โปสเตอร์หนังมึนๆ #1

ต้องขอขอบคุณ Cracked.com และ Google ที่สร้างสรรค์สิ่งมึนๆให้กับเรา (สำหรับใครที่เคยเห็นโปสเตอร์เหล่านี้แล้ว เจ้าของบล็อคก็ขออภัยที่ทำให้เสียเวลามาไว้นะที่นี้ด้วย 555+)


--------------------------------------------------------


ณ. ปี 2015 หลังจากเหล่าแฟนๆเกมส์และนักดูหนังผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ต้องทนทุกข์ทรมาณไปกับหนังของอูเวย์ โบว์ ถึงมีให้ชมถึงปีละ 5 เรื่อง (เป็นอย่างต่ำ) เขาก็ได้ประกาศว่า โปรเจ็คต่อไปจะเป็นโปรเจ็คในฝันของเขา Uwe Boll's "Pong" สร้างมาจากเกมที่มีอิทธิพลอย่างมาก ต่อการตัดสินใจในการมาเป็นผู้กำกับหนังของเขา หนังถือว่าเป็นมิติใหม่ของวงการภาพยนตร์ และยังเป็นภาพยนตร์แนวทดลองเรื่องแรกของเขา ที่เป็นกลายเป็นหนังที่กวาดเงินจาก box office ได้อย่างถล่มทลายอีกด้วย (หนังทำรายได้ทั่วโลกไปกว่าหนึ่งแสนล้านดอลลาร์)





--------------------------------------------------------


เมื่อการทำงานในออฟฟิส ของท่านผู้ว่า อาร์โน หมดวาระลง เขาก็เล็งหาทางที่จะกลับเข้ามาในฮอลลิวู้ด ในที่สุดก็ปิ๊งไอเดียขึ้น เมื่อเขานั่งดูคู่ปรับในอดีตของเขาอย่างเจ้าพรีเดเตอร์ ที่กระโดดข้ามแฟรนไชน์ ไปฟัดกับฝูงเอเลี่ยนมาแล้วถึงสองครั้งสองคราด้วยกัน เขาตัดสินใจโทรไปหาเพื่อนเก่าเพื่อนแก่อย่างสไล ที่เพิ่งปลุกกระแสทั้งร็อคกี้และแรมโบ้ ออกมาโลดแล่นในจอในปี 2008 จนในที่สุด “Rambo vs. Terminator” ก็คือประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในโลกภาพยนตร์ อีกทั้งหนังยังสามารถเข้าชิงได้ถึง 6 รางวัลออสการ์ (รวมถึง 2 รางวัลในสาขาดารานำชายยอดเยี่ยมอีกด้วย!!!)





--------------------------------------------------------


หลังจากฮิตติดๆกันมาเป็นเวลานาน ผู้กำกับฝีมือดีอย่าง จู๊ด อาพาโทว์ ก็เริ่มที่จะเบื่อหน่ายและหมดไฟ หนังเรื่องล่าสุดของเขาเรื่อง "This Guy" คือผลงานที่เหมือนการรีเมคของหนังทุกเรื่องที่ผ่านมาของเขาเอง แต่เพราะหนังเรื่องนี้พะยี่ห้อไว้ว่า “นี่คือหนังของจู๊ด อาพาโทว์” ดูเหมือนคนดูก็จะไม่ยี่หระต่อเสียงวิจารณ์ และพากันซื้อตั๋วเพื่อเข้าชมหนังเรื่องนี้ สุดท้ายแล้ว “This Guy” ก็คือหนังตลกที่ฮิตที่สุดประจำปี 2010 อย่างไร้คู่แข่ง และมันก็ทำให้ จู๊ด อาพาโทว์ สามารถรีเมคของรีเมคของรีเมค หนังของตัวเองได้ต่อไปอีกเรื่อยๆๆๆ





--------------------------------------------------------


จากกระแสหนังกล้องมือถือ ที่ทำให้ “Cloverfield” เกิดเป็นหนังฮิตขึ้นมาอย่างคาดไม่ถึง ผู้อำนวยการสร้างอย่าง เจเจ อัมบราฮัม จึงเกิดไอเดียที่จะสร้างอีกหนึ่งเรื่อง โดยให้ตัวเอกตกอยู่ในสถานการณ์สุดมันอีกครั้ง ซึ่งก็เป็นสถานการณ์ที่สร้างแรงบันดาลใจของเขา ในการมาเป็นผู้กำกับ “Sleep Hard" คือเรื่องของไอ้หนุ่มคนหนึ่ง ที่ผล่อยหลับโดยเปิดกล้องทิ้งเอาไว้ ซึ่งก็เป็นเรื่องบังเอิญพอดีที่หน้าต่างห้องของเขา อยู่ตรงข้ามตึกนากาชิมะพอดี แล้วก็บังเอิญอีกเหมือนกัน ว่าช่วงเวลานั้นคือคืนก่อนคริสมาสอีฟ ที่เกิดเหตุการณ์ปล้นใน Die Hard ภาคแรกพอดี เจเจ สัญญากับผู้ชมว่า ถ้าพวกเขาเพ่งดูดีๆ ก็จะสามารถเห็นบรูส วิลลิสกระโดดลงจากตึกด้วยการโหนสายฉีดน้ำได้อย่างแน่นอน





--------------------------------------------------------


หลังจากที่ “The Dark Knight” ไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่คาด ผู้กำกับคริส โนแลนจึงหันกลับไปหารากเหง้าของตัวเอง โดยการที่ตัดสินใจทำ Director’s Cut ของภาพยนตร์ที่สร้างชื่อให้กับเขา “Mementoo” คือเมเม็นโต้ในเวอร์ชั่นที่ถูกตัดต่อใหม่ โดยให้ฉากทุกฉาก ถูกเรียบเรียงมาอยู่ในตำแหน่งที่ปกติ ซึ่งผลก็คือ ทำให้คนดูที่งุนงงกับเวอร์ชันแรกเกิดบรรลุว่า หนังเรื่องนี้จริงๆแล้ว มันไม่มีอะไรเลย...





--------------------------------------------------------




 

Create Date : 03 มิถุนายน 2551
14 comments
Last Update : 4 มิถุนายน 2551 15:12:12 น.
Counter : 1236 Pageviews.

 

 

โดย: wildbirds 3 มิถุนายน 2551 19:34:16 น.  

 

 

โดย: mysam 4 มิถุนายน 2551 0:23:07 น.  

 

ขยันอัพเดทหนังใหม่เรื่อยๆ เลยนะคะเนี่ย

ล่องแก่งที่ไป จังหวัดไหนก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าเลย Fo shan ไปอีก
แต่ก็สนุกดีค่ะ เวลามันสั้นไปหน่อย
รุ่นพี่เค้าบอกว่า อีกที่นึงล่องประมาณ 40 นาที สนุกด้วย แต่ไม่โหดเท่าที่นี่
คนละที่กันกับที่ไปครั้งนี้

 

โดย: Creamchoco 4 มิถุนายน 2551 1:19:32 น.  

 

พี่อาร์ทครับ หนึ่งไปตอบในฮายฟายแล้วน่ะ

 

โดย: AguileraAnimato 4 มิถุนายน 2551 2:42:19 น.  

 

5 5 5 มุขร้ายกาจนะคะ

 

โดย: grappa 4 มิถุนายน 2551 12:24:59 น.  

 

อัพเดทได้เจ๋งมากครับ ฮาทั้งโปสเตอร์ ข้อความ และวิจารณ์สั้นที่อยู่ด้านขวามือ ให้ประโยชน์แก่คนอ่านมากเลยคัรบ เยี่ยมครับ

 

โดย: joblovenuk 4 มิถุนายน 2551 13:16:14 น.  

 

ชอบตรงที่บอกว่า"จู๊ด อาพาโทว์ สามารถรีเมคของรีเมคของรีเมค ของตัวเองได้ต่อไปอีกเรื่อยๆๆๆ"

ขอแอดเพื่อนนะ

 

โดย: สะมะ (panda-movie ) 4 มิถุนายน 2551 13:26:48 น.  

 

สองคนแรก


Creamchoco
เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าสถานที่ที่ไปมาชื่ออะไร (ซื้อทัวร์ไปครับ) แต่อันที่เราเล่นก็โหดไม่ใช่เล่นน่ะ เพราะขณะที่เล่น ยังมีคนตกน้ำหาไม่เจอไปตั้งสองคน (ไม่รู้ชะตากรรมเลย บรึ๋ยย) ใกล้ปิดเทอมแล้ว กลับไทยถาวรเลยไหมครับ

หนึ่ง
เห็นแล้วละ สงสัยจะไม่ว่างอีกละน่ะ ยังไงคงต้องหาโอกาสแหละ หนังมันประมาณ Texas Chainsaw ต้นฉบับเลยใช่ม่ะ อืมมๆ

grappa
ขอบคุณที่ชมครับ แหะๆๆ

joblovenuk
ขอบคุณที่อ่านกันทุกเซคชั่นครับผม

panda-movie
ถึงเค้าจะทำหนังซ้ำๆๆกันออกมาเรื่อยๆ แต่เราก็ชอบน่ะ 555+

 

โดย: BloodyMonday 4 มิถุนายน 2551 15:06:18 น.  

 

แปะ แปะ แปะมาปรบมือให้งั๊บบบ

เดี๊ยวเขียน โมเมนโตดีก่า อิอิ

 

โดย: Bernadette 4 มิถุนายน 2551 18:02:54 น.  

 

Uwe Boll

55555555555555

 

โดย: merveillesxx 4 มิถุนายน 2551 19:54:52 น.  

 

เออ ขำโปสเตอร์ PONg เหมือนกัน..

เข้ามากรี๊ดดดด.. ตกลงชอบนาร์เนีย 2 เหรอเนี่ย.. หุๆ

ช่วงนี้ เบื่อมากกกก.. หนังสือๆๆๆๆๆๆๆ อย่างเดียว

มันรู้สึกว่า ฉันแก่เกินกว่า จะมาหมกหมุ่นกับหนังสือเรียนแล้ว..

ถ้าหามาได้อีก ก็อ่ะนะ.. ช่วงนี้ อยากขำ..

เออ. จะไปเจออีนังแคร์รี่ไหม.. (Sex and the City)

อยากดูมากกกกก.. เจ๊มิแรนดาขา... คิดถึ๊ง คิดถึง

ปล. รู้สึกว่า พี่บลัดฯ จะไม่ใช่แฟนซีรีย์นี้ ใช่ป่ะ.. แต่พูดกันจริงๆ บางที เราเองก็รู้สึกเหมือนกันว่า มันแรด+ไร้สาระเหลือเกิน.. แต่ก็นะ.. ธรรมดาชีวิตผู้หญิงเมือง.. แรด+ไร้สาระ.. 555+

 

โดย: จูริง (ขี้เกียจลอกอิน) IP: 41.233.116.23 5 มิถุนายน 2551 6:33:01 น.  

 

แบร์
ไม่เขียนถึงเรื่องนี้เหรอ "Mementoo" น่าจะเขียนง่ายกว่านะ อิอิ

merveillesxx


จูริง
แหม ไม่มีใครแก่เกินเรียนหรอก ความจริงตอนนี้ยังอยากเรียนอยู่เลย (แต่ไม่มีใครส่งเสียแล้ว 55+)

ไม่รู้สิ จะไปเจอกับสี่ป้ามหาภัยดีไหม 55+ ก็จริงที่ไม่ใช่แฟนซีรียนี้อ่ะ (ผู้ชายที่เป็นแฟนซีรียนี้...อืมม น่านับถือ) ชอบมิแรนดาเหรอ เราชอบ....ชาร์ล็อตละกัน อิอิ (หน้าอ่อนกว่าวัย)

 

โดย: BloodyMonday 5 มิถุนายน 2551 11:59:01 น.  

 

- อันแรกไม่รู้จักง่ะ - -"
- Rambo vs. Terminator นี่น่าสนใจมากๆ ฮะอยากดูลุงสองคนทะเลาะกัน
- ดีสเกย์ ก็บ่เคยได้ยินชื่อ มาก่อง
- sleep hard ถ้าได้ดูจะตั้งใจดู เฮียแมคเคน
- Mementoo ดูสองรอบแระ ก็ยังมึนอยู่ดี ไว้จะดูเวอร์ชันนี้ดีกว่า เนอะ

 

โดย: haro_haro 5 มิถุนายน 2551 15:42:30 น.  

 

เข้ามารายงานตัวก่อน

แล้วจะแวะมา mentนะคะ

เพิ่งกลับมาจากสุราษฏร์ธานี..ง่วงนอนมากค่ะ


คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

 

โดย: เริงฤดีนะ 5 มิถุนายน 2551 22:59:42 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


BloodyMonday
Location :
Imaginationland, Valley of Bliss China

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






-= M & M in Nutshell =-


Gentlemen Broncos (2009)


You could have brain tumor by watching this contaminated turd. Nothing in Gentlemen Broncos pays off, it’s incoherent mess, and chock-full of incredibly annoying characters. You will not only loath this movie, but it also makes you want to punch someone who responsible for this abomination in the face.

BloodyMonday Rating:



Fantastic Mr. Fox (2009)


Imagine if Akira got Live-Action treatment by... say Alfonso Cuarón, you know how awesome it might be? That’s what happened to "Fantastic Mr. Fox". Wes Anderson's auteur perfectly captured the quirkiness and blissful tone of the material. Its stop-motion technique might be a little crude and... somewhat unsophisticated, but that's the charm of it. You’ll feel like pop-up book unveiled before your eyes. This is an exceptional animation of the year.

BloodyMonday Rating:



Planet 51 (2009)


ถ้าถามว่าสนุกไหม? ก็โอเค ทุกอย่างถอดแบบมาจาก Shrek มุขที่อ้างอิงวัฒนธรรมป็อป ตัวละครสมทบที่น่าสนใจกว่าตัวเอก กราฟฟิคที่สอบผ่านฉลุย (ถ้าไม่ไปวัดกับพิกซาร์) แต่ถ้าถามว่าต้องดูไหม? ..... เอาเป็นว่าเวลาชั่วโมงครึ่ง ทำอะไรที่มีประโยชน์กว่านี้ได้เยอะแยะ

BloodyMonday Rating:



It's Complicated (2009)


รู้สึกสนุกกับการได้เห็นป้าเมอรีล เข้าโหมดแอ๊บเด็ก (อีกแล้ว) ในขณะเดียวกัน อเล็กซ์ บอลด์วิน และ จอห์น ครากินสกี้ ก็ขโมยซีนได้ตลอด แต่มันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าหนังยาว 2 ชั่วโมงมีเรื่องให้เล่าแค่ 15 นาที... It's Complicated อาจเหมือนคนกินไวอากร้าแล้วเข้านอน คึกตลอดคืนแต่มันจะมีประโยชน์อะไร?

BloodyMonday Rating:



Up in the Air (2009)


Up in the Air is a blockbuster movie for people who think blockbuster movies are dumb, as it chock full of brilliantly written dialogue, and acting showcase for three talented actors (especially star-making turn by Anna Kendrick). But in the end, there's little to love, not so much story to chew on (plus disappointing third act), and no real connection to the meaning of human interaction as it intended to be.

BloodyMonday Rating:



I Love You, Beth Cooper (2009)


Cliché-ridden plot about a bunch of annoying characters get together in one idiotic circumstance, "I Love You, Beth Cooper" is shameless exploitation & biggest insult to 80s teen flicks. It's like memorizing magic trick from internet, hoping to perform like David Copperfield. Neither sense of wonder nor magic flare happens here. Only good thing is, it makes me wanna cleanse my soul with genuine 80s teen movie night marathon.

BloodyMonday Rating:



Everybody's Fine (2009)


Meh. The movie serious lack of originality & characters development. Only Robert De Niro comes out fine in this schmaltzy, "Lifetime" movie-of-the-week plot.

BloodyMonday Rating:



Paper Heart (2009)


Twee delight... That's only two words I can think of right now.

BloodyMonday Rating:



Adam (2009)


A perfect companion to Mary & Max (one of the best animation of 2009), Adam is star-crossed love story (pun intended) between Adam, Asperger's Syndrome bearer, and Beth, free spirit woman. The picture wouldn’t be this intimate without stunning performance by Hugh Dancy. On the other hand, the lack of depth on why Beth would love someone like Adam, preventing me from wholeheartedly embraces her choice in the end (which is nice & perfect but requires a leap of faith). Otherwise, this is touching romantic film, which putting its feet firmly on the ground, making the world full of hope and seems nicer place to live.

BloodyMonday Rating:



The Invention of Lying (2009)


Expected to be like “Click” or “Yes Man”, where high-concept plot turned into endless gags, with moral lesson (forcefully) shoving down your throat. But "The Invention of Lying" is thinking man’s film. The whole concept is not seeing how first lying man exploits the ability. But it's about him finding the way not to lie, in order to find genuine happiness. Great stuff.

BloodyMonday Rating:



Give ‘Em Hell Malone (2009)


This is one damn frustrating experience. It’s like watching an infant trying to stand up and walk. They would take a few steps then fall their asses. In fact, kiddie film like “Bugsy Malone” has done better job paying a tribute to film noir than this borefest.

BloodyMonday Rating:



Zombieland (2009)


ถ้าอังกฤษมีหนังซอมบี้ฮาแตกอย่าง Shaun of the Dead แล้ว ทำไมอเมริกาจะมีบ้างไม่ได้... Zombieland คือการผสมผสานระหว่างบรรดาหนังซอมบี้เก่าๆ เข้ากับทัศนคติของคนสร้างที่อาจดูหนังแนวนี้มากเกินความจำเป็น จนสามารถสร้างหนังซอมบี้ที่เข้าใจสิ่งที่ตัวเองเป็น และเล่นสนุกไปกับกฏพื้นฐานของซอมบี้ได้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องยกความดีให้สี่นักแสดงนำ โดยเฉพาะ วู้ดดี้ ฮาเรลสัน (เขาเกิดมาเพื่อบทนี้) ที่ช่วยกันสร้างมนต์เสน่ห์ ให้กับการเดินทางในโลกไร้มนุษย์ได้อย่างเต็มที่

ถึงแม้พลังงานที่ขับเคลื่อนจะมาหมดเอาดื้อๆในองค์สุดท้าย เมื่อฉากใหญ่ในสวนสนุกถูกทำขึ้นเพื่อแสดงฉากการฆ่าซอมบี้เด็ดๆ (ซึ่งไม่ใช่จุดเด่นสำหรับเรื่องนี้เลย) แต่โดยรวมแล้วมันก็ไม่ใช่ข้อแก้ตัว ที่บรรดาแฟนซอมบี้จะมาพลาดหนังเรื่องนี้... อ้อ แล้วหนังยังมีดารารับเชิญสุดเซอร์ไพรซ์ ที่สร้างเสียงฮาที่สุดในเรื่องได้จากประโยคสุดท้ายอีกด้วย

BloodyMonday Rating:



Frequently Asked Questions About Time Travel (2009)


เมื่อเพื่อนสามคนก๊งเบียร์กันในผับแล้วเจอสาวฮ็อต (แอนนา ฟาริส) ที่อ้างว่ามาจากอนาคตจนเกิดรอยแยกของเวลา ทำให้ทั้งสามต้องท่องไปทั้งโลกในอนาคตและอดีตจนวุ่นวาย...

หนังมีไอเดียกิ๊บเก๋ ทำออกมาได้สนุกสนานสไตล์ซิตคอมอังกฤษ โดยเฉพาะการนำกฏเหล็กต่างๆจากหนังที่เกี่ยวกับการท่องเวลา (ดูเหมือนว่า Back to the Future จะเป็นแรงบรรดาลใจหลัก) มาปู้ยี้ปู้ยำอย่างเมามัน ถึงแม้ว่าตลอดเวลาการรับชมจะให้ความรู้สึก เหมือนตัวเองกำลังดูซีรี่ย์ทางโทรทัศน์ แต่มันก็คือตอนที่ฮาที่สุดของซีซั่น แถมเอฟเฟ็คที่ใช้ก็มีคุณภาพจนคาดไม่ถึง

BloodyMonday Rating:



Looking for Eric (2009)


มีความรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้มองโลกในแง่ดีเกินบรรยากาศโดยรวม จริงอยู่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ลงเอยด้วยดีในตอนสุดท้ายนั้น สามารถสร้างความสุขและรอยยิ้มให้กับคนดู แต่จากสถานการณ์ในเรื่องและบริบทที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ มันยากที่จะทำใจเชื่อในสิ่งที่เห็น โดยเฉพาะพล็อตรองเกี่ยวกับปืน ซึ่งถ้าถูกตัดออกไปและหนังยังดำเนินเรื่องอย่างที่เป็นอยู่ Looking for Eric ก็น่าจะเป็นหนังฟีลกู้ดที่อบอุ่นที่สุดเรื่องหนึ่งของปีเลยทีเดียว

BloodyMonday Rating:


~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2551
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
3 มิถุนายน 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add BloodyMonday's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.