Review in Nutshell...#1.5 (Before the Devil Knows You're Dead & Grace is Gone)




ผกก.ซิดนี่ย์ ลูเม็ต ได้ตีความหมายของคำนิยามอันหนึ่งเอาไว้อย่างน่าสนใจว่า "หนังดราม่าที่ดีนั้น ตัวละครจะเป็นผู้ตัดสินทิศทางในการดำเนินเรื่อง แต่หนังเมโลดราม่านั้น เนื้อเรื่องจะเป็นตัวตัดสินชะตาชีวิตของตัวละคร" ซึ่งการแสดงของนักแสดงทุกๆคนในเรื่อง (โดยเฉพาะ ฟิลลิป ซีมัวร์ ฮอฟแมน) ที่เรียกได้ว่ายืนอยู่บนเส้นแบ่งพอดี ระหว่างโลกของความเป็นจริงกับโลกของละครเวที และความบังเอิญที่เกิดขึ้นระหว่างการดำเนินเรื่อง ที่อาจจะบั่นทอนความน่าเชื่อถือในความสมจริง แต่สามารถเรียกร้องอารมณ์ร่วมของคนดูได้จนถึงจุดสุดยอด น่าจะทำให้ Before the Devil Know You're Dead เป็นตัวอย่างที่ดีในการทำหนังเมโลดราม่าให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากการเป็นหนังเมโลดราม่าที่ดีเรื่องหนึ่งแล้ว การที่มีลูกเล่นในการเล่าเรื่องโดยใช้ POV ของแต่ละตัวละคร (ซึ่งมันก็ไม่ใช่ลูกเล่นที่ใหม่อะไรเลย) ก็ถูกใส่ไปเข้าไปในเนื้อเรื่องที่มีความเข้มข้นอยู่เดิมแล้ว มีความน่าสนใจเพิ่มขึ้นไปอีก และการกำกับภาพ โดยเฉพาะซีนที่เกี่ยวข้องกับอพาร์ทเม้นท์ของคนค้ายา ที่แอนดี้เข้าไปเกี่ยวข้อง ก็ถูกถ่ายทำโดยคำนึงถึงคุณค่าในเชิงศิลปะ ได้อย่างเต็มเปี่ยมและมีชั้นเชิง ควรค่าแก่การชมเชยยิ่งนัก

สำหรับใครที่รู้สึกเอียนไปกับหนังน้ำเน่า ที่ถูกสร้างอย่างพร่ำเพรื่อ โดยไม่คำนึงถึงคุณภาพมากนัก หรือหนังดราม่าหนักๆ ที่ผลสุดท้ายแล้ว ก็อาจจะไม่ได้สร้างความแตกต่างจากหนังดราม่าเรื่องอื่นๆ อย่างที่ควรจะเป็นนัก ผกก.ซิดนี่ย์ ลูเม็ตอาจจะเป็นคนที่ให้คำตอบสุดท้าย ในหนังเรื่องล่าสุดของเขาแก่เหล่าคนดู และอาจจะเป็นคนที่กำหนดให้คำนิยามใหม่แก่หนังเมโลดราม่า ที่ถูกซ่อนมาในรูปของหนังดราม่าหนักๆอย่างเรื่องนี้ก็เป็นได้

BloodyMonday Rating:





เราอาจจะรู้สึกเห็นใจไปกับตัวละครของ ทอมมี่ ลี โจห์น ที่ต้องเสียลูกชายไปกับสงครามในอิรัก จากเรื่อง In the Valley of Elah หรืออาจจะรู้สึกขบขันไปกับการรับมือของตัวละครสามสี่คน ที่กลับมาจากสงครามในเรื่อง Home of The Brave แต่มันก็ไม่มีเรื่องไหนที่จะให้ความรู้สึกใกล้ชิด และซาบซึ้งไปพร้อมกับตัวละครของ จอห์น คูแซ็ค จากเรื่อง Grace is Gone ได้อีกแล้ว

การแสดงของจอห์น คูแซ็ค และสองนักแสดงหน้าใหม่ (ชีแลน โอคีฟ และ เกรซี่ เบอร์นาเช็ค) ที่แสดงเป็นลูกสาวทั้งสองคน อาจจะเรียกได้ว่า เป็นส่วนที่สำคัญที่สุด ในการดึงอารมณ์ของคนดูเข้าไปร่วมอยู่ในความสูญเสียภรรยา และแม่ของพวกเขา สำหรับคูแซ็คแล้ว นี่คือนิมิตหมายใหม่ที่ดีสำหรับอดีต ทีน ไอด้อลยุค 80's คนนี้ โดยเฉพาะการแสดงที่มีมิติและต้องการการแสดงออกด้วยสีหน้า ท่าทาง และอารมณ์ อย่างหนังเรื่องนี้ เพราะตัวละครอย่างแสตนลี่ย์นั้น ต้องเก็บอารมณ์เสียใจของตัวเองเอาไว้ เพื่อที่จะได้พยุงสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ อย่าง"ครอบครัว" ของเขาเอาไว้ และในขณะเดียวกัน ก็ต้องแบกรับคำถามที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างการเดินทางไปสวนสนุกของลูกทั้งสอง โดยที่กลัวว่าพวกเธอจะเป็นอย่างไรต่อไป เมื่อได้รับทราบเรื่องการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของแม่

นอกจากนั้น หนังยังตัดสินใจถูกด้วยการไม่เยิ่นเย้อ ฟูมฟาย หรือคร่ำครวญในความสูญเสีย (หนังอาจจะมีการ "โปร" เรื่องความชอบธรรมของสงครามในอิรัก ให้แก่ประชาชนชาวอเมริกันอยู่เหมือนกัน) และเมื่อฉากสุดท้ายได้ดำเนินมาถึงอย่างไม่ทันตั้งตัว มันก็ได้สร้างความประทับใจ และความซาบซึ้ง ที่เอ่อล้นอยู่ในเบ้าตาของผู้เขียน อย่างไม่ทันได้ตั้งตัวเหมือนกัน

BloodyMonday Rating:




 

Create Date : 11 มิถุนายน 2551
13 comments
Last Update : 13 มิถุนายน 2551 11:35:23 น.
Counter : 833 Pageviews.

 

แง๊ เมื่อกี๊เข้ามาคอมเม้นต์แล้วทำไมได้...เขียนใหม่อีกรอบ
ตอนกลับจากไปเที่ยวบนเครื่องฉายเรื่อง Grace is gone อยู่ด้วยค่ะ แต่ไม่กล้าดูกลัวออกอาการน้ำตาทะลัก เดี๋ยวคนข้างๆจะเรียกตำรวจแล้วเจอดีแบบ Harold and Kumar (อยากดูๆ)
เอ แต่หนังโปรอเมริกันแบบนี้เค้าก็ให้ฉายบนสายการบินตะวันออกกลางด้วยเนอะ อิๆ

 

โดย: apple_cinnamon 11 มิถุนายน 2551 12:54:06 น.  

 

ก็ยุ่งน่ะ กว่าจะเขียนจบ ใช้เวลาเกือบสัปดาห์นึงอ่ะครับ

รอ ที่อยู่ อยู่น่ะ

 

โดย: หนึ่ง IP: 124.120.79.33 11 มิถุนายน 2551 13:25:35 น.  

 

+ เราดูแล้วสนุกนะ Before the Devil Knows You're Dead แต่เราไม่ชอบหนังที่จบแบบนี้..

+ อยากดู จอห์น คูแซค ^_

+ คิดอยู่ว่าอยากดู Cleaner (2007) เพราะมีลุง Ed แต่..สงสัยเอาไว้เจอกันเรื่องหน้าๆ 55

 

โดย: renton_renton 11 มิถุนายน 2551 13:34:39 น.  

 

ใกล้ที่จะได้ป็น ไท แล้วล่ะ..เดี๋ยวคงได้เขียนถึงหนังอย่างจุใจ(ซะที)

 

โดย: renton_renton 11 มิถุนายน 2551 13:36:12 น.  

 

แง๊ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อยากดูหนังทั้งสองเรื่องเล๊ยแง๊ๆๆๆอยากเขียนด้วยยยยยยยย .........บอกแหล่งด้วยยยยแง๊ๆๆๆ

 

โดย: Bernadette 11 มิถุนายน 2551 15:17:59 น.  

 

ตัน สุดขั้ว 555+
ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกฮะพี่ แค่ไม่ได้ดูหนัง เลยไม่รู้จะเอาเรื่องไรมาเขียนดี ได้แต่นั่งฟังเพลงไปวันๆ เอาเป็น มาอ่านจากบล้อก แฟนพันธ์ หนังดีกว่าครับ จะได้ตามหามาดูมั้ง เรื่องไหนน่าสนน่ะนะ

ส่วนหนังสองเรื่องที่ว่า มา น่าสนใจ มากมาย ชอบ เรื่อง Grace is Gone นะ น่าดูจิงเชียว แต่เนื้อเรื่อง มันน้อยจัง ... อยากรู้มากก่านี้ ทำไงเนียะ

 

โดย: haro_haro 11 มิถุนายน 2551 15:30:19 น.  

 

ดู๊ ดู Cleaner ให้ซะ 1 <------- ใครจะไปดูละเนียะ 555 ทำเอาความอยาก หายหมด

 

โดย: haro_haro 11 มิถุนายน 2551 15:33:47 น.  

 

ชอบเรื่องคุณแม่เกรซเดี้ยงไปแล้ว ความรู้สึกของพ่อที่จะต้องบอกกับลูกว่า แม่ของลูกเค้าเสียแล้ว เนี่ย มันลำบากไม่น่าดู

 

โดย: สะมะ (panda-movie ) 11 มิถุนายน 2551 16:34:52 น.  

 

ช่วงนี้ไม่มีเวลาไปช้อปหนัง ก้อเลยได้แต่ดูตามโรงที่น้องชายซื้อบัตรมัดมือชกให้ดู

ได้ไปดูไอรอนแมนมา ดีเกินคาดนะ annie ว่า
ส่วนล่าสุดก้อนาเนีย...เจ้าชายแคสเปี้ยนหล่อจัง

 

โดย: annie_martian 11 มิถุนายน 2551 18:24:03 น.  

 

apple_cinnamon
เออแปลกดีเหมือนกันแฮ่ะ อย่าบอกน่ะว่าเป็นสายการบินอิรักแอร์ หุหุ...ส่วนฮาร์โรว์ แอนด์ คูมาร์ อยากดูเหมือนกัน แปลกแหะ ยังไม่ลงเป็นแผ่นซะที

หนึ่ง
พลีสส เช็ค ยัวร์ ฮ๊อตแมน

เรนตั้น
อือใช่ มันจบแบบ...ทุกอย่างมันพังทลายจริงๆ...จอห์น คูแซ็คนี้มีให้ดูตั้งหลายเรื่องน่ะช่วงนี้ เพิ่งดู War Inc. จบไปหมาดๆ เด๋วค่อยว่ากัน...ลุงเอ็ดในเรื่อง Cleaner นี้สุดๆไปเลย ในใจแกคงภาวนาให้ถ่ายทำจบเร็วๆ 55+...ทำไมจะเปนไทล่ะ อย่าบอกน่ะว่า... =P

แบร์
ซื้อจาก จงกวั๋อ สาธารณรัฐประชาชนจีนครับ แต่แยกรัชดาก็คงมีละมั้ง ห่ะๆๆ

ฮาโร่
ฟังเพลงก็ดีน่ะ อัลบั้มชุดไหนโอเค ก็จะได้เอามาแนะนำกัน...Grace is Gone มันไม่มีอะไรเลยจริงๆน่ะ แต่ก็ดีแล้วล่ะ เพราะหนังแบบนี้ถ้าใส่อะไรมากเกินไป ข้อความหลักที่หนังต้องการจะกล่าว มันก็อาจจะถูกทำให้ด้อยคุณค่าลงไป...ส่วน Cleaner ไปดูเองๆ แล้วจะซาบซึ้ง 555+

panda-movie
ใช่ครับ แต่เราว่าจุดที่น่าลำบากว่าตอนบอกให้ลูกๆรู้ก็คือ ตอนที่เค้าต้องแบกรับข่าวร้ายเอาไว้คนเดียว และไม่รู้วิธีที่จะบอกให้ลูกได้รู้นั้นแหละครับ ซึ่งหนังนี้มันก็พูดถึงช่วงสำคัญนี้ทั้งเรื่องเลย

annie_martian
ไอรอน หมาน นี้ก็ชอบครับ ถือว่าแกเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ที่กวนสุดๆคนหนึ่งเลย...ส่วน นาร์เนียก็ชอบไม่แตกต่างกันครับ แต่เราว่าเจ้าชายจะหล่อน้อยกว่าสองหนุ่มนั้นน่ะ ห่ะๆๆ

 

โดย: BloodyMonday 11 มิถุนายน 2551 20:29:02 น.  

 

อัพแล้วจ้าาาาาาาา

อัพบล็อกใหม่แล้วจ้าาาา

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=juring

 

โดย: จูริง 12 มิถุนายน 2551 4:00:23 น.  

 

ลูเม็ตนี่ผมได้ดูเรื่อง 12 Angry Men ครับ เสียดายอีกเรื่องคือ Fail -Safe หาดูไม่ได้เลย ถือได้ว่าเป็นยอดผู้กำกับคนหนึ่งเลยก็ว่าได้

 

โดย: Johann sebastian Bach 12 มิถุนายน 2551 7:56:04 น.  

 

จูริง
ไปอ่านแล้วน่ะ

Johann sebastian Bach
Fail -Safe เวอร์ชั่นนั้นผมมีน่ะ จำได้ว่าไปซื้อที่ Tower Record เดอะมอลล์บางกะปิ ส่วน 2 Angry Men นอกจากเวอร์ชั่นคลาสสิคของลุงลูเม็ตแล้ว ผมก็ชอบเวอร์ชั่นทีวีของ วิลเลี่ยม ฟรีดกิ้น เหมือนกันน่ะ

 

โดย: BloodyMonday 13 มิถุนายน 2551 12:01:58 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


BloodyMonday
Location :
Imaginationland, Valley of Bliss China

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






-= M & M in Nutshell =-


Gentlemen Broncos (2009)


You could have brain tumor by watching this contaminated turd. Nothing in Gentlemen Broncos pays off, it’s incoherent mess, and chock-full of incredibly annoying characters. You will not only loath this movie, but it also makes you want to punch someone who responsible for this abomination in the face.

BloodyMonday Rating:



Fantastic Mr. Fox (2009)


Imagine if Akira got Live-Action treatment by... say Alfonso Cuarón, you know how awesome it might be? That’s what happened to "Fantastic Mr. Fox". Wes Anderson's auteur perfectly captured the quirkiness and blissful tone of the material. Its stop-motion technique might be a little crude and... somewhat unsophisticated, but that's the charm of it. You’ll feel like pop-up book unveiled before your eyes. This is an exceptional animation of the year.

BloodyMonday Rating:



Planet 51 (2009)


ถ้าถามว่าสนุกไหม? ก็โอเค ทุกอย่างถอดแบบมาจาก Shrek มุขที่อ้างอิงวัฒนธรรมป็อป ตัวละครสมทบที่น่าสนใจกว่าตัวเอก กราฟฟิคที่สอบผ่านฉลุย (ถ้าไม่ไปวัดกับพิกซาร์) แต่ถ้าถามว่าต้องดูไหม? ..... เอาเป็นว่าเวลาชั่วโมงครึ่ง ทำอะไรที่มีประโยชน์กว่านี้ได้เยอะแยะ

BloodyMonday Rating:



It's Complicated (2009)


รู้สึกสนุกกับการได้เห็นป้าเมอรีล เข้าโหมดแอ๊บเด็ก (อีกแล้ว) ในขณะเดียวกัน อเล็กซ์ บอลด์วิน และ จอห์น ครากินสกี้ ก็ขโมยซีนได้ตลอด แต่มันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าหนังยาว 2 ชั่วโมงมีเรื่องให้เล่าแค่ 15 นาที... It's Complicated อาจเหมือนคนกินไวอากร้าแล้วเข้านอน คึกตลอดคืนแต่มันจะมีประโยชน์อะไร?

BloodyMonday Rating:



Up in the Air (2009)


Up in the Air is a blockbuster movie for people who think blockbuster movies are dumb, as it chock full of brilliantly written dialogue, and acting showcase for three talented actors (especially star-making turn by Anna Kendrick). But in the end, there's little to love, not so much story to chew on (plus disappointing third act), and no real connection to the meaning of human interaction as it intended to be.

BloodyMonday Rating:



I Love You, Beth Cooper (2009)


Cliché-ridden plot about a bunch of annoying characters get together in one idiotic circumstance, "I Love You, Beth Cooper" is shameless exploitation & biggest insult to 80s teen flicks. It's like memorizing magic trick from internet, hoping to perform like David Copperfield. Neither sense of wonder nor magic flare happens here. Only good thing is, it makes me wanna cleanse my soul with genuine 80s teen movie night marathon.

BloodyMonday Rating:



Everybody's Fine (2009)


Meh. The movie serious lack of originality & characters development. Only Robert De Niro comes out fine in this schmaltzy, "Lifetime" movie-of-the-week plot.

BloodyMonday Rating:



Paper Heart (2009)


Twee delight... That's only two words I can think of right now.

BloodyMonday Rating:



Adam (2009)


A perfect companion to Mary & Max (one of the best animation of 2009), Adam is star-crossed love story (pun intended) between Adam, Asperger's Syndrome bearer, and Beth, free spirit woman. The picture wouldn’t be this intimate without stunning performance by Hugh Dancy. On the other hand, the lack of depth on why Beth would love someone like Adam, preventing me from wholeheartedly embraces her choice in the end (which is nice & perfect but requires a leap of faith). Otherwise, this is touching romantic film, which putting its feet firmly on the ground, making the world full of hope and seems nicer place to live.

BloodyMonday Rating:



The Invention of Lying (2009)


Expected to be like “Click” or “Yes Man”, where high-concept plot turned into endless gags, with moral lesson (forcefully) shoving down your throat. But "The Invention of Lying" is thinking man’s film. The whole concept is not seeing how first lying man exploits the ability. But it's about him finding the way not to lie, in order to find genuine happiness. Great stuff.

BloodyMonday Rating:



Give ‘Em Hell Malone (2009)


This is one damn frustrating experience. It’s like watching an infant trying to stand up and walk. They would take a few steps then fall their asses. In fact, kiddie film like “Bugsy Malone” has done better job paying a tribute to film noir than this borefest.

BloodyMonday Rating:



Zombieland (2009)


ถ้าอังกฤษมีหนังซอมบี้ฮาแตกอย่าง Shaun of the Dead แล้ว ทำไมอเมริกาจะมีบ้างไม่ได้... Zombieland คือการผสมผสานระหว่างบรรดาหนังซอมบี้เก่าๆ เข้ากับทัศนคติของคนสร้างที่อาจดูหนังแนวนี้มากเกินความจำเป็น จนสามารถสร้างหนังซอมบี้ที่เข้าใจสิ่งที่ตัวเองเป็น และเล่นสนุกไปกับกฏพื้นฐานของซอมบี้ได้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องยกความดีให้สี่นักแสดงนำ โดยเฉพาะ วู้ดดี้ ฮาเรลสัน (เขาเกิดมาเพื่อบทนี้) ที่ช่วยกันสร้างมนต์เสน่ห์ ให้กับการเดินทางในโลกไร้มนุษย์ได้อย่างเต็มที่

ถึงแม้พลังงานที่ขับเคลื่อนจะมาหมดเอาดื้อๆในองค์สุดท้าย เมื่อฉากใหญ่ในสวนสนุกถูกทำขึ้นเพื่อแสดงฉากการฆ่าซอมบี้เด็ดๆ (ซึ่งไม่ใช่จุดเด่นสำหรับเรื่องนี้เลย) แต่โดยรวมแล้วมันก็ไม่ใช่ข้อแก้ตัว ที่บรรดาแฟนซอมบี้จะมาพลาดหนังเรื่องนี้... อ้อ แล้วหนังยังมีดารารับเชิญสุดเซอร์ไพรซ์ ที่สร้างเสียงฮาที่สุดในเรื่องได้จากประโยคสุดท้ายอีกด้วย

BloodyMonday Rating:



Frequently Asked Questions About Time Travel (2009)


เมื่อเพื่อนสามคนก๊งเบียร์กันในผับแล้วเจอสาวฮ็อต (แอนนา ฟาริส) ที่อ้างว่ามาจากอนาคตจนเกิดรอยแยกของเวลา ทำให้ทั้งสามต้องท่องไปทั้งโลกในอนาคตและอดีตจนวุ่นวาย...

หนังมีไอเดียกิ๊บเก๋ ทำออกมาได้สนุกสนานสไตล์ซิตคอมอังกฤษ โดยเฉพาะการนำกฏเหล็กต่างๆจากหนังที่เกี่ยวกับการท่องเวลา (ดูเหมือนว่า Back to the Future จะเป็นแรงบรรดาลใจหลัก) มาปู้ยี้ปู้ยำอย่างเมามัน ถึงแม้ว่าตลอดเวลาการรับชมจะให้ความรู้สึก เหมือนตัวเองกำลังดูซีรี่ย์ทางโทรทัศน์ แต่มันก็คือตอนที่ฮาที่สุดของซีซั่น แถมเอฟเฟ็คที่ใช้ก็มีคุณภาพจนคาดไม่ถึง

BloodyMonday Rating:



Looking for Eric (2009)


มีความรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้มองโลกในแง่ดีเกินบรรยากาศโดยรวม จริงอยู่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ลงเอยด้วยดีในตอนสุดท้ายนั้น สามารถสร้างความสุขและรอยยิ้มให้กับคนดู แต่จากสถานการณ์ในเรื่องและบริบทที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ มันยากที่จะทำใจเชื่อในสิ่งที่เห็น โดยเฉพาะพล็อตรองเกี่ยวกับปืน ซึ่งถ้าถูกตัดออกไปและหนังยังดำเนินเรื่องอย่างที่เป็นอยู่ Looking for Eric ก็น่าจะเป็นหนังฟีลกู้ดที่อบอุ่นที่สุดเรื่องหนึ่งของปีเลยทีเดียว

BloodyMonday Rating:


~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2551
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
11 มิถุนายน 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add BloodyMonday's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.