ตะเกียกตะกาย ไขว่คว้าหาอำนาจ แต่ไม่อาจเอื้อมถึง จึงหมดสิ้น ไร้ศักดิ์ ไร้ศรี อาจไร้ซึ่งแผ่นดิน มีมลทิน ถึงคราวสิ้นศักดิ์ที่มี
สิ้นชื่อ สิ้นเสียง ที่ใฝ่หามา เพราะเข่นฆ่า ไล่ล่าและย่ำยี ใครขวางทาง ก็จะคอยต่อยและตี คอยราวี ห้ำหั่นจนบรรลัย
สนใจแต่พวกพี่น้อง ผองพวกข้า คอยปกปักษ์รักษา ถ้าอยากได้ จงบอกมา ว่าอยากได้ในสิ่งใด ก็จะให้ ถึงจะผิดไม่หวั่นเกรง
เพราะไม่คิดว่าจะมีใครใหญ่กว่ากัน ตัวกูนั้นยิ่งใหญ่ หรือใครกล้ามาข่มเหง พวกกูมีมากมาย พวกมึงจงยำเกรง กูจะเบ่ง รึมึงกล้ามาต่อกร
วันนี้พวกมึงได้เห็นดี กูส่งคนมีสี มาสั่งสอน ไม่เกรงกริ่ง แก๊สน้ำตา เลิกเว้าวอน กูจะสอน ด้วยปืนยาง และปืนจริง
ความเลวกูยังมีอีกหลายสิ่ง โง่ และหยิ่ง คิดแบบควาย กัดแบบหมา กูจะสู้ กูจะทำ เพื่อให้จะได้มา แค่กูบ้า แค่กูบอ แค่เป็นอันธพาล
โอ้อนิจจา กูมิรู้ตัวเลยว่า... ตระกูลแค่ขี้ข้า ที่เขาเล่ากล่าวขาน กูแค่มักใหญ่ใฝ่สูง จนเกินการ ทะเยอทะยาน อยากเป็นใหญ่ในพารา
กูคงตกนรก หมกไหม้ทรมาน ไฟนรกเผาผลาญ ในวันหน้า เพราะกูสะสมความชั่วไว้นานา ไม่นานช้า กูคงต้องรับกรรมเวร...
วันก่อนที่ไปซีเอดนอกจากได้หนังสือ "หมื่นตา" ของคุณกะว่าก๋าแล้ว ยังได้หนังสือการ์ตูนนิทานอีสป 50 เรื่องมีภาพวาดสวยงามกระดาษอย่างดี ถูกใจเจ้าตัวน้อยเป็นอย่างมาก...ขอบคุณแล้วขอบคุณอีก..เจ้าตัวน้อยหารู้ไม่ว่าคนซื้อก็อยากอ่านเหมือนกัน...555555...
จากการเปิดอ่านก็ได้นิทานหลายเรื่อง ที่อ่านแล้วสอนตนสอนคนได้ดีทีเดียว เกิดประกายปิ๊งๆ เอามาลงในเรื่องที่น่าสนใจดีกว่าเนอะ...วันนี้เลือกมา 3 เรื่อง
เรื่องแรก : ราชสีห์กับลาและหมาจิ้งจอก
ราชสีห์กับลาและหมาจิ้งจอกได้ร่วมกันออกล่าเหยื่อโดยมีข้อตกลงกันว่าจะแบ่งเหยื่อกันอย่างยุติธรรม ครั้นล่ากวางได้ตัวหนึ่ง ราชสีห์มอบหน้าที่ให้ลาเป็นผู้แบ่ง ลาแบ่งเหยื่อออกเป็นสามส่วนเท่าๆกัน แล้วเชิญให้ราชสีห์เป็นผู้เลือกก่อนในฐานะที่เป็นเจ้าป่า และหัวหน้าทีม แต่ราชสีห์รู้สึกไม่พอใจวิธีการของลาจึง ตะปบ ด้วยอุ้งเท้าเต็มแรง ลาถึงแก่ความตายทันที
เจ้าคงจะรู้จักความยุติธรรมดีกว่าเจ้าลาโง่ตัวนี้กระมัง ราชสีห์กล่าวกับหมาจิ้งจอกหมาจิ้งจอกผงกหัวรับคำ มันจัดแจงแบ่งเหยื่อออกเป็นสองส่วน เหยื่อชิ้นใหญ่สำหรับราชสีห์ และเหยื่อชิ้นเล็กๆสำหรับตัวมันเอง
โอ...สหายของข้า ราชสีห์กล่าวอย่างอารมณ์ดี ใครเป็นผู้สอนให้เจ้ามีความยุติธรรมถึงเพียงนี้
ไม่มีใครสอนข้าหรอกท่านเจ้าป่า หมาจิ้งจอกตอบเสียงแผ่นเบา
แต่ชะตากรรมของเจ้าลาโง่ตัวนี้ทำให้ข้ารู้วิธีแบ่งเหยื่อที่ถูกต้อง เพราะเคราะห์กรรมของผู้อื่นย่อม เป็นตัวอย่างที่ดี สำหรับตัวเรา" นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า :ไหวพริบและสติปัญญา สามารถช่วยให้รอดพ้นจากภัยอันตรายได้เสมอ
จากนิทานเรื่องนี้ได้ข้อคิดว่าผู้ที่อ่อนแอมักตกเป็นเบี้ยล่างของผู้ที่แข็งแรงกว่าเสมอ...มีให้เห็นกันอยู่ดาดดื่นในเวลานี้..ที่ผู้มีอำนาจมักใช้อำนาจ และแสดงอำนาจในทางมิชอบ ทำอะไรถูกเสมอ ไม่ว่าจะสั่งให้ใครไปฆ่าใคร ก็กลายเป็นการฆ่าอย่างถูกต้อง คิดจะปิดการสื่อสารไม่ให้ใครรับรู้ข่าวที่แท้จริงเพื่อจะได้เสนอข่าวลือ ข่าวลวง ข่าวเท็จ ข่าวหลอกลวงฝ่ายเดียวก็ทำ เปรียบเหมือนราชสีห์ในนิทานเรื่องนี้ที่เป็นเจ้าป่า ตัวก็ใหญ่เสียเปล่าเป็นถึงผู้นำของสัตว์ทั้งปวง แต่ไร้ศักดิ์ศรี ที่ยังไปเอาเปรียบลาซึ่งในสายตาราชสีห์ว่าโง่ เอาเปรียบหมาป่าซึ่งแม้จะปราดเปรียว แต่ก็ตัวเล็กและแพ้พลังอำนาจของคำว่าเจ้าป่าของราชสีห์ นิทานเรื่องนี้นอกจากสอนการมีไหวพริบของหมาป่า แต่ยังสอนให้คนที่ทำตัวเหมือราชสีห์รู้จักละอายในสิ่งที่ทำและคำนึงถึงศักดิ์ศรีของตัวเองบ้าง...
เรื่องที่สอง : ม้ากับลา
พ่อค้าคนหนึ่งเดินทางค้าขายระหว่างเมืองต่างๆ ได้นำสินค้าที่เตรียมไปจำหน่ายซึ่งมีจำนวนมากให้ลาบรรทุกจนหลังแอ่น ส่วนม้านั้นพ่อค้าให้เดินตัวเปล่าเพราะต้องการจะถนอมไว้เนื่องจากเกรงจะขายไม่ได้ ราคาหากม้าของตนบอบช้ำจากการเดินทาง ลารู้สึกว่าการบรรทุกครั้งนี้หนักเกินกำลัง มันพยายามอ้อนวอนม้าผู้เป็นสหายขอให้ช่วยแบ่งเบาสัมภาระ
เพื่อนเอ๋ย..ข้ารู้สึกตาลายแข้งขาสั่นไปหมดแล้ว ช่วยแบ่งสัมภาระไปบรรทุกบ้างเถิด เมื่อพักค่อยยังชั่วกลับมีแรงขึ้นมาสักหน่อย ข้าจะรีบนำของเหล่านั้นมาบรรทุกตามเดิม หากเพื่อนไม่ช่วยคราวนี้ข้าคงต้องขาดใจตายอยู่กลางทางแน่ๆ
ม้าไม่สนใจคำขอร้องของลา มันยังคงเดินอย่างสง่าต่อไปในขณะที่ลาเริ่มหมดแรงทำท่าจะล้มลง
ข้าไม่ได้สำออยหรอกนะแต่คราวนี้ไม่ไหวจริงๆ เจ้านั้นทั้งสูงใหญ่และแข็งแรงกว่าข้ามากนัก โปรดอย่านิ่งดูดายอยู่เลย หากเพื่อนไม่เมตตาข้าคงไม่มีโอกาสได้กล่าวคำวิงวอนอีกแล้ว
หุบปากของเจ้าซะที มันธุระกงการอะไรของข้าที่จะต้องไปช่วยคนอื่น เจ้ามีหน้าที่บรรทุกก็ก้มหน้าก้มตาทำไปซิ
ลาผู้น่าสงสาร กัดฟันเดินต่อไปได้อีกไม่กี่ก้าวก็ล้มลงขาดใจตาย พ่อค้าจึงนำสินค้าทั้งหมดให้ม้าบรรทุกแทน และเมื่อเดินทางจนเหน็ดเหนื่อยพ่อค้าก็ขึ้นไปขี่บนหลังอีกด้วย ในเวลานี้ม้าได้แต่สำนึกเสียใจในความเห็นแก่ตัวของมัน แต่ก็สายไปแล้ว
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า : การไม่รู้จักเห็นใจช่วยเหลือผู้อื่นในสิ่งที่สมควรเมื่อคราวที่เขาตกทุกข์ได้ยาก ทุกข์นั้นอาจจะมาถึงตัวเราได้เช่นกัน
จากนิทานเรื่องนี้ได้ข้อคิดว่า การนิ่งดูดายกับปัญหาต่างๆ ที่คิดว่าตอนนี้ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง นอกจากนิ่งดูดายแล้วยังต่อต้านคิดว่าไม่ใช่เรื่องของตัวเองหรือธุระไม่ใช่ ปล่อยให้ผู้อื่นต้องแก้ปัญหาโดยไม่คิดจะช่วยทั้งที่ผู้อื่นขอร้องให้ช่วย หรือถ้าไม่ช่วยก็อยู่เฉยๆ อย่าทำตัวเป็นภาระด้วยการพูดถากถาง หรือด่าทอให้ช้ำใจ เพราะสักวันหนึ่งปัญหาที่คิดว่าไม่ใช่ปัญหาของตนเองมาเกิดขึ้นกับตนเอง เมื่อนั้นจะแก้ไขไม่ได้ กว่าจะคิดได้ก็สายเกินแก้ไขแล้ว จะเสียใจที่ไม่เคยคิดจะช่วย แล้วในที่สุดทุกข์ร้อนก็มาถึงตัวอย่างช่วยไม่ได้ แต่ในมุมกลับกันถ้าหากไม่นิ่งดูดายช่วยกันคนละไม้ละมือช่วยกันในสิ่งที่ถูกต้องให้เกิดผลสำเร็จ เมื่อปัญหาผ่อนคลายหมดไปทุกคนก็มีความสุขร่วมกัน...หรือที่เรียกว่า สามัคคีคือ พลัง นั่นล่ะ..
เรื่องที่สาม : หมาจิ้งจอกกับจระเข้
จระเข้ตัวหนึ่งได้คุยอวดตัวกับหมาจิ้งจอกด้วยความภาคภูมิใจว่า
ข้านะไม่ใช่สัตว์ธรรมดาสามัญเหมือนพวกเจ้าหรอกรู้ไว้ซะด้วยเพราะบรรพบุรรุษของข้าสืบเชื้อสายมาจากเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ ถ้าเจ้าไม่เชื่อก็ลองขึ้นไปถามเทพเจ้าบนสวรรค์ได้เลย
ข้าไม่ต้องไปให้เสียเวลาหรอก หมาจิ้งจอกกล่าวอย่างเย้ยหยัน
แค่ดูสารรูปของเจ้า ใครๆก็รู้ว่ชาติกำเนิดเดิมของจระเข้นั้น ไม่ใช่สูงส่งหรือยิ่งใหญ่อะไรเลย
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า : สภาพความเป็นจริงย่อมไม่สนับสนุนคำลวงโป้ปดมดเท็จใดๆ
จากนิทานเรื่องนี้ได้ข้อคิดว่า คนขี้โม้ ยังไงก็ขี้โม้วันยังค่ำ โม้จนคนอื่นจับคำเท็จ จับคำหลอกลวง โป้ปดมดเท็จได้ เพราะไม่มีความจริงใจในคำพูด แค่ต้องการอวดแสดงความยิ่งใหญ่ให้คนอื่น คุยให้คนอื่นเห็นว่าตัวเองเก่งกล้าสามารถ บางคนพูดจาดีดูน่าเชื่อถือแต่หาสาระอะไรไม่ได้เพราะทำอะไรไม่ได้ พูดเอาดีเข้าหาตัวเองไปวันๆ ก็เข้าทำนองจระเข้ขี้คุยนี่ล่ะ...เสียชาติพันธ์หมดเลย...อับอายมั๊ยล่ะเจ้าจระเข้เอ๋ย...555555....
โปรดช่วยกันดูแลคนดี ตั๊กแตน ชลดา กว่าจะมีคนที่ดีดี สักคน ยอมอุทิศตน เพื่อคนส่วนใหญ่ กว่าจะเจอคนที่เราเห็น ว่าเป็นคนใช่ ต้องรอนานเท่าใด จึงได้มา
แต่คนดีก็อยู่กับเรา ไม่นาน โดนแรงเสียดทาน โถมจนพ่ายล้า ใครโง่ไม่เป็น ใครเด่นเกินไป ต้องโดนคนว่า ทำถูกใจช้า ยังด่าทอ
ใช้คนดีเปลือง ฝืดเคืองคำชม โยนเรื่องทับถม ถึงทนก็ท้อ เมื่อทำดียาก ใครอยากจะทำดีต่อ ก่อนที่คนดีจะท้อ จึงร้องขอแรงส่งมา
โปรดช่วยรักษาคนดี เชิดชูคนที่เสียสละ ไม่ถูกใจบ้างบางเวลา อย่าด่วนกล่าวหา จนถอดใจ โปรดช่วยดูแลคนดี ให้มีศักดิ์ศรีและยิ่งใหญ่ ปกป้องคนดีให้มีชัย เพื่อให้ใครใคร อยากทำความดี
อยากให้มีคนที่ทำดี มากมาย ยืนหยัดสู้ไหว แรงใจมากมี กว่าจะเจอก็ยากนักหนา ควรรักษาให้ดี ใช้เพชรที่เรามี อย่างรู้ค่า
โปรดช่วยรักษาคนดี เชิดชูคนที่เสียสละ ไม่ถูกใจบ้างบางเวลา อย่าด่วนกล่าวหาจนถอดใจ โปรดช่วยดูแลคนดี ให้มีศักดิ์ศรี และยิ่งใหญ่ ปกป้องคนดีให้มีชัย เพื่อให้ใครใคร อยากทำดี
โปรดช่วยรักษาคนดี เชิดชูคนที่เสียสละ ไม่ถูกใจบ้างบางเวลา อย่าด่วนกล่าวหาจนถอดใจ โปรดช่วยดูแลคนดี ให้มีศักดิ์ศรี และยิ่งใหญ่ ปกป้องคนดีให้มีชัย เพื่อให้ใครใคร อยากทำความดี
|
แต่ว่า.... ถ้าอ่านหมดสามเรื่องนี้ให้เจ้าตัวน้อยฟัง ระวังน๊า... เจ้าตัวน้อยมันจะเครียดเอา