๒๓. โกกิลาเยี่ยมรุ่ง // หมอกมุงเมือง
โกกิลาเยี่ยมรุ่ง
นวนิยายโดย : หมอกมุงเมือง
สำนักพิมพ์ : ณ บ้านวรรณกรรม
รายละเอียด
ร่างน้อยอันโสภากำดัดดรุณี
ก่อให้เกิดความพิศวาสวาบหวาม
เมื่อยามอยู่ด้วยกันเพียงลำพังกลางนภาลัยเช่นนี้
นี่คือโอกาสอันล้ำค่าที่บุรุษทุกผู้พึงปรารถนาและฉกฉวยโอกาสนั้น
ข่มเหงเรือนร่างบางให้ยินยอมตกเป็นสมบัติของตน
ด้วยอารมณ์แห่งดำฤษณา
ในเมื่อนางผู้นี้ ทั้งสวยสดโสภาแรกรุ่นแลสมบูรณ์พร้อมด้วยพรหมจารี
ปราศจากราคีใดๆ ให้หมองมัวแผ้วพานมาก่อน
แล้ว...อารมณ์อันเพริดก็ถูกดึงกลับมาอยู่ในเหตุผลแห่งตนตามเดิม
มิได้ปล่อยให้อำนาจดำมืดแห่งราคะฝ่ายต่ำเข้าครอบงำ
ฉวยโอกาสนั้น
กล้ำกรายร่างเอิบอิ่มที่นอนอกสะท้อนทอดนิทรารมณ์เบื้องหน้า
กุณาลิกาเอย เจ้าช่างงามนัก
เจ้าทำให้บุรุษผู้ทระนงไม่เคยยอมสยบพ่ายแพ้ต่อสิ่งใด
โดยเฉพาะกับแรงสิเน่หาแห่งสตรีเพศ
รุ่นร้อนหวั่นไหวจนมิอาจหักห้ามใจไว้ให้มิรักเจ้าได้
นี่ข้าคงต้องศรพิษแห่งพระอนงค์จากดรุณีนามกุณาลิกา แล้ว
เป็นแน่แท้...
เรื่องย่อเพิ่มเติม
กุณาลิกาถูกแม่เลี้ยงใจร้ายจำมาขายให้มาเป็นนางคณิกา(โสเภณี) ยังสำนักคณิกาของ นางอัมพวันโดยผ่านนายหน้าอย่าง สุสิมะ แต่ระหว่างทางกุณาลิกา กลับถูกโจรปล้นชิงตัวนางเสียก่อน
นางอัมพวันจึงจำต้องหาตัวกุณาลิกาภายใน๗วัน เพราะกุณาลิกา ยังเป็นสาวบริสุทธิ์ ปราศจากมลทิน เพื่อให้รับใช้บริจาริกา เจ้าชายวิฑูฑภะ
แผนการชิงตัวกุณาลิกานั้นผู้อยู่เบื้องหลังคือ มธุมาลตี นางคณิกาผู้เป็นดาวในสำนักของนางอัมพวันและไม่ต้องการให้มีหญิงใดมาเทียบรัศมีของตัวเอง
กุณากิลาได้พบรักกับ อรุษ นายพรานมานพหนุ่มซึ่งช่วยชีวิตนางไว้ และอรุษก็กระทำให้กุณาลิกาประจักษ์ชัดว่าเขารักนางจริงๆ
เมื่อมธุมาลตีรู้ว่ากุณาลิการอดไปได้เกรงว่าเรื่องจะสาวมาถึงตน มธุมาลตี จึงคิดโยนบาปให้กับแพะ โดยใช้บุรุษหนุ่มทั้งหลายซึ่งหลงใหลในความงามของนางเป็นเครื่องมือ
ความรู้สึกส่วนตัว...บันทึกหลังอ่าน
หยิบเล่มนี้มาอ่านเพราะชอบชื่อเรื่องโกกิลาเยี่ยมรุ่ง และยังกอปรไปด้วยหน้าปกที่สวยสดสะดุดตา ชวนให้ลิ้มลองเนื้อในและก็ทำให้ไม่ผิดหวัง...
เรื่องนี้เป็นพีเรียดกึ่งจินตนิยายในสมัยพุทธกาล คือสมัยที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังมีพระชนมายุอยู่นั่นเองเรียกได้ว่าแนวพุทธกาลเช่นนี้หาได้ยากนักในบรรดานักเขียนใหม่ยุคปัจจุบันซึ่งแนวนี้นั้นเท่าที่คนไทยส่วนใหญ่รู้จาก ก็เป็นงานของคุณตา พนมเทียน อาทิ ศิวาราตรีจุฬาตรีคูณ หากเก่ากว่านี้ก็คงจะเป็นเรื่อง กามนิต
รูปเล่มขนาดพอเหมาะไม่บางมากและก็ไม่หนามาก ผู้แต่งสามารถนำคำสอนของพระพุทธเจ้า มาใส่ในเรื่องทีละนิดทีละน้อยให้เข้ากับเหตุการณ์นั้นๆ ได้ย่างไม่น่าเบื่อ และไม่รู้สึกว่ายัดเยียด
แม้เล่มจะไม่หนามากแต่ก็มีเหตุการณ์และมีตัวละครสำคัญๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น กุณาลิกา อรุษมานพมธุมาลตี เจ้าชายวิฑูฑภะ นางอัมพวัน อิลา สาวิตรี ภัททิยะ วินธัยมานพ อหิงสกะ เป็นต้น
ภาษาของเรื่องก็สละสลวยด้วยเป็นนิยายพุทธกาล จึงมีศัพท์บาลี-สันสกฤต มีคำครุ-ลหุ มากมายซึ่งส่วนตัวอุ้มสมชอบเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว จึงไม่รู้สึกว่าน่าเบื่อหรืออ่านยากนักกลับชอบ เสียด้วยซ้ำ...
รู้สึกชื่นชอบและประทับใจที่ผู้แต่งได้นำบุคคลจริงในพุทธกาลมามีบทบาทเด่นในเรื่องคือองคุลิมาล นั่นเอง องคุลิมาลในเรื่องนี้นั้นอดีตเป็นศิษย์สำนักเดียวกับอรุษ และไม่ได้พบกันนาน จนกระทั่งอหิงสกะได้กลายเป็นมหาโจรองคุลิมาล
อรุษได้มาเจอกับองคุลิมาลโดยบังเอิญในขณะที่ได้ช่วยชีวิตกุณาลิกาไว้ และในวันนั้นองคุลิมาลฆ่าคนได้ครบ ๙๙๙ คนแล้ว ...
มธุมาลตีนั้นเป็นหญิงสาวที่สวยงาม แต่ในใจมืดมัวมีแต่ความริษยา หยิ่ง ถือตัวว่าตัวเองเป็นดาวของสำนักนางคณิกาจึงถือตัวไม่คบค้าสมาคมกับนางคณิกาคนอื่นๆ นอกจากนั้นยังปากร้าย อาจหาญไปล้วงกำพืดเจ้าชายวิฑูฑภะ ทำให้ถูกเจ้าชายหมายหัว
มธุมาลตีใช้ความงามของตัวเองเป็นเครื่องให้ชายตกอยู่ภายใต้อาณัติ...ท้ายสุดแล้วผลกรรมที่เธอได้รับจึงสาสมดังหลักธรรมคำสอนของพระพุทธองค์
นอกจากนั้นยังมีบทกลอนอันไพเราะสอดแทรกอยู่ตลอดเรื่อง
นับว่านวนิยายเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่ใช้ภาษาสวย สละสลวย น่าติดตามตั้งแต่บรรทัดแรกยันบรรทัดสุดท้ายอ่านแล้วอยากตามงานเก่าๆ ของคุณหมอกมุงเมืองเลยละครับ (มีพี่นักอ่านท่านนึงแนะนำเรื่องล่องกัลปาลัย)
พูดถึงเรื่องชื่อเรื่องนี้แอบฮากับตัวเองนิดหน่อย เพราะเวลารีบอ่านมักจะอ่านเป็น โกลิกาเยี่ยมรุ่ง ทุกทีฮ่าๆๆ
แนะนำเรื่องนี้สำหรับชาวพุทธทุกคนรวมทั้งผู้ที่ชื่นชอบพุทธประวัติ ชอบนิยายที่ภาษาสวย ...เป็นอีกเรื่องที่อุ้มสมชอบมากๆ
สวัสดีครับ...
อุ้มสม
๔ ก.พ. ๒๕๕๖