deeplove
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




Group Blog
 
<<
เมษายน 2553
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
3 เมษายน 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add deeplove's blog to your web]
Links
 

 

กับเพลง Unbreak My Heart







Unbreak My Heart
Artist: Toni Braxton


Don't leave me in all this pain
Don't leave me out in the rain
Come back and bring back my smile
Come and take these tears away
I need your arms to hold me now
The nights are so unkind
Bring back those nights when I held you beside me

Un-break my heart
Say you'll love me again
Undo this hurt you caused
When you walked out the door
And walked outta my life
Un-cry these tears
I cried so many nights
Un-break my heart
My heart

Take back that sad word good-bye
Bring back the joy to my life
Don't leave me here with these tears
Come and kiss this pain away
I can't forget the day you left
Time is so unkind
And life is so cruel without you here beside me

Un-break my heart
Say you'll love me again
Undo this hurt you caused
When you walked out the door
And walked outta my life
Un-cry these tears
I cried so many nights
Un-break my heart
My heart

Don't leave me in all this pain
Don't leave me out in the rain
Bring back the nights when I held you beside me

Un-break my heart
Say you'll love me again
Undo this hurt you caused
When you walked out the door
And walked outta my life
Un-cry these tears
I cried so many, many nights
Un-break my

Un-break my heart
Come back and say you love me
Un-break my heart
Sweet darlin'
Without you I just can't go on
Can't go on


อย่าปล่อยฉันทิ้งไว้ให้อยู่ในความเจ็บปวดเช่นนี้
อย่าปล่อยฉันทิ้งไว้ท่ามกลางสายฝน
โปรดกลับมาและนำรอยยิ้มกลับมาให้ฉันอีกครั้ง
โปรดกลับมาและเช็ดน้ำตาฉันให้แห้งไป
ฉันต้องการอ้อมแขนของเธอมาโอบกอดฉันไว้
ในยามค่ำคืนที่แสนโหดร้าย
นำคืนวันเหล่านั้นเมื่อยามที่ฉันมีเธออยู่เคียงข้างคืนกลับมาเถิด

โปรดอย่าทำให้ใจดวงนี้แตกสลาย
บอกฉันว่ารักอีกครั้ง
โปรดอย่าทำให้ฉันต้องเจ็บปวดเช่นนี้
ในยามที่เดินออกจากประตูนี้ไป
และเดินออกจากชีวิตของฉันไป
อย่าได้ทำให้น้ำตาของฉันร่วงหล่น
ฉันต้องร้องไห้เช่นนี้ผ่านมาหลายค่ำคืนแล้ว
โปรดอย่าทำให้ใจดวงนี้แตกสลาย
ใจของฉัน...

นำคำร่ำลาอันแสนเศร้านั้นกลับคืนไป
แล้วนำความสุขสดใสคืนมาให้ชีวิตของฉัน
อย่าทิ้งฉันไว้ให้จมน้ำตา
โปรดกลับมาและจุมพิตความเจ็บปวดนี้ให้หายไป
ฉันไม่สามารถลืมเลือนวันนั้นที่เธอจากไป
เวลานั้นช่างแสนโหดร้าย
และชีวิตนั้นก็แสนทารุณเหลือเกินยามที่ไม่มีเธออยู่เคียงข้างกาย

โปรดอย่าทำให้ใจดวงนี้แตกสลาย
บอกฉันว่ารักอีกครั้ง
โปรดอย่าทำให้ฉันต้องเจ็บปวดเช่นนี้
ในยามที่เดินออกจากประตูนี้ไป
และเดินออกจากชีวิตของฉันไป
อย่าได้ทำให้น้ำตาของฉันร่วงหล่น
ฉันต้องร้องไห้เช่นนี้ผ่านมาหลายค่ำคืนแล้ว
โปรดอย่าทำให้ใจดวงนี้แตกสลาย
ใจของฉัน...

อย่าปล่อยฉันทิ้งไว้ให้อยู่ในความเจ็บปวดเช่นนี้
อย่าปล่อยฉันทิ้งไว้ท่ามกลางสายฝน
นำคืนวันเหล่านั้นเมื่อยามที่ฉันมีเธออยู่เคียงข้างคืนกลับมาเถิด

โปรดอย่าทำให้ใจดวงนี้แตกสลาย
บอกฉันว่ารักอีกครั้ง
โปรดอย่าทำให้ฉันต้องเจ็บปวดเช่นนี้
ในยามที่เดินออกจากประตูนี้ไป
และเดินออกจากชีวิตของฉันไป
อย่าได้ทำให้น้ำตาของฉันร่วงหล่น
ฉันต้องร้องไห้เช่นนี้ผ่านมาหลายค่ำคืนแล้ว
โปรดอย่าทำ...

โปรดอย่าทำให้ใจดวงนี้แตกสลาย
โปรดกลับมาและบอกว่ารักฉัน
โปรดอย่าทำให้ใจดวงนี้แตกสลาย
ที่รักของฉัน
ขาดเธอไป ฉันก็ไม่สามารถเดินต่อไปได้เลย
ไม่สามารถเดินต่อไปได้เลย ...


.................................................

ถ้าอดีตที่ผ่านมาพบกับความเจ็บปวด
คนส่วนมาก...มักจะลืมไม่ได้..ทั้งที่พยายามจะลืม
เมื่อมีสิ่งใดก็ตาม มากระทบความรู้สึก...ให้นึกถึงอดีตที่ผ่านมา
ทั้งที่อดีตนั้นจะเจ็บปวดมากมายก็ตาม....

แบบนี้เรียกว่า..อาการโหยหา...ใช่หรือไม่
แต่ทุกครั้งที่ใครคนหนึ่ง...พยายามติดต่อมาจะด้วยเหตุใดก็ตาม
ความรู้สึกหวั่นไหว....นึกถึงสิ่งที่ผ่านมาอย่างช่วยไม่ได้
ในช่วงเวลาหนึ่ง..ต่างเป็นเหมือนเงาซึ่งกันและกัน
แต่วันนี้ต่างคนต่างเลือกทางเดินที่แต่ละคนอยากเดิน
ไม่มีฉัน..ไม่มีเธอ...มีแต่เธอและเธออยู่ในเงาแต่ละคน

เหลือเพียงความทรงจำ..ที่เป็นภาพรางเลือนอยู่ในใจ
กับหัวใจที่ไม่ต้องการจะย้อนวันเวลาเหล่านั้นกลับคืนมา
ขอให้อดีตครั้งนั้น...จงลบเลือนออกไปจากหัวใจคนสองคน
อย่าได้ย้อนกลับมาแม้แค่ความทรงจำอีกเลย
สำหรับคนไกล...จงรู้ไว้ว่าหัวใจดวงนี้จะแข็งแกร่ง
จะไม่หวั่นไหว จะไม่ทรยศ และอดทน รอเวลา
พิสูจน์ใจอีกดวง...กับทุกคำพูด การกระทำกับระยะเวลา
เพื่อรอเวลา และตอบแทนในน้ำใจที่ดีต่อกัน...


.................................................


วันนี้ขอเอาเพลงนี้มาลงแทนเพลงโปรดช่วยกันดูแลคนดีนะคะ..จขบ. อยู่ในอาการสับสนใจตัวเองทั้งที่ไม่ควรจะสับสน..แต่ขอสักนิดคนเราต้องมีบ้างล่ะอาการแบบนี้...

“กลุ่มคนเสื้อแดง” มีข้อเรียกร้องข้อเดียว คือ “การยุบสภา” แต่จากการพบปะเจรจาสองฝ่ายกลุ่มคนเสื้อแดงกลับไม่ได้รับการตอบรับเท่าที่ควรจากนายอภิสิทธิ์ จึงทำให้เกิดการยุติการเจรจาจะไม่มีการเจรจากันอีกแล้ว แต่นายอภิสิทธิ์ก็เอามายกประเด็นว่าตนเองยังอยากจะเจรจาเป็นหนที่สามอีก แต่แกนนำเสื้อแดงต่างหากที่ไม่ยอมเจรจาด้วย

จากการเฝ้าติดตามที่ดูการเจรจาทุกชอต ก็เห็นว่านายอภิสิทธิ์มักจะตอบคำถามไม่ตรงประเด็นเกี่ยวกับเรื่องการยุบสภา ซึ่งตามเนื้อผ้าแล้วไม่น่าใช้เวลานาน แค่คำตอบว่า "ยุบ" หรือ "ไม่ยุบ" ตอบวกวนไปมาเหมือนแก้ตัวแต่สุดท้ายก็ได้คำตอบว่าไม่ยุบสภาตามที่แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงต้องการ คือ ยุบสภาภายใน 15 วันแต่กลับเรียกร้องว่าจะยุบสภาหลัง 9 เดือนไปแล้วโดยอ้างว่าจะทำภาระกิจที่ยังทำไม่เสร็จต่อ...

เรื่องนี้มีคนสงสัยว่าน่าจะมีเงื่อนงำอะไรบางอย่างลึกๆ ถึงกับบอกว่ายี่ห้อประชาธิปัตย์ หากไม่เป็นต่อและถือไพ่เหนือกว่า มีหรือจะยอมมาเจรจากับกลุ่มคนที่จะทำให้อำนาจที่มีอยู่หมดสิ้นไป และเพื่อต้องการยืดเยื้ออำนาจไว้ให้ยาวนานที่สุดเพราะรู้ว่าพรรคตัวเองกำลังอยู่ในจุดเสียเปรียบจึงต้องมีการ “ประนีประนอม” ยอมเจรจา ไม่เช่นนั้นคงได้เห็นการบี้ไล่ล่าของพรรคประชาธิปัตย์ที่มักใช้ทำลายคู่แข่งทางการเมืองเมื่อได้เปรียบ แต่น่าเสียดายที่ครั้งนี้ทำไม่ได้

กรณีที่เสนอยุบสภาอีก 9 เดือนข้างหน้านั้นแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงเห็นว่าเป็นการซื้อเวลาของรัฐบาล และทุกคนก็เห็นอาการอ้ำๆ อึ่งๆ ในการชี้แจง “ข้อเท็จจริง” สายตาล่อกแล่กเดี๋ยวก้มเดี๋ยวเงยทำเหมือนเก็บอะไรใต้โต้ะที่เจรจาตลอด ดูไปดูมามีอาการเหมือนเป็น “หุ่นกระบอก” ที่คนชักใยเริ่มเมื่อยเวลาที่ต้องชักใยหุ่นนานๆ ซึ่งแสดงออกให้เห็นถึงความไม่จริงใจในการเจรจาด้วยคำตอบที่คลุมเคลือไม่ชัดเจน หมดสิ้นสภาวะการเป็นผู้นำที่ดีด้วยอาการ ร้อนรนที่ต้องรีบตอบทุกโจทย์ปัญหาเหมือนต้องการจะเคลียร์ตัวเอง ทั้งที่ควรจะฟังทุกคำพูดของแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงให้จบก่อน และไม่จำเป็นต้องตอบโต้กลับไปทุกคำพูด ซึ่งบางคำพูดกลุ่มแกนนำยังไม่ทันจะพูดจบด้วยซ้ำไป นายอภิสิทธ์ก็พูดสอดแทรกขึ้นมาทันทีทันใด อาการเหมือนคนทั่วไปที่ทุ่มเถียงกันเพราะทนฟังเรื่องจริงไม่ได้ หรืออาการเหมือนไม่อยากฟังเรื่องที่ตัวเองไม่ต้องการให้คนอื่นรู้แล้วมีคนมาเปิดโปงอะไรแบบนี้ นี่หรือภาวะของผู้นำประเทศที่ใครๆ ว่าเป็นคนลุ่มลึก ฉลาด และจบจากสถาบันมีชื่อเสียงจากอีกซีกโลกมา นี่หรือบุคคลที่ถือว่ามีวาทะศิลป์เป็นเลิศ เท่าที่เคยเรียนรู้มาครูบาอาจารย์สอนอยู่เสมอว่า "การจะเป็นผู้นำที่ดีต้องรู้จักการเป็นผู้ฟังที่ดีก่อน"...แต่นายอภิสิทธิ์กลับเดินสวนทาง..ยิ่งพูดก็ดูเหมือนเป็นการแก้ตัว ทำให้บางครั้งได้เห็น “อาการหลุด”หน้าตาเคร่งเครียดออกมาอย่างชัดเจน

อย่างตอนที่ “หมอเหวง” หรือ น.พ.เหวง โตจิราการ หนึ่งในแกนนำคนเสื้อแดงที่พูดด้วยเนื้อหาที่มาเจรจา เท่าที่ดูในตอนนั้นยังประทับใจไม่รู้หายว่าได้เนื้อหามากที่สุด ตรงประเด็นมากที่สุด และดูเป็น “เป้าหลอก” ที่ทำให้ทุกคนที่ดูการเจรจาของกลุ่มแกนนำกับรัฐบาลในครั้งนี้ ได้เห็นการแสดงออกทางคำพูดและอากัปกริยาของนายอภิสิทธิ์ โดยเฉพาะในประเด็น “ข้อเท็จจริง” ที่นำมาแสดงให้ประชาชนได้รับทราบ...เกือบทุกประเด็นที่ดูเหมือนจะ “แทงใจดำ” และไม่สามารถ “หาหลักฐาน” และ “เหตุผล” โต้แย้งได้ ซึ่งเรื่องนี้หม่อมปลื้มได้ออกมา วิเคราะห์ว่า...ใครที่ฟังหมอเหวงไม่รู้เรื่อง แปลว่า บุคคลนั้นมีความรู้น้อยกว่าหมอเหวง ที่ว่ามีความรู้น้อย...คือรู้ในข้อเท็จจริงและประเด็นที่ “หมอเหวง” นำมาพูดว่าต้องการทำเช่น

...ยกภาพถ่ายขนาดใหญ่ที่ทหารตั้งท่าเตรียมยิงประชาชน และอีกสองสามภาพที่มีรถพยาบาล นายอภิสิทธิ์ กลับหันไปมองใครสักคนโดยรอบ ซึ่งอาจเป็นตากล้องหรือโปรดิวเซอร์เหมือนจะส่งซิกกันว่าอย่าซูมใกล้ภาพนี้เด็ดขาด

และทำไมต้อง 9 เดือน ก็ได้คำตอบจากนายอภิสิทธิ์ ที่พูดออกมาจากปากว่า...รอเรื่องของ “งบประมาณ” ให้ผ่านไปก่อน ซึ่งทำให้รู้ว่าห่วงใยในเรื่องงบประมาณแค่นี้เอง เพราะเรื่องเงินๆ ทองๆ ที่ทำให้เห็นธาตุแท้ว่าทุกลมหายใจนั้นคิดอะไรอยู่

และกับคำพูดว่ามาทำงานเพื่อทดแทน “คุณแผ่นดิน” เป็นคำพูดที่ดูสวยหรู แต่มีความจริงใจหรือไม่ เพราะการทดแทนที่ดีก็ คือการทำแผ่นดินให้สงบสุขโดยเร็วด้วยการทำตามข้อเรียกร้องซึ่งดูแล้วก็ไม่น่าจะเสียหายแต่อย่างใด การยุบสภา เพื่อยุติปัญหาและไปเลือกตั้งกันใหม่ ด้วยการเชื่อใจกันเมื่ออีกฝ่ายก็บอกแล้วว่าก่อนยุบสภาก็ทำสัตยาบรรณกันก่อน เมื่อมีการเลือกตั้งใหม่ทุกฝ่ายต้องยอมรับผลจากการเลือกตั้งครั้งนี้โดยไม่มีเงื่อนไข และโดยไม่มีการใช้เล่ห์เหลี่ยมแบบลับ ลวง พราง ซึ่งต้องมีความจริงใจที่จะทำด้วยความเสียสละ การดื้อแพ่งด้วยการกล่าวอ้างด้วยเหตุผลเข้าข้างตัวเองอย่างเลิศหรูว่ายอมไม่ได้ที่จะยุบสภาเพราะการถูกบีบบังคับเป็นสิ่งที่รัฐบาลทำไม่ได้ เป็นสิ่งที่รัฐบาลนี้ควรคิดเพราะในอดีตรัฐบาลนี้น่าจะคุ้นเคยดีว่าเคยทำกะใครที่ไหนมาบ้าง และการที่ไม่ยอมฟังเสียงประชาชนที่ออกมาเรียกร้องจะถือว่าไม่คิดจะทดแทนคุณแผ่นดินตามกล่าวอ้างได้ไหม??

เพราะในความเป็นจริงแล้วการยอมถอยกันคนละก้าว จากที่สองฝ่ายออกมาเจรจาด้วยการเดินกันคนละครึ่งทาง เมื่อแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงเสนอ 15 วัน รัฐบาลโดยนายอภิสิทธิ์เสนอ 9 เดือนกึ่งกลางก็อาจใช้ระยะเวลาในอีก 3 เดือนตามที่นักวิชาการคนกลางได้พูดไว้ก็น่าจะทำได้ ขอเพียงแค่มีความจริงใจในคำพูดที่จะเจรจากัน ก็สมน้ำหน้าแล้วที่ท้ายสุดแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงยุติการเจรจาด้วยคำพูดจะไม่มีการเจรจากันอีก มีผลทำให้นายอภิสิทธิ์ถึงกับมีสีหน้าถอดสีไปอย่างนึกไม่ถึงและตามมาด้วยคำพูดอย่างตั้งความหวังว่าจะมีการเจรจาเป็นรอบที่สามหลังจากกลับจากบาเรนห์ในวันพฤหัสที่ผ่านมานี้...แต่แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงก็ไม่สนใจที่จะเจรจากับรัฐบาลนายอภิสิทธิ์อีกต่อไปแล้ว...

กรณีนี้มีผู้สันทัดกรณีได้กล่าวว่านายอภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์ รู้อยู่แก่ใจว่า งบปี 53 นั้นพิกลพิการ เพราะมีทั้งเรื่องการกู้เงิน และการจัดสรรงบเพื่อประชานิยมจนกระเป๋าฉีก แถมยังมีกระบวนการทุจริตรั่วไหลมากมาย ขืนเอากรอบนี้มาใช้ซ้ำอีกปี ไม่เพียงเศรษฐกิจพังแน่แต่ข้าราชการกระทรวงต่างๆ จะยิ่งพากันหันมาหาเสื้อสีแดงสวมใส่มากขึ้นนายอภิสิทธิ์ จึงได้กังวลเรื่องงบประมาณปี 54 มากที่สุด และพยายามต่อรองขอเวลาในการเป็นรัฐบาลต่อไปอีกนานถึง 9 เดือน

และผู้สันทัดได้ออกความเห็นว่า..ด้วยแรงกดดันของการชุมนุมของ นปช. และกลุ่มประชาชนคนเสื้อแดง ที่เรียกร้องประชาธิปไตย ด้วยการให้รัฐบาลยุบสภาให้เร็วที่สุด ด้วยจำนวนคนเรือนแสนที่มา ทำให้การคาดการณ์ต่างๆ ของรัฐบาลผิดคาดไปหมด เมื่อรัฐบาลไม่สามารถที่จะบริหารราชการโดยได้รับการยอมรับจากทุกภาคส่วนจนเป็นที่รับรู้ไปทั่วโลกเช่นนี้ การยุบสภาจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ สิ่งที่จะสามารถรักษาหน้าตาของรัฐบาลให้ยังคงดูดีที่สุดเอาไว้ ก็คือ การต่อรองเงื่อนไข โดยเฉพาะเรื่องของเงื่อนเวลา เพราะถ้าขืนโดนคนเสื้อแดงต้อนฝ่ายเดียว อนาคตของทั้งนายอภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์ บนถนนการเมืองของไทย... เหนื่อยสาหัสแน่นอน

ดังนั้นเมื่อคนเสื้อแดงบอกว่าต้องยุบสภาภายใน 15 วัน รวมทั้งนักวิชาการก็ดาหน้ากันออกมาเสริมว่า ให้เต็มที่ 3 เดือน... นายอภิสิทธิ์ ก็จำต้องตั้งการ์ดสูง เก็บอาการและรักษาภาพเอาไว้ ด้วยการยืดระยะเวลายาวไปถึงขนาดขอเวลา 9 เดือนไม่เพียงทำให้การเจรจาสะดุด แต่ยังทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ตามมาทั่วบ้านทั่วเมืองยกเว้นรัฐบาล และบรรดาพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว ทุกคน

ทุกภาคส่วนมองตรงกันโดยมิได้นัดหมายว่า นี่คือการซื้อเวลาของรัฐบาลเพราะเงื่อนไขต่างๆ ที่อ้างว่าจะต้องทำให้บรรลุก่อน จึงจะยุบสภาได้นั้น หากจริงใจเอามาวางเป็น Action Plan กันจริงๆ แล้ว จะพบว่า ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเป็น 9 เดือนเลยจริงๆยื้อกันสุดๆ ยังไงก็ไม่ควรเกิน 6 เดือน แต่เมื่อรัฐบาลและนายอภิสิทธิ์ ยืนกรานว่าต้อง 9 เดือน จึงทำให้แม้แต่อดีตนายกรัฐมนตรี อย่าง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย ยังอดตั้งข้อสงสัยไม่ได้ก็ในเมื่ออย่างน้อยที่สุดนายอภิสิทธิ์ก็ยอมรับ และคนส่วนใหญ่ก็ยอมรับแล้วว่า ต้องยุบสภา ทำไมจึงต้องยื้อเวลากันออกไปอีกนานถึง 9 เดือน… “ไม่เหมาะแน่ ไม่มีเวลาพอขนาดนั้น” คือ ความรู้สึกของ พล.อ.ชวลิต โดยเหตุผลสำคัญก็คือ ตอนนี้ค่อนข้างจะวิกฤติ ผู้คนจำนวนมากต้องการให้เกิดความเปลี่ยนแปลง เพราะทนไม่ไหวต่อการบริหารงานที่ไม่บริสุทธิ์ คอร์รัปชั่นสูงและที่จริงข้อเสนอ 15 วัน ของกลุ่มคนเสื้อแดง บิ๊กจิ๋วบอกว่าความจริงแล้วไม่ใช่ 15 วัน แต่จะต้องบวกไปอีก 45 วัน นั่นก็เท่ากับร่วม 2 เดือน น่าจะเพียงพอในการแก้ไข

ปัญหาเร่งด่วนส่วนข้อเสนอของคณาจารย์ นักวิชาการที่ระบุว่า เวลาที่เหมาะสมควรจะเป็น 3 เดือน ก็ต้องมาดูกันอีกที ซึ่งอาจจะบอกว่า 2 เดือนคงจะพอ ซึ่งน่าจะพูดจากันได้ ที่สำคัญควรฟังเสียงส่วนใหญ่ที่บอกว่า ยุบสภาเถอะ อยู่กันทำไม เมื่ออยู่แล้วประเทศเสียหายลงทุกวันอย่างนี้ “ถ้าทุกคนเห็นปัญหาของชาติเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องแก้ไขเร่งด่วน พวกเราก็ทราบกันดี ทุกคนห่วงใยทั้งนั้น ไม่ใช่ทิ้งระยะเวลาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น”

สำหรับกรณี นายบรรหาร ศิลปอาชา ที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา ยังยืนยันที่จะร่วมรัฐบาลต่อไป พล.อ.ชวลิต มองว่า ถ้าหากบ้านเมืองเสียหาย แล้วบอกว่า เอาตัวเราเป็นหลักนั้น ไม่ถูก ไม่ใช่วิสัยของนักการเมืองที่จะต้องนึกถึงปัญหาของบ้านเมืองเหนือสิ่งอื่นใดดังนั้นก็คงต้องดูว่า การเจรจาระหว่างนายอภิสิทธ์กับแกนนำ นปช. จะคืบหน้าไปได้เพียงใด..เพราะเงื่อนไขต่างๆ ที่นายอภิสิทธิ์ กล่าวอ้าง อย่างเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น นายดิเรก ถึงฝั่ง ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและแก้ไขรัฐธรรมนูญ มองว่าการจะแก้ไขรัฐธรรมนูญก่อนหรือหลังการเลือกตั้ง จริงๆ แล้วสามารถทำได้ทั้งสองอย่าง แต่ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ส่วนข้อกำหนดเรื่องระยะเวลา ควรหาจุดกลางที่ทั้งสองฝ่ายยอมรับได้ ซึ่งโดยส่วนตัวเห็นว่าหากลงมือที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญกันอย่างจริงจัง โดยตัดขั้นตอนการทำประชามติออกไป แล้วใช้มาตรา 191 นายดิเรกพูดชัด “ระยะเวลา 4 เดือน ก็น่าจะแล้วเสร็จได้” นั่นสะท้อนว่า จริงๆแล้วสามารถทำได้ เพียงแต่จะทำหรือไม่เท่านั้น

ซึ่งเรื่องจะทำจริงหรือไม่จริง เรื่องการซื้อเวลามาตลอดเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาล ของพรรคประชาธิปัตย์ ก็เป็นอีกประเด็นที่ก่อให้เกิดความไม่เชื่อมั่น เพราะเรื่องแก้รัฐธรรมนูญนั้น หากรัฐบาลจริงใจจริงๆ ป่านนี้ต้องทำแล้ว เพราะนายดิเรก สรุป 6 ประเด็นแก้ไขจนเรียบร้อยมาหลายเดือนแล้วแต่รัฐบาลไม่เคยสนใจหยิบขึ้นมาดู จึงทำให้วันนี้เมื่อนายอภิสิทธิ์ อ้างเรื่องนี้ จึงย่อมต้องถูกมองว่า... อีกแล้ว ซื้อเวลาอีกแล้วและนำไปสู่ความไม่เชื่อถือกันอยู่

นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ยังพูดชัดว่าเรื่องรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องที่สำคัญ ถ้าเป็นห่วงว่าจะไม่มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็ให้มาเซ็นสัญญากันเลยว่า วันที่เท่านั้นถึงวันที่เท่านั้นทำอะไร เมื่อทุกพรรคที่เซ็นแล้ว วันที่มีการประชุมสภาทุกพรรคต้องโหวตให้แล้วก็จบกันไป “เซ็นสัญญากันให้เรียบร้อยไปเลยจะได้ไม่มีปัญหาอะไร”นี่คือภาพเครดิตของรัฐบาล ที่นายอภิสิทธิ์ ควรจะต้องทบทวนด้วยเช่นกันว่าวันนี้เหลือความน่าเชื่อถืออีกแค่ไหน

การเล่นเกมการเมืองที่มากเกินไป การยื้อทุกเรื่องทุกประเด็น รวมทั้งความไม่จริงใจในการแก้ไขปัญหาตลอดระยะเวลาปีเศษที่เป็นรัฐบาลและรวมทั้งสไตล์ เอาดีใส่ตัว เอาชั่วโยนให้คนอื่น แนวถนัดของพรรคประชาธิปัตย์นั้นวันนี้ได้ส่งผลให้ความน่าเชื่อถือ หรือเครดิตที่มีต่อสังคม ที่มีต่อพรรคการเมืองต่างๆ ลดน้อยลงอย่างน่าใจหาย... แต่จะโทษใครก็คงไม่ได้ เพราะนายอภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์ ทำตัวเองล้วนๆเลยก็ว่าได้

ขนาดนายอภิสิทธิ์แสดงท่าทีชัดเจนแล้วว่า การยุบสภาเป็นสิ่งที่หนีไม่พ้น แต่สังคมและประชาชนยังไม่เชื่อถือ... ถึงขนาดขอให้มีการทำสัญญาประชาคมกันขึ้นมา นี่ถ้าเป็นประเทศประชาธิปไตยที่แท้จริง หรือเป็นช่วงที่ประชาธิปไตยของไทยไม่ได้อยู่ใต้เงาอำมาตย์และท๊อปบู๊ท มีหวังนายกรัฐมนตรีคงต้องลาออกด้วยความละอายแก่ใจกันแล้ว ดังนั้นวันนี้ยังไม่สาย หากนายอภิสิทธิ์ จะใช้ความรู้ระดับสากลที่เรียนมาจากอ๊อกซฟอร์ด มาทำ Action Plan กันไปเลยว่า หากต้องแก้รัฐธรรมนูญ 6 ประเด็นตามที่คณะกรรมการสมานฉันท์ทำเอาไว้ ก็ยกเอามาเลย ทำไมจะต้องทำให้เสียเวลาอีกเป็นเดือนๆ หรือเรื่องเศรษฐกิจ นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก็คุยเช้าคุยเย็นว่าดีแล้ว กระเตื้องแล้ว ผลงานเพียบ เศรษฐกิจปีนี้จะโต 4-5% ตลาดหุ้นขึ้นทุกวัน... อย่างนี้แล้วนายอภิสิทธิ์จะห่วงอะไรอีก จะต้องเสียเวลาแก้ไขเศรษฐกิจอะไรกันอีก

จะมีก็แต่เรื่องงบประมาณ ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นประเด็นสำคัญในใจลึกๆ ของนายอภิสิทธิ์ ของพรรคประชาธิปัตย์ และบรรดาพรรคร่วมรัฐบาล ที่ต้องการให้ผ่านงบประมาณปี 2554 ให้เรียบร้อยก่อนจะได้นอนตาหลับหลังยุบสภา ว่าจะไม่มีปัญหาเรื่องกระสุนดินดำทางการเมืองในอนาคตใช่หรือไม่ จริงๆ นับตั้งแต่การทำรัฐประหารในปี 2549 ได้ทำให้งบประมาณมีปัญหามาตลอด มีทั้งการใช้กรอบงบประมาณเดิมซ้ำอีกปีก็ยังมี ฉะนั้นหากงบปี 54 ไม่ทัน ตามหลักก็สามารถใช้กรอบงบประมาณปี 53 ได้ โดยไม่ต้องเสียเวลาอย่างที่กล่าวอ้างก็ได้ มีผู้วิเคราะห์ว่าอาจเป็นเพราะเกิดปัญหาทุจริตงบประมาณที่อื้อฉาว เสียจนสังคมขาดความเชื่อถือไม่ว่าโครงการไทยเข้มแข็ง ชุมชนพอเพียงแค่ 3 เดือนอย่างที่นักวิชาการเสนอ ก็ถือว่ามากมายแล้ว


...ขอบคุณเนื้อข่าวบางส่วนที่มีที่มาจาก บางกอกทูเดย์



ตอนนี้มีกระแสคำพูดฮิตติดปากในเน็ทโดยเอาชื่อของ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) มากล่าวแทนความหมายต่างๆ เช่น"อย่ามาเหวง" แทนความหมายของการ "พูดมั่ว พูดวกวน พูดไม่รู้เรื่อง" จนคำดังกล่าวถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายนั้น นพ.เหวง ได้กล่าวว่า "ไม่รู้สึกอึดอัดอะไรและไม่เป็นปัญหา เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด ความจริงสัญลักษณ์ของตนน่าจะเป็นสัญลักษณ์แห่งการทิ่มแทงระบอบอำมาตย์มากกว่า ส่วนศัตรูอาจจะมองไม่เป็นที่พอใจ จึงพยายามทำลายล้างดิสเครดิตตน ไม่รู้สึกอึดอัดอะไร และไม่เป็นปัญหา เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด ความจริงสัญลักษณ์ของตนน่าจะเป็นสัญลักษณ์แห่งการทิ่มแทงระบอบอำมาตย์มากกว่า ส่วนศัตรูอาจจะมองไม่เป็นที่พอใจ จึงพยายามทำลายล้าง ดิสเครดิตตนจริงๆ แล้ว"เหวง" นั้นเป็นชื่อที่ดี เป็นคำแผลงมาจากภาษาจีน แปลว่า สว่างไสว รุ่งโรจน์ อะไรประมาณนี้ ไม่มีปัญหา มันเป็นธรรมดาที่ศัตรูทางการเมืองเอาไปเผยแพร่และพยายามทำลายผม

เรื่องนี้เป็นการเริ่มต้นจากศัตรูทางการเมือง สำนักงานใหญ่แถวบางนาได้เสนอก่อน แล้วหยิบยกลงมาหนังสือพิมพ์ กระพือข่าวออกไป ทำลายความชอบธรรมของผม เป็นการต่อสู้ทางการเมืองครับ เพราะในเน็ทบอกว่า ผมทิ่มแทงระบอบอำมาตย์ได้อย่างดี ทิ่มแทงนายกรัฐมนตรีได้อย่างยอดเยี่ยม ก็แล้วแต่มุมมอง ผมได้มีโอกาสดูอินเตอร์เน็ทดูแล้วส่วนใหญ่เห็นผมเป็นคนที่เปิดโปงรัฐบาล และผมเข้าใจวัยรุ่นทุกคน อย่ากระจายข่าวว่าผมไม่รู้เรื่อง "อภิสิทธิ์" ต่างหากที่พูดจาไม่รู้เรื่องไร้วุฒิภาวะ ในชีวิตผมเริ่มต่อสู้กับรัฐประหาร หากจะกล่าวถึงผมประชาชนรู้ชัดว่าผมเป็นสัญลักษณ์ในการต่อสู้เพื่อระบอบประชาธิปไตยต่อต้านระบบเผด็จการ"


คำศัพท์ฮิตบนอินเตอร์เน็ต “อย่ามาเหวง” จึงกลายเป็น “วาทะกรรม” เพื่อดิสเครดิต “หมอเหวง” น.พ.เหวง โตจิราการ...อันเนื่องมาจากการเปิดโต๊ะเจรจาระหว่าง “กลุ่มคนเสื้อแดง” และ “รัฐบาล” นั่นเอง เพื่อหวัง “ผลลัพธ์” ในเรื่องอะไรเขาเหล่านั้นตามไม่ทัน หรือไม่รู้จริงๆ หรือรู้เข้าใจแต่ไม่ยอมรับเพราะเป็นฝ่ายตรงข้าม เพราะประชาชนส่วนใหญ่ต่างรู้ทั้งรู้ว่า “การยุบสภา” มิใช่สิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ง่าย...หากผู้มีอำนาจเขาไม่ยอมรับ...เขาก็คง “ยึดมั่น” ในคำเดิมแล้วจะทำอย่างไรเพื่อ “เปิดแผล” มิให้ถูกมองว่า “ฝ่ายรัฐบาล” ดูดีเพราะคำพูดเพียงอย่างเดียวกี่ครั้งที่ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ออกอาการหลุด...จนต้องเข้าไปคลุกวงในกับ “จตุพร พรหมพันธุ์”ถือว่าได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ “บนโต๊ะเจรจา” กับการขำข้อมูล “เป็นจริง” ซึ่งประชาชนไม่เคยรับรู้มาเผยแพร่ให้เกิดการติดตามประเด็น

“อย่ามาเหวง” จึงไม่มีอะไรมากนอกจากเป็นเสียงร้องโหยหวนของบุคคลที่เชียร์รัฐบาล ซึ่งตั้งขึ้นมาเป็น “วาทะกรรม” เพื่อดิสเครดิตการต่อสู้ทางการเมืองฝ่ายตรงข้ามแค่นั้นจริงๆ กับการลดความน่าเชื่อถือของ “หมอเหวง”....555555....จึงมีคนออกมาบัญญัติคำพูดเช่นนี้ อีกมากมายเอามาจากบางกอกทูเดย์ ลองดูค่ะว่ามีอะไรบ้าง ... อ่านกันขำๆ และกันค่ะ


ไปมาร์คไกลๆๆ
โดยคุณ ธุลีดิน (not verified) เมื่อ Wed, 2010-03-31 21:25.

หมายถึงไล่ไอ้คนที่ชอบพูดเอาดีใส่ตัวเอาชั่วให้คนอื่น พูดเอาแต่ได้เข้าข้างตัวแถไปเรื่อย ให้มันไปอยู่ไกลๆๆ อย่างเช่น(....)มาร์คปรสิด


หมอเหวงทำนายก"เหวง"
โดยคุณ จ่าอ้วน (not verified) เมื่อ Wed, 2010-03-31 22:39.

หมอเหวงเป็นคนที่เจรจาพูดชัดถ้อยชัดคำด้วยวาทะศิลป์ความเป็นผู้ใหญ่ แต่เมื่อเด็กดื้อผู้ใหญ่จะพูดอย่างไรก็รับฟังไม่ได้เพราะมีธงคำตอบของตัวเองตั้งอยู่ในใจอยู่แล้ว และการที่หมอเหวงพูดเข้าตรงใจดำก็เลยยิ่งทำให้อภิสิทธิ์ออกอาการเหวง เพราะคำพูดเสียดแทงใจดำแต่ไม่ตรงธงคำตอบที่ตั้งไว้


มาร์ค โดนเหวงเข้าไป ถึงกับต้องให้สมุนออกมาบิดเบือนข้อมูล
โดยคุณ นิรนาม (not verified) เมื่อ Thu, 2010-04-01 00:04.

เหวง แปลว่า การแฉ ตรงๆ ให้ข้อมูลอย่างไม่เกรงใจ เป็นไงละมาร์ค เจอเหวงเข้าไปถึงกับมึนเลย


มาร์คจอมแถโดยคุณ ผักป่อง (not verified) เมื่อ Thu, 2010-04-01 08:30.

พอคุณหมอเหวงพูด มาร์คหน้าตูม ยิ้มแบบเจื่อนๆ


จิ้งจอกเจ้าเล่ห์ ''เจ้าเล่ห์มาร์ค''
โดยคุณ ก่อหญ้า (not verified) เมื่อ Thu, 2010-04-01 15:26.

ดู ท่าทาง อาการ สายตา เวลาคุย ฉายแววหมาจิ้งจอกจอมเจ้าเล่ห์ ออกมาชัดเจน ก็ดีที่คนไทยได้เห็นกำพึดแท้จริง ว่าบุคลิค หลุก-หลิก ล่อก-แล่ก ไม่มีความจริงใจ (อึ)โกงคบไม่ได้ แหม่ โครต "เจ้าเล่ห์มาร์คเลย" โครต''เจ้าเล่ห์มาร์ค'' จริง ๆ....


กรุณาไปมาร์คไกลๆๆ
โดยคุณ ธุลีดิน (not verified) เมื่อ Thu, 2010-04-01 11:23.

.....ด้วยความนับถือ............


ตอบวกวน ""เจ้าเล่ห์มาร์ค""
โดยคุณ ก่อหญ้า (not verified) เมื่อ Thu, 2010-04-01 16:48.

ตอบเหมือนไม่ตอบ วกวน สับสน เหน็บแนม เล่นคำ คนฟังปวดหัว ตอบไม่เข้าคำถาม ฟังเหมือนตอบแต่แท้ที่จริงไม่ได้ตอบ ไม่ใช่ฉลาดนะ แต่หัวโกงเหมือนผู้ร้าย เวลาถูกจับก็แบบนี้แหละ จะสับสน เลี่ยงคำ เอ๋อก็ทำ บางครั้งแกล้งโง่ ทำเป็นฟังคำถามไม่เข้าใจ บางครั้งพูดมาก เพื่อถ่วงเวลาปิดช่องในคำถามต่อไป คือไม่อยากให้มีคำถามแทงใจที่ตัวไม่อยากตอบ บางทีก็ถามกลับเพื่อเบี่ยงประเด็นที่พูดค้างไว้ ทางภาษาเขาเรียกว่าไม่เก็บอาการถ้าเป็นวงในมารยาทผู้ดีเขาเรียก ไม่มีมารยาท พยายามพูดอยู่คนเดียว ไม่ยอมเปิดช่องให้คู่เจรจา ถ้าหากต้วเองจะเสียหายหรือถูกเปิดประเด็นผิดพลาด ก็จะรีบสอดแทรกขัดจังหวะการพูดของคนอื่นทันที ทำลายโอกาส คู่ต่อสู้ ด้วยอาการทนงตัว ดือรั้น แต่ไม่คิดถึงเวลาที่ตัวเองพูดแล้วคนอื่นนั้งฟัง อย่างมีมรรยาท ไม่ขัดจังหวะ รอจนหยุดพูด โอกาสเปิดให้ ถึงจะพูดต่อได้ หลักการนี้ไม่ใช่นักพูดที่ดี แต่เป็นนักหลีกเลี่ยงปัญหาด้วยการพูดต่างหาก ณ วันนี้ผมว่า แกนนำเสื้อแดงชนะ 100% ถึงมีโอกาสพูดน้อย เลี่ยงไม่ทัน เอาตัวรอดไม่เก่งเท่ามาร์ค แต่กระชากหน้ากากคน คนนี้ออกมาหมดเปลือกเลย เพราะแกนนำเอาความจริงออกมาสู้ เอาความซื่อตรงออกมาวัด เอาความที่เป็นคนไม่มีเล่ห์เหลี่ยมออกมาแบ โดยเข้าใจว่าคงพูดกับคนที่เหมื่อนๆกัน เพราะคิดซื่อๆอย่างตนว่าคนคงเหมือนกัน แต่ไปเจอ "เจ้าเลห์มาร์ค"เข้าก็ออกอาการเป๋ ช่วงแรก คิดว่าเมาหมัด แต่ยกสุดท้ายผลสรุปออกมา กรรมการยกมือให้ฝ่ายแดงชนะ เพราะข้อมูลหมัดต่อหมัดแล้วแดงเข้าเป้าอย่างเดียว แต่มุมนำเงินมาร์ค หลบหมัด ไม่ยอมสู้ ฟ้องกรรมการ และต่อยใต้เข็มขัดตลอดเวลาเลยแพ้ย่อยยับ ดับอนาคต คิดว่าตัวเองชนะ แต่จนวันนี้ก็ยัง งง งง ว่ากูแพ้เพราะอะไร แต่ผมรู้ว่าแพ้เพราะอะไร ก็เพราะความเป็นคน ''เจ้าเลห์มาร์คไง"คิดว่าตัวฉลาด โอกาสแสดงหน้าทีวีต้องเหนือกว่า เพื่อหวังศรัทธา จึงต้องมาในมาดสูงข่ม ทั้งท่าทางและวาจา ว่ามีช่องไหนกูจะเอาให้เต็มที่ ปิดประตูฝ่ายตรงข้ามทุกทาง เพื่อหวังแค่ชนะเท่านั้น แต่เรื่องเนื้อหาข้อสรุปก็แค่นั้น ถูกตั้งธงมาแล้ว ไม่เปลี่ยนหรอก จึงตีกรรเชียงเลี่ยงหนี แต่ตอนนี้แพ้ราบคาบ เหตุเพราะคิดด้านเดียว โดยหารู้ไม่ว่าการกระทำดังกล่าว เป็นการปอกเปลือกลอกคราบภายในให้ชาวบ้านเขาเห็นกัน ว่าเป็นคนเยี่ยงไร แทนที่คนทั้งแผ่นดินจะชื่นชม กลับถ่มนำลายใส่ ด้วยเห็นธาตุแท้ว่า เก้าอี้ต้องมาก่อนประชาชน คิดผิดพลาด ฉลาดพลั้งเผลอ เสนอเรื่อง โง่ ๆ เต็มเวที ช่างฉลาดแต่เรื่อง โง่ ๆ เสียจริง ๆ 555


อย่ามาด่าเราว่ามาร์คนะ
โดยคุณ อย่ามาด่าเราว่ามาร์คนะ (not verified) เมื่อ Thu, 2010-04-01 11:44.

หมอเหวงตรงประเด็นมาก แถมเอามาแต่ละเรื่องมาร์คหน้าเจื่อนสนิท.. คนที่บอกว่าหมอเหวงพูดไม่ดี คือพวกที่เข้าข้างรัฐบาลสุดโต่ง .... มาร์คทำตัวยังกับเด็ก ๆ เถียงคำไม่ตกฝาก ข้าง ๆ คูๆ ใครมาด่าเราว่ามาร์คนี่โกรธตายห่าา.. ถ้ามาเรียกว่าเหวงถือว่าชม...^__^


เมื่อมาร์คเจอเหวง
โดยคุณ ธุลีดิน (not verified) เมื่อ Thu, 2010-04-01 12:17.

......เศษหมานุดอย่างมาร์ค...ต้องเจอคนอย่างเหวง......มะกอก30ตระกร้าปาไม่ถูก....เจอมะกอกของหมอเหวงโดนกบาลทุกดอก...บอกไม่จืด......กลายเป็นไอ้จืดหน้าจ๋อย...ถอยไม่เป็น...ยังเล่นแถไปเรื่อย..........ปลาไหลอย่างมาร์คเจอเหวงพร้อมหลักฐานจะๆๆไหลไม่ออก


มาร์คผู้หนีทหาร
โดยคุณ เสื้อแดงลำลูกกา (not verified) เมื่อ Thu, 2010-04-01 13:23.

ได้ฟังการเจรจาทั้ง 2 ครั้งแล้ว ใครยังไม่ตาสว่างก็.....เต็มที


พูดแบบมาร์คๆๆ
โดยคุณ ธุลีดิน (not verified) เมื่อ Thu, 2010-04-01 15:05.

เลวกว่าพูดแบบหมาๆ พูดเอาดีใส่ตัว มั่วเอาชั่วให้ผู้อื่น ถนัดกัดไปทั่ว...ใส่ร้ายแบบมักง่ายมีแต่ควายที่หลงเชื่อ พูดเอาแต่ได้ไม่มีหิริโอตัปปะเลยสักนิด พูดแบบมาร์คๆก็ไปมาร์คไกลๆ อย่ามามาร์คแถวนี้ ไม่มีใครเขาอยากคุยกับคนแบบมาร์ค..


ผู้"เหวง" ผู้"เหวอ" นายกตะหาก!
โดยคุณ M.1 (not verified) เมื่อ Thu, 2010-04-01 16:24.

คนฟังหมอเหวง ไม่รู้เรื่องนั้นมันเด็กไม่มี หรือขาดวุฒิภาวะทางการเมือง ตะหากเล่า...ส่วนผู้ที่รู้เรื่องมาแต่ต้น แล้วจะรู้ว่าเขาวางแผนปฎิบัติกันอย่างไร หลอกล่อเสีย นายกอภิสิทธิ์ "เหวง" และ"เหวอ" ขาดวุฒิภาวะการเป็นผู้นำ ไปตะหากเล่า!!.....


อย่ามาพูดแบบมาร์คๆๆ
โดยคุณ ธุลีดิน (not verified) เมื่อ Thu, 2010-04-01 16:54.

การที่ทักษิณถูกตัดสินว่าติดคุก เพราะเมียไปประมูลซื้อที่ดินสูงกว่าราคากลางสูงกว่าทุกคนแล้วต้องติดคุก มันก็ตลกแล้วสันดานหมาจิ้งจอกหาเรื่องจะกินลูกแกะ ถ้าเมียทักษิณมันกดราคาประมูลน้อยกว่าราคากลาง แล้วได้ที่ดินไป จะโพสด่าด้วยคน แต่นี้ไม่ใช่อย่างนั้น แล้วยังมาพูดแบบมาร์คๆๆมั่วว่าทำผิดโกงชาติ โกงภาษี นั่งฟังอยู่ศาลบอกว่าไม่ชอบ ไม่ได้บอกว่าทุจริตหรือโกงเลยสักนิด...แต่ก็ยึดทรัพย์ ก็ยึดไปไม่มีปัญญาหาไม่มีปัญญารักษาก็เรื่องของมัน อยากรวยดีนักอำมาตย์มันก็อิจฉาหาเรื่องยึดเงินซะ และคิดหรือมาร์คมันหมดอำนาจจะไม่ถูกจับติดคุก หนีทหาร ขายชาติ ทำชาติเป็นหนี้ เอาเงินกู้มาโกงทุกโครงการ ไอ้ทรราชขายชาติมาร์คปรสิต ไม่รู้ข่าวบ้างหรือไง หรือฟังแต่สื่อมวลโจร มันโกงตั้งแต่ปลากระป๋องเน่า จนจีที200 กระบอกพลาสติกอันละล้าน ผลาญชาติล่มจม ล่าสุดเรือเหาะก็เหาะไม่ขึ้น แล้วจะปล่อยให้รัฐบาลโจรพวกนี้อยู่ต่อเพื่อปล้นงบประมาณแผ่นดินอีก 9 เดือนหรือไงไอ้ชั่ว


อย่ามาพูดแบบมาร์คๆๆๆๆๆๆ
โดยคุณ นิรนามดอนเมือง (not verified) เมื่อ Thu, 2010-04-01 17:13.

จะไปทำทำไมประชาวิจารณ์ทำให้มันเปลืองงบ หาสวรรค์วิมาน ทำไมอย่ามาพูดแบบ มาร์คๆๆๆๆๆๆ


พูดแบบมาร์ค..หน้าด้านแบบมาร์ค
โดยคุณ ธุลีดิน (not verified) เมื่อ Thu, 2010-04-01 17:26.

จะอยู่ต่อไปอีก9เดือน เพื่อผลาญงบประมาณให้ประเทศต้องเป็นหนี้มากที่สุดก็ทำไป แต่ขอให้รู้ไว้เลยว่าจะมีคนเกลียดมาร์คมากขึ้นทุกๆๆวัน ชมรมชาวนา รถบรรทุก วินมอเตอร์ไซด์ วิทยุชุมชน..ฯลฯ..เขาร่วมตัวกันขับไล่ จะหน้าด้านอยู่ต่อ9 เดือน..ไม่มีเพื่อนเอาด้วยนะไอ้มาร์ค พูดแบบมาร์ค ก็ไสหัวไปมาร์คไกลๆๆ อย่ามามาร์คแถวนี้ ชิ่วๆๆ


อย่ามาพูดแบบมาร์คๆหลักลอย
โดยคุณ นิรนามดอนเมือง (not verified) เมื่อ Thu, 2010-04-01 17:54.

นายกคุณมีมารยาทมากนักนี่พูดจาสอดแทรกตลอดเวลา น่าจะไปหาหนังสือผู้ดีมาต้มให้กินบ้างนะ ไอ้ผู้ดีจอมปลอม คำพูดตัวเองยังเปลี่ยนไปเปลี่ยนมากลับกลอกยิ่งกว่าลิงหลอกจ้าว ตลบแตลงหาจุดยืนไม่ได้ นายกที่มุดอยู่ในค่ายทหารมันช่างน่าอาย.......


5555555....แค่เอามาลงนะคะจากบางกอกทูเดย์...อ่านแล้วบางคนอย่าเครียดนะคะเพราะบอกแล้วว่าไปอ่านเจอเลยเอามาลงแบบขำๆ ค่ะ...55555555....


ปล. ขอร้องตรงนี้นะคะ...ใครที่ใส่เสื้อสีชมพู...กรุณาอย่าเอาเสื้อสีชมพูไปแปดเปื้อนการเมือง เว้นไว้สักสีเถอะนะ อย่าใส่เสื้อสีชมพูออกไปเรียกร้องอะไร สีเหลืองเคยเป็นสีมงคล เป็นสีที่ดี ที่คนไทยทุกคนศรัทธาด้วยความจงรักภักดีที่อยากจะนำไปสวมใส่ ตอนนี้ไม่มีใครกล้าใส่เพราะมีคนบางกลุ่มเอาไปทำซะแปดเปื้อนไปหมดแล้ว..ตอนนี้จะเอาสีชมพูไปแปดเปื้อนอีกแล้วเหรอ...เว้นไว้สักสีไม่เกี่ยวข้องได้ไหมคะ...ขอเว้นไว้สักสีให้เป็นสีที่ประชาชนแสดงความรักและเทิดทูนพระองค์ท่านด้วยความบริสุทธิ์ใจ โดยไม่มีใครเอาการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง...เว้นสักสีได้ไหม...หรือที่ออกไปแสดงความคิดเห็นนั้นเพราะอยากจะทำให้คนไทยไม่อยากใส่เสื้อสีชมพูเหมือนที่ไม่อยากใส่เสื้อสีเหลืองอย่างที่แล้วมาอีก และสิ่งสำคัญที่อยากขอร้องเป็นอย่างมาก คือ เลิกเอาพระองค์ท่านมาเกี่ยวข้องกับความแตกแยกตรงนี้เลิกกล่าวอ้าง หรือเอาพระองค์ท่านลงมาเกลือกกลั้วกับความแตกแยก...เพราะพระองค์ท่านอยู่สูงเกินกว่าที่พวกเราทุกคนจะนำไปอ้างถึง เพราะไม่ว่าจะใส่เสื้อสีอะไรทุกคน คือ คนไทย มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วยกันทั้งนั้น หรือสีอื่นไม่ใช่ล่ะ ถ้าคิดว่าใช่ก็เลิกเอาไปใส่และแอบอ้าง...กรุณาไปใส่เสื้อสีของพวกคุณเหอะนะ........








 

Create Date : 03 เมษายน 2553
17 comments
Last Update : 30 ตุลาคม 2553 11:15:40 น.
Counter : 2107 Pageviews.

 

สวัสดีค่ะ คิดถึงจังเลยค่ะ คุณภัทรสบายดีหรือเปล่าคะ ตอนนี้ยังไม่เสร็จธุระแต่เข้ามาแวะทักทายเพื่อนที่น่ารักที่แวะไปทักทายกบที่บล๊อคอยู่เสมอ ขอบคุณมากนะคะที่ยังไม่ลืมกัน จุ๊บจุ๊บ

 

โดย: กบ (TungTan ) 3 เมษายน 2553 2:09:17 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

แวะมาฟังเพลงยามเช้าจ๊ะ

 

โดย: อุ้มสี 3 เมษายน 2553 6:34:10 น.  

 

หวัดดีเช้าวันเสาร์ค่ะ คุณภัทร ตื่นหรือยังจ๊ะ ตอนนี้บล็อกคุณภัทรกลายเป็นบล็อกการเมืองไปแล้วนะ ฮิฮิ เมื่อสองคืนที่แล้วทีวีช่องช่องหนึ่ง เอาสว.ที่ทำงานเกี่ยวกับการคุ้มครองสถาบันฯมาให้ความเห็นเรื่องโฟนอินของคุณทักษิณ พิธีกรพยายามชี้นำให้ สว.เห็นด้วยว่าคุณทักษิณจาบจ้างสถาบันฯโดยตรง เขาบอกว่าแสดงเจตนารมณ์จะล้มเจ้าเต็มที่ไม่ใช่ล้มแค่เปรมฯ แล้วเขาก็เรียกร้องให้ประชาชนออกมาต่อต้านคุณทักษิณให้เต็มถนน เพื่อปกป้องสถาบันฯ แม้สว.คนนั้นจะพยายามบอกว่า ไม่เชื่อว่าคุณทักษิณจะไม่จงรักภักดี อาจจะหลุดปากบางอย่างออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจก็ได้ พิธีกรก็ไม่ฟัง ทำท่ากระเหี้ยนกระหือรือมาก ยุคนกรุงเทพฯให้ออกมาแสดงพลัง และคงจะได้ผล เพราะวันนี้มีพวกนักวิชาการกลุ่มหนึ่งและพวกอาจารย์สวมเสื้อสีชมพูออกมาต่อต้านคนเสื้อแดงและคุณทักษิณแล้ว สงสัยคนพวกนี้มันอยากให้นองเลือดนะ แย่มาก

 

โดย: ดอยสะเก็ด 3 เมษายน 2553 9:52:46 น.  

 


ที่อัพช้าเพราะไม่แน่ใจว่ามีคนอยากอ่านหรือเปล่า ลงเรื่องนี้ปรากฏว่าแฟนคลับหายไปแยะเลย

 

โดย: ดอยสะเก็ด 3 เมษายน 2553 11:27:00 น.  

 

 

โดย: thanitsita 3 เมษายน 2553 11:42:21 น.  

 

เชื่อคุณภัทรค่ะที่ให้ความเห็น เลยตัดสินใจอัพแล้ว อย่าลืมเข้าไปเจิมนะคะ ฮิฮิ

 

โดย: ดอยสะเก็ด 3 เมษายน 2553 12:14:38 น.  

 

กำลังฟังเสื้อแดงอยู่ค่ะ ถ้าใครสนใจเข้าไปฟังได้นะคะที่ //www.sanamluang.tv/

 

โดย: ดอยสะเก็ด 3 เมษายน 2553 13:57:19 น.  

 

แวะมาเยี่ยมเช่นเคย...เพลงเพราะครับ

 

โดย: **mp5** 3 เมษายน 2553 15:40:12 น.  

 



สวัสดี...วันสี...!!!...

บอกด้วยภาพ...อะ...จร้า...คุณภัทร

ป้าเข้ามาอ่านซะมึนเลยจ่ะ ปกติก็อ่านไทยไม่แตกอยู่แล้วอ่ะ...

มาเจอดาวกระจายคุณภัทร...ป้าเลยมึนเลย...หุ...หุ...

ป้าก็ดูการเจรจาทั้งสองครั้งอ่ะจ่ะ...

ดูแล้วก็ให้ขัดใจซะจริงๆ อยากจะเบิร์ดกะโหลกนังมากเนียะ...

ดูมันนั่งไขว่อีเกก!...เหลือบลูกนัยตา...ซ้ายทีขวาที...

มันเป็นบ้าอารายของมัน หรือมานกลัวคนลอปเข้ามา...เอา..."อี้" เขวี้ยงหัวมางอ่ะ...

เซงงงงเจรงงง...เจรงงง....

 

โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) 3 เมษายน 2553 18:28:42 น.  

 

ขอบคุณนะคะสำหรับกำลังใจ,,,,ฝันดีนะคะคืนนี้

 

โดย: phaclam 3 เมษายน 2553 19:57:50 น.  

 

ขอบคุณจ๊ะน้องภัทรที่เอาข่าวสารมาบอกเล่าให้ฟัง เห็นด้วยมากๆเลย แล้วก็รู้สึกเหมือนกันเลยเรื่องเอาเสื้อสีชมพูมาใส่เนี่ย ไม่เข้าใจทำไมชอบที่จะเอาสีที่เป็นสัญญลักษณ์ของเหนือหัวให้มาแปดเปื้อน เป็นเรื่องที่มิควรเลยด้วยซ้ำ เหมือนชอบเอาสีเสื้อมาอ้างว่ารักชาติ รักสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่การกระทำเหมือนดึงสถาบันให้ต่ำลงมา แล้วก็จะทำให้คนไม่อยากใส่เสื้อสีชมพูต่อไปเหมือนที่น้องภัทรพูดน่ะหล่ะ การศึกษาก็สูงๆกันนะ แต่กลับไม่คิดบ้างเลยเรื่องเอาเสื้อสีของสถาบันเบื้องสูงมาใส่แล้วมาอ้างว่ารักสถาบันเนี่ย

นี่พี่ได้รับ forward mail มาด้วยนะบอกให้พลังเงียบใส่เสื้อสีชมพูออกไปชุมนุมกันเยอะๆให้ลงชื่อคัดค้านการยุบสภาด้วยนะ ส่งมาให้ แล้วข้อความเขียนว่าเสื้อแดงกับท่านอดีตนายกทักษิณยาวเหยียดเลย ว่าจะส่งมาให้อ่านเหมือนกัน ไม่รู้ว่าน้องภัทรได้รับบ้างรึเปล่า มาจากนายแพทย์ตุลย์ พี่นี่ฉุนเหมือนกันว่าจะส่งตอบกลับไปบอกไอ้พวกที่ส่งต่อๆกันมาให้แล้วว่า "นี่ฉันเสื้อแดงนะว๊อย" แล้วเลยรู้เลยนะว่าเพื่อนที่คุยๆกับเราส่งมาให้นี่อยู่ข้่างไหน

 

โดย: พี่แป๊ว (แม่น้องแปงแปง ) 3 เมษายน 2553 21:59:22 น.  

 

เขียนค่ะคุณภัทร แค่ไม่ได้อัพบล็อกเอาไปเล่นที่ทู้พันทิปค่ะ

.........................


หลับฝันดีมีเงินเต็มกระเป๋านะคะ

 

โดย: ญามี่ 3 เมษายน 2553 23:29:43 น.  

 


Morning...ค่ะ
หวัดดีเช้าวันอาทิตย์



ชื่อภาพ Color of an Axis
โดย Albert Chi Hwang

 

โดย: เริงฤดีนะ 4 เมษายน 2553 9:21:48 น.  

 

มะวานไปช็อปปิ้งห้างดังๆแถวราชประสงค์มา

ใส่เสื้อแดง กางเกงแดงไปช็อป

วันนี้อาจไปช็อปกระจายอีกรอบ

แล้วจาเอารูปมาฝากกันค่ะคุณภัทร

 

โดย: นักล่าน้ำตก 4 เมษายน 2553 9:49:30 น.  

 

นั่นดิ การลืมใครสักคน มันยากนะ

ที่จะลืม..

 

โดย: ชิโยจัง 4 เมษายน 2553 10:40:16 น.  

 

สวัสดีค่ะ..

ชอบเพลงนี้ตั้งแต่10กว่าปีมาแล้วค่ะ

ตอนนี้ก็ยังฟังได้อยู่..

ช่วงนี้หนีเรื่องการเมืองในกรุง

ไปเที่ยวภูเก็ตค่ะ..(คนเดียว)

แล้วจะupblogมาใหม่นะค่ะ..รอสักครู่

 

โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) 4 เมษายน 2553 11:57:14 น.  

 

nice song na ka,,,

thank you ka,

 

โดย: Dr.sab 2 มกราคม 2554 3:41:58 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.