วีน ติน่า You?re little bit bad you?re little bit fat แต่ว่าฉันไม่เคยจะคิดว่าเธอไม่ดี เวลาเธอจะเอาอย่างนั้น เวลาเธอจะเอาอย่างเนี่ย ฉันไม่เคยที่จะโมโหและทำให้เธอโกรธ ขอแค่รักฉันเหมือนที่เป็นอยู่ เพียงไม่เจ้าชู้ฉันก็เข้าใจ You?re little bit hip you?re little bit pop you?re little bit??.. มันสิทธิของเธอ เธอจะชอบเป็นแบบเนี่ย หรือจะชอบเป็นแบบนั้น ยังไม่ทันจะคิดไปเปลี่ยนของเธอ ขอให้รักนี้มันไม่เปลี่ยนแปลงก็พอ แค่ขอให้รักฉันทั้งหัวใจ ถ้าไม่อย่างนั้นแล้วฉันจะวีน และจะยิ่งกว่าวีน ถ้าเธอไปกับใครจงระวัง ซักวันถ้าฉันรู้ ละเธอตาย ก็รู้ทั้งรู้ไม่ได้ขู่เธอ.. ขอถาม หรือว่าเธอจะเสี่ยง อยากเห็นฉันวีน ฉันเหวี่ยง อย่าคิดว่าเพียงแค่เถียงให้ทัน ฉันไม่ได้ A Little bit?a love You?re little bit dirt you?re little bit flirt you?re little bit? ไม่เคยสนใจ มั่วแต่เล่นแต่เกมGolf มั่วแต่นั่งดู Camfrog ยังไม่เคยจะคิด สะกิดหลังเธอ ขอให้รักนี้มันไม่เปลี่ยนแปลงก็พอ แค่ขอให้รักฉันทั้งหัวใจ ถ้าไม่อย่างนั้นแล้วฉันจะวีน และจะยิ่งกว่าวีน ถ้าเธอไปกับใครจงระวัง ซักวันถ้าฉันรู้ ละเธอตาย ก็รู้ทั้งรู้ไม่ได้ขู่เธอ.. ขอถาม หรือว่าเธอจะเสี่ยง อยากเห็นฉันวีน ฉันเหวี่ยง อย่าคิดว่าเพียงแค่เถียงให้ทัน ฉันไม่ได้ A Little bit?a love ไม่ได้รักเธอจนตาบอด แค่ไม่สนเธอเป็นอย่างไร ไอ้ที่ไว้ใจเธอยังคิดตลอด แต่ยังกลัวหากเธอจากไป? ถ้าไม่อย่างนั้นแล้วฉันจะวีน และจะยิ่งกว่าวีน ถ้าเธอไปกับใครจงระวัง ซักวันถ้าฉันรู้ ละเธอตาย ก็รู้ทั้งรู้ไม่ได้ขู่เธอ.. ขอถาม หรือว่าเธอจะเสี่ยง อยากเห็นฉันวีน ฉันเหวี่ยง อย่าคิดว่าเพียงแค่เถียงให้ทัน ฉันไม่ได้ A Little bit?a love I?m not a little bit แล้ว?การอยู่ในสังคมไม่เคยมีใครพ้นคำติฉินนินทา มีคนรักก็มีคนเกลียดได้ มีคนชอบก็มีคนไม่ชอบได้เช่นกัน สังคมการทำงานก็เหมือนกันไม่เคยมีใครสักคนที่ไม่เคยโดนใครไม่นินทาลับหลัง วันนี้ไม่รู้สักวันเรื่องราวเหล่านั้นก็เข้าหูได้สักวัน แล้วถ้าสักวันคำนินทาเหล่านั้นมาถึงเราสักวัน...ถ้าหากเป็นเรา เป็นคุณ จะทำอย่างไร บางคนโกรธ โมโห หงุดหงิดกับสิ่งที่ได้ยิน ทั้งที่จริงบ้างไม่จริงบ้างก็ตาม มีคนบอกว่าแทนที่จะเสียเวลาไปโกรธ หรือหาตัวคนที่พูดสิ่งต่างๆ ถึงเราไม่ดี สู้มานั่งคิด นอนคิดเก็บคำพูดเหล่านั้นไว้เพื่อนำกลับมาคิดแก้ไข ดีกว่าเสียเวลาไปกับการแก้ตัวเมื่อได้ยินคนอื่นพูดถึงเราในแง่ลบ แล้วทำอะไรบางอย่างให้คนอื่นได้เห็นว่าเราไม่ได้เป็นอย่างนั้น ถ้าคนอื่นมองว่าขี้เกียจ ก็จงเริ่มทำงานให้มากกว่าที่รับผิดชอบ ทำด้วยความกระตือรือล้น กระฉับกระเฉง ไม่คุยโว โอ้อวด ใช้การทำมากกว่าการพูด เคยได้ยินมั๊ยไม่ทำงานให้เสร็จด้วยปาก แต่งานเสร็จด้วยสมองและสองมือ รู้จักอ่อนน้อมถ่อมตนด้วยการกล่าวคำ ขอบคุณ ขอโทษ เมื่อต้องการความช่วยเหลือจากใคร และถ้าหากใครมาช่วยทำงาน หรือให้ความร่วมมือในการทำงานของเรา ถ้าคนอื่นมองว่าไม่เป็นมืออาชีพ ต้องมีความสุภาพ อ่อนน้อม ถ่อมตน ทำให้ตัวให้คนอื่นเคารพ นับถือ และยอมรับคำวิพากษ์วิจารณ์ไม่ว่าดีหรือร้าย เพราะทุกคำวิพากษ์วิจารณ์มีประโยชน์ในทางสร้างสรรค์ที่ทำให้เราเก็บเอาไปแก้ไข จะทำงานอะไรให้คิดก่อนทำก่อนพูด ไม่ว่าจะอยู่ในอารมณ์อะไรให้ใช้เหตุผลมากกว่าการใช้อารมณ์ในการตัดสินคน งาน ควรกลั่นกรองคำพูดก่อน และพูดให้ดีเสมอ สิ่งสำคัญคือควรแต่งตัว ควรแต่งตัวแบบมีกาละเทศะเหมาะสมกับงานสถานที่ถ้าคนอื่นมองว่าเป็นคุณนายสายเสมอ ให้รู้จักตรงต่อเวลา ไปก่อนเวลานัด ตื่นให้เช้าทำงานก่อนเวลาเข้างาน มีการวางแผนล่วงหน้า และเตรียมความพร้อมก่อนการทำงานทุกครั้งถ้าคนอื่นมองว่าเป็นคนไม่ซื่อ ให้แสดงความซื่อสัตย์ทั้งการกระทำและคำพูด ด้วยการให้เกียรติคนอื่น หลีกเลี่ยงการกระทำที่ฉกฉวด ขโมยความคิดของผู้อื่นเพื่อมาเป็นผลประโยชน์ของตนเอง และมีความรับผิดชอบ ถ้าหากทำผิดก็ยืดอกรับด้วยความเต็มใจแทนการไปกล่าวโทษให้คนอื่น แบบความดีเข้าหาตัวความชั่วให้ผู้อื่นอะไรแบบนี้ ที่สำคัญไม่เป็นคนชอบแก้ตัวถ้าคนอื่นมองว่าทำงานเป็นทีมไม่เป็น แสดงให้คนอื่นเห็นถึงความเป็นมิตร หัดดูและสังเกตเพื่อนร่วมงาน หรือคนรอบๆ ตัว จดจำชื่อรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของคนอื่นอย่าลืมว่าใครก็ต้องการเป็นคนมีความสำคัญ คอยช่วยเหลือแบบมีมิตรจิตและมิตรใจกับคนอื่น ทำตัวให้คนอื่นไว้วางใจไม่เป็นบ่างช่างยุ หรือเป็นขุนพลอยพยัก ควรให้เครดิตผู้อื่นโดยเฉพาะเพื่อนร่วมงานถ้าหากงานนั้นผู้อื่นเป็นคนทำควรยกย่องให้เกียรติและชมเชยประเทศสารขันธ์ ตอนที่ 11 ต่อไปนี้ข่าวสารของประเทศสารขันธ์จะเข้มข้นขึ้นทุกขณะ จนกว่าพวกหน้าด้าน หน้าหนา หน้าทนจะหมดไปจากแผ่นดินสารขันธ์ และจากกรณีข่าวลือการเสนอสินบนให้ผู้พิพากษาคดียึดทรัพย์ซึ่งมีข่าวว่า นายพันทักษิโดวิ่งเต้นเสนอเงิน 1000 ล้านสารขันธ์ ผู้เกี่ยวข้องเป็นผู้ตัดสินเกี่ยวกับคดีนี้ได้ออกมาโต้ข่าวว่าไม่เป็นความจริง ไม่เคยมีใครมาเสนอเป็นเรื่องกุข่าวเพื่อสร้างสถานการณ์ที่หวังผล แบบยิงนกครั้งเดียวได้นกสองตัว คือ ถ้าหากถูกยึดทรัพย์สินจริงก็จะปล่อยข่าวต่อเนื่องอีกว่า นายพันทักษิโดซื้อขบวนยุติธรรมไม่สำเร็จ แต่ถ้าไม่มีการยึดทรัพย์ หรือยึดทรัพย์บางส่วนก็ปล่อยข่าวว่ากระบวนการยุติธรรมถูกซื้อ ซึ่งการปล่อยข่าวดังกล่าวไม่เป็นผลดีต่อกระบวนการยุติธรรมทั้งขึ้นทั้งล่อง เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ร้ายแรงต่อศาลสถิตยุติธรรมเป็นอย่างมาก การเล่นแรงแบบนี้ทำไมรัฐบาลประเทศสารขันธ์ถึงไม่จัดการกับต้นตอข่าวลือ หรือเป็นเพราะรัฐบาลเองเป็นคนกระพือข่าวลือออกมา แล้วแบบนี้ประชาชนคนตาดำๆ จะหวังไปพึ่งใครได้อีก... ต่อข้อซักถามกรณีการปล่อยข่าวลือเรื่องคดียึดทรัพย์ ซึ่งนักข่าวถามนายแสนทุเรศ เทือกเขา ว่าจะดำเนินการอย่างไรกับคนหรือพวกที่ออกมาปล่อยข่าวลือที่ออกมาระบุได้มีการติดสินบนผู้พิพากษาคดียึดทรัพย์ นายแสนทุเรศได้ให้คำตอบว่า..หากเป็นเช่นนั้นจริง (ยิ้มที่มุมปากที่บางเฉียบแบบคนสะตอและดำ พร้อมทำตาเจ้าเล่ห์ประกอบ) ก็น่าจะเข้าข่ายหมิ่นศาล ซึ่งตนนั้นเห็นว่าเป็นเรื่องยาก (มันหมายถึงยากที่ศาลจะถูกหมิ่น ...อ่าว...แล้วนี่ยังไม่ถูกหมิ่นอีกเหรอไงฟระ) และยังพูดต่อว่า..ไม่เชื่อว่าจะมีคำพูดหมิ่นจริง...(โธ่...อ้ายกร๊วก..นักข่าวด่าในใจ เอ็งควายหรือกรูควายวะกรูถามอย่างเมิงตอบอย่างแล้ววันนี้จะได้คำตอบมั๊ยเนี่ย) สำหรับกรณีที่จะมีการชุมนุมเกิดขึ้นล่ะ...นายแสนทุเรศ ตอบแบบอัดอั้นว่าถ้าเขาชุมนุมแบบปกติ ไม่ก่อเหตุวุ่นวายกระทบการสัญจรของประชาชน ไม่ทำร้ายใครก็ไม่ว่าอะไร หากเป็นไปตามกรอบ ก.ม ก็ไม่น่าจะมีอะไร แต่ก็เตรียมการ(จัดการ) ไว้ทุกอย่างแล้ว...นักข่าวถามต่อว่า...แล้วแบบที่เคยมีการยึดทำเนียบที่ทำการรัฐบาลก่อนหน้า แล้วยึดถนน ยึดสนามบิน แบบนี้เรียกว่า ก่อเหตุวุ่นวายกระทบการสัญจรของประชาชนหรือไม่ ที่ขับรถชนตำรวจแล้วถอยหลังกะชนซ้ำให้ตายคาล้อ แบบนี้เรียกว่าทำร้ายหรือไม่...นายแสนทุเรศ ตอบโดยไม่คิดทันทีว่า...ไม่นะไม่เรียกว่าก่อเหตุวุ่นว่าย เป็นการทำงาน การชุมนุมที่ประสานงานมาดีอย่างปกติวิสัย ส่วนเกี่ยวกับการทำร้ายตำรวจ ไม่ได้เรียกว่าทำร้าย เรียกว่าล้อเล่นหยอกล้อกันพอหอมปากหอมคอซะมากกว่า....555555....นักข่าวถามถึงกรณีการเคลื่อนไหวของคนรักนายพันทักษิโดล่ะว่าไง...นายแสนทุเรศตอบว่า ไม่หวาดหวั่นหรอก (แต่นักข่าวสังเกตเห็นอาการสั่นไหวน้อยๆในน้ำเสียง และอาการที่พยายามเก็บงำไว้ไม่มิด) ไม่ได้ท้าทาย ไม่ได้อวดดี แต่ก็เตรียมการรับมือไว้เรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าคนที่จะแอบแฝงเข้าไปในหมู่คนรักนายพัน มือขว้าง มือเขวี้ยงปาระเบิด มือปืน มือมีด เตรียมพร้อมแอบเข้าไปสวมรอยได้ทุกเมื่อ ตอนนี้ก็จ้างช่างตัดชุดลับ ลวง พรางไว้ให้คนที่ตนได้ทำการฝึกไว้ใส่ตอนแอบแฝงหลายร้อยชุดแล้ว การวางแผนการทำงานครั้งนี้ก็เป็นไปอย่างรอบคอบและรัดกุม เพื่อให้หมดเสี้ยนหนามเสียที เพราะครั้งนี้เป็นเดิมพันของพวกตนจริงๆ ว่าจะหลุดจากตำแหน่งหรือไม่....พร้อมนายแสนทุเรศหันไปหันมาแบบออกอาการขลาดกลัวนิดๆ...เอ่อ...มีนักข่าวคนไหนเป็นพวกกับกลุ่มคนรักนายพันทักษิโดบ้างครับ...นักข่าวตอบพร้อมกันว่า...ไม่มี...(ในใจคิด...กรูจะบอกเมิงให้โง่ทำไม...ถามโง่ๆ นิหว่าเมิงเป็น รมต.ประเทศสารขันธ์ได้งัยฟระควาย)...... พักนี้นักข่าวเหนื่อยเป็นพิเศษ เพราะต้องวิ่งรอกไปมา เที่ยวนี้นักข่าววิ่งรอกไปสัมภาษณ์นายกประเทศสารขันธ์ เกี่ยวกับการประท้วงขับไล่และชุมนุมของคนรักนายพันทักษิโด...ได้บอกว่า...ได้ติดตามข่าวสารตลอด แบบว่าไม่ได้หลับไม่ได้นอนจนตาเป็นช่วง ช่วง ไปแล้วและบอกต่อไปว่า ในความคิดของตัวเองแล้วไม่น่าจะมีอะไรรุนแรงจึงไม่ต้องใช้ ก.ม พิเศษ ออกมาจัดการ เพราะตนยึดหลักกติกาสองมาตรฐานอยู่แล้ว จะเห็นได้ว่าตั้งแต่ตนทำงานแบบสองมาตรฐานประเทศสารขันธ์ก็สามารถดำเนินงานต่างๆ ลุล่วงได้ด้วยดี ไม่มีใครกล้าหือรือ กับรัฐบาล เพราะรัฐบาลเอาสองมาตรฐานมากำจัดตลอด ใครไม่ใช่พวกรัฐบาลก็สมควรโดนกลั่นแกล้งทุกวิถีทาง เราให้ความเป็นธรรมกับพวกเรา ใครไม่ใช่พวกเราก็ไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะสองมาตรฐานเท่านั้นที่จะทำให้ตนและพรรคอยู่ยืนยงถาวรตราบโลกแตกนั่นล่ะจึงอยากให้ทุกคนเชื่อถือในสองมาตรฐานที่เรากำหนด...555555....สำหรับกรณีการขอนิรโทษกรรม นั้น คนที่ขอฝันไปหรือเปล่า..ไม่มีทางอยู่แล้วไม่ว่าจะยังไง มีทางเดียวมามอบตัวให้เราใช้สองมาตรฐานกำจัดซะดีๆ อีกอย่างผมก็ไม่รู้ว่าจะให้นิรโทษใคร ๆ เป็นคนขอ (นักข่าวคิด..แน่ะมันแกล้งโง่ นอกจากมีสองมาตรฐานแล้วยังแกล้งโง่ได้ด้วย เอ...หรือมันโง่จริงหว่านั่น) ใครก็ตามที่ไม่ยอมรับมาตรฐานสองมาตรฐานของเราๆ ก็จะไม่เจรจาอะไรด้วยทั้งสิ้น เรายืนยันจะยืนอยู่ในจุดสองมาตรฐานอย่างเหนียวแน่น จนกว่าพรรคและตัวพวกเราจะตายกันทุกคน...55555....อีกอย่างเราจะไม่ยอมให้ใครมาข่มขู่เรา เพราะเราไม่ชอบสิ่งที่เราชอบ คือเราข่มขู่คนอื่น เราตอแหลคนอื่นได้ เราโกหกคนอื่นได้ เราใส่ความใส่ไคล้ กุเรื่องไม่จริงออกมาพูดได้ เราวางแผนการณ์ชั่วได้ คนอื่นห้ามเลียนแบบและทำตามเป็นอันขาด ขอให้นักข่าวลงคำพูดนี้ทุกคำด้วยไม่งั้นจะหาว่าไม่เตือน...(อ่าว...สรุปมันขู่หรือเปล่าฟระเนี่ย...นักข่าวคิด) ผมไม่ได้ขู่ครับแต่ผมทำจริง ไม่เชื่อลองขู่ผมสิครับ...นักข่าว...แหะๆๆ...เชิญท่านคนเดียวเถอะครับ (เรื่องเลวล่ะถนัดนัก)......จบข่าว... นอกจากนี้จากกรณี คตส. ( ควาย เต่า สุนัข) ตัวหนึ่งได้ออกมาชี้นำเกี่ยวกับคดียึดทรัพย์ ซึ่งเป็นความพยายามที่จะกดดัน ด้วยความอคติ เพื่อใช้กระบวนการยุติธรรมเป็นเครื่องมือในการขุดรากถอนโคนกำลัง อำนาจของนายพันทักษิโดให้ได้ ซึ่งทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ ว่าเป็นการละเมิดอย่างมีอภิสิทธ์เหนือ ก.ม ซึ่งอาจทำให้เกิดวิกฤติศรัทธาขึ้นได้ และคิดว่าในสถานการณ์เช่นนี้ควรรักษากติกาอย่างเคร่งครัด ดำเนินการทุกอย่างอย่างยุติธรรมเที่ยงตรงและมีมาตรฐานเดียว ไม่ควรมีสองมาตรฐานอย่างที่ รัฐบาลปัจจุบันของประเทศสารขันธ์ปฏิบัติอยู่..ไม่งั้นอาจถูกประนามว่า...ประเทศสารขันธ์เป็นประเทศป่าเมืองเถื่อนหาความยุติธรรมในสังคมไม่ได้ เพราะก.ม ตกเป็นเครื่องมือของคนกลุ่มหนึ่งกลุ่มเดียวที่มีอำนาจในขณะนี้ แล้วประชาชนคนตาดำๆ จะเป็นอย่างไรจะพึ่งใครได้...แล้วประเทศสารขันธ์จะเป็นประเทศสารขันธ์ได้ต่อไปหรือไม่...คิดตามๆๆๆ...(กันบ้างนะ)....5555555....