ตะเกียกตะกาย ไขว่คว้าหาอำนาจ แต่ไม่อาจเอื้อมถึง จึงหมดสิ้น ไร้ศักดิ์ ไร้ศรี อาจไร้ซึ่งแผ่นดิน มีมลทิน ถึงคราวสิ้นศักดิ์ที่มี
สิ้นชื่อ สิ้นเสียง ที่ใฝ่หามา เพราะเข่นฆ่า ไล่ล่าและย่ำยี ใครขวางทาง ก็จะคอยต่อยและตี คอยราวี ห้ำหั่นจนบรรลัย
สนใจแต่พวกพี่น้อง ผองพวกข้า คอยปกปักษ์รักษา ถ้าอยากได้ จงบอกมา ว่าอยากได้ในสิ่งใด ก็จะให้ ถึงจะผิดไม่หวั่นเกรง
เพราะไม่คิดว่าจะมีใครใหญ่กว่ากัน ตัวกูนั้นยิ่งใหญ่ หรือใครกล้ามาข่มเหง พวกกูมีมากมาย พวกมึงจงยำเกรง กูจะเบ่ง รึมึงกล้ามาต่อกร
วันนี้พวกมึงได้เห็นดี กูส่งคนมีสี มาสั่งสอน ไม่เกรงกริ่ง แก๊สน้ำตา เลิกเว้าวอน กูจะสอน ด้วยปืนยาง และปืนจริง
ความเลวกูยังมีอีกหลายสิ่ง โง่ และหยิ่ง คิดแบบควาย กัดแบบหมา กูจะสู้ กูจะทำ เพื่อให้จะได้มา แค่กูบ้า แค่กูบอ แค่เป็นอันธพาล
โอ้อนิจจา กูมิรู้ตัวเลยว่า... ตระกูลแค่ขี้ข้า ที่เขาเล่ากล่าวขาน กูแค่มักใหญ่ใฝ่สูง จนเกินการ ทะเยอทะยาน อยากเป็นใหญ่ในพารา
กูคงตกนรก หมกไหม้ทรมาน ไฟนรกเผาผลาญ ในวันหน้า เพราะกูสะสมความชั่วไว้นานา ไม่นานช้า กูคงต้องรับกรรมเวร...
วันนี้เป็นวันหยุดอีก 1 วันที่ในรอบปีจะมีวันหยุดติดๆ กันเยอะแยะแบบนี้สักครั้ง...วันนี้ตื่นมาสายกว่าปกติเพราะรู้ตัวว่าวันนี้ไม่ต้องไปทำงาน อีกอย่างเมื่อวานไปตระเวณรอบ กทม. ก็ว่าได้จากบ้านตรงไปทำบุญกะแม่ที่วงเวียนใหญ่ และขับรถออกถนนราชพฤกษ์ไปสะพานพระราม 5 ตรงไปปากเกร็ด พาแม่ทำบุญเสร็จขึ้นทางด่วนแถวแครายตรงไปเซ็นทรัลบางนา นัดเจอน้องที่นั่นส่งแม่เพื่อไประยองกับน้อง อยู่ที่เซ็นทรัลหลาย ช.ม แวะพาแม่ทานอะไรที่ฟูจิ ออกจากฟูจิแวะไปที่แบล๊คแคนยอน มีบางคนอยากทานสเต๊คที่นี่..อิ่มพุงกาง..ก่อนกลับแวะที่ซีเอ็ดแบบตั้งใจ...อยากได้หนังสือของคุณกะว่าก๋า...หมื่นตา..แบบว่าตั้งใจไปซื้อเลยล่ะ อยากได้มานานแล้ว ว่าจะไปที่ศูนย์ประชุมสิริกิต์ก็ไม่มีเวลา และมีเหตุการณ์ที่ทำให้ไม่น่าไปทั้งที่ถ้าไปซื้อที่นั่น มีโปรโมชั่นเล่มละ 135.- เร้าใจมากแต่จนแล้วจนรอดจนหมดงานก็ไม่มีโอกาสได้ไป...วันนี้ก็เลยตั้งใจที่จะไปซื้อไม่สนราคาแล้วค่ะซื้อราคาเต็ม 180 บาทนั่นล่ะ ด้วยใจอยากอุดหนุน เพราะไม่ได้เป็นสมาชิกที่นี่...แต่พอได้อ่าน ก็ต้องรีบไปซื้ออีกเล่ม ส่งไปให้คนที่เรารัก โดยโทร.ถามเค้าว่าเคยอ่านหรือเปล่า เค้าตอบว่า ยังไม่เคย ก็คงต้องหาซื้ออีกเล่มเพื่อมอบให้กับคนที่เรารักและหวังดีค่ะ...จึงอยากส่งข่าวให้คุณกะว่าก๋าว่า หนังสือหมื่นตา เหลือที่ซีเอ็ดบุ๊คเซนเตอร์เมื่อวานนี้แค่ 17 เล่มไปสอยมา 1 เล่มก็คงเหลือ 16 เล่มถ้ายังไม่มีใครไปสอยต่อดิฉันค่ะ...55555...ได้เวลากลับร่ำลาแม่ให้แม่ดูแลตัวเองให้ดีๆ เดือนหน้าต้องเข้ารับการผ่าตัดตาตามหมอนัดอีกครั้ง...คิดถึงแม่จัง เมื่อเช้านอนร้องไห้ด้วยล่ะ...ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน...
เมื่อเช้าตื่นขึ้นมาดูข่าว ไม่มีอะไร นั่งดูหลินปิงซนแบบไม่กลัวตกจากที่สูงเลย ก็แอบยิ้มขำๆ แล้วเปลี่ยนภาพมาดูน้องสองทองแฝดช้างของไทยขี้เล่นน่ารักไม่น้อยหน้าหนูหลินปิงนะคะ...ต่อด้วยรายการผู้หญิง ผู้หญิง...วันนี้น่าสนใจเพราะ 4 สาวไปเข้า ร.ร. ฝึกควายและฝึกคนทำนา...ประทับใจตรงผู้ใหญ่บ้านที่สอนควาย บอกว่า...ควายไม่โง่...อย่างที่คนคิด ที่คนบอกว่าควายโง่ เพราะควายพูดไม่ได้ต่างหาก... มันเลยเถียงคนไม่ได้ คนเลยด่ามันว่า โง่...เอ...คิดๆๆ มันคลับคล้ายคลับคลาเหตุการณ์บ้านเมืองตอนนี้มากๆ ที่รัฐบาลชอบปิดหูปิดตาประชาชนให้รับข่าวสารบ้านเมืองด้านเดียว ด้านที่รัฐบาลนำเสนอ ฝ่ายตรงข้ามไม่มีสิทธิ์แย้งสิทธิ์พูด พูดไม่ได้ ...สุดท้ายไม่โง่ก็ต้องโง่เหมือนควายที่ออกความเห็นไม่ได้เพราะรัฐปิดสื่อหมดนั่นล่ะ เพราะฉะนั้นใครที่คิดด่าใครว่า โง่เหมือนควาย ระวังควายมันจะออกมาเถียงเมื่อมันไปเข้า ร.ร. หัดพูดประสาคนว่า "...ตรูไม่โง่แบบที่พวกเอ็งคิดกันนะเฟ๊ย....อ้ายคน..."เจ็บไหมล่ะที่ควายด่าคนว่า "โง่เหมือนคน" ....5555555.....
สิ่งที่ได้จากการดูรายการนี้ คือ ทำให้นึกถึงคำว่า "รากหญ้า" ที่ไม่รู้ใครกันนะช่างบัญญัติ "รากหญ้า" คงมาจากคนที่อยู่ติดกับพื้นดินที่มีหญ้าขึ้นเต็มไปหมด ก็คงหมายถึงชาวไร่ชาวนา เพราะคนในเมืองมีแต่ป่าคอนกรีต ไม่ค่อยจะเห็นหญ้า เห็นท้องนา เด็กยุคใหม่ที่เกิดใหม่ภายใต้ตึกคอนกรีต ก็เลยไม่รู้จักว่าหญ้าหน้าตาเป็นอย่างไร อย่านึกไปถึงข้าวที่ชาวนาปลูกเลยค่ะ...คงรู้จักแต่ข้าวที่รับประทานเป็นเม็ดขาวๆ คงไม่มีใครนึกไปถึงต้นตอที่จะได้ข้าวมาสักเม็ดว่า คนรากหญ้าต้องหลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดินอย่างไร กว่าจะได้ข้าวมาสักเม็ดต้องตากแดดหน้าดำ ลงแรงไปสักเท่าไร วันนี้ได้เห็นสี่สาวผู้หญิง ผู้หญิง มีคุณไก่ คุณกาละแม คุณนีน่า คุณปุ้ย พาผู้ชมทางบ้านไปรู้จักโรงเรียนควายและการทำนา บอกได้เลยว่าประทับใจมาก นั่งดูไปแอบขำท่าทางของสี่สาวไปโดยเฉพาะกาละแม ฮาได้ใจ (เลี่ยงคำว่า บ้าได้ใจ) ดูแล้วสนุกสนานและคิดต่อว่า จะมีสักกี่คนนะที่คิดถึงชาวนา นึกถึงบุญคุณของชาวนา ไม่ใช่การดูถูกกันว่าเป็นคนรากหญ้า ไพร่ ถ้าไม่มีคนรากหญ้า ไม่มีไพร่ที่พวกที่ยกตัวเองว่าเป็นผู้ดีสูงศักดิ์ กว่าชาวไร่ ชาวนา ชาวบ้าน พวกคุณๆ จะอยู่ได้ไหมไม่มีข้าวกินน่ะ อย่าเถียงนะว่ากินแต่กับ กินแต่เนื้อสัตว์ก็ได้ หรือกินขนมปังก็ได้ ขนมปังก็ทำมาจากข้าวสาลีเหมือนกัน ชาวนาเมืองนอกเค้าก็มี แต่เมืองนอกเค้าไม่ยักกะดูถูกและกีดกัน แบ่งชั้นวรรณะชาวนาของเค้าให้ต่ำต้อยเหมือนชาวนาในเมืองไทยค่ะ...ใครที่ชอบด่ารากหญ้าว่าโง่ จงสำเหนียกให้ดี (สำเหนียกนี่หนักหนาหนักแน่นยิ่งว่าสำนึกนะ)
พูดก็พูดตระกูลดังๆ บางตระกูลเมื่อสืบเชื้อสายกันแล้วบางคนก็มีปู่ย่าตาทวดเป็นชาวนา พอได้ดีก็ลืมบรรพบุรุษตัวเองไปซะแล้วเป็นสิ่งที่น่าเศร้าใจ...เค้าถึงมีข้อคิดว่า "อย่าลืมกำพืด" ตัวเองเป็นเด็ดขาด เพื่อสอนให้คนไม่ลืมตัวว่าเป็นใครมาจากไหน เพราะเมื่อใดที่บ้าอำนาจ ลืมตัว ความหายนะก็ย่อมเกิดอย่างที่เห็นๆ กันอยู่ในเวลานี้....เพราะผู้คนชอบลืมกำพืดตัวเองนั่นเอง...
วันนี้ขอนำบทความของคุณพญาไม้ ที่ลงในบางกอกทูเดย์มาฝากถึงนายอภิสิทธิ์ นายกรัฐมนตรีไทยคนปัจจุบันที่ได้ขึ้นทำเนียบมือเปื้อนเลือดไปอีกหนึ่งคนแล้ว...เป็นบทความน่าอ่านและน่าสนใจบทความหนึ่งค่ะ ถ้าใครสนใจอ่านก็เชิญค่ะ ถ้าใครไม่สนใจก็เลื่อนผ่านไปนะคะ...ไม่บังคับขู่เข็ญให้อ่าน ให้เชื่อแบบรัฐบาลนี้ชอบบังคับประชาชนให้ฟัง ให้อ่าน ให้เชื่อค่ะ...555555....
ไทยในกำมืออภิสิทธิ์ 8 เม.ย. 2553 19:01 น. 25 Tags: พญาไม้ทูเดย์พญาไม้
การต่อสู้เพื่อสิทธิและเสรีภาพ..จะไม่มีวันสิ้นสุดในสิ่งมีชีวิตเพราะ..มันคือชีวิตและการต่อสู้เพื่อชีวิตนั้น..มันจะดำรงคงอยู่จนกว่าจะไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆ อยู่บนผืนโลก..
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ...ในวันนี้ กับอำนาจในมือที่มีอยู่..ท่านอาจจะกำกับและควบคุมเสียงเพรียกเรียกร้องเพื่อขอให้ท่านยุบสภาคืนอำนาจให้กับประชาชน..เอาไว้ได้...เพราะประชาชนคนมือเปล่าย่อมไม่สามารถต่อสู้กับผู้ถืออาวุธ
แต่...ในทันทีที่ชุดหนึ่งสูญสิ้นไป..ชุดใหม่ก็จะหยัดยืนสร้างความขัดขืนชุดใหม่ขึ้นมา..ซึ่งก็แน่นอนว่า..ท่านคงจะไม่สามารถกดขี่และย่ำยีได้ตลอดไปอย่างยาวนาน ทว่า...ผลลัพธ์จากการปฏิเสธอำนาจเรียกร้องของประชาชนนั้น..จะทำให้ท่านสูญเสียเสียงสนับสนุนที่จะหลั่งไหลเข้ามาสู่ตู้ลงคะแนนของท่านของท่านและสมาชิกร่วมพรรคประชาธิปัตย์ของท่าน..
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ..เมษายนปีที่แล้ว..ประชาชนจำนวนหนึ่ง..ถูกพลังอาวุธสาดใส่และขับไล่ส่งเขาทั้งหลายคืนสู่บ้านเก่าภูมิลำเนาเดิม..หลายชีวิตดับดิ้น..มากกว่านั้นบาดเจ็บ ไม่ทันไร...กลิ่นปัสสวะยังไม่จางจากท่อระบาย..ขบวนการเรียกร้องก็กลับมาใหม่ปรากฏกายคับถนน..วันนี้ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ท่านจะต้องกลับมาเล่นบทเดิมอีกหน...
แน่นอนว่า...ความสำเร็จจะเป็นของท่าน..แต่แน่นอนเช่นกัน...ก่อนจะถึงสงกรานต์ปีหน้า..เขาก็จะมากันอีกจะง่ายกว่าไหม...หากอุบัติการณ์ทั้งหลาย..จะสิ้นสุดลงไปพร้อมกับการ คืนอำนาจให้กับประชาชน บนการยุบสภา..
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ...ท่านได้กรุณามาแล้ว..จากยุบสภาในเดือนธันวาคมปีหน้ามาสู่ธันวาคมปีนี้..ท่านบอกมาอีกว่า..9 เดือนที่ขอมายังไม่ใช่..เวลาที่ตายตัว..นั่นแปลว่า..ยังตกลงต่อรองกันได้..จะดีกว่าหรือไม่...เชิญชวนกันมาอีกครั้ง..นั่งลงคุยกันอีกที.. โลกนี้สร้างการเมืองเข้ามาแทนที่สงคราม..ทำไมคนไทย..จึงให้สงครามเข้ามาแทนที่การเมือง..อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ..ประเทศไทยวันนี้..ท่านกำมันอยู่
แถมท้ายสำหรับบทความนี้โดย จขบ. ค่ะว่า "หัดฟังเสียงประชาชนบ้าง อย่าบังคับขู่เข็ญให้ประชาชนฟังแต่เพียงเสียงของรัฐบาลหรือคนในรัฐบาลของคุณ จงจำไว้ว่า คนที่ประสบความสำเร็จเป็นผู้นำที่ดี ต้องเป็นนักพูดที่ดี และต้องหัดรับฟัง และยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่นบ้างค่ะ"
และขอนำคำสอนดีๆ ของ "ขงจื๊อ" มาฝากตรงนี้ค่ะ..
โปรดช่วยกันดูแลคนดี ตั๊กแตน ชลดา กว่าจะมีคนที่ดีดี สักคน ยอมอุทิศตน เพื่อคนส่วนใหญ่ กว่าจะเจอคนที่เราเห็น ว่าเป็นคนใช่ ต้องรอนานเท่าใด จึงได้มา
แต่คนดีก็อยู่กับเรา ไม่นาน โดนแรงเสียดทาน โถมจนพ่ายล้า ใครโง่ไม่เป็น ใครเด่นเกินไป ต้องโดนคนว่า ทำถูกใจช้า ยังด่าทอ
ใช้คนดีเปลือง ฝืดเคืองคำชม โยนเรื่องทับถม ถึงทนก็ท้อ เมื่อทำดียาก ใครอยากจะทำดีต่อ ก่อนที่คนดีจะท้อ จึงร้องขอแรงส่งมา
โปรดช่วยรักษาคนดี เชิดชูคนที่เสียสละ ไม่ถูกใจบ้างบางเวลา อย่าด่วนกล่าวหา จนถอดใจ โปรดช่วยดูแลคนดี ให้มีศักดิ์ศรีและยิ่งใหญ่ ปกป้องคนดีให้มีชัย เพื่อให้ใครใคร อยากทำความดี
อยากให้มีคนที่ทำดี มากมาย ยืนหยัดสู้ไหว แรงใจมากมี กว่าจะเจอก็ยากนักหนา ควรรักษาให้ดี ใช้เพชรที่เรามี อย่างรู้ค่า
โปรดช่วยรักษาคนดี เชิดชูคนที่เสียสละ ไม่ถูกใจบ้างบางเวลา อย่าด่วนกล่าวหาจนถอดใจ โปรดช่วยดูแลคนดี ให้มีศักดิ์ศรี และยิ่งใหญ่ ปกป้องคนดีให้มีชัย เพื่อให้ใครใคร อยากทำดี
โปรดช่วยรักษาคนดี เชิดชูคนที่เสียสละ ไม่ถูกใจบ้างบางเวลา อย่าด่วนกล่าวหาจนถอดใจ โปรดช่วยดูแลคนดี ให้มีศักดิ์ศรี และยิ่งใหญ่ ปกป้องคนดีให้มีชัย เพื่อให้ใครใคร อยากทำความดี
|
ขอบคุณสำหรับข้อความค่ะ
ดูๆ แล้วในบล๊อกนี่ก็มีชนผู้น้อยอย่างเรา (ขอเหมา) อยู่ไม่น้อยนะคะ