dance forever and a day

We'd live the life we choose

We'd fight and never lose

For we were young and sure to have our way.

La la la la...

Those were the days, oh yes those were the days


Just tonight I stood before the tavern

Nothing seemed the way it used to be

In the glass I saw a strange reflection

Was that lonely woman really me


Those were the days my friend

We thought they'd never end

We'd sing and dance forever and a day

We'd live the life we choose

We'd fight and never lose

For we were young and sure to have our way.

La la la la...

Those were the days, oh yes those were the days


Through the door there came familiar laughter

I saw your face and heard you call my name

Oh my friend we're older but no wiser

For in our hearts the dreams are still the same


Those were the days my friend

We thought they'd never end

We'd sing and dance forever and a day

We'd live the life we choose

We'd fight and never lose

For we were young and sure to have our way.

La la la la...

Those were the days, oh yes those were the days









//img151.imageshack.us/img151/6139/thosewerethedaysmaryhopne3.swf






Create Date : 02 มีนาคม 2551
Last Update : 4 มีนาคม 2551 13:22:24 น. 5 comments
Counter : 582 Pageviews.

 
นั่นสิคับคบกันอย่างสบายๆดีกว่าที่จะไปคิดไปคาดหวัง ตัวเราจะได้ไม่ต้องคิดมากและสบายใจกันทั้งคู่ ความรักก็จะราบรื่นไปเองคับ เนอะ ^^
รักนะคับ


โดย: AquiraX IP: 58.8.140.82 วันที่: 2 มีนาคม 2551 เวลา:21:15:00 น.  

 
อืมมม....ดีจริง ๆ ค่ะ อย่าเพิ่มคุณค่าให้ตัวเอง ด้วยการลดค่าของคนอื่น
คนเราจะมีค่าก็มีค่าในตัวของเราเอง การทำลายคนอื่นเพื่อให้ตัวเองสูงขึ้น
กลับทำให้ยิ่งต่ำลงกว่าเก่าอีก...

ชอบเพลงนี้จังเลยค่ะ ฟังไปฟังมาตั้งหลายรอบแล้วแน่ะ


โดย: นางสาวดุ่บดั่บ วันที่: 2 มีนาคม 2551 เวลา:21:41:44 น.  

 
ชอบชื่อบล็อกจังค่ะ
อยากถามคนข้างๆด้วยอ่ะ
How deep is your love


โดย: รัตตมณี (kulratt ) วันที่: 2 มีนาคม 2551 เวลา:21:42:47 น.  

 
ชอบแข่งขันกับตัวเองมากกว่าจะแข่งกับคนอื่นค่ะ


...มาตอบคำถามที่ถามไว้ค่ะ อ่านได้จากหน้าจัดการบล็อกของเรานะคะ ลองเข้าไปนะค่ะ

ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ


โดย: มัยดีนาห์ วันที่: 2 มีนาคม 2551 เวลา:22:11:00 น.  

 
ชอบมากเลยค่ะ บทความนี้ดีจริงๆ ขอบคุณคนที่คิดบทความนี้น่ะค่ะ ขอบคุณจริงๆ คุณรู้หรือไม่ว่าบทความที่คุณคิดขึ้นมานี้เตือนสติคนหนึ่งคนทำให้เค้ารู้สึกตัวเองมากขึ้น ลดความรู้สึกคาดหวังในความรัก และมองเห็นคุณค่าของตัวเองเพิ่มมากขึ้น
ขอบคุณจริงๆ ค่ะ


โดย: นู๋ต้อม IP: 125.25.158.106 วันที่: 9 พฤษภาคม 2551 เวลา:23:19:53 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.