www.facebook.com/ibehindyou

ทุก comment ที่คุณให้มา ทำให้เรารู้ว่า เราไม่ได้สนุกกับการเขียน blog แล้วอ่านอยู่คนเดียว

Bug , เข้าคลาสจิตเวชกับ แอชลี่ จัดด์ และ แมลงของเธอ



หญิงสาว ทำลูกหายเมื่อหลายปีก่อน

ชายหนุ่ม ถูกติดตามจากกลุ่มคนบางคน



เธอสูญเสียตกอยู่ในห้วงซึมเศร้า ซ้ำร้ายสามีก็เป็นประเภทกักขฬะก้าวร้าวเพิ่งออกมาจากคุก เมื่อเธอพบเขาที่เข้ามาอย่างเป็นมิตร ก็เปิดรับมาเป็นเพื่อนคนใหม่

เขาพบ แมลง บนเตียง และ ชี้ชวนให้เธอดู

เธอไม่เห็น แมลง เห็นแต่ รอยแผล บนตัวเขา

เราคนดู ดูยังไงก็ไม่เห็นแมลงซักตัว แถมรอยแผลที่ว่ายังเหมือนรอยแผลของการทำร้ายตัวเองเสียมากกว่า



เขายืนยันให้เธอดู แมลง ให้ดีๆ

ในที่สุดเธอก็เห็นแมลง

แมลงเริ่มมากขึ้นๆ และ เขาเชื่อว่ามันถูกปล่อยมาโดยตั้งใจให้เขาเป็นเหยื่อทดลอง เขาพิสูจน์ด้วยการถอนฟันตัวเองด้วยมือสดๆ เพื่อเอามาส่องกล้องจุลทรรศน์ยืนยันให้เธอดู ไข่และแมลงจำนวนมากมายภายใน



เธอเห็นตามนั้น

แล้วเธอก็เริ่มคันมากขึ้น แล้วทั้งสองคนก็พยายามกำจัดแมลงออกจากร่างกายและจากห้องของตัวเอง ด้วยการกรีดผิวหนังเอาไข่ของพวกมันออกมา เริ่มนำกระดาษฟอยล์มาปิดรอบห้องกันสัญญาณที่จะส่งสู่โลกภายนอก เริ่มระแวงเพื่อนสนิทที่เคยกินเที่ยวกัน

ทั้งสองคนค่อยๆดำดิ่งลงไปในความเชื่อของตัวเอง โดยมีแขกรับเชิญมาเป็นระยะๆแวะเวียนมา อาทิเช่น สามีเก่า , เพื่อนซี้ของเธอ , จิตแพทย์ที่เคยรักษาชายหนุ่ม บางคนไม่มีชีวิตรอดกลับไป ส่วนเขาและเธอนั้นก็พยายามจนถึงที่สุดเพื่อกำจัดแมลงให้หมดสิ้น



...และต่อไปนี้ ขอเชิญนักเรียนทุกท่านเข้าคลาสวิชาจิตเวชกันได้ โดยมี ตัวละครในหนังเป็นกรณีศึกษา แต่ละคนล้วนมีภาวะทั้งโรคและความเจ็บป่วยทางจิตใจผสมผสานกันดังนี้

หญิงสาว = Grief - ภาวะโศกเศร้าจากการสูญเสียที่ยังไม่อาจทำใจผสมความรู้สึกผิด(guilt) / Depression - ภาวะซึมเศร้า / Physical abuse – การทารุณกรรมทางร่างกาย / Domestic violence - ความรุนแรงในครอบครัว / cocaine abuse - เสพโคเคน / tactile hallucination - อาการหลอนทางสัมผัส มีลักษณะจำเพาะที่เรียกว่า Formication เป็นอาการที่รู้สึกเหมือนมีแมลงไชอยู่ใต้ผิวหนัง มักเกิดจาก สารเสพติด

ชายหนุ่ม = โรคจิตเภท – Schizophrenia / หลงผิดหวาดระแวง – paranoid delusion / tactile hallucination - อาการหลอนทางสัมผัส

สามี = Antisocial personality – บุคลิกภาพต่อต้านสังคม เป็นลักษณะของคนที่ทำอะไรแหกกฎ ลักทรัพย์ พูดปด คดโกง ทำร้ายคนอื่น รวมๆแล้วขาดศีลธรรม ทำอะไรก็ไม่รู้สึกผิด

และเมื่อ แต่ละคนต่างมีที่มา เมื่อมาเจอกัน ผลลัพธ์สุดท้ายในฉากจบก็มีที่มาที่ไป อธิบายได้จาก dynamic ดั่งต่อไปนี้

...การสูญเสียลูกของนางเอกทำให้จมอยู่กับความเศร้า ขาดสิ่งยึดเหนี่ยวในใจ หันไปพึ่ง Cocaine เพื่อบำบัดโรคซึมเศร้าของตัวเอง การใช้ยาทำให้เกิดอาการประสาทหลอนเต็มที่ (เสียงโทรศัพท์ตอนต้นอาจเป็นอาการหูแว่ว เป็นอาการเริ่มแรกที่บ่งชี้ว่า เธอมีแนวโน้มจะแสดงอาการมาอยู่ก่อนแล้ว อาจจะเป็นจากโรคซึมเศร้าหรือจากการใช้สารเสพติดมานานๆ) เมื่อเธอได้พบกับ ชายแปลกหน้า เขาก็เหมือนที่พึ่งทางใจ เป็นหลักเดียวที่ลอยมาให้เธอยึด จากเดิมที่มีเสาเฮงซวยอย่างสามีผู้รักความรุนแรง

เมื่อเจอชายหนุ่มคนนี้เธอก็ฉวยคว้าไว้ โดยไม่ทันพิจารณาว่า ไม้ท่อนนี้ไม่ได้เป็นหลักที่จะช่วยชีวิตเธอ แต่ เป็นเหมือน หลักไม้ผุๆที่เมื่อเกาะกลับทำให้จมลงไปมากขึ้น

ความสัมพันธ์ของ ผู้หญิงซึมเศร้า กับ ผู้ชายโรคจิต ในหนังเรื่องนี้ ทำให้นึกถึง คนป่วยสองคนในหนังเรื่อง Secretary จะต่างกันก็ตรง เรื่องนั้น การพบกันของผู้ชายซาดิสต์ กับ ผู้หญิงมาโซคิสต์ เป็นการเติมเต็มและช่วยพยุงกันไปในสังคมที่รังเกียจพวกเขา ในขณะที่ ใน Bug เป็นความสัมพันธ์แบบมีพยาธิสภาพที่ทำให้ชีวิตทั้งสองฝ่ายต่างเลวร้ายลง จนเข้าข่ายอาการเจ็บป่วยที่เรียกว่า Shared Psycotic disorder หรือ folie a deux ( โรคจิตที่เริ่มต้นจากคนหนึ่งแล้วอีกคนป่วยตาม เหมือนข่าวหลายปีก่อนในบ้านเรา ที่ครอบครัวหนึ่งฆ่าเด็กในบ้านเพราะความหลงผิดคิดถวายให้พระอินทร์)

...ผลงานของผู้กำกับหมอผีเอ็กโซซิสต์(วิลเลี่ยม ฟรีดกิ้น)เรื่องนี้ ดัดแปลงจากละครเวทีจึงอย่าแปลกใจที่ตัวหนังดำเนินเรื่องเก้าสิบเปอร์เซ็นต์อยู่ในบ้านของนางเอก และถึงหน้าหนังจะเป็นแนวสยองขวัญแต่ส่วนใหญ่หนักไปทางบทสนทนา มีฉากตื่นเต้นไม่มาก ยกเว้นช่วงท้ายที่ อาการป่วยของตัวละครจะค่อยๆหนักข้อจนหลอนคนดูถึงที่สุดให้อึ้งในฉากสุดท้าย ความหลอนนั้นมีผลจากการแสดงอันเยี่ยมยอดของแอชลี่ จัดด์ ที่ดูโทรมแบบยับเยินสุดๆ และ ไมเคิล แชนน่อน ที่เล่นได้เหมือนราวกับหลุดมาจากโรงพยาบาลจริงๆ

สรุป ... บอกยากว่าหนังน่าดูหรือไม่ เพราะ ถ้าไม่เบื่อจนนั่งตบยุงก็อาจจะหลงใหลในความหลอนลึกในหนัง จะเหมาะอย่างยิ่งกับนักเรียนนิสิตนักศึกษาที่จบไปแล้วจะมีโอกาสต้องเจอกับผู้ป่วยทางจิตเวช หรือ ผู้ที่ศึกษาชั้นเรียนวิชาจิตวิทยาเพื่อรู้จักอาการทางจิตในหนัง แต่ หนังอาจจะน่าเบื่อสำหรับคนทั่วๆไปที่คาดหวังจะดูฉากตื่นเต้นระทึกขวัญ กับ คนดูที่เป็นจิตแพทย์หรือพยาบาลที่ต้องเจอผู้ป่วยจิตเวชอยู่เป็นประจำ เพราะหนังเรื่องนี้ก็เหมือนหยิบยกคนไข้ที่ไม่ได้รักษามาเจอกันเท่านั้นเอง


ป.ล. ผมชอบโปสเตอร์ลายนี้ของ Bug เพราะมันหลอนดี








ขอฝาก"หนังสือรัก" พ็อกเก็ตบุ้คที่ไม่ใช่ หนังสือวิจารณ์หนัง แต่เป็นการหยิบยกความรักและความสัมพันธ์ในภาพยนตร์ มาช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองและคนรอบข้าง ได้มากขึ้นและลึกซึ้งกว่าเดิม



เพื่อนๆที่หาซื้อตามร้านไม่ได้ เข้าไปสั่งได้จากเว็บของสนพ.เลยจ้าที่ //www.bynatureonline.com/store/bookstore.php






ชวนไปอ่านบทความเรื่องอื่นๆ คลิก >> หน้าสารบัญ

ชวนคลิก ชวนคุยกับเจ้าของ Blog ที่ --> หน้าแรก

รวบรวมรายชื่อหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนไว้แล้วที่ ---> ห้องเก็บหนัง





ขอคิดค่าบริการต่อการอ่าน 1 หน้าในอัตราเพียง

ความเห็น
ของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป


Create Date : 12 กันยายน 2550
Last Update : 12 กันยายน 2550 0:58:24 น. 20 comments
Counter : 5983 Pageviews.

 
I've got a lot of knowledge and others from your blog. Merci beaucoup. P.s. for some reason I can't type thai na kub.


โดย: Ange de Suisse IP: 85.1.57.115 วันที่: 12 กันยายน 2550 เวลา:2:37:20 น.  

 
อยากดูตั้งแต่เห็นโปสเตอร์หนังแล้วครับ (แต่ไม่ใช่สองแบบที่อยู่ในบล็อกนี้นะ)
แม่เหล็กดึงดูดของหนังเรื่องนี้มีสองอย่างครับ คือ
1. Ashley Judd
2. แนวหนังออกหลอนๆ แบบจิตวิทยา
ยิ่งได้มาอ่านตรงนี้แล้ว ยิ่งอยากดูใหญ่เลย

ขอบคุณสำหรับบทวิเคราะห์ครับ


โดย: absent-minded IP: 222.212.68.1 วันที่: 12 กันยายน 2550 เวลา:7:40:04 น.  

 
ชอบแอชลี่ย์ จัดจ์ แต่สำหรับเรื่องนี้ขอคิดดูก่อนอ่ะ


โดย: หัวใจสีชมพู วันที่: 12 กันยายน 2550 เวลา:8:06:49 น.  

 
เดาว่าคุณ absent-minded ชอบโปสเตอร์ลายนี้หรือเปล่าครับ



โดย: "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" วันที่: 12 กันยายน 2550 เวลา:8:26:32 น.  

 
ไม่คิดว่าเรื่องนี้จะได้มาฉายในบ้านเรา เพราะหนังก็ไม่ได้ดังมากตอนเปิดตัว

ชอบแอชลีย์ จัดด์มานานแล้วอะครับ ตั้งแต่สมัย Kiss the girl, Double jeopardy เธอดังอยู่ช่วงนึงในหนังแนว thriller แบบ woman-in-peril แล้วหลังๆก็ไม่ค่อยมีงานเลย ล่าสุดรู้สึกจะเป็น De-lovely และ Twisted ซึ่งส่งตรงลงแผ่นในบ้านเรา ชอบเธอเพราะบทที่เธอได้รับมักเป็นผู้หญิงสวย แกร่ง แต่อ่อนไหว

แต่มาในเรื่องนี้หมดสภาพเลย โทรมสุดๆ แถมตอนหลังยังจิตมากๆอีกด้วย เธอให้การแสดงที่ดีตั้งแต่ช่วงซึมเศร้า จนเริ่มจิตหลอนมากขึ้นเรื่อยๆ และระเบิด (จริงๆ) ในที่สุด

ไมเคิล แชนนอนก็ช่างเหมือนเป็นโรคจริงๆ ทั้งใบหน้า ท่าทาง (ซึ่งดูไม่น่าไว้วางใจให้เข้าห้องมาตั้งแต่แรก)

ดูจบแล้วรู้สึกคันๆ เหมือนโดนแมลงไต่เหมือนกันนะครับ เหอะๆๆ


โดย: amnesia IP: 58.8.152.133 วันที่: 12 กันยายน 2550 เวลา:11:46:34 น.  

 
+ ตอนแรกสุดอ่ะผมตั้งใจจะดูนะครับเรื่องเนี้ยะ ... แต่ไปๆ มาๆ ก็ชักเริ่มลังเล หลังจากที่ได้อ่านที่คุณ จขบ. เขียนไว้ที่ 'หน้าแรก' เพราะกลัวจะอึดอัดกับอาการของนางเอก + พระเอกไปซะจนจบเรื่องอ่ะครับ ... แต่เมื่อวานผมเพิ่งไปเก็บ ไชยา มา เรื่องนี้คงเก็บไว้เป็นลิสต์หลังๆ ถ้าดูทัน แต่ถ้าไม่ทันก็คงต้องบอกผ่านอ่ะครับผม


โดย: บลูยอชท์ วันที่: 12 กันยายน 2550 เวลา:14:10:28 น.  

 
+ ลป. โปสเตอร์ 3 ลาย ผมชอบลายแรกสุดแฮะครับ มันดูโกธิค ทมึนแบบย้อนยุคดี และก็เป็นรูปแมลงเข้ากับชื่อเรื่องด้วย ... ลายที่ 2 มันดูหลอนแปลกตาไปหน่อย ส่วนลายที่ 3 มันดูจึ๊กกระดึ๋ยยังไงมะรุอ่ะครับ เหอๆๆ


โดย: บลูยอชท์ วันที่: 12 กันยายน 2550 เวลา:14:15:35 น.  

 
นึกว่าหนังสยองขวํญมีแมลงกินคนทั้งเรื่องซะอีก
แต่อย่างนี้ผมชอบกว่าอีก หลอนดี


โดย: adente IP: 202.28.12.47 วันที่: 12 กันยายน 2550 เวลา:18:08:24 น.  

 
#4 ฮ่า ใช่เลยครับ


โดย: absent-minded IP: 222.212.79.8 วันที่: 16 กันยายน 2550 เวลา:16:08:31 น.  

 
ไม่เห็นพูดถึงพี่ Harry Connick Jr.เลยครับ

รายนี้ได้บทซะแตกต่างจากตอนเล่นดนตรีเลย 555


โดย: โปงลางคุง IP: 124.120.99.187 วันที่: 16 กันยายน 2550 เวลา:19:59:59 น.  

 


โดย: dsfsdfdsf IP: 221.206.53.238 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2550 เวลา:7:56:15 น.  

 
จากที่ฟังมา ทำให้อยากดูหนังเรื่องนี้จริง ๆ เลย


โดย: Joy IP: 71.65.248.185 วันที่: 12 มกราคม 2551 เวลา:8:53:25 น.  

 
ได้ดูเลยครับ สรุปไม่ชอบ คือมันไม่สนุกอ่ะ ตื่นเต้นนิดๆ ระทึกหน่อยๆ รู้สึกว่ามันไม่ลงตัวดีครับ


โดย: max IP: 203.144.232.210 วันที่: 15 มกราคม 2551 เวลา:10:00:46 น.  

 
ตามมาอ่านจากพันทิพค่ะ จะคอยเป็นกำลังใจให้นะคะ


โดย: narmtalay IP: 58.137.97.242 วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:11:47:50 น.  

 
แวะมาทักทายค่ะ


โดย: mo IP: 61.19.24.122 วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:18:46:24 น.  

 
ส่วนตัวชอบในระดับนึงคับ กดดันและชวนให้คิดดี
แต่รายเอียดก่อนจะมาเป็น พ่อและแม่พันธุ์ น่าจะลเเอยดกว่านี้หน่อย


โดย: YoiChi_KunG วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:37:42 น.  

 


สามารถติดตามบทสรุป การให้คะแนน และบทวิจารณ์ของภาพยนตร์เรื่องนี้เพิ่มเติม
หรือบทวิจารณ์ภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ พร้อมความเห็นของเพื่อนร่วมบล็อคที่รักการดูหนัง
ได้ที่ //vreview.yarisme.com พร้อมลุ้นรับบัตร Major M Cash มูลค่า 500 บาท จำนวน 8 ใบ ทุกเดือน


โดย: ป๋องแป๋ง IP: 124.120.0.136 วันที่: 24 มีนาคม 2551 เวลา:16:43:29 น.  

 
น่าสนใจค่ะ
ตั้งแต่อยู่บนวอร์ดจนจะฝึกงานจบแล้ว ยังไม่เจอคนไข้ที่เป็น tactile hallucination เลยอ่ะค่ะ
(หรือไม่เจอจะดีกว่านะ )


โดย: a r i t s u m e m o o n IP: 124.120.32.229 วันที่: 4 พฤษภาคม 2551 เวลา:1:04:37 น.  

 
เพิ่งดูจบสดๆเมื่อกี้เองครับ
ดูจบแล้วอึ้งมากจนต้องมาเปิดหาข้อมูลในเน็ตแบบนี้

ขอบคุณสำหรับการโชว์ Dynamic ครับ สนุกจริงๆ

แต่แปลกนะฮะ ส่วนใหญ่คนไข้ schiz ไม่น่าจะมี Tactile ไม่ใช่หรอครับ น่าจะเป็น auditory มากกว่า


โดย: jonykeano วันที่: 3 มิถุนายน 2551 เวลา:23:34:12 น.  

 
ในที่สุดก็ได้ดู...
อึ้งเล็กน้อยตอนจบ แบบว่า คนเรามันเป็นกันได้ขนาดนี้เชียวหรือ บรื๋อ


โดย: absent-minded IP: 158.108.54.249 วันที่: 1 ธันวาคม 2551 เวลา:8:43:15 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
<<
กันยายน 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
12 กันยายน 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.