๑๕๒ - นางครวญ ; ภาคินัย -
นางครวญ

นวนิยายโดย : ภาคินัย

สำนักพิมพ์ : โซฟา พับลิชชิ่ง

นางครวญ

รายละเอียด

ภาคินัยเจ้าของซีรี่ส์ยอดฮิต7วันจองเวร, SIX SCREAM และ FIVE FEAR

กลับมาพร้อมความระทึกขวัญสั่นผวาครั้งใหม่ 4 ทิศตาย

4 เรื่องราว 4 ทิศทาง 4 วัฒนธรรม4 เวรกรรมที่ติดตาม

ไม่ว่าคุณจะหันไปทิศไหน...ความตายจะหันตามไปในทิศนั้น!

. . . . . . .. . . . . . . . . . . . . .

ONE เรื่องราวความตายเมื่อได้หันไปทางทิศเหนือ ‘นางครวญ’

เรื่องราวที่ไม่เคยคิดว่ามันมีได้มาเกิดขึ้นกับชายหนุ่มผู้เคราะห์ร้ายแล้ว

เมื่อ รณภพ ครูวิชาภาษาไทยเดินทางไปเที่ยวหลวงพระบางกับคณะทัวร์

ใครจะรู้ว่าการท่องเที่ยวในครั้งนั้นเขาจะได้ของฝากเป็นสิ่งที่ไม่คิดอยากจะได้กลับมา

‘เมล็ดพันธุ์ลึกลับ’ที่เขาโยนทิ้งกลับเติบโตเป็นต้น ‘มักกะลีผล’เพียงข้ามคืน

ความตื่นตระหนกสั่งให้เขาทำลายมันทิ้งแต่มีบางสิ่งร้องครวญคร่ำโศกา

หญิงสาวจากป่าหิมพานต์วอนขอแค่เจ็ดวันได้อยู่ต่อก่อนสิ้นชีพ

รณภพใจอ่อนยอมให้นางจากต้นไม้เข้าอยู่ร่วมชายคาในนาม นารี

เสน่ห์นางสตรียั่วเย้าบุรุษร้อนเร่าจนลุ่มหลง

การผสมพันธุ์ระหว่าง ‘คน’กับ ‘มักกะลี’ คือเรื่องอัปรีย์เกินจะพรรณนา

เด็กที่เกิดมาจึงประหลาดล้น...และมันพร้อมจะ ‘ฆ่าคน’เพื่อ ‘ดำรงเผ่าพันธุ์!’

. . . . . . .. . . . . . . . . . . . . .

ค่ำคืนนางครวญคร่ำ

ความมืดดำคอยคืบคลาน

คลั่งแค้นฆ่าอาสัญ

คิดล้างผลาญประหารคน!

เรื่องย่อเพิ่มเติม

ใครกันเล่าจะคาดคิดได้ว่าการที่เขาไปเที่ยวหลวงพระบางในช่วงวันหยุดยาว...การได้ช่วยเหลือชายชราจากการถูกทำร้ายที่นั่น จะทำให้ชีวิตของ รณภพ ไม่เป็นสุขตลอดไป เมื่อครูภาษาไทยหนุ่มได้เมล็ดพันธุ์มักกะลีผลมาครอบครองได้ที่ไม่ได้ตั้งใจ และมันก็ค่อยๆ เติบโตเป็นหญิงงามนวลละอองภายในบ้านของเขาในไม่ช้า!

นารี มักกะลีผลสาวกำเนิดขึ้นมาเป็นหญิงสาวที่เต็มไปด้วยเสน่ห์เย้ายวนใจชาย ฝ่ายรณภพก็จำต้องให้เธออยู่ร่วมชายคาเดียวกันในช่วงเวลาเพียงเจ็ดวันเท่านั้น...ทว่าการที่หญิงชายอยู่ร่วมบ้านเดียวกันเพียงสองคน ก็ไม่ยากเลยที่รณภพจะลุ่มหลงนารีจนถอนตัวไม่ขึ้น...

การที่อากัปกริยาของรณภพดูเปลี่ยนไป ทั้งการกลับบ้านเร็วขึ้น ล้วนแต่สร้างความสงสัยให้กับ ครูแยม ครูสาวที่หลงรักรณภพ และการที่ครูแยมคิดจะลองดีกับมักกะลีผลสาวนามว่านารี ก็ไม่ได้เป็นผลดีกับตัวเองเลยสักนิด โดยอีกคนที่สงสัยในการกระทำของรณภพก็คือ รัชชา ครูพละหนุ่มเพื่อนสนิทของรณภพ

ในขณะเดียวกันด้วยความเป็นมักกะลีผลของนารี ซึ่งคิดเครื่องในสัตว์เป็นอาหาร ทั้งสารพัดสัตว์และสารพัดมนุษย์จึงพากันเสียชีวิตในสภาพที่ดูไม่ได้ เครื่องในถูกกัดกิน สร้างความสงสัยและกลัวให้กับชาวบ้านทุกคนเช่นกัน

และสุดท้ายเพราะความที่หักห้ามใจไว้ไม่อยู่ของรณภพก็ทำให้การผสมพันธุ์ระหว่างคนกับมักกะลีผลบังเกิดขึ้น! ท้ายสุดสุดท้ายเมื่อนารีสลายไป ทว่าเด็กนั่น...ลูกของรณภพกับนารีก็ถือกำเนิดขึ้นมาและเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว

มันไม่ใช่คน...มันเป็นเด็กผี ! เด็กอมนุษย์ ที่พร้อมจะทำลายล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ได้ทุกเวลา...ไม่เว้นแม้แต่ชายผู้ขึ้นชื่อว่า‘พ่อ’ ของมัน…

ความรู้สึกส่วนตัว...บันทึกหลังอ่าน

อุ้มสมตามงานของภาคินัยอยู่แล้ว ยิ่งเรื่องใหม่ล่าสุดจากภาคินัยเล่มนี้อย่าง “นางครวญ” ที่มีความต่างจากงานก่อนๆ ของภาคินัยอยู่พอสมควร ยิ่งไม่น่าพลาด จึงหยิบยกมารีวิวให้เพื่อนนักอ่านทุกท่านได้อ่านกันครับ (เพิ่งนึกได้เหมือนกันว่ายังดอง “บ้านข้างโลงเคียง”เรื่องก่อนหน้าของผู้เขียน...เล่มบางๆ อยู่ คงได้อ่านในเร็ววัน)

“นางครวญ” เป็นเรื่องราวของครูภาษไทยนามว่า “รณภพ” ที่ไปเที่ยวหลวงพระบางแล้วบังเอิญได้เมล็ดพันธุ์มักกะลีผลกลับมาครอบครอง กลายเป็นหญิงสาวงามนามว่า “นารี” ซึ่งความสวยของมักกะลีผลนางนี้ทำให้รณภพหลงใหลจนถอนตัวไม่ขึ้น การผสมพันธุ์อันแสนอัปรีย์ระหว่างคนกับมักกะลีจึงบังเกิด...ตามมาด้วยเหตุโศกนาฏกรรมอันเกิดจากเด็กอมนุษย์ ซึ่งเป็นลูกชายของรณภพกับนารี!

เล่มนี้เป็นผลงานซีรีส์ชุดใหม่ของภาคินัยครับ... ซึ่งก็คือซีรีส์ “4 ทิศตาย” เรื่องราวของความตายทั้งสี่ทิศ โดยนางครวญเล่มนี้ เป็นเล่มแรกครับ ซึ่งเป็นเรื่องราวของความตายจากทิศเหนือ...เหตุเกิดที่เชียงใหม่ จนถึงหลวงพระบาง

อย่างที่บอกละครับ เล่มนี้จะเรียกได้ว่าภาคินัยเปลี่ยนสไตล์การเขียนให้เป็นแบบใหม่ ไม่ซ้ำจำเจดังเช่นเรื่องก่อนๆ ยิ่งขึ้น ซึ่งก็ยังความสนุกและได้อรรถรสในความเป็น “ภาคินัย” เหมือนเดิม (การก็อปปี้ไดอาล็อก สถานการณ์ซ้ำ ยังมีอยู่ครับ แต่ไม่เยอะจนน่ารำคาญ) ซึ่งก็ทำให้มีความสนุกไปอีกแบบ เมื่ออ่านจบแล้วอุ้มสมก็มีทั้งความชอบและไม่ชอบอะไรในบางมุมเล็กๆ น้อยๆ

เพียงแค่บทนำก็ชวนให้ติดตามเช่นเคยแล้วละครับ แต่คราวนี้ผู้เขียนเริ่มเรื่องด้วยการปรากฏตัวของเด็กผีที่มากินเครื่องในของเด็กสาวมัธยมปลายในโรงเรียนแห่งหนึ่ง อันเป็นเหตุการณ์สำคัญในช่วงกลางเรื่อง ซึ่งก็ทำให้คนอ่านได้ลุ้นกันว่าเด็กผีผู้นี้เป็นใครมาจากไหน...แน่นอน ก็ต้องเริ่มเล่าเรื่องจากตัวแม่ก่อนนั่นแล

“รณภพ” พระเอกเป็นครูสอนวิชาภาษาไทย ที่ไปเที่ยวหลวงพระบาง แล้วดันได้เมล็ดพันธุ์มักกะลีผลกลับมาเป็นของแถม จนกลายเป็นนางมักกะลีผลที่งดงามทรามวัย โดยรณภพได้ตั้งชื่อให้ว่า “นารี” ซึ่งนิยายลึกลับเรื่องนี้ก็ไม่เชิงว่าเป็นเรื่องราวของภูตผีหรือวิญญาณ ทว่าเป็นเรื่องของสัตว์ในวรรณคดีไทย สัตว์ในป่าหิมพานต์ ซึ่งความน่ากลัวก็มีไม่แพ้กับผีเรื่องอื่นๆของภาคินัยเลยครับ ...

อุ้มสมขอบอกเลยว่า นางมักกะลีที่งดงาม (เห็นได้จากหน้าปก)อย่างนารีนี่ บทจะน่ากลัวก็ทั้งน่ากลัวและทั้งโหดเหี้ยมที่สุดเลยละครับ ทั้งเรื่องของการฆ่าคนเพราะความโกรธ ความโมโห อีกทั้งยังต้องการเครื่องในจากคนหรือสัตว์เป็นอาหารอีกด้วย ที่สำคัญ...นารี นางเป็นผี เอ๊ย ! มักกะลีผลที่ แอ็บเก่งมาก เจ้ามารยา สตรอว์เบอร์รี่สุดๆไปเลย ความงดงามที่แฝงไปด้วยมารยาแห่งความน่ากลัว ของนารีจะปรากฏให้ผู้อ่านได้ทั้งกลัว ทั้งหมั่นไส้ในช่วงครึ่งแรกครับ...ครึ่งหลังนางจะส่งต่อไปให้ลูกของนาง (แต่พระเอกก็ยังคงมีภาพหลอนถึงนางอยู่เป็นระยะๆ)

ด้วยความที่เป็นเรื่องราวของสัตว์ในป่าหิมพานต์ เรื่องราวทางภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ ไปจนหลวงพระบาง ประเทศลาว จึงทำให้ผู้เขียนได้สอดแทรกเชิงอรรถที่มีสาระดีๆ ไว้มากมาย จนอุ้มสมรู้สึกว่าเสน่ห์อีกอย่างในงานของภาคินัยเลย สงสัยเป็นเพราะว่าตัวเองชอบเรื่องเหล่านี้ด้วย เช่น สัตว์ในป่าหิมพานต์แปลกๆ ที่บางทีไม่เคยรู้จักมาก่อน ประเพณีทางภาคเหนือและประเทศลาว ล่าสุดเพิ่งมีนักอ่านท่านหนึ่งมาชมผู้เขียนครับว่าเพราะลูกอ่านงานของภาคินัย เลยทำให้ทำข้อสอบถูก เพราะผู้เขียนได้แทรกเชิงอรรถไว้ในนิยายเรื่องนั้นๆ พอดี

อย่างที่บอกไว้ว่าเหตุการณ์เกิดทางจังหวัดเชียงใหม่ และประเทศลาว จึงทำให้มีตัวละครประกอบบางตัวพูดภาษาเหนือ ภาษาลาวด้วยครับ แต่ผู้อ่านก็ไม่ต้องกลัวว่าจะอ่านไม่รู้เรื่อง เพราะผู้เขียนได้ใส่ซับไตเติ้ลเอาไว้ด้วย (ถ้าไม่มีซับไตเติ้ลละก็...ตายหยังเขียดเลย แหะแหะ)

ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้...เกี่ยวกับความพิเศษของนวนิยายเรื่องนี้จากภาคินัย ก็คือการที่นารี เป็นนางมักกะลีจากป่าหิมพานต์ จึงทำให้ทุกถ้อยคำ ทุกวาจาที่นางเอื้อนเอ่ย ล้วนแต่เป็นบทกลอนทั้งสิ้น ชื่นชมผู้เขียนครับ (ซึ่งพี่แอมป์-ภาคินัย เองก็แต่งกลอนเก่งอยู่แล้ว) (ยกตัวอย่างนวนิยายที่จะมีตัวละครจากวรรณคดีไทยมาพูดเป็นกลอนก็ประมาณเรื่อง ปลายเทียน, บุรำปรัมปรา เป็นต้น)...ต่อไปเป็นตัวอย่างบทกลอนบางส่วนจาก นารี นะครับ (ยกตัวอย่างมานี่เป็นส่วนน้อยจริงๆ)

“ช่างอาภัพ เพิ่งเกิดใหม่ จะตายแล้ว

คงไม่แคล้ว แววเจ็บช้ำ ระกำยิ่ง

ท่านผู้สร้าง ช่างใจดำ อำมหิตจริง

ทำร้ายได้ แม้นกายหญิง สิ้นเยื่อใย

อยากให้ฉัน ทำอย่างไร ให้เอื้อนเอ่ย

อย่าห้ำหั่น ฆ่ากันเลย น้อมขอไหว้

แค่เจ็ดวัน ให้ฉันอยู่ คู่เคียงกาย

คอยรับใช้ ได้แทนคุณ การุณย์ที”

ด้วยความที่นารีนางมีบทบาทเด่นมาก ทำให้มีบทกลอนมากมายอยู่ภายในนิยายเล่มนี้เลยครับ

ในเรื่องของการดำเนินเรื่อง การสร้างปม ยังคงความสนุกไว้เหมือนเดิมครับ แต่ว่าคราวนี้ฉาก หรือเหตุการณ์ที่เฉลยความจริงทั้งหมดก็มีความแตกต่างจากเรื่องก่อนๆอีกเช่นกัน อุ้มสมขอบอกเลยว่าคราวนี้ก็พยายามที่จะคาดเดาบทสรุปของเรื่อง การพลิกแพลงหักมุมในตัวละคร แต่สุดท้ายแกก็เดาพลาดอยู่ดี ๕๕๕. ทั้งที่เรื่องนี้หักมุมไม่ได้ชวนร้องโอ้โห แบบว่าเหนือความคาดหมายเป็นที่สุด

เพราะอุ้มสมคิดว่าความโดดเด่นของเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่การหักมุมของเนื้อเรื่องทั้งหมด แต่อยู่ที่การลุ้นระทึกไปกับตัวละครอย่างพระเอกหรือตัวละครอื่นๆ มากกว่า เช่นการเผชิญหน้ากับเจ้าเด็กอมนุษย์ลูกของรณภพ กับ นารี...คน กับ มักกะลีผล ! ที่ร้ายกาจตั้งแต่เล็กและยังเติบโตอย่างรวดเร็วในระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน (อันนี้แอบนึกถึงเรื่อง กาเหว่าที่บางเพลงที่อุ้มสมเคยอ่านเมื่อนานแล้ว...แค่นึกถึงเฉยๆ นะครับไม่ได้มีส่วนเหมือนกันมากมายแต่อย่างใด)

ประเด็นที่อุ้มสมอ่านแล้วรู้สึกว่าดูขัดๆ อยู่พอสมควร ไม่ค่อยชอบก็คงเป็นเรื่องราวของตัวละครหลักๆ อยู่ดีนี่ละ เพราะด้วยความที่ตัวละครหลักของเรื่องนี้ (ไม่นับ นารี กับลูก) ทั้ง รณภพ “รัชชา” “แยม...ยศวดี” ล้วนแต่เป็นครูสอนมัธยมปลายในโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ทั้งสิ้น แต่การกระทำ ความคิดของตัวละครบางตัว คืออุ้มสมมีความคิดว่านาจะเปลี่ยนอาชีพของตัวละคร อาจจะให้เป็นหนุ่มสาวออฟฟิศก็ได้ ซึ่งรัชชา...ครูสอนพละหนุ่มไม่ค่อยเท่าไหร่ มีขัดใจบ้างเล็กน้อย แต่อีกสองคนที่ขัดใจมากเลย ! ...

เริ่มจาก ครูแยม ก่อนแบบว่าความคิด การกระทำบางอย่างของครูแยมไม่น่าจะเหมาะสมต่อการเป็นครู เพราะเริ่มจากจุดเล็กๆ ก็คือความที่ครูแยมหลงรักรณภพมากก็พยายามตามตื๊ออยู่ตลอด โดยไม่ค่อยจะสนใจสายตาของครูท่านอื่นๆ และนักเรียนสักเท่าไหร่ โดยครูแยมยังคิดในใจว่าอยากให้นักเรียนเอาไปเมาท์เรื่องเธอกับรณภพอีกด้วย ไปจนถึงความที่ผลีผลาม ใจร้อนเกินเหตุ ทั้งบุกไปบ้านรณภพและไปหาเรื่องกับนารี ...แต่บทสรุปของครูแยมก็เป็นอะไรที่น่าสงสารมากเลยนะสำกรับอุ้มสม

มาจนพระเอกของเรา...รณภพ! ...อันนี้ประเด็นแรกที่ขัดใจก็คือ ตามฉบับละครไทยเลย...โง่เกิ๊น ! ซื่อมากด้วย หลงใหลในความงามนางมักกะลีที่พบกันไม่ถึงเจ็ดวัน...เหลือเชื่อมาก ! จนทำให้มีเรื่องมีราวกับเพื่อนสนิทหนุ่มอย่างรัชชา และครูสาวที่หลงรักเขา ต่อมาอันนี้เรื่องของภาพลักษณ์ครูเลย...ต่อให้จะแอบทำก็เถอะ! แต่ถึงอย่างไรก็เป็นเวลาราชการ และอยู่ในเขตสถานศึกษาอยู่ดี ซึ่งรณภพได้ชวนครูรัชชาไปแอบสูบบุหรี่เพื่อระบายความเครียด... ประเด็นสุดท้ายเลยที่ไม่ชอบรณภพ อันนี้เกิดจากความสามารถของผู้เขียน ที่เขียนให้คนอ่านได้อินจัด ๕๕๕. โมโหครูรณภพมาก ตั้งแต่เรื่องหูเบาแล้ว แต่ต่อมาก็ถึงกับลงไม้ลงมือด้วยการตบหน้าครูแยม เพราะความโมโหและไม่สำนึกผิดอีกด้วย ที่ไม่ชอบเพราะหนึ่ง คุณเป็นผู้ชายแต่ครูแยมเป็นผู้หญิงแล้วตอนนั้นครูแยมก็เข้าโรงพยาบาลอยู่ด้วย คิดดูสิ...แรงผู้ชายที่แข็งแรงดีตบหน้าแรงผู้หญิงที่กำลังบาดเจ็บนอนโรง’บาล สอง...อย่าลืมสิว่าตัวคุณก็เป็นครู นี่ไม่ใช่สิ่งที่ครูที่ดีพึงจะกระทำเลย (อุ้มสมพอจะรู้บ้างเหมือนกันว่าปัจจุบันนั้นเหตุการณ์เช่นนี้มันมีอยู่ทุกระดับ ทุกสังคม แต่พอได้ฟังได้เสพข่าวพวกนี้ ก็รู้สึกสลดใจเหมือนกัน)

แต่สิ่งที่อุ้มสมชอบมากๆ อีกเช่นกัน ก็คงเป็นเรื่องความสัมพันธ์ฉันมิตรภาพที่ดีของชายทั้งสอง คือ รณภพ กับ ครูรัชชา แม้ว่าจะขัดใจในบางคราที่ครูรัชชาตามใจเพื่อน...แต่ก็อย่างว่าโตๆ กันแล้วคงห้ามอะไรมากไม่ได้ แต่สุดท้ายแล้วทั้งสองก็ยังเป็นเพื่อนรักกัน พร้อมที่จะเสียสละให้กัน ลุยไปพร้อมๆ กันได้ ดังคำพูดของครูรัชชาที่บอกกับรณภพว่า “ฉันทิ้งให้แกเผชิญกับสิ่งเหล่านั้นคนเดียวไม่ได้ จริงอย่างที่แกบอก คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย แต่บางทีสองคนอาจจะตาย...ไม่มีใครรอด ใช่...สิ่งที่แกพูดมันก็ถูก แต่การตายสองคนมันก็คงดีกว่าการตายคนเดียวไม่ใช่เหรอวะ อย่างน้อยก็มีเพื่อน ไม่ต้องเหงาคนเดียว เดินทางไปนรกได้มีเพื่อนคุย ถ้าไม่มีอย่างนั้นแล้วเค้าจะมีคำว่า ‘เพื่อนตาย’ ไว้ทำไม” เป็นคำพูดที่ดูจะขบขัน แต่อุ้มสมทั้งอมยิ้มและซาบซึ้งไปกับความรักเพื่อนของครูรัชชาเลย

รีวิวมายาวพอสมควร (พักหลังแกกินยาขยันมาใช่มั้ย?ตาอุ้มสม...รีวิวยาวตลอด !) “นางครวญ” ก็เป็นอีกเรื่องที่อุ้มสมอยากจะแนะนำสำหรับใครที่ยังไม่เคยอ่านงานของภาคินัย หรือใครที่อยากอ่านงานของภาคินัยในรูปแบบที่ดูแปลกไปจากเล่มก่อนๆ อยู่ด้วย เล่มนี้ก็น่าลองครับ...

อีกทั้งยังเป็นนวนิยายแนวลึกลับสยองขวัญที่ได้กลิ่นอายแฟนตาซีไทยแท้ในป่าหิมพานต์แบบเล็กๆน้อยๆ

อุ้มสมขอจบการรีวิวเรื่องนี้ด้วยกาพย์ยานี ๑๑ หลังปก “นางครวญ” นะครับ เป็นคำประพันธ์ที่อุ้มสมชอบมาก และรู้สึกว่าไพเราะมากเลยละ

ค่ำคืนนางครวญคร่ำ

ความมืดดำคอยคืบคลาน

คลั่งแค้นฆ่าอาสัญ

คิดล้างผลาญประหารคน

อุ้มสม

๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๖




Create Date : 23 พฤศจิกายน 2556
Last Update : 23 พฤศจิกายน 2556 19:52:02 น.
Counter : 22278 Pageviews.

18 comments
  
น่าสนใจค่ะ
ไม่มีผีใช่ไหมคะ
โดย: polyj วันที่: 24 พฤศจิกายน 2556 เวลา:6:39:39 น.
  
มาอ่านรีวิวค่ะ
โดย: Aneem วันที่: 24 พฤศจิกายน 2556 เวลา:8:16:58 น.
  
ชอบตรงคำพูดของนารีผลที่เป็นกลอนอะ อันนี้ขอชื่นชมคนเขียนด้วยคน น่าสนใจทีเดียว
โดย: ชบาหลอด วันที่: 24 พฤศจิกายน 2556 เวลา:15:55:56 น.
  
อูยยย อ่านรีวิวแล้วน่ากลัวอ่ะค่ะ ถึงไม่ใช่ผีก็ไม่ต่างกับผีเท่าไรนะ สยองงงอ่าค่ะ
โดย: Sab Zab' วันที่: 24 พฤศจิกายน 2556 เวลา:21:09:00 น.
  
เป็นอีกเล่มที่อยากอ่านมาก ๆ เลยอะจ้ะ แต่...ไม่รู้เมื่อไรจะได้อ่าน
โดย: หวานเย็นผสมโซดา วันที่: 24 พฤศจิกายน 2556 เวลา:22:27:59 น.
  
โอ้โฮ้....มีการผสมพันธุ์ข้ามสายพันธุ์ด้วย
โดย: Nat_NM วันที่: 25 พฤศจิกายน 2556 เวลา:7:37:52 น.
  
ขอบคุณครับ
โดย: ภาคินัย IP: 124.122.195.211 วันที่: 25 พฤศจิกายน 2556 เวลา:17:26:01 น.
  
คุณ: polyj ไม่มีผี แต่ตัวประหลาดทั้งแม่ลูก ก็น่ากลัวไม่แพ้ผีสางเลยครับ

คุณ Aneem อิอิ ขอบคุณที่แวะมาคอมเม้นกันครับ

คุณ ชบาหลอด งั้นต้องลองเลยยยคร้าบ พี่ชบาหลอด

คุณ: Sab Zab' เรื่องนี้ออกจะน่ากลัวครับ อิอิ

คุณ หวานเย็นผสมโซดา รอโอกาสเหมาะกับพี่หวานเย็น อิอิ

คุณ: Nat_NM ทึ่งกับไอเดียผู้เขียนเช่นกันครับ

คุณภาคินัย
โดย: อุ้มสม วันที่: 26 พฤศจิกายน 2556 เวลา:18:29:34 น.
  
ซื้อที่ไหนค่ะse Ed
โดย: หนูน้อยในไร่ส้ม IP: 49.230.74.20 วันที่: 26 พฤศจิกายน 2556 เวลา:19:58:49 น.
  
น่าสนใจค่ะ ไม่ได้อ่านงานของผู้เขียนมาพักใหญ่แล้ว
โดย: ~:พุดน้ำบุศย์:~ วันที่: 26 พฤศจิกายน 2556 เวลา:21:26:41 น.
  
วันก่อนเห็นที่ร้านหนังสือ แต่ไม่กล้าหยิบ
กลัวว่าจะเป็นแนวเดิมๆ ของผู้เขียน

แต่อ่านรีวิวนี้แล้ว น่าจะไปลองหยิบมาอ่านดูสักหน่อยค่ะ
โดย: จิตหลอน วันที่: 8 ธันวาคม 2556 เวลา:11:27:28 น.
  
ดูน่ากลัวนะค่ะ แต่ก็น่าติดตามคะ
โดย: รัตน์ IP: 119.42.121.41 วันที่: 28 ธันวาคม 2556 เวลา:14:06:15 น.
  
น่าสนใจค่ะ
พี่เองก็ชอบอ่านงานของคุณภาคินัยเหมือนกัน
ไปจนคุณแอมที่งานสัปดาห์หนังสือ คุณแอมน่ารักมากค่ะ

คุณแอมคงดีใจที่น้องอุ้มสมติดตามผลงาน และลงรีวิวแบบนี้
ว่าแล้ว...พี่เองก็แอบเห็นคุณภาคินัยมาเม้นท์ด้วยนะ อิ อิ

อืม...ขอชมด้วยนะคะ ว่าน้องอุ้มสมเป็นคนที่ใช้ภาษาเขียนดีค่ะ
โดย: เจี๊ยบ IP: 58.137.93.44 วันที่: 23 เมษายน 2557 เวลา:15:22:46 น.
  
แอบมาติดตามอุ้มสมอยู่พักใหญ่แล้ว เพิ่งจะมาคอมเม้นท์นี่แหล่ะ มาอ่านรีวิวแต่ละเล่มนี่ หาซื้อหนังสือไม่ทันเลย น่าติดตามทุกเรื่องเลนค่ะ
โดย: มณีบุปผา IP: 49.230.160.185 วันที่: 13 พฤษภาคม 2558 เวลา:18:30:52 น.
  
น่าสนใจมากค่ะ อ่านแล้วดูตื่นเต้นดีเพราะไม่เคยคิดว่าคนจะมีอะไรกับมักกะลีผล
โดย: Ineang IP: 1.46.39.93 วันที่: 12 ตุลาคม 2558 เวลา:12:09:17 น.
  
อยากด้ายหนังสือเล่มนี้มากๆๆๆคร๊กำลังคิดตามอ่านยุถ้าสั่งต้องทำไงคร๊
โดย: วัลภา แก่งกระโทก IP: 49.229.104.117 วันที่: 14 ตุลาคม 2559 เวลา:20:44:17 น.
  
ส่วนตัวน่ะสงสัย ว่า อายุขัยของเด็กผีนี่เท่าของคนหรอ?
โดย: -hh- IP: 223.24.167.144 วันที่: 28 กันยายน 2560 เวลา:15:57:29 น.
  
อยากทราบว่าเรื่องนางครวญนี้เป็น นวนิยายใช่ไหมครับ
โดย: สมาชิกหมายเลข 4445901 วันที่: 5 มิถุนายน 2561 เวลา:17:11:34 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อุ้มสม
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 231 คน [?]



แฟนเพจ "อุ้มสม"
พฤศจิกายน 2556

 
 
 
 
 
2
4
6
7
9
10
12
14
15
17
18
19
21
22
24
25
27
28
29
30
 
All Blog