๑๔๒ - เล่ห์ลุนตยา ; พงศกร -

เล่ห์ลุนตยา

นวนิยายโดย : พงศกร

สำนักพิมพ์ : กรู๊ฟ พับลิชชิ่ง

รายละเอียด

ลุนตยาสีชมพูหวานราวกลีบกุหลาบแรกแย้ม

ลุนตยาที่ผ่านการล่มสลายของราชวงศ์สุดท้ายของพม่า

ลุนตยาผืนสุดท้ายที่เอละวินทุ่มชีวิตทอขึ้นถวายเจ้าหญิงผู้ทรงสิริโฉมงดงาม

ก่อนที่ดวงตาของเธอจะมองไม่เห็น

ลุนตยาที่งามจับใจภุมรีจนเกินจะห้ามความปรารถนา

ลุนตยาที่ทำให้แทนไทได้เรียนรู้ว่านอกจากสัมผัสทั้งห้าของมนุษย์แล้ว

สำหรับคนบางคนจิตของเขาอาจสามารถสัมผัสสิ่งที่คนทั่วไปไม่อาจสัมผัสได้ !

มาร่วมเดินทางเพื่อค้นหาตัวเองไปกับภุมรีและแทนไท

ในเล่ห์ลุนตยา...ปฐมบทของสาปภูษาได้ณ บัดนี้

เรื่องย่อเพิ่มเติม

สัมผัสพิเศษที่เหนือกว่าผู้คนอื่นๆในการหยั่งรู้ลางร้าย หรืออนาคตล่วงหน้า ล้วนติดตัวเขามานานแล้วทว่าเป็นสิ่งที่ แทนไท ไม่อยากได้มันเลยสักนิด...เพราะทุกคนที่เขาได้สัมผัสที่เมฆหมอกเงาดำทะมึน แห่งลางร้าย ก็จะบังเกิดเหตุการณ์ร้ายๆตามมา...และแทนไทไม่สามารถควบคุมพลังพิเศษที่เขามีได้เสียด้วย ! ...อีกทั้งการมาเยือนพม่าในครั้งนี้ แทนไทก็รู้ได้ว่าจะต้องมีสิ่งไม่ดีอันตราย บังเกิดกับเพื่อนและหญิงสาวผู้เป็นที่รัก

เธอมาเยือนยังมัณฑะเล...พม่ากับคนรักหนุ่ม และเพื่อนสนิทสาวชาวพม่าซึ่งกลับมายังบ้านเกิด หลังจากที่จากไปกว่า๑๒ ปี ทว่าการมาพม่าของ ภุมรี และแทนไทผู้เป็นคนรักในครั้งนี้...ก็มีเรื่องราวมากมายที่เธอจะจำไปจนตาย...ไม่มีวันลืม...สาวไทย ผิวสีน้ำผึ้ง อย่างเธอหลงใหลในความงามของผ้าลุนตยาผืนนั้นยิ่งนัก...ลุนตยาสีชมพูหวานราวกลีบกุหลาบแรกแย้มที่งามจับใจเธอ จนภุมรีอดใจไว้ไม่อยู่ และเกิดเรื่องราวตามมามากมาย ด้วย ‘วิญญาณ’ ที่สิงสถิตอยู่ในลุนตยาผืนนี้...ต้องการทวงความยุติธรรมให้ตัวเอง !

ตั้งแต่เล็กจนโต เอลดา เฝ้าเพียรถาม เอละวดี ผู้เป็นแม่มาตลอด ว่าเพระเหตุใด เอละวัน ยายบังเกิดเกล้าผู้เป็นช่างทอลุนตยาในราชสำนัก จึงตาบอดสนิททั้งสองข้าง...เป็นเพราะถูกคนของพระนางสุภยาลัตจับควักลูกตาด้วยไม่ต้องการให้ยายทอผ้าได้อีกต่อไปจริงๆน่ะหรือ ? เรื่องลึกลับที่มีต้นเหตุมาจากลุนตยาสีชมพูผืนนั้น...กำลังจะบังเกิดขึ้นกับเธอด้วยเช่นกัน! อันตรายที่มาจากทั้งผี...และคนและไม่ว่าเมฆหมอก เงาดำแห่งลางร้ายจะปรากฏยังรอบกายของเอลดาหากเธอก็ยังมีชายคนหนึ่งที่คอยดูแลเธออย่างใกล้ชิดและยังไม่ลืมคำสัญญาเมื่อครั้งยังเยาว์

กว่าสิบสองปีที่หญิงสาวจากชายหนุ่มไป ติณเทพไม่เคยลืมเธอเลยสักนิด และการกลับมาของเอลดารวมทั้งเพื่อนสาวชาวไทยนามว่าภุมรีก็ทำให้เขาสัมผัสได้ถึงอันตรายบางอย่าง...สัมผัสพิเศษที่ติดตัวเขามาตั้งแต่เด็กและเขาก็สามารถควบคุมมันได้ ด้วยเขาเป็นบุตรชายของ โยดะยาเปียงทูนจี เขาจึงทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องเอลดาทั้งอันตรายจากวิญญาณร้าย และ อันตรายจากชายโฉดนาม อูซอรี

ความจริงที่ซุกซ่อนอยู่ภายในลุนตยาที่สวยงามผืนนี้จะเป็นอย่างไร...นั่นเป็นสิ่งที่แทนไทและภุมรีต้องช่วยกันค้นหาคำตอบ !

ความรู้สึกส่วนตัว...บันทึกหลังอ่าน

เรียกได้ว่าเป็นการรอคอยมานานแสนนานเลยทีเดียว...สำหรับนวนิยายเรื่อง‘เล่ห์ลุนตยา’ ผลงานล่าสุดของคุณหมอพงศกรเล่มนี้...ดังนั้นเมื่อได้มาจากงานมหกรรมหนังสืออุ้มสมก็ไม่รอช้าที่จะรีบเปิดอ่านทันที...และก็วางไม่ลงอีกตามเคยด้วยเป็นแฟนหนังสือของพงศกรอยู่แล้ว

“เล่ห์ลุนตยา”เป็นเรื่องราวของผ้าลุนตยาสีชมพูราวกลีบกุหลาบแรกแย้ม ที่อดีตเป็นผ้าที่ เอละวิน(ยายของนางเอก) ทอขึ้นเพื่อถวายแด่เจ้าหญิงมินพยูและเป็นลุนตยาผืนสุดท้ายที่ยายได้ทอ เมื่อมันกลับคืนมาสู่เอลดา หลานสาวและครอบครัว..เรื่องราวต่างๆ ก็เกิดขึ้น...ความรัก ความแค้นและความต้องการทวงความยุติธรรม ของดวงวิญญาณเจ้าหญิงมินพยู ได้สิงสถิตอยู่ ณผ้าลุนตยา ผืนนี้...ลุนตยาที่นำเคราะห์ร้ายมาสู่ใครหลายต่อร้ายคน ทั้งอะพินยา...เพื่อนในวัยเด็กของเอลดา มาจนถึง ภุมรี เพื่อนสาวชาวไทย ...ความจริงที่ซ่อนอยู่ ณ ลุนตยาผืนนี้ เป็นอย่างไร...

สำหรับ “เล่ห์ลุนตยา” ก็เป็นนวนิยาย ๑ในชุด ผี-ผ้า ของ พงศกร โดยเป็นเรื่องราวของผ้าลุนตยา... ผ้าพม่า (ซึ่งชุดผี-ผ้า สามารถอ่านแยกกันได้ไม่จำเป็นต้องอ่านต่อเนื่อง หรืออ่านครบทุกเล่ม) เล่ห์ลุนตยาดำเนินเรื่อง ณ พม่า ในช่วงปีพ.ศ.๒๕๒๒ ...ซึ่งหากใครเคยอ่านหรือเคยชมละครสาปภูษา และ กี่เพ้า มาก่อน ก็คงจะจำตัวละครที่ชื่อ “แทนไท” และ“ภุมรี” ซึ่งมีส่วนในการช่วยเหลือตัวละครทั้งสองเรื่องให้หลุดพ้นจากวิญญาณร้ายได้ (ฉบับละครรับบทโดย บี๋-ธีรพงศ์ และ คุณอรศรี-แม่มาร์กี้)... “เล่ห์ลุนตยา”จะเล่าถึงเรื่องราวสมัยที่ทั้งสองคนรักยังเป็นหนุ่มสาวอยู่...ว่าเพราะเหตุใด แทนไทจึงสามารถควบคุมสัมผัสพิเศษที่ตนมีได้...อ่านเพลินวางไม่ลงเลยละครับด้วยสำนวนของคุณหมอที่ไหลรื่น เข้าใจง่าย...และเรื่องราวที่ชวนติดตาม

“เล่ห์ลุนตยา” ดำเนินเรื่องหลักๆอยู่เมืองมัณฑะเล ซึ่งเป็นเมืองหลวงของพม่าในสมัยนั้นโดยเปิดเรื่องที่ปีพ.ศ.๒๕๑๐ ซึ่งเอลดา นางเอกสาวชาวพม่า...ผิวขาวเนียน ยังเด็กอยู่ ...ซึ่งเปิดเรื่องมาก็ชวนติดตามแล้วละครับ...ด้วยความช่างสงสัยของเด็กหญิงเอลดา นั้นชวนให้ติดตามต่อยิ่งนัก...จากที่สงสัยในเรื่องราวของการประหารเจ้าพี่เจ้าน้องในราชสำนักพม่า ที่ว่ากันว่า “พระนางสุภยลัต” เป็นผู้บงการ มาจนถึงเรื่องราวของเอละวิน ยายที่ตาบอดของเอลดา

“แม่จ๋า จริงหรือเปล่าที่เขาเล่าว่า คนของพระนางควักดวงตาของยายทิ้ง เพื่อที่ยายจะได้ตาบอดและทอผ้าลุนตยาไม่ได้อีก”

และผ้าลุนตยาสีชมพูผืนนั้นก็เป็นลุนตยาผืนสุดท้ายที่ยายเอละวินได้ทอจนกระทั่งมันกลับมาสู่ครอบครัวของเอลดาอีกครั้ง...เรื่องราวร้ายๆ ก็เริ่มตามมากล่าวคือ เมื่ออะพินยา เพื่อนสนิทของเอลดา (ขณะนั้นอายุเพียง ๘ ขวบ)ได้นำลุนตยาสีชมพูผืนนี้มาสวมเล่น จนถูกวิญญาณร้ายช่วงชิง ‘เล็บยา’ หรือ ‘ขวัญ’ ไป ...จนทำให้อะพินยาเสียสติไปในที่สุดจะหาหมอที่ไหนก็ไร้ผล...ด้วยเรื่องเริ่มตั้งแต่เอลดา นางเอกสาวยังเด็กจนกระทั่งไปเรียนต่อที่อังกฤษ และกลับมายังมัณฑะเล อีกครั้งในปีพ.ศ.๒๕๒๒ซึ่งเนื้อเรื่องหลักดำเนินเรื่องในปีพ.ศ.นี้

ด้วยเหตุนี้อาจดูเหมือนว่าเอลดาเป็นนางเอกที่มีบทบาทเด่นที่สุด เพราะเป็นหลานสาวของยายเอละวิน ผู้ทอผ้าลุนตยาผืนที่เป็นต้นเหตุของเรื่องราววุ่นวายทั้งหมด แต่ตั้งแต่ครึ่งเรื่องจนถึงจบเรื่องนั้น เอลดาแทบจะไม่ได้มีบทบาทสำคัญอะไรเกี่ยวกับลุนตยาสีชมพูผืนนี้เลยบทบาทของเอลดาส่วนใหญ่จะไปอยู่ในเรื่องของการชิงรักหักสวาท ด้วยเสน่ห์ของเธอต้องตาต้องใจ อูซอรี บุตรชายของนายทหารผู้เป็นใหญ่ ที่เป็นสามีของ เลเลยา ลูกพี่ลูกน้องของเธอ อูซอรีหวังที่จะได้เอลดามาครอบครอง...และไม่มีอะไรที่คนอย่างอูซอรีอยากได้แล้วไม่ได้!

ส่วนพระเอกอย่าง ติณเทพ นายแพทย์หนุ่มหล่อ นั้นเป็นเพื่อนสนิทของเอลดามาตั้งแต่เด็ก จนมาห่างไกลกันตอนที่เอลดาต้องไปเรียนที่อังกฤษเป็นเวลา ๘ ปี แต่ทั้งติณเทพและเอลดาก็ไม่เคยลืมกัน ติณเทพมีสัมผัสพิเศษ ที่สามารถล่วงรู้ถึงอันตรายร้ายๆ ที่จะเกิดขึ้นกับคนรอบตัว โดยเฉพาะเอลดา และ ภุมรี โดยจะมาผ่านทางเงาดำมะมึน ที่เป็นเสมือนสัญลักษณ์แห่งความชั่วร้าย ติณเทพเป็นบุตรชายของ โยดะยาเปียงผู้มีวิชามนตรา (ไสยขาว) แก่กล้า นามว่า ‘ทูนจี’ ดังนั้นติณเทพจึงสามารถควบคุมพลังพิเศษที่ตนมีอยู่ได้

จะว่าไปแล้วติณเทพนั้นก็ไม่ใช่คนพม่าแท้ๆ เพราะบรรพบุรุษของเขานั้นมีเชื้อสาย ‘โยเดีย’ หรือ อโยธยา ที่มาอยู่พม่าในช่วงเสียกรุงครั้งที่สอง ดังนั้นพ่อของเขาจึงมีเวทย์มนตร์ที่ถ่ายทอดมาจากฝั่งไทยเราด้วยละ...ติณเทพเป็นพระเอกที่รักนางเอกอย่างเอลดา มาก คอยช่วยเหลือหญิงสาวตลอดมาตั้งแต่หญิงสาวมายังมัณฑะเล ด้วยทั้งสองผูกพันกันมาตั้งแต่เด็ก อีกทั้งคุณหมอพงศกรยังปูพื้นความหลังในเรื่องราวของพระนางสมัยยังเด็กมามากพอสมควร...ทำให้คนอ่านรู้ได้ว่าทั้งสองนั้นรักและผูกพันกันจริงๆ

ส่วนคู่พระนางอีกคนที่เป็นชาวไทยก็คือ แทนไท และ ภุมรี อุ้มสมมีความรู้สึกว่าคู่นี้มีความโดดเด่นกว่าคู่เบื้องต้นค่อนข้างมาก โดยเฉพาะบทบาทของภุมรี สาวไทย ตาคม ผิวสีน้ำผึ้ง ที่แม้ช่วงแรกๆ ที่เธอออกมา บทบาทเธอดูจะพอๆ กับเอลดา แต่เมื่อเรื่องดำเนินมาถึงจุดไคลแมกซ์ ภุมรีนี่จัดได้ว่าเป็นตัวละครสำคัญที่ทำให้เกิดเรื่องขึ้นเลยทีเดียว เดียวความงามของลุนตยาผืนนั้นช่างดึงดูดใจหญิงสาวผู้หลงใหลผ้าโบราณอย่างภุมรียิ่งนัก และเธอก็ทนไหวเผลอนุ่งลุนตยาผืนนั้นและทำให้เกิดเรื่องราวต่างๆ ขึ้น เมื่อวิญญาณร้ายเข้าสิงร่างของเธอและเข่นฆ่าผู้คนหลายต่อหลายชีวิต อีกทั้งยังหมายมาดปรารถนาที่จะช่วงชิงเล็บยาของภุมรีไป เพื่อเสริมพลังให้ตนอีก

ส่วนแทนไทนี่ก็เป็นคนรักของภุมรี ซึ่งเปิดเรื่องมาทั้งสองก็คบหาเป็นคนรักกันแล้ว ทำให้ไม่มีการย้อนความว่าทั้งสองนั้นรักกันได้อย่างไร แต่ก็ยังมีบางฉากบางตอน ที่แทนไทแสดงความรักทั้งคำพูดและการกระทำกับภุมรี แทนไทมีสัมผัสพิเศษที่สามารถรู้เห็นถึงลางร้ายผ่านเงาดำหรือเมฆหมอก เหมือนดังติณเทพ เช่นกันและลางสังหรณ์ของแทนไทก็แม่นเสียด้วย เพราะทุกครั้งก็จะมีเรื่องไม่ดีตามมา ทำให้แทนไทไม่ชอบสัมผัสพิเศษของตน เพราะไม่สามารถควบคุมมันได้ จนได้รับความช่วยเหลือจากติณเทพ และ ทูนจี จนสุดท้ายแล้ว แทนไทก็ทำทุกวิถีทางที่จะช่วยเหลือคนรักสาวให้หลุดพ้นจากการครอบงำของวิญญาณร้าย และไขคำตอบ ว่าเพราะเหตุใด ดวงวิญญาณของเจ้าหญิงมินพยู จึงมีความอาฆาตยิ่งนัก ...อุ้มสมจึงรู้สึกได้ว่า ทั้งแทนไท และ ภุมรี นี่เป็นคู่พระนางตัวจริงเลยละ

ในส่วนของคู่แทนไท และ ภุมรี นั้นมีบางฉากที่อุ้มสมรู้สึกรำคาญนิดหน่อย ซึ่งเป็นจุดเล็กๆ ของเรื่องจริง ๆ ในเรื่องราวของการที่ภุมรีทำกระเป๋าหาย ซึ่งช่วงนั้นจะมีการรอติดตามผลการตามหากระเป๋าจากทางสนามบิน และนายแทนไทก็ขยันหงุดหงิดแทนคนรักสาว ส่วนภุมรีก็พูดหลายรอบเหลือเกินว่าดีเหมือนกันจะได้ใส่ลุนตยาสวยๆ ทุกวัน

ถามว่าความน่ากลัวมีไหม...แน่นอน ด้วยเล่ห์ลุนตยา เป็นนิยายลึกลับ ที่มีผี มีวิญญาณ แต่ด้วยความที่เรื่องนี้ไม่ได้เน้นเรื่องของความน่ากลัวมาก จึงทำให้แม้จะมีผีก็ตาม แต่ฉากน่ากลัวก็ยังพอมีบ้างปละปลาย เพราะยังมีอีกหลายประเด็นที่น่าติดตามภายในนวนิยายขนาดหนาเล่มนี้

ผู้เขียนดำเนินเรื่องได้ดี...สนุก และชวนติดตาม ทั้งเรื่องราวของพาร์ตอดีต และ พาร์ตปัจจุบัน ทั้งเรื่องของผีและคน อุ้มสมขอบอกเลยว่าแม้กระทั่งตอนที่เอลดาถูกตกอยู่ในเงื้อมมือของชายโฉดอย่างอูซอรี ก็ยังลุ้นเลยว่าติณเทพจะมาช่วยทันไหมหนอ ด้วยเพราะอีกประการคงมาจากการเดินเรื่องที่กระชับ

ตัวละครอีกตัวที่ไม่ค่อยชอบนอกเหนือจากตัวร้ายโจ่งแจ้งอย่าง อูซอรี และ เลนันทา, เลเลยา ก็คงจะเป็น ‘มาดามตยานี’ แม่ของอูซอรี คือมีความรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้เป็นภรรยาของผู้นำ ผู้เป็นใหญ่ และตัวเองก็หน้ามีตาในสังคม แต่ทำตัวไม่เหมาะสมเลยอะ รักลูกมากก็จริงนะ แต่การกระทำของนางนี่แบบว่า...น่าจะมีวิจารณญาณบ้างนะ ถึงขั้นหลอกผู้หญิงมาให้ลูกเลย...ไม่ชอบๆ

นอกจากเรื่องราวในพาร์ตปัจจุบันที่เกิดขึ้นกับตัวละครหลักทั้ง๔ แล้ว เรื่องราวในพาร์ตอดีตก็ยังมีความสนุกสนาน ทั้งยังมีตัวละครที่เป็นสีสัน และมีส่วนทำให้เรื่องสนุกขึ้นมากมายทั้ง เจ้าหญิงมินพยู, เอละวิน(วัยสาว) , เจ้าหญิงยองตยา , นายทหารเดวิด ฯลฯ โดยเฉพาะคุณยายเอละวิน ในวัยสาวที่นอกจากจะมีฝีมือในเรื่องของการทอลุนตยาแล้วยังช่างแก่น และเก่งกล้ายิ่งนัก ผิดจากหลานสาวอย่าง เอลดา ในพาร์ตปัจจุบันเลยละ ๕๕๕.

แต่ด้วยความที่อุ้มสมเป็นคนที่ชอบนิยายที่มีความหนามากๆซึ่งไม่ใช่อุปสรรคเลย ถ้าหากไม่ใช่เป็นการยืดเย้อจนออกทะเล แต่กับ “เล่ห์ลุนตยา” นั้นเป็นที่นิยายที่พลอตใหญ่และกว้าง ถ้าหากจะหนามากกว่านี้ก็ไม่ทำให้มันน่าเบื่อเลย(นี่ยังหนาไม่พออีกนะแก ๕๕๕.) อย่าง สิเน่หาส่าหรี ซึ่งแม้จะมีความหนามากกว่า ๗๐๐ หน้า แต่อุ้มสมชอบมาก เพราะพลอตใหญ่ ตัวละครเยอะ ...กลับเข้าสู่เล่ห์ลุนตยา...ก่อนที่จะพาออกทะเลไปไกล แหะๆ ...กลับขึ้นฝั่ง ....เรื่องของเรื่องคือรู้สึกว่ามันยังไม่สุด อยากอ่านหนากว่านี้ รายละเอียดเพิ่มเติมมากกว่านี้สักนิดนึงจะทำให้นิยายเรื่องนี้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นเป็นทวีเลยละ

โดยเฉพาะพาร์ตอดีต ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดที่ทำให้เจ้าหญิงมินพยูคับแค้นใจ และไม่ได้รับความยุติธรรมนั้นมาจากความริษยาด้วยกันของเจ้าหญิงอีกตำหนัก ดังนั้นในส่วนของพาร์ตอดีตจึงเป็นเรื่องราวของความริษยา และยังคงมีเรื่องของกองทัพทหารอังกฤษที่จะยึดครองพม่าในไม่ช้านี้...อุ้มสมอยากซึมซับเรื่องราวในอดีตมากกว่านี้ แหะๆ ...อุ้มสมอยากอ่านผ่านมุมมองของนายทหารอย่าง เดวิด บ้าง ถึงความที่เขาหลงใหลเจ้าหญิงมินพยูยิ่งนัก จนเกิดเรื่องราวโศกนาฏกรรมตามมา และเรื่องที่เดวิดปักใจเชื่อว่าจดหมายที่เขาโต้ตอบนั้น เจ้าหญิงมินพยูเป็นคนส่งมา...อยากรู้มุมมองและความคิดของเดวิด

เรื่องของผ้าลุนตยา ผ้าที่เป็นธีมหลักของเรื่อง อุ้มสมก็รู้สึกว่าน่าสนใจ และอยากเห็นของจริงเป็นอย่างยิ่ง (ลุน แปลว่า กระสวย ตยา แปลว่า ร้อย ลุนตยาจึงหมายถึง ผ้าซิ่นที่ต้องทอมากกว่าร้อยกระสวย)

อนึ่ง...อีกสารอีกประการที่ ‘พงศกร’ ต้องการจะสื่อให้ผู้อ่านได้รับรู้ ก็คือเรื่องราวของประเทศพม่า เพราะพม่านั้นก็มีวัฒนธรรมอยู่หลายประการ ที่คล้ายคลึงกับสยามเรา ทั้งเรื่องของอาหารการกิน เกษตรกรรม ศาสนา การแต่งกาย เป็นต้น ด้วยเหตุนี้ทั้งพม่าและไทย ต่างก็เหมือนพี่เหมือนน้องกัน ที่ต้องมีการทะเลาะเบาะแว้งกันบ้าง แต่สุดท้ายแล้วก็ยังรักกันอยู่ดี จึงมุ่งหวังจะเปลี่ยนความคิดสักส่วนหนึ่งของคนไทย ที่มองว่าพม่าคือศัตรู แม้กระทั่งช่วงท้ายเรื่อง ผู้เขียนก็ยังได้สอดแทรกเรื่องราวของประวัติศาสตร์พม่าในช่วงเสียกรุงศรีฯครั้งที่สองไปว่า กษัตริย์พม่านั้นอย่างไรก็ยังให้เกียรติต่อเชลยที่เป็นหน่อเนื้อเชื้อกษัตริย์นั่นแล

อีกทั้งประวัติศาสตร์ในราชสำนักพม่า ที่เกิดขึ้นก่อนและในช่วงที่อังกฤษมาตีเมือง ที่รู้สึกว่าเข้มข้นและน่าติดตามมากมาย ทั้งเรื่องราวของพระนางสุภยาลัต ว่าที่แท้แล้วความจริงนั้นเป็นอย่างไร...คือนี่เป็นเสน่ห์อีกอย่างของงานเขียนของ‘พงศกร’ เลยละ ที่อ่านแล้วอยากต่อยอดด้วยการอ่านเรื่องราวของข้อมูลนั้นๆ ...เพราะมีบทบาทสำคัญในการดำเนินเรื่อง ถ้ามีโอกาสอุ้มสมคงจะหา ‘พม่าเสียเมือง’ มาอ่านเป็นแน่

การบรรยายฉากหลังของมัณฑะเล ทั้งยังประเพณีวัฒนธรรมต่างๆ อาหารการกิน คุณหมอพงศกรก็บรรยายออกมาได้ดี สวยงาม ด้วยผู้เขียนเคยไปเยือนสถานที่จริงมาแล้ว เรียกได้ว่าอ่านจบแล้วอยากจะไปเที่ยวมัณฑะเลทันที...

อย่างไรก็ดี...นิยายของพงศกร ก็เป็นงานที่อุ้มสมชอบ และถูกจริตกับตัวเอง จึงอ่านเรื่องนี้ได้สนุกและรวดเร็ว...วางไม่ลงเลย

นักอ่านท่านใดที่อยากจะลองงานเขียนของ‘พงศกร’ ในชุดผี-ผ้า แล้วไซร้... “เล่ห์ลุนตยา”เล่มนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่น่าลอง แล้วต่อด้วย “สาปภูษา” ที่เป็นเรื่องราวใน ๒๐ ปีให้หลังเล่ห์ลุนตยา ซึ่งอุ้มสมคงจะหยิบยกสาปภูษามารีวิวในเร็วๆ นี้ และซีรีส์ผี-ผ้าอีกเรื่องที่อุ้มสมอยากจะแนะนำก็คือ “สิเน่หาส่าหรี”...เล่มนั้นจัดได้ว่าเป็นผลงานชิ้นโบแดงของ ‘พงศกร’ เลยทีเดียว

มิงกาลาบา

อุ้มสม

๒๒ ตุลาคม ๒๕๕๖




Create Date : 22 ตุลาคม 2556
Last Update : 22 ตุลาคม 2556 19:04:53 น.
Counter : 16167 Pageviews.

23 comments
  
แนวนี้ขอผ่านก่อนล่ะค่ะ...กลัวววว
โดย: Aneem วันที่: 22 ตุลาคม 2556 เวลา:19:07:32 น.
  
อยู่ในครอบครองแล้ว กำลังหาโอกาสอ่านในเร็ววันครับ
โดย: สามปอยหลวง วันที่: 22 ตุลาคม 2556 เวลา:19:26:24 น.
  
จขบ.รีวิวไว้เสียน่าอ่านเลยค่ะ หลังจากเข็ดกับรอยไหม แต่ดันติดใจสิเสน่หาส่าหรี ชั่งใจอยู่ว่าจะสอยเล่มนี้มาอ่านดีไหม หลังจากอ่านรีวิวนี้สงสัยไม่น่ารอดแล้ว 55555

โดย: Moonshiner วันที่: 22 ตุลาคม 2556 เวลา:21:29:23 น.
  
รู้สึกว่าหลายเรื่องของคุณพงศกรจะออกแนวผีผ้าหมดเลยนะคะ 555
โดย: คุณหนูฤดูร้อน วันที่: 22 ตุลาคม 2556 เวลา:22:01:48 น.
  
น่าอ่านตอนมีคำว่า "พม่าเสียเมือง" นี่แหละ อยากรู้จังว่าเรื่องเต็มเป็นอย่างไร
โดย: cyberlifenlearn วันที่: 22 ตุลาคม 2556 เวลา:22:06:29 น.
  
น้องบาสอ่านรวดเร็วอีกตามเคยเลยค่ะ เล่มนี้น่าอ่านมากมายเลยล่ะค่ะ พี่เคยอ่านชุดผีผ้าแค่ 'กี่เพ้า' กับ 'รอยไหม' เองอะค่ะ
โดย: หวานเย็นผสมโซดา วันที่: 22 ตุลาคม 2556 เวลา:23:07:43 น.
  
กำลังจะไปมัณฑะเลย์ปีหน้าพอดีเลยค่ะ
ช่วงนี้ก็อ่าน สารคดีเมืองพม่า เยอะอยู่เหมือนกัน

แต่เล่มนี้คงผ่านไปก่อน ถ้ากลับมาแล้วค่อยอ่าน (จับผิดผู้เขียนเล่น )
โดย: Serverlus วันที่: 22 ตุลาคม 2556 เวลา:23:11:20 น.
  
เซ็ทผีผ้าไม่เคยซื้อสักเล่มเลยค่ะ กลัวววว
โดย: Sab Zab' วันที่: 22 ตุลาคม 2556 เวลา:23:33:25 น.
  
ได้ยินมานานแล้วค่ะ เรื่องนี้ ผ้าพม่า อยากได้มากๆ

ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ

โดย: lovereason วันที่: 23 ตุลาคม 2556 เวลา:0:38:26 น.
  
เคยอ่านกี่เพ้าเล่มเดียว แล้วยังไม่ได้ลองเล่มอื่นอีกเลยค่ะ
โดย: ~:พุดน้ำบุศย์:~ วันที่: 23 ตุลาคม 2556 เวลา:8:32:39 น.
  
อ่านรีวิวแล้วอยากไปหาเรื่องนี้มาอ่านเลยค่ะ แต่ต้องอีกสักพัก เพราะงานหนังสือทำเอากระเป๋าเบาไปเลยค่่ะ
โดย: PoyRati วันที่: 23 ตุลาคม 2556 เวลา:11:21:53 น.
  
อ่านรีวิวแล้วน่าสนใจมากเลยครับ
โดย: Nat_NM วันที่: 24 ตุลาคม 2556 เวลา:7:38:38 น.
  

เคยอ่านงานคุณพงศกรมาหลายเรื่อง อ่านได้แต่ไม่ติด (ขนาดไม่ติด นับนิ้วแล้ว ปาไปหลายเล่มเลยค่ะ)

ชุด ผ้า ไม่เคยอ่านอยู่เล่มเดียวคือ สาปภูษา คิดว่า รอยไหม โอเคสุด
นอกนั้นเฉยๆ ส่วนเล่มนี้รอกองดองลดซะหน่อย แล้วจะลองหามาอ่านค่ะ
โดย: กล้ายางสีขาว วันที่: 24 ตุลาคม 2556 เวลา:19:48:57 น.
  
ไม่กล้าอ่านเรื่องนี้เลย เพราะได้ยินคำว่าผีพม่าแล้วรู้สึกกลัวยังไงไม่รู้บอกไม่ถูก ไม่กล้าอ่านจริงๆ
ปกนิยายเรื่องนี้รู้สึกว่าสวยน้อยกว่าหลายๆ เรื่องของกรู๊ฟที่ผ่านมา เหมือนรีบทำไปหน่อย
โดย: ชบาหลอด วันที่: 24 ตุลาคม 2556 เวลา:19:49:28 น.
  
เป็นมนุษย์กลัวผียังไม่ค่อยกล้าอ่านอะคะ
โดย: เหมือนพระจันทร์ วันที่: 25 ตุลาคม 2556 เวลา:8:38:01 น.
  
เล่มนี้ซื้อมาแล้ว รออ่าน
โดย: จิตหลอน วันที่: 27 ตุลาคม 2556 เวลา:23:50:11 น.
  
คุณ: Aneem อิอิ...แค่อ่านรีวิว ก็ดีใจละค้าบบ

คุณ: สามปอยหลวง อ่านเลยคร้าบอาจารย์ ^^

คุณ: Moonshiner อิอิ...ลองดูครับ

คุณ: คุณหนูฤดูร้อน อิอิ... ผีผ้า ของคุณหมอจะออกมาเรื่องนี้ไปเรื่องที่5 เองครับ จากบรรดากว่า 30 เรื่องน่ะครับ ...จริงๆ จินตนิยายคุณหมอมีหลายแนว หลายสไตล์ ครับ ...แต่ที่คนรู้จักส่วนใหญ่จะเป็นชุดผ้า เำพราะได้ืำทำละคร

คุณ cyberlifenlearn ถ้าชอบประวัติศาสตร์พม่า เรื่องนี้ก็น่าลองนะคร้าบ

คุณ หวานเย็นผสมโซดา สิเน่หาส่าหรีเลยครับบพี่หวานเย็น

คุณ: Serverlus แอบฮากับคอมเม้นครับ ฮ่าๆๆ

คุณ Sab Zab' ลองสิเน่หาส่าหรี ก็ได้นะครับๆ ^^

86I: lovereason ลองดูเลยครับเชียร์ๆ

คุณ ~:พุดน้ำบุศย์:~ ลองดูครับ คุณพุด

คุณ PoyRati กระเป๋าตุงเมื่อไหร่จัดไปครับ

คุณ Nat_NM ลองดูครับ

คุณ กล้ายางสีขาว ลองเรื่องนี้ แล้วต่อที่สาปภูษา ก็ดีนะครับ ^^

คุณ ชบาหลอด ฮ่าๆ ไม่น่ากลัวอย่างที่คิดน้าพี่ชบาหลอด ...

คุณ เหมือนพระจันทร์ อิอิ เข้าใจครับ ><

คุณ: จิตหลอน รอรีวิวค้าบผม
โดย: อุ้มสม วันที่: 29 ตุลาคม 2556 เวลา:22:24:40 น.
  
ซื้อมาแล้วค่ะ รอฤกษ์เปิดอ่าน ไปอ่าน สิเน่หาส่าหรีตามคุณอุ้มสมมาแล้ว สนุกมาก ชอบแนวนี้จริงๆ
โดย: แอ้ IP: 58.8.165.69 วันที่: 1 พฤศจิกายน 2556 เวลา:21:17:58 น.
  
กำลังอ่าน เล่ห์ลุนตยาใกล้จบแล้วค่ะ
นิยายของคุณหมอเล่มนี้ทำให้อยากไปเที่ยวพม่า(ที่ไม่ใช่เค่แม่สาย) เลยค่ะ แถมยังอยากลองทอผ้ากับใส่ลุนตยาด้วย ฮ่าๆ
โดย: nichy IP: 118.172.0.190 วันที่: 25 พฤศจิกายน 2556 เวลา:13:12:17 น.
  
ดันครับดัน รู้จักไหมซีไรส์ หรือทำเป็นแต่วรรณกรรมขยะ
โดย: คนผ่านมา IP: 182.53.17.66 วันที่: 26 มิถุนายน 2557 เวลา:17:08:06 น.
  
อ่านสาปภูษา รอยไหม สิเน่หาสาหรีและกลกิโมโมแล้วสนุกทุกเรื่องคนละแบบ แต่พอทำเป็นละครแล้ว รอยไหมทำได้แย่มากๆ เล่ห์ลุนตยาพึ่งรู้ว่าออกเป็นเล่มแล้ว จะตามหามาอ่านนะจ๊ะ
โดย: ฉุยฉาย IP: 27.55.215.72 วันที่: 24 ตุลาคม 2557 เวลา:22:43:07 น.
  
อ่านทุกเรื่องแล้วยกเว้นรอยไหม แต่ละครดูไม่ดีเลยชะงักไปนิด

เช่นเดียวกับเจ้าของบล็อกคือชอบเรื่องสิเน่หาส่าหรีที่สุด

ลองลงมาน่าจะเป็นกี่เพ้า สาปภูษาไม่ติดใจอะไร กลกิโมโนก็เฉยๆ ไม่น่ากลัวเลยอ่ะ (คืออ่านนิยายผีคาดหวังว่ามันจะน่ากลัว หลอนๆ กลกิโมโนกลายเป็นอะไรไม่รู้) เรื่องเล่ห์ลุนตยาคิดเหมือนเจ้าของบล็อก ตรงเรื่องอดีตว่าถ้าลำเอียดกว่านี้จะทำให้อิ่มกว่านี้ ดูมันจะรวบรัดให้คิดเองอย่างไรไม่ทราบ

แต่ก็ยังสนุกค่ะ
โดย: พี่หมูน้อย IP: 223.206.184.25 วันที่: 31 มกราคม 2558 เวลา:11:05:38 น.
  
ต้องการซื้อหนังสือเร่ิือง เล่ห๋ลุนตยาสามารถหาซื้อได้ที่ไหน
โดย: วิไลวรรณ IP: 118.174.213.232 วันที่: 23 เมษายน 2560 เวลา:11:05:31 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อุ้มสม
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 231 คน [?]



แฟนเพจ "อุ้มสม"
ตุลาคม 2556

 
 
1
3
4
5
7
9
10
12
13
15
17
19
21
23
24
25
26
27
28
30
31
 
 
All Blog